Group Blog
 
All blogs
 

nothing in deduction

ในคืนที่ฝนโปรย ... 
ขอฝากลมฝน ... ช่วยเป็นสื่อให้เธอรู้
ว่าฉันคิดถึง และยังคิดถึง
::
::
ฤดูที่ฉันเหงา



หลังจากซีรี่ย์เกาหลีเรื่องโปรดจบลง
และซีรี่ย์เกาหลีสัญชาติไทยดิ่งลงสู่ช่วงดราม่า
ก็เหมือนว่า งานจะก้าวหน้ามากขึ้น

บวกกับฝนตก 2-3 วันติดต่อกัน
ยิ่งทำให้รู้สึกว่างานวิ่งฉิว

แต่ อืมมมม .. พบว่า
การนั่งทำงานท่ามกลางเสียงสงกรานต์
ช่างชวนบลูมาก

ให้รู้ ในใจยังรักเธออยู่
แต่กลัวจะซ้ำเติมทุกข์ให้เธอเจ็บช้ำ

ดั่งเรือใบล่องหาทิศทาง แบกภาระสุมจนเต็มลำ
ติดตามไปคงไม่ถึงฝั่ง

ดูใจดำแต่ฉันหวังดี
ที่ต้องทิ้งเธอตามลำพัง
ไม่อยากให้เธอลำบากด้วยกัน

ความจริงใจสื่อสารลำบาก
ฝากความหมายในเพลงบางคำ
เผื่อสักวันเธออาจเข้าใจ




เวลาซื้อต้นไม้มาจาก trader joe's เพื่อวางในบ้าน
ถึงช่วงนึงก็เหี่ยวโหยโรยดอกใบใกล้ตาย
ต้องหาพื้นดินให้ลง

หลายคนที่เห็นพื้นที่นั้นมักเอ่ยปากเรียก
'สุสานดอกไม้'

ได้แต่หัวเราะเจื่อน ๆ เพราะมันคล้ายจะจริง
ผ่านวันเวลามา
ไม่นานก็พบว่ามันฟื้นคืนต้น
ผุดดอกสวยงามให้เห็นอย่างเจียมตน


เนอะ เนอะ ... นั่นล่ะเนอะ
ที่ถึงผูกพันไม่ห่างใจ




 

Create Date : 02 มีนาคม 2557    
Last Update : 2 มีนาคม 2557 9:04:15 น.
Counter : 747 Pageviews.  

for our existence

มีแต่ตัวเองเท่านั้น
ที่จะช่วยฉุดตัวเอง
ให้พ้นจากความลำบากได้
เวลาหิว เจ็บ เศร้า ไม่มีใครมารู้สึกกับเราด้วย
ดังนั้น เรารู้สึกเอง เจ็บเองก็รักษาเอง

อย่าไขว่คว้าหาความรักที่เราไม่เคยได้





กรมอุตุฝรั่งประกาศว่า
ฝนจะตกหนักติดต่อกัน 3 วัน พร้อมเสียงฟ้าร้อง
ก็เลยต้องขอลาหยุดงาน
เพราะไม่ชอบขับรถกลางสายฝน
และยิ่งไม่ชอบตอนที่มีฟ้าร้องฟ้าแลบด้วย

อันเป็นเรื่องที่คนซึ่งทำงานด้วยทุกคน
รู้กันดีแบบไม่ต้องอธิบายให้มากความ

.
..


วันนี้วันศุกร์

ย้อนกลับไปวันพฤหัสที่ไม่มีอะไรให้ต้องจำ
แค่ขับรถผ่านต้นไม้สีชมพูตรงสี่แยกหน้าบ้าน
แอบเหลียวมองทักทายเจ้ากลีบบาง
แล้วก็ก้มหน้าก้มตากับงาน




แต่พอมองย้อนไปถึงวันพุธ
พบว่ามีหลายเรื่องที่ต้องบันทึกไว้ซะหน่อย
เหตุคือลางานเนื่องในวันเกิดมะเฟือง
เพราะนางขอ 1 วัน

เช้ามาก็เลยเร่งงานที่ต้องส่งทุกก่อนเที่ยงวันพุธ
แล้วก็ออกไปกับมะเฟืองตั้งแต่ 10.30
เพื่อตรงไปวัดป่าฯ ที่ห่างออกไป 32 ไมล์



วัดป่าวันธรรมดาไม่มีคนเลย
เงียบสงบดีมากทีเดียว
แต่ก็ไม่ได้เข้าไปไหว้พระหรอก
แค่ปล่อยปลา
ที่มะเฟืองแวะซื้อมาจากร้านบนถนน santa monica
แล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำตรงใต้ถุน

ชอบการเอาดอกไม้ใกล้โรยมาตัดก้านออก
แล้วลอยในน้ำวางไว้หน้าอ่างล้างมือ
ในห้องน้ำที่ทำให้เป็นวัดไอเดียดีเลย
ถือเป็นการ "รียูส" ดอกไม้
โดยเอาดอกไม้เก่าในแจกัน
มาใช้งานใหม่ในแบบง่าย ๆ ที่ดูแล้วรู้สึกดีจัง

หลังปล่อยปลาในวัดป่าเสร็จ
ก็ตรงไปร้านจีนชื่อร้าน newport
ที่มะเฟืองบอกว่านางนึกอยากกิน
เลยบอกนางว่า
งั้นชั้นเลี้ยงนะ ขอเลี้ยงวันเกิด

พอเข้าไปในร้านก็ให้นางสั่งอาหาร
ผัดโตเหมี่ยว หอยผัดพริกไทยดำ
ปูทอดกระเทียมหนึ่งตัว
ปลานึ่งหนึ่งตัว บะหมี่เหลืองซีฟู้ด
ข้าว 2 ถ้วยจิ๋ว
สรุปออกมาคือ 100 เหรียญพอดี

นางตกใจกับราคา เอ่ยขอช่วยแบ่งจ่าย
บอกนางว่า ไม่เป็นไรหรอก
ไม่ได้กินทุกวัน

แต่ในร้านนี้แปลก
เจอพนักงานเสิร์ฟชาวจีนเวียดนาม
ชื่อ เจสัน
มายืนชวนคุยถึงเมืองไทย
เพราะเจสันเคยอพยพจากเวียดนาม
ไปอยู่กับลุงที่สำเพ็ง
เป็นพนักงานที่ช่างคุยมากทีเดียว
แต่ก็เข้าใจความรู้สึก

ออกจากร้านอาหารจีน
ฉันบอกมะเฟืองว่า
แถวนี้มีร้านเบเกอรี่ชื่อ 85 ดีกรี ขอแวะไปซื้อขนมหน่อยนะ
ไป ๆ มา ๆ ก็ขนกันออกมาคนละหลายสิบชิ้น

ออกจากร้านเบเกอรี่ก็ตั้งใจว่าจะไปถวายสังฆทาน
เลยขับรถกลับมาทางบ้าน
เพราะจะไปวัดมอญที่ต้องผ่านบ้านก่อน
แวะซื้อดอกไม้
กับกาแฟ 3 in 1 ที่ trader joe's



แล้วก็นึกว่าควรจะแวะบ้านหน่อยนึง
เพราะทางผ่านพอดี
จะได้เอาขนมกับดอก stock ที่ฉันซื้อมาเก็บก่อน

ดูเวลาแล้วก็ อืมมม 4 โมงเย็นแล้ว
แต่ก็ยังต้องไปแวะซื้อของถวายสังฆทานอีก
เลยยิ่งสายมากมาย

ไปถึงวัดก็ถวายสังฆทาน
แล้วท่านอินทร์ก็ถามว่า
ไปปล่อยปลามาแล้วเหรอ
บอกว่าไปมาแล้ว ไปที่วัดป่า
ท่านก็บอกว่า ทำไมไม่ไปปล่อยที่แม่น้ำ
ตอบว่า มีแม่น้ำที่นี่ด้วยเหรอ
ท่านเลยถามว่า
จะไปไหมล่ะ ท่านจะพาไปตรง bulbua lake
ก็เลยไปก็ไป
บรรดาป้า ๆ ยาย ๆ ในวัดเลยดีใจกันใหญ่
เพราะทั้งพระและป้า ๆ ยาย ๆ อยากไป 
แต่ไม่มีคนขับรถไปให้

ออกจากวัดก็ต้องแวะร้านปลาแถวนั้น
น่าจะเป็นร้านประจำของชาววัดมอญ
เพราะพอเดินเข้าไปคนขายก็รู้เลย
ว่ามาซื้อปลาไปปล่อย

ที่ร้านนี้ขายถูกกว่ามาก
ปลาขนาดกลางขาย 7 ตัว 1 เหรียญ
ปลาตัวเล็กขาย 10 ตัว 1 เหรียญ
ซื้อกันคนละถุงแล้วก็เร่งไปให้ทัน
เพราะตอนนั้นมืดมากแล้ว
และอากาศเย็นมากด้วย

จอดรถริมถนนแล้วก็เดินไปอีกเกือบไมล์
ป้า ๆ ที่เดินไปเริ่มกระย่องกระแย่ง
เลยต้องจับจูงกันไปตามทางเรื่อย ๆ
ระหว่างทาง มืดมาก เย็นมาก
ป้า ๆ ก็เริ่มบ่นแล้ว เลยเดินไปขำไป
ท่านอินทร์บอกว่า
เห็นคนเดินตรงนั้นมั้ย 2-3 คน
เห็นตรงโน้นมั้ย 5 คน 
เอ่อ ท่านคะ มองไม่เห็นใครค่ะ

วินาทีนั้น บอกมะเฟือง
เออเพื่อน ตรงนั้นมี 2 คนอะ
แต่มะเฟืองไม่เห็น

สรุปก็อะไรไม่รู้แล้วนั่นล่ะ
ป้าเจเจรีบงัดพระในสร้อยที่แขวนหลายสิบองค์ออกมา
สวดใหญ่เลย

พอไปถึงแม่น้ำก็ไต่ตลิ่งลงไป
ท่านอินทร์นำสวด แล้วโปรยอาหาร
มีปลาอื่นมาเยอะเลย
ท่านอินทร์บอก เป็นปลาที่ท่านเอามาปล่อยแหละ
เยอะเลย

อืมมมมม สวดมนต์ตามท่านสวด
แต่เป็นภาษามอญ
สวดไปก็เจอป้ามานั่งแทรกกลางบ้าง
เจอป้ามาจับไหล่บ้าง

ขากลับฉันเลยเอ่ยแซว
ป้าขา ป้ามาปฏิบัติธรรมที่วัดตลอดเวลา
ทำไมยังกลัวละคะ

เลยขำ ๆ ไปตลอดทาง

กลับถึงวัดมอญอีกที ฝนตกหนักเลย
ป้า ๆ บอกว่าวันเกิดเพื่อน
ให้ท่านอินทร์ทำน้ำมนตร์ให้สิ
ท่านก็สวดให้นะ
แล้วดูดวงให้มะเฟือง
ออกแนวแม่นมาก

แบบว่าเท่าที่ฟังอยู่ด้วยเพราะต้องเป็นคนถามให้มะเฟือง
ก็พบว่าตรงมาก
ยิ่งเป็นเรื่องในอดีตสมัยเรียน
ยิ่งตรง
ก็เลยเชื่อ
เพราะตรงแบบเป๊ะ ๆ ตรงจุดเฉพาะบุคคล
ไม่ใช่พูดกว้าง ๆ แบบเหวี่ยงหว่าน
แถมบางเรื่องฉันยังไม่รู้เลยอะ

อาทิเช่น ปานและไฝ
ว้าวเลยงานนี้

ขับรถกลับบ้านหลังจากป้า ๆ เค้าจะเริ่มสวดมนต์
สวัสดีลาพร้อมได้ร่มจากป้ามา 1 คัน
เนื่องจากฝนตกหนัก
แต่ขากลับแวะเติมน้ำมันก็เปียกอยู่ดี
เพราะปั๊ม 76 ออกแนวโล่ง ๆ ไม่มีหลังคากันฝน
และฉันไม่คิดจะหยิบร่มออกมากาง

กลับถึงบ้านจามฮัดเช้ยใหญ่เลย

แต่ก็ผ่านไปด้วยดีกับวันเกิดของเพื่อน
happy birthday ตรงนี้อีกทีนะเพื่อนรัก
ขอให้มีความสุข

สำหรับเช้านี้วันศุกร์
ตื่นมาก็กินกาแฟแล้วฟังเพลง
แอบคลิกไปดูตอนจบของ you came from the star อีกรอบ
แล้วนั่งทำงานกับสลับลุกเดินไปเดินมาในบ้าน
เวลาที่เครียดกับตัวหนังสือ



แอบนับแก้วกาแฟ
.
.

เอ่อ ช่างมันเต๊อะ มากหน่อย
แต่ก็อุ่นใจดี




 

Create Date : 01 มีนาคม 2557    
Last Update : 1 มีนาคม 2557 9:04:22 น.
Counter : 890 Pageviews.  

was so inconsistent!

พออะไรเกิดขึ้น ก็ว่า "อย่างนั้นเอง"
.. ก็หมดกัน
เลิกกัน
ไม่ต้องรัก ไม่ต้องเกลียด
ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องกลัว
ไม่ต้องเศร้า

::
::
พุทธทาสภิกขุ



เป็นวันจันทร์และอังคารที่ไม่เครียดเคร่งมาก
เพราะปลายสัปดาห์ก่อน
ยอมขยันล่วงหน้าแบบไม่แอบอู้
สองวันนี้เลยเหมือนว่างานจะสบาย

หากก็กลับเจอมวลบรรดาถ้อยคำ
บินว่อนเหมือนแมลงหวี่แมลงวัน
หลายเรื่องฟังแล้วก็ อืมมม สั้น ๆ แล้วลืม
บางเรื่องก็ เฮ้ย อะไรอะ อยู่ในใจเงียบ ๆ
และก็มีเรื่องที่อึงอลวนอยู่ในสมอง

ล้วนแต่ไม่ใช่เรื่องของเรา
หากเราเลือกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ต้องรับฟัง
เพราะก็รู้จักกัน

จนมาถึงเที่ยงวันอังคาร
คนที่ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้คุยกันอีก
โทรมาหาด้วยเบอร์แปลกตา

ประโยคแรกคือ
นี่พี่นะ .. ฟังพี่นะ
อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ
แล้วก็ได้ยินเสียงเรื่อย ๆ ผ่านมาในคลื่น

ก่อนอื่น พี่อยากบอกเราว่า
อะไรที่เป็นอดีต ให้มันผ่านไปนะ
พี่หวังว่าเราจะเริ่มต้นคุยกันใหม่ได้
เพราะพี่ก็บอกทุกคนว่า
เวลาเจอกัน เราก็ยังยกมือไหว้พี่
ดังนั้น เราก็ต้องลืมอดีตที่เคยเกิดขึ้น

เอ่อ แค่พี่โทรมาหนูก็อึ้งกิมกี่แล้วค่ะ
หนูคงไม่สามารถลืมประสบการณ์ราวีได้
แต่หนูผ่านมันไปได้ค่ะ

ข้างบนนี้ ไม่พูดออกเสียง
แค่คิดเงียบ ๆ ในใจ
เสียงที่ดังออกมา มีเพียงแค่สั้น ๆ
"ค่ะ"
แล้วเงียบ

หลังจากรับฟังอยู่ประมาณ 18.21 นาที
ฉันก็ตัดสินใจถาม
พี่มีอะไรให้หนูช่วยเหรอคะ

พี่เชื่อมือเราเพราะพี่ติดตามงานเรามาตลอด
และมั่นใจว่าเราเป็นคนที่ยุติธรรม
มีจรรยาบรรณ
พี่ต้องการให้เราช่วยงานพี่ชิ้นหนึ่ง
ด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่ลำเอียง ไม่อาฆาตแค้น

เอ่อ พี่ ... ตรง ๆ เลยดีไหม
(อีกแหละ แค่คิดในใจ)

สุดท้าย ฉันก็ตอบว่า ได้ค่ะ
วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม บ่าย 2
คือเวลาว่างคิวแรกที่หนูมีในช่วงงานเดือนหน้าค่ะ

เร็วกว่านั้นได้ไหม

ไม่ได้ค่ะพี่ เพราะหนูไม่อยากรับงาน

เอ่อ งั้นพี่รอละกัน

และฉันก็รีบวางกดตัดสายก่อนจะต้องฟังอะไรเพิ่ม

ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนบางคน
ช่างอายุยืนหมื่นปี
ก็เมื่อวานนี้เองที่พี่สาวคนหนึ่งถามว่า
รู้ข่าวแล้วใช่ไหม
และฉันตอบว่า ทราบแล้วค่ะ
แต่ไม่ได้สนใจ
คนบางคนหลุดพ้นวงโคจรชีวิตหนูไปแล้วค่ะ

หากวันนี้ก็มาฉิวเฉียดกันจนได้

ซึ่งฉันก็ดีใจที่เจอประสบการณ์นี้
เพราะแปลว่าฉันหลุดพ้นแรงเกลียดชังมาแล้ว

....

"อโหสิ"
ใช้คำนี้คงใช่

อโหสิ




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2557 12:47:36 น.
Counter : 687 Pageviews.  

it's not in astonishment

การจดบันทึก คล้าย ๆ การถ่ายภาพความคิดเก็บไว้
ข้อดีก็คือ ทำให้ความคิดเหล่านั้นไม่หล่นหาย

ผมเชื่อว่า ทุกคน...มีความคิดดี ๆ ความคิดที่น่าสนใจ
ที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง และคนรอบข้าง ผุดขึ้นมากมายในแต่ละวัน
ถ้าไม่จดเก็บไว้ มันก็จะหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น
จดเอาไว้ไม่ยาก ไม่ต้องเรียบเรียงอะไรมากมาย ง่าย ๆ ทำเท่าที่อยาก

สนุกระหว่างที่จด สุขระหว่างที่กลับมาอ่าน
::
::
หนังสือเรื่อง 'head' นิ้วกลม



ไม่ได้ต้มกาแฟมา 2 วันแล้ว
ไม่มีอะไรมากไปกว่าเวลาอลวน
ชนิดวุ่นกับงานเร่งจนจังหวะการกินนอนปรวนแปร

คล้าย ๆ อารมณ์ช่วงนี้
บ่นระบายกับแม่นิดหน่อย
แม่บอกว่าอย่าเครียดเกิน

บางเรื่องไม่ต้องสมบูรณ์แบบนักก็ได้







ช่วงงานบางชิ้นถึง due date นอนยังขาด ๆ หาย ๆ
ไม่ต้องพูดถึงการนั่งหน้าจอคอม

ตอนแรกก็กะว่าจะเร่งงาน
แต่พอวันก่อนไปอ่านบลอคนี้
ก็ตกใจมาก
เพราะก็คุ้นชื่ออยู่พอสมควร
ท่านเป็นคนที่ขยันอัพบลอคมาก

ยิ่งได้อ่านสาเหตุของการจากไป
ยิ่งตกใจ

การนั่งหน้าคอมฯ นานติดต่อกัน
การดื่มกาแฟและชามากมาย
การไม่ค่อยดื่มน้ำเปล่าให้พอเพียง
การไม่ออกกำลังกาย
การคล้องคอด้วยกล้องเลนส์หนัก ๆ

ล้วนคือมัจจุราชอำพราง

เสียใจและใจหาย
ขอให้คุณสินไปสู่สุคตินะคะ 



.
.
.
.



เช้าวันเสาร์ มะเฟืองแวะไปตักบาตร
แล้วก็โทรมาถามรายการอาหาร
เลยสั่งซื้อปลาสลิด 6 ตัว 18 เหรียญ
และกับข้าวอีก 5 อย่าง
จ่ายไปทั้งหมดคือ 50 เหรียญ
รวมกาแฟ G7 แบบ 3 in 1 ด้วย

แต่มะเฟืองขอไปเล่นโยคะที่สตูดิโอก่อน
บอกว่าจะมาถึงบ้านฉันก่อนเที่ยง ๆ

.
.
แต่สัก 11 โมงนิด ๆ นางก็มาถึง
นั่งกินขนมกับกาแฟกันแป๊บนึง
ก็ออกไปเดิน marshall เพราะฉันอยากซื้อกางเกง
แต่พอไปเดิน ๆ ก็พบว่าฉันไม่ได้ซื้อหรอก
ออกอารมณ์หยิบชิ้นนั้นก็มีแล้ว
หยิบชิ้นโน้นก็เพิ่งซื้อไป
เลยสรุปว่าไม่ซื้ออะไรดีกว่า

ส่วนมะเฟืองได้เสื้อผ้า 5 ชิ้น จ่ายไป 120 เหรียญ
ฉันเลยฮา เพราะได้ข่าวว่านางกำลังออกจากงาน
และจะอพยพมาอยู่เมืองไทย

จะซื้อไปไหนล่ะแม่นางเอ๊ย

แต่ก็ซื้อ

พอตอนบ่าย 3.10 ก็ข้ามถนนไปโรงหนัง
หยิบคูปองมา 2 ใบ
จาก 4 ใบที่เหลือในกระเป๋า
ใช้สำหรับเรื่อง the winter's tale 
แล้วบริจาคการกุศลอะไรไม่รู้
ตามคำขอของโรงหนัง
ขอแค่ 1 เหรียญ ก็เลยให้ไปแบบไม่ต้องถาม
แต่ถามมะเฟืองว่า จะกินอะไรไหม
คำตอบคือ ยังอิ่ม

เลยเดินเข้าไปในโรงหนังแบบมือเปล่า

คนไม่ค่อยเยอะดี
สงสัยเพราะรอบกลางวันหรือเปล่านะ
ได้ที่นั่งไกลจอหน่อย
นางผู้สายตาสั้นเลยหยิบแว่นออกมา

ฉันก็นั่งขำไป

หนังเรื่องนี้ the winter's tale สร้างมาจากวรรณกรรม
จึงเลือกดูด้วยความคาดหวังว่า
น่าจะดี
เพราะตัวอย่างก็ดูดี๊ดี

นั่งดูไปก็ชอบนะ
วิวสวย ภาพสวย ดาราโปรด
จากหนังสือเล่มที่ก็ชอบ
แต่พอดูจบ
กลับไม่ถูกใจกับตัวหนัง

บทมันขาด ๆ เกิน ๆ แล้วก็หาที่มาที่ไปไม่ได้
นี่ขนาดอ่านหนังสือแล้วหลายรอบสมัยเรียน
มาดูหนังก็ยังงงปนฮากริบ

ลองอ่านรีวิวฝรั่ง
นักวิจารณ์ด่ายับ
ส่วนชาวบ้านก็คละกันไป
หากเสียงเดียวที่เกิดคิดเห็นคล้ายกันคือ
skip the movie, read the book

หรือไม่ก็รอตอนออกมาให้เช่า
(แหม .. ขนาดจะซื้อแผ่น เค้ายังไม่หนับหนุนกันเลยอ๊า)

พอหนังเลิกแล้วก็บอกมะเฟืองว่า
ขอแวะไป trader joe's หน่อยนะ

ตั้งใจไปซื้อ 2 อย่างคือ กล่องลูกอม
เพราะกล่องอันเดิมหายไป
กับจะซื้อดอกไม้สักช่อ

แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ซื้อนั่นนี่เกินที่ตั้งใจ
หยิบออกจ่ายถึง 60 เหรียญ

เลยโดนเยาะเย้ยจากนางมะเฟือง
ว่าแกก็พอกะชั้นแหละ

ระหว่างยืนรอจ่ายเงินเลยถ่ายรูปทิวลิปเล่น
เพราะว่าจะซื้อแต่ก็ อืมมมม อย่าดีกว่า
ทิวลิปไม่ค่อยทนแจกัน





ออกจาก trader joe's ก็ตกลงไปร้านไทยแถวบ้าน
ตัดสินใจสั่ง
เต้าหู้ทอด ยำวุ้นเส้น ต้มยำทะเล
ชาเย็น 2 แก้ว และ ข้าว 1 ถ้วยจิ๋วมาก
เพราะมะเฟืองอยากกินไข่เจียว

นั่งกินไปก็วางแผนเที่ยวกันไป
กินเสร็จจ่ายค่าเสียหายไป 45 เหรียญ
ฉันบอกว่า ขอซ้อมเลี้ยงวันเกิดเพื่อนนะ

นางเลยขำแทบกลิ้งตกถนน

กลับถึงบ้านก็รีบไล่มะเฟืองกลับ
เพราะฉันต้องเร่งงาน
และยังไงซะ
พรุ่งนี้บ่ายวันอาทิตย์ก็ต้องเจอนางอีกอยู่ดี




ตอนเช้าวันอาทิตย์
ตื่นมาเร่งงาน
พอสาย ๆ ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง

ตอนบ่ายเลยออกไปเดินเล่นริมถนน
รู้สึกเหมือนสมองล้า ๆ 




เกือบลืมบันทึกว่า
มะเฟืองจองโรงแรมที่นิวยอร์คไว้แล้ว

ตอนแรกนางบอก จองแบบที่มีครัวด้วย
นางจะให้ฉันได้ทำกับข้าวในนางกิน!

จะบ้าเหรอตัวเธอว์

เจออุทานเข้าเช่นนั้น
เลยเปลี่ยนเป็นโรงแรมนี้แทน
อยู่ตรงไทม์สแควร์พอดี
เลยไปไชน่าทาวน์ได้ไม่ยาก
จึงตัดปัญหาเรื่องอาหารไปได้

ตอนนี้หน้าที่ของมะเฟืองจึงคือ
ตามหาเส้นทางตามรอยหนัง
เรื่อง the winter's tale ที่เพิ่งดูมานั่นแหละ

นางบอกว่า
ชั้นนึกแล้วว่าแกต้องอยากไปแน่นอน
555+ ช่างรู้ใจจริ๊งงงงงงงงงง

.
..
.

ประมาณบ่าย 3 วันอาทิตย์ก็ลุกจากงาน
เดินไปดูเสื้อผ้า
เห็นร้านที่จะไปกินวันเกิดมะเฟืองแล้วก็ขอเหอะ
ผ้าถุง + เสื้อยืด
เกร๋สุดแล้ว เพราะมันย่านฮิบ

ชื่อร้าน
เป็นร้านในดาวน์ทาวน์แอลเอ

ซึ่งการเข้าไปในดาวน์ทาวน์วันอาทิตย์
เป็นเรื่องพอรับได้ เพราะไม่มีรถมาก

แต่ก็ดันมีกองถ่ายหนังมาปิดถนนเสีย 2-3 สาย
หากก็ยังไหวอยู่
ถนนยังโล่ง ๆ ให้ขับรถได้สบายใจ
หาที่จอดรถได้ตรงตึก one wilshire จ่าย 6 เหรียญ
ก็ข้ามถนนไปร้านที่ว่า





ก็สนุกสนานกันดีระหว่าง 4 สาว
นั่งฮาจนพนักงานเดินเข้ามาแซว
ว่าช่างเป็นกลุ่มที่สนุกสนานที่สุดในร้านแล้ว

ดาด้าเอาร่มญี่ปุ่นมาฝากคนละคัน
เพราะแว่วว่าไปลิตเติ้ลโตเกียวมา
ส่วนน้องดาวก็สั่งกำไลเงินมาให้
ฉันเลยว้าวเลย เพราะเป็นกำไลที่ศิลปินคนโปรดออกแบบ

สรุปไม่รู้ว่าวันเกิดมะเฟือง
หรือวันฉันได้ของฝากถูกใจ 2 ชิ้นกันแน่

นั่งฮากันในร้านจนแขกหลายโต๊ะแอบมอง
เพราะพวกเราไปกัน 4 สาว
แต่ฮายิ่งกว่าปาร์ตี้ยี่สิบคน

วงสนทนาของเรา
ต้องเล่าถึงแผนการเที่ยวของฉัน
และทริปในเนปาลของมะเฟือง
กับโครงการไปเปิดเกสต์เฮ้าส์ที่ลาว
รวมถึงน้องดาวสารภาพว่า
นางยกเลิกทริปไปเปรู
เพราะไม่ได้ฟิตซ้อมร่างกายเลย
กลัวไปแล้วไม่ไหว

คุยกันไปเรื่อยเปื่อย
ฉันนั่งฟังสักพักแล้วเอ่ยสรุปแต่ละคนได้ไงไม่รู้ว่า
ถ้าพวกเรา .. เป็นหนังสือ

ดาด้าเหมือนหนังสือวิทยานิพนธ์อะ
ข้อมูลเพียบ อ้างอิงครบ ตัวเลขแม่นยำ
แต่เครียดอะเพื่อน แกเคยสนุกบ้างปะเนี่ย

มะเฟืองเป็นเหมือนหนังสือรื่นรมย์
เรื่องเล่าริมถนน
ข้อมูลไม่มีหรอก อารมณ์ล้วน ๆ เลยล่ะ
แต่อ่านแล้วเห็นภาพนะ

ส่วนน้องดาว
นางเหมือนหนังสือคู่มือท่องเที่ยวเล่มเล็ก ๆ
ที่ ททท. เค้าทำแจกฟรีอะ
เหมือนจะมีข้อมูลครบทุกเรื่อง
แต่มันก็ยังแบบถ้าถือข้อมูลเล่มนี้ไปแล้ว
รับรองหลงตล๊อด

พอมาถึงตาฉันเอง
นั่งฮาเลย
เมื่อเพื่อนสามคนรุมบอกเป็นเสียงเดียว
ส่วนแกอะเหมือนห้องสมุดแห่งชาติเลยล่ะ

ฮา




ทุกครั้งที่นุ่งผ้าถุงโบราณ
ฉันเป็นต้องถูกสาวฝรั่งมังค่าและนานาชาติ
เรียกให้หยุด
และขอจับชมผ้าถุงที่กำลังนุ่ง

หลายครั้ง คนชมให้เบอร์ไว้
บอกว่า ถ้ายูอยากขายนะ โทรมาที่เบอร์นี้
จะซื้อแบบไม่เกี่ยงราคา

เมื่อวานก็ถูกถามเช่นนี้ถึง 4 กลุ่มสาว
คาดว่า 2 ในจำนวนนั้นคือ ดีไซเนอร์
ก็ได้แต่ยิ้ม
ตอนเพื่อนฝูงช่วยคุยให้แทนว่า
ฉันน่ะสะสมผ้าถุง และต้องทอมือผืนเดียว
พอสาวฝรั่งผมทองคนหนึ่งเอ่ยขอโทษ
ว่าขออนุญาตทราบราคาได้ไหม
มะเฟืองส่งเสียงทันที
ผืนนี้แค่ 6,000 บาทไทยเท่านั้นเองนะ
ดาด้ากะน้องดาวช่วยแปลงค่าเงิน
ฝรั่งบอก
สวยคุ้มเลย

พอคุยไปคุยมา แล้วมะเฟืองบอกว่า
นี่น่าจะถูกสุดในสต็อคนางแล้วนะ
นางมีเป็นร้อยผืน
ฝรั่งคนนั้นถึงกับขอ line และอยากเป็นเพื่อน
มะเฟืองเลยให้ line ของนางไป

อ๊ะ อ๊ะ มีแผนนะหล่อนนะ

พอเดินไปห้องน้ำในร้านก็มีคนเอ่ยถาม
และรู้ว่ามีคนมองเยอะเลย
กลับมาที่โต๊ะ
เพื่อนทั้งสามก็บอกเป็นเสียงเดียว
พวกชั้นดีใจที่แกกลับมานุ่งผ้าถุงอีกครั้ง

โคตรเท่เลยว่ะเพื่อน
ฉันก็ได้แต่ฮา ๆ ไป
เพราะคำชมแบบนี้จะต้องมาพร้อมเสียงมะเฟือง
ใช่ซี๊ใช่ซี ชั้นมันเตี้ย เลยยืมผ้าถุงแกมานุ่งไม่ได้

555+
เหตุเพราะ
น้องดาวกับดาด้าเคยยืมนุ่งหลายงานแล้วนั่นเอง
ด้วยความยาวพอได้
แต่มะเฟืองมิสามารถเลย

ฉันเลยบอกว่า
เดี๋ยวชั้นบอกให้แม่ช่วยจัดการให้สัก 6 ผืน
แบบขนาดเด็กเลยนะเพื่อนนะ

...

ประมาณ 2 ทุ่มก็ลุกกลับกัน
สังเกตว่า ช่วงนี้เริ่มมืดช้าลงแล้ว





พอถึงบ้าน
ดาด้ากับน้องดาวส่งข้อความบอกว่า
"สนุกมาก ฮามาก เราน่าจะเจอกันทุกเดือนได้แล้ว"

ฉันได้แต่หัวเราะ 555+ กลับไป

เพื่อนเอ๋ย ฉันก็อยากทำอย่างนั้น
แต่เวลานี่สิ
มันไม่ค่อยจะพอใช้เลย

ที่สุดก็สรุปว่า
งั้นต้นเดือนเมษา
หลังมะเฟืองกับฉันกลับจากทริปนิวยอร์ค
เจอกันอีกครั้งก่อนมะเฟืองกลับเมืองไทยละกันเนอะ

.
...




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2557 8:52:23 น.
Counter : 871 Pageviews.  

a line slips from a drawer

คิดถึงใครสักคน
...ที่, แม้แต่เธอเอง
ก็ยังไม่เคยได้พบมาก่อน

::
::


เธอเคยได้เห็นหรือเปล่า ว่าความรักเป็นเช่นไร

ฉันไม่เห็นหรอก แต่ฉันก็รู้สึก

เธอรู้ไหมว่าความคิดถึง มันหน้าตาเป็นเช่นไร

ฉันไม่รู้หรอก แต่ฉันก็รู้สึก

ไม่ต่างกัน กับใจฉันหรอก
สิ่งนั้นที่เธอสัมผัส เราต่างรับรู้มันด้วยใจ
บางสิ่ง เราอาจไม่เห็นมันด้วยตา
แต่เรารับรู้มันด้วยใจ

เ ร า ไ ม่ ต่ า ง กั น

ทุกครั้งที่เหงา แค่มีเธอก็ทำให้ชื่นใจ
และฉันมั่นใจ
ว่าเธอก็รู้สึกไม่ต่างกันกับใจฉันหรอก

สิ่งนั้นที่เธอสัมผัส เราต่างรับรู้มันด้วยใจ
บางอย่างไม่เห็นมันด้วยตา
แต่เราเรียนรู้มันด้วยใจ

เ ร า ไ ม่ ต่ า ง กั น

ฯลฯ


ทุกวันก็ (ยัง) คงเดิม

.

.


' คิ ด ถึ ง วิ ท ย า '




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2557    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2557 2:02:41 น.
Counter : 673 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  

พุดดิ้งรสกาแฟ
Location :
United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]




สิ่งต่าง ๆ เคยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง
อาจเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคน
อาจไร้สาระสำหรับใครอีกบางคน


ถ้ามันไร้สาระ
โปรดทิ้งมันไปเฉย ๆ อย่างง่าย ๆ
หากมันมีประโยชน์ ฉันก็ดีใจ


..
..
..
Friends' blogs
[Add พุดดิ้งรสกาแฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.