All Blog
เลือกน้ำดื่ม แบบไหนดี
นำเป็นองค์ประกอบของสารที่สำคัญที่สุดของร่างกาย เพราะร่างกายประกอบด้วยน้ำถึง 70 % เราจะตายใน 7 วันถ้าขาดอาหาร แต่จะขาดน้ำได้แค่ 3 วัน หลังจากนั้นร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนปลงทางสมดุลของเคมี กระบวนการเมตาบริซึม ของเสียคั่ง การขนส่งของกาซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ผิดปกติ อุณหภูมิร่างกายจะสูงขึ้น สมองจะทำงานผิดปกติ และตายในที่สุด

เราได้รับน้ำจากหลายทาง โดยการดื่ม การรับประทานอาหาร และน้ำที่ได้จากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน โดปกติเราดื่มน้ำ 1.5-2.0ลิตร และได้จากอาหารและอื่นๆ อีก 1-2ลิตร
ในขณะเดียวกันเราก็สูญเสียน้ำไปกับ เหงื่อ ลมหายใจออก ปัสสาวะ และอุจจาระ รวมแล้วประมาณ 3-5 ลิตรต่อวัน แต่ถ้าเป็นคนที่ทำงานหนักกลางแจ้ง อาจสูญเสียน้ำ 5-12 ลิตรต่อวัน

เมื่อเราเสียน้ำ สมองจะสั่งให้เรารับน้ำเข้ามาทดแทน โดยสมองส่วนไฮโปทาลามัส จะสั่งให้ร่างกายเกิดการกระหายน้ำ ทันทีที่เรากลืนน้ำลงไปจะบรรเทาอาการกระหายน้ำได้ทันที ซึ่งจะช่วยไม่ให้เราดื่มน้ำมากเกินไป เพราะถ้ารับน้ำเกินไปเลือดก็จะจาง

ในปัจจุบันนี้ มีน้ำดื่มให้เราเลือกมากมาย ทั้งน้ำต้ม น้ำแร่ น้ำกรอง น้ำกลั่น แล้วเราจะเลือกดื่มน้ำแบบไหนดีล่ะ

น้ำต้ม คือ น้ำที่นำไปให้ความร้อนจนเดือดที่ 100 องศาเซลเซียส ดังนั้ เชื้อโรคที่ทนความร้อนน้อยกว่า 100 องศา ก็จะตายแต่แร่ธาตุที่มีอยู่ยังคงเดิม

น้ำกลั่น คือ น้ำที่นำไปต้มจนเดือดกลายเป็นไอ (ถึงกระบวนการนี้แล้วมันคือน้ำต้ม) แล้วจึงนำเอาไอน้ำที่ได้มาควบแน่นให้กลายเป็นหยดน้ำ น้ำกลั่นจึงเป็นน้ำที่บริสุทธิ์ เพราะจะไม่มีแร่ธาตุใดๆเจือปนเลย แล้วมันดีไหมล่ะ ไม่มีแร่ธาตุปนเลย น่าคิดนิ

น้ำกรอง มี 2 ลักษณะ คือ
กรองด้วยคาร์บอน พวกนี้จะดูดซับกลิ่นและรสชาติที่ไม่พึงประสงค์ไว้

กรองด้วยยูวี (UV) คือ แสงอัลตร้าไวโอเลตนั่นเอง รังสีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรคโดยการตัดวงจรแพร่พันธ์ของจุลชีพ


นำ RO (Reverse Osmosis) น้ำพวกนี้กรองโดยใช้ เมมเบรน(membrane) ภายใต้ความกดดัน ไอ้เจ้าเมมเบรนนี้จะใหญ่แค่พอให้โมเลกุลของน้ำผ่านไปเท่านั้น แต่แร่ธาตุอื่นผ่านไม่ได้ น้ำพวกนี้เราเจอในเครื่องกรองน้ำตามบ้าน และตามตู้หยอดเหรียญ

น้ำ DI (De Ionization) เป็นการแยกประจุของสิ่งที่เจือปนออกจากน้ำ น้ำที่ได้นี่จะบริสุทธิ์มากๆ เราเรียกว่า Ultra Pure Water ซึ่งในกระบวนการทำน้ำ DI นี้ต้องไปผ่าน โซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งเป็นด่าง เพื่อให้มันบริสุทธฺสุดๆ มันจึงเป็นตัวทำละลายชั้นดีเลิศ จนสามารถละลายแร่ธาตุทุกอย่างที่เรามีในร่างกาย คราวนี้ร่างกายเราจะสูญเสียแร่ธาตุ ถ้าดื่มไปมากๆ มันก็จะละลายแร่ธาตุไปมากๆๆๆๆ จนอาจช็อกตายได้
น้ำชนิดนี้จึงนำไปใช้ในทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม การแพทย์ที่ต้องการความบริสุทธิ์สูงมากๆ

ถ้าถามความเห็นของข้าเจ้าแล้ว เราควรเลือกน้ำดื่มที่มีความสะอาดพอที่จะไม่เจ็บป่วย คือ ไม่มีเชื้อโรค อาจจะมีแร่ธาตุปนมาบ้างแต่ต้องไม่เกินมาตรฐานน้ำบริโภค เช่น สารปรอท สารตะกั่ว ไม่ควรมี สำหรับน้ำ DI ไม่ควรนำมาดื่ม

มีหลายคนถามมาว่าน้ำประปาดื่มได้มั้ย มันมีคลอรีนนี่นะ

อันนี้ก็ต้องบอกว่าน้ำประปานั้นดื่มได้ เพราะกระบวนการทำน้ำประปานั้นสะอาดเพียงพอที่จะดื่ม แต่ติดขัดตรงเรื่องของท่อน้ำนั่นแหละว่ามันสะอาดพอหรือเปล่า สำพหรับกลิ่นคลอรีนนั้น ถ้ายังมีกลิ่นก็ให้รองน้ำแล้วตั้งทิ้งไว้สัก 20-30 นาที เท่านี้กลิ่นคลอรีนก็จะหมดไป

น้ำต้มหลายๆครั้ง ที่พวกเราชอบดื่ม ดดยเฉพาะจากกาต้มน้ำไฟฟ้าที่ต้มมันทั้งวัน เดือดแล้วเดือดอีกน่ะ มีอันตรายนะ เพราะเมื่อน้ำถูกต้มจนเดือดหลายไครั้งจะทำให้ไออนของซิลเวอร์ไนเตรตในน้ำ เปลี่ยนเป็น ซิลเวอร์ไนไตรท์ ซึ่งมีโทษต่อร่างกาย รวมทั้งสารและแร่ธาตุจะเพิ่มขึ้น เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเอานำนั้นมาต้มอีก(พวกน้ำที่เหลือค้างในกาต้มน้ำงัย) ซึ่งร่างกายจะทนต่อความเข้มข้นของสารเหล่านี้ไม่ไหว ไตจะพังก่อน

เฮ้อ นั่งมานานไปหาน้ำเย็นๆสักแก้ว ดีก่า เอาแค่สะอาด ปราศจากกลิ่น สี และเชื้อโรคก็พอแล้วนิ






Create Date : 10 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2551 15:05:33 น.
Counter : 656 Pageviews.

4 comments
  
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
โดย: Very Important Person IP: 124.121.217.221 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:33:31 น.
  
ขอบคุณค้าบบบ
โดย: Phumpanit วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:16:50:47 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: สาวพิษณุโลก** วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:15:04 น.
  
ขอบคุณครับ

แล้วน้ำที่ต้มเดือดเพี่ยงครั้งเดียวดื่ม ได้เปล่าคับ
โดย: tee IP: 125.27.184.40 วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:20:35:54 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าเจ้า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]