All Blog
ครีมกันแดดกับคนไทย



แสงแดดมีคุณอนันต์ต่อมวลชีวิตในโลกใบนี้ เพราะแสงแดดคือ แหล่งพลังงานที่จำเป็นยิ่งสำหรับการดำรงชีวิต แต่ในแสงแดดมีรังสีที่ทำอันตรายต่อมนุษย์ได้ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ คือ UVA และ UVB มันคือ อะไร และที่ว่าเราควรทาครีมกันแดดนั้น มันมีความจำเป็นแค่ไหน เพราะจะว่าไปแดดบ้านเรามันก็ร้อนแรงซะเหลือเกิน แต่ว่าถ้าเราทำงานในตึกทั้งวันล่ะ จำเป็นมั้ย

มารู้จักรังสี ยูวีที่เราต้องการป้องกันกันก่อน ยูวีมี 2 ชนิดที่เรารู้จักกันดี คือ UVA และ UVB

รังสี UV-B ถูกดูดกลืนโดยโอโซนส่วนใหญ่และส่องถึงพื้นโลกบางส่วนเท่านั้น มีผลในการสร้างวิตามินดีในเวลาสั้นๆแต่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตมากที่สุด ทำให้ผิวหนังแดง ไหม้เกรียม มีการสะสมทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง โรคเกี่ยวกับตา และยับยั้งระบบภูมิคุ้มกันร่างกายในระยะยาว
ช่วงคลื่น 280-315 นาโนเมตร

รังสี UV-A ถูกดูดกลืนโดยโอโซนเป็นส่วนน้อย ส่วนใหญ่ส่องถึงพื้นโลกได้ แต่มีอันตรายไม่มาก มีความจำเป็นต่อร่างกายในการสังเคราะห์วิตามินดี แต่หากมากเกินไปจะทำให้ผิวหนังหยาบกร้าน ยับยั้งภูมิคุ้มกันร่างกาย ทำให้ผิวหนังแดงและโรคเกี่ยวกับตาน้อยกว่า UV-B
ช่วงคลื่น 315-400 นาโนเมตร

พอรู้ถึงตอนนี้จะเห็นว่า UVB นั้นควรป้องกันมากกว่า UVA
สำหรับผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดหรือยากันแดดที่เราเรียกกันนั้น จะมีสารที่เรียกว่า SPF (Sun Protecter Factor) ผสมอยู่ ซึ่งมีค่าไม่เท่ากันตามปริมาณของสารป้องกันแดดที่ใส่ลงไป ค่าของมัน คือ ค่าที่แสดงถึงประสิทธิภาพของครีมกันแดด ซึ่งครีมกันแดดที่ดีต้องปกป้องผิวได้ทั้ง UVA และ UVB (Broad Spectrum)และต้องปกป้อง UVA ได้อย่างน้อย 4 เท่า
เราจึงควรเลือกครีมกันแดดที่เขียนว่า ป้องกันทั้ง UVA และ UVB แต่ถ้าไม่เขียนบอกไว้น่าจะเดาเอาว่าป้องกันแต่ UVB และบางทีเขียนว่า PA++ อันนี้แสดงว่ากัน UVA ได้
แล้วเราจะเลือกครีมกันแดดแบบไหนดี

ข้อที่เราควรคิดถึงเป็นอย่างแรก คือ กิจกรรมที่เราจะทำ เช่น อยู่กลางแดดจ้า โดนน้ำ หรือมีเหงื่อมากหรือไม่ ถ้าอยู่กลางแดดจ้าควรใช้ SPF สูงๆ ถ้าเล่นน้ำหรือเหงื่อมาก ควรใช้แบบ Waterproof (ป้องกันหลังโดนน้ำได้นาน 40นาที)หรือ Water resistance (ป้องกันหลังโดนน้ำได้ 80 นาที)

และอีกข้อ คือ เราเป็นคนที่มีความไวต่อแสงแค่ไหน ถ้าขาวมาก ควรกันแดดมาก (ใช้ SPF 20-30) ถ้าขาวน้อยหน่อย อาจทาแค่ค่า SPF ต่ำๆก็พอ

ที่สำคัญ คือ ต้องทาปริมาณที่พอเพียง คือ 2 มก.ต่อ ตารางซม. ไม่เช่นนั้น ค่า SPF ที่ได้จะลดลงถึง 50% ซึ่งส่วนใหญ่จะทาไม่ถึง(เฉลี่ย 1.3 มก./ตาราง ซม.) อาจเป็นเพราะมันเหนียวเหนอะหนะและดูเหมือนหน้ามันตลอดเวลาและทาก่อนออกแดด 20-30 นาที เพื่อให้สารกันแดดซึมเข้าสู่ผิว และทาซ้ำถ้าเหงื่อออก หรือลงน้ำนาน

นี่คือค่า SPF ที่เหมาะกับสีผิว

- ผิวไหม้แดดง่าย เปลี่ยนเป็นสีแทนยาก ใช้ค่า SPF 20-30 (Ultra High)
- ผิวไหม้แดดง่าย เปลี่ยนเป็นสีแทนนิดหน่อย ใช้ค่า SPF 12-20 (Very High)
- ผิวไหม้แดดปานกลาง ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแทน ใช้ค่า SPF 8-12 (High)
- ผิวไหม้แดดน้อย เปลี่ยนเป็นสีแทนได้เสมอ ใช้ค่า SPF 4-8 (Modurate)
- ผิวไหม้แดดยากมาก เปลี่ยนเป็นสีแทนได้มาก ใช้ค่า SPF 2-4 (Minimal)

เมื่อดูค่า SPF และปริมาณการดูดซับรังสี UVB พบว่า
- SPF 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50%
- SPF 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75%
- SPF 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5%
- SPF 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3%
- SPF 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95%
- SPF 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7%
- SPF 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8%
- SPF 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จะเห็นว่า SPF 15 จะปกป้องผิวได้ดีมากพอ และราคาของครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะไม่แพงมาก เพราะยิ่ง SPF สูงมากเท่าไรราคาจะแพงมากขึ้นและเหนียวมากขึ้น จึงนับเป็นครีมกันแดดที่น่าใช้สำหรับคนไทยอย่างเราที่ไม่ขาวมากนัก แต่ปัญหาของครีมกันแดดนั้น มักพบว่า ค่า SPF ที่ระบุไว้ เมื่อมาทาที่ผิวจะพบว่ามันน้อยกว่าที่บอกไว้ที่ฉลาก

มีอาสาสมัครทดสอบครีมกันแดดชนิดกันน้ำ เพื่อหาค่า SPF ที่ได้จริง พบว่า
-Nivea Sun Moisturising Sun Spray SPF 15
SPFวัดเมื่อผิวแห้งได้ 16.9 แต่เมื่อโดนน้ำ SPF เหลือ 65%
-Boots Soltan Moisturising Sun Care Lotion SPF 15
SPFวัดที่ผิวแห้งได้ SPF 15.2 เมื่อโดนน้ำ เหลือ 70%
-Marks & Spencer Sun Formula Moisterising Lotion SPF 15
SPF วัดที่ผิวแห้ง 7.1 เมื่อโดนน้ำเหลือ 92%
-AVON Bronze SPF 15 Sensitive Sun Lotion Spray
SPF วัดที่ผิวแห้ง 18.1 เมื่อโดนน้ำเหลือ 85%
-Garnier Ambre Solaire Moisterising Protection Milk SPF 15
SPF เมื่อผิวแห้ง 16.3 เมื่อโดนน้ำเหลือ 80%
-Garnier Solaire Clear Protect SPF 15
SPF เมื่อผิวแห้ง 18.7 เมื่อโดนน้ำเหลือ 83%
-Garnier Solaire clear Protect SPF 20
SPF เมื่อผิวแห้ง 18.1 เมื่อโดนน้ำเหลือ 86%
-ลอรีอัล Solar Expertise Advanced anti-aging Sun Protection Lotion SPF 15
SPF เมื่อผิวแห้ง 15.8 เมื่อโดนน้ำเหลือ 80%
-ลอรีอัล Solar Expertise Lait Solaire Protection Avance SPF 20
SPF เมื่อผิวแห้ง 18.3 เมื่อโดนน้ำเหลือ 81%
-ลอรีอัล Solar Expertise Lait brumiseur Protection Avance SPF 20
SPF เมื่อผิวแห้ง 18.1 เมื่อโดนน้ำเหลือ 86%

ลองพิจารณากันดูเองแล้วกันว่าจะเลือกชนิดไหน (เอา%คูณกับSPFเมื่อผิวแห้งนั่นคือค่าที่ได้จริง) สำหรับผู้ที่อยู่ในห้อง ในที่ร่ม ไม่ค่อยโดนแดด ทาแค่ 6-14 ก็พอ หรือหากไม่ทาก็ยังพอได้ แต่ถ้ต้องออกแดดควรทา SPF 15-29 สูงกว่านี้ไม่มีความจำเป็น แต่อย่าลืมทาซ้ำทุก 2-3 ชม.โดยเฉพาะเมื่อโดนน้ำ!!!!
สำหรับส่วนผสมไทเทเนียมออกไซด์และซิงค์ออกไซด์ ที่เป็นส่วนผสมในสารกันแดดนั้น ทำหน้าที่ในการสะท้อนรังสียูวีจากผิว แต่ อย.ไม่อนุญาตให้ใส่เกิน 25%

รู้อย่างนี้แล้ว คงเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับตัวคุณได้ และขอให้เที่ยวปีใหม่ให้สนุก อย่าตัวดำกลับมานะ





Create Date : 26 ธันวาคม 2551
Last Update : 30 ธันวาคม 2551 8:09:51 น.
Counter : 767 Pageviews.

1 comments
  
ขอบคุณค่า
โดย: twins วันที่: 30 ธันวาคม 2551 เวลา:12:14:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าเจ้า
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]