All Blog
ก๋วยเตี๋ยว อันตราย
เกิดมาเป็นคนไทย ไม่มีใครปฎิเสธการกินก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าลูกเล็ก เด็กแดง ต้องได้เคยลิ้มชิมรสกันมาแล้ว ก๋วยเตี๋ยวมีหลายชนิด หลายเมนู เส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ บะหมี่ ก๋วยจั๊บ เกี้ยมอี๋ เอามาทำเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้ง น้ำ ต้มยำ ก๋วยจั๊บน้ำข้น น้ำใส ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เมี่ยงก๋วยเตี๋ยว โอย นึกไม่ออก
แล้วรู้กันบ้างไหมว่า อันตรายมันแฝงมากับก๋วยเตี๋ยว

สกว. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย) ได้แถลงถึงผลการวิจัย ตั้งแต่ปี 49-51 พบว่า โรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่มีปัญหาตั้งแต่ วัตถุดิบ กระบวนการผลิต การจัดการตัวผลิตภัณฑ์ การขนส่ง ตัวแทนจำหน่าย และร้านค้า (หมายถึงร้านขายก๋วยเตี๋ยว) นั่นหมายถึงว่า ก๋วยเตี๋ยวที่เกินกันนั้นมีอันตรายแฝงมาแทบจะทุกส่วน เพราะมันมีปัญหาตั้งแต่วัตถุดิบ จนถึง กระบวนการทำให้เรากินได้ คือ ร้านก๋วยเตี๋ยว

เพราะการผลิตนั้นมีการเติมสารกันเสียหลายชนิด เพื่อให้เส้นเหนียว นุ่ม อยู่ได้นานตามความต้องการของผู้บริโภค หือผู้ขายที่ต้องการเก็บของไว้ขายได้นานๆ เพราะโดยธรรมชาติ ถ้าไม่เติมสารกันเสีย เส้นก๋วยเตี๋ยวจะเก็บไว้ได้เพียง 2-3 วันเท่านั้น แต่ที่ขายๆกันในปัจจุบัน เก็บได้นานประมาณ 7 วัน แสดงว่าใส่สารกันเสียมาก

เรียงอันดับของเส้นที่ใส่สารกันเสีย คือ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก ก๋วยจั๊บ เส้นหมี่ที่ไม่ใช่เส้นหมี่อบแห้ง

นอกจากนี้ กระบวนการผลิตก๋วยเตี๋ยวยังต้องใช้น้ำมันเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันเส้นติดกัน และสามารถขยี้เส้นให้แตก ทำอาหารได้ง่าย ซึ่งน้ำมันที่นำมาใช้เป็นน้ำมันเก่า!!!!ที่ไปใช้ต่อจากการทอด ไก่ทอด หมูทอด ปาท่องโก๋ แล้วเอามาผสมกับน้ำมันพืชใหม่ เช่น น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันปาล์ม ทำให้มีความหนืดสูง แต่กลายเป็นสารพิษมีผลต่อการทำงานของเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือด หัวใจ และน้ำมันที่ใช้ทำเส้นอาจปนเปื้อนสารอัลฟาท็อกซิน ซึ่งเป็นตัวการของมะเร็งตับ ตับอักเสบ รายซินโดรม(โรคที่เกิดกับเด็กก่อนวัยเรียน ทำให้มีอาการไข้ ปวดท้อง อาเจียน ชัก สมองบวม และตายได้ใน 24-72 ชม.)
ลองนึกถึงเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มันมีน้ำมันเคลือบเส้นให้มันลื่นๆ นั่นแหล่ะ เจอมากในเส้นใหญ่ เส้นเล็กน้อยกว่า แต่ที่แน่ๆ ในเมนูผัดไทย ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว พวกนี้ติดอันดับความมัน(อันตราย) คือ มีประมาณ 5-8 % ยิ่งถ้าเอาไปผัดซ้ำจะยิ่งอันตรายเพิ่มไปอีก

นอกจาก สารกันเสีย น้ำมันเก่า แล้ว ยังมีสารส้มหรืออลูมิเนียมอะลัม ซึ่งไม่ควรเกิน 0.2 มก./ลิตร (มาตรฐานน้ำดื่ม) แต่พบในเส้นก๋วยเตี๋ยว 620 มก./กก. ซึ่งโดยปกติถ้าได้รับ 50-200 ไมโครกรัม/ลิตร ก็ส่งผลต่อระบบประสาท กรวยไต กระดูก

บางคนเลยบอกว่า เฮ้ย ถ้างั้นต่อไปนี้จะกินก๋วยเตี๋ยวที่ผ่านการลวกเท่านั้น เลิกไปดีกว่า พวกผัดไทย ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า

อย่าเพิ่งดีใจ ไอ้น้ำที่อยู่ในหม้อลวกน่ะ มันน้ำที่ตกค้างจากเส้นนะ เพราะยังพบว่า น้ำที่ใช้ลวกเส้น มีสารส้มตกค้าง 55 % ถ้าไปผัด ตกค้าง 66%
และ ที่บอกมาน่ะ แค่เรื่องเส้น แต่จริงๆ มีเรื่องหม้อก๋วยเตี๋ยวที่ต้องระวังด้วย

เพราะพบว่าหม้อก๋วยเตี๋ยวใช้ตะกั่วเป็นตัวบัดกรี เชื่อมส่วนประกอบของหม้อ พอตะกั่วได้รับความร้อนจะละลายเป็นของแถม คือ กินก๋วยเตี๋ยวแถมตะกั่ว ไม่รู้ว่าต้องการเพิ่มสารอาหารหมวดโลหะหนักให้ทำไม จำได้ว่าไม่มีในอาหารหลัก 5 หมู่สักหน่อย

แต่ในช่วงที่ผ่านมาจะพบว่า ร้านขายก๋วยเตี๋ยวบางร้าน แปะคำว่า หม้อก๋วยเตี๋ยวปลอดภัยกันแล้ว
เออ ค่อยยังชั่ว อย่างน้อยก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวปลอดภัยจากตะกั่วให้เลือก

แล้วเที่ยงนี้จะกินก๋วยเตี๋ยวร้านไหนดีล่ะ



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2551 8:57:52 น.
Counter : 913 Pageviews.

5 comments
  
ง่า กลับไทยไป อยากกินก๋วยเตี๋ยวซะหน่อย

แงๆๆๆๆๆ สงสัยต้องกินแต่น้ำปล่าวมั้งค่ะเนี้ย

ช่วงนี้อะไรๆก็มีพิษมีภัยไปหมด แย่จัง

แต่ขอบคุณสำหรับความรู้นะค่ะ
โดย: freeplay200 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:20:21 น.
  
ถูกต้อง

กิแน่ๆ ก๋วยเตี๋ยวย แต่อาหารอื่น คงอันตรายใกล้เคียงกัน

มังสวิรัต ก็ใช่ย่อย อันดับหนึ่งในเรื่องวัตถุมีพิษเลยที่เดียว

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:10:47 น.
  
สมัยนี้ไม่ว่าจะกินอะไรเข้าไป ล้วนมีอันตรายแฝงมาด้วยทั้งนั้น ทางที่ดีควรจะกินอะไรที่ไม่ซ้ำกัน เราจะได้กระจายความเสี่ยงไปอย่างทั่วถึง 555
โดย: อันติกา วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:31:45 น.
  
แทบจะไม่น่าเชื่อเลยว่ามันอันตราย
โดย: Very Important Person IP: 124.121.128.29 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:03:47 น.
  
ก๋วยเตี๋ยวอันตราย
โดย: settha@abg.co.th,schidchob@asys.com IP: 124.120.145.236 วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:15:10:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าเจ้า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]