All Blog
จะไปเชียงใหม่อีกแว้ววววว

พรุ่งนี้จะตะลอนไปเชียงใหม่อีกแล้วค่ะ

คราวนี้ไปงานรับปริญญาที่ มช. กลับไปปีนี้ก็คงเป็นปีสุดท้ายแล้วมั้ง...เพราะทายาทรุ่นสุดท้ายของเราก็รับปีนี้แล้ว

จะว่าไปก็เร็วเหมือนกันนะนี่ ดูซิ ไอ้เด็กนรกเมื่อสามสี่ปีก่อนมันก็เป็นบัณฑิตกันแล้ว...เรายังเห็นมันเป็นน้องปีหนึ่ง (ขณะที่เราเป็นพี่ปีสี่) อยู่แหม็บๆ เฮ่อ...เวลานี่มันช่างผ่านไปรวดเร็วซะเหลือเกิน


ว่าจะแวบไปงานพืชสวนโลกอีกรอบหนึ่งด้วย คราวนี้กะจะฉายเดี่ยว ไปเก็บตกมุมต่างๆ คราวที่แล้วให้หมด คราวก่อนไปกันหลายคน มากคนก็มากความ เลยถ่ายรูปไม่หนำจิต คราวนี้เหอะ...จะกดไม่ยั้งเลย ฮ่าๆ

ว่าแล้วก็ไปเก็บเสื้อผ้าดีกว่า เอาไว้เจอกันอีกสี่วันข้างหน้านะคะ แล้วจะเอารูปมาฝากกัน



Create Date : 13 มกราคม 2550
Last Update : 13 มกราคม 2550 22:54:55 น.
Counter : 326 Pageviews.

3 comment
Blog Tag!!! อะไรกันนี่?
กลับมาจากบ้านยาย เปิดบล็อกของตัวเองดู...

อ่ะจึ๋ย! พี่กุ๊ก-คีตภา มาแปะข้อความทิ้งไว้ว่า "พี่ขอ tag มดด้วยคน"

ไอ้เราก็งง...Tag มันคืออะไรหว่า? ก็เลยตามไปอ่านในบล็อกของพี่กุ๊ก เลยได้ตาสว่างว่า ถึงคราวซวยซะแร้วววว...

ซวยก็เพราะจะต้องหาทายาทอสูรต่อเนี่ยซี้...

เอา! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ต้องรีบอัพก่อนที่จะไม่มีทายาทให้ tag ต่อ ฮี่...


ก่อนอื่นต้องขออธิบายกติกากันก่อนนะคะ

คนที่โดน Tag นั้นจะต้องบอกเล่าความลับของตัวเองที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้มา 5 ข้อ แล้วก็จะต้องส่ง tag นี้ต่อไปให้คนอื่นอีก 5 คน (หาทายาทอสูรนั่นเอง เหอๆ)


จ้ะ...มาถึงความลับ (รึเปล่า) ของมดน้อยต้อยตีวิด 5 ข้อที่ไม่ค่อยมีใครรู้ (และคงจะไม่อยากรู้ ฮ่า...)


1. กลัวไก่เป็นที่สุด -- เรื่องมันเกิดมานานแล้วตั้งแต่อยู่ ม.ต้น ไม่ได้ถูกไก่จิกแต่เด็กอย่างที่หลายๆ คนอาจจะเข้าใจกัน แต่มันเป็นเพราะ...ตอนนั้นนั่งซักผ้าอยู่หลังบ้าน ซึ่งติดกับวัด แล้วมันก็มีไก่ชนตัวบะเล่งอยู่ตัวนึง ซึ่งคงจะโดนปลดประจำการแล้ว เพราะถูกเอามาปล่อยที่วัด สภาพมันก็น่าสงสารอยู่หรอก เพราะตาบอดหนึ่งข้าง แถมขนก็ร่วงเป็นหย่อมๆ แล้ว มันก็เดินหากินอยู่แถวๆ บ้านเรา ไปๆ มาๆ มันก็เดินมาหลังบ้าน ตรงที่เรานั่งซักผ้า มันเดินตรงเข้ามาหาเราเรื่อยๆ เราไล่เท่าไหร่มันก็ไม่ไป (อาจะเป็นเพราะมันมองไม่เห็น) ยังจะเดินตรงเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหลือระยะห่างประมาณสองเมตร...ไม่เอาแล้วคร้าบ ไอ้มดกระโดดหนีทันที จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกลัวมัน รู้แต่ว่าไม่อยากอยู่ใกล้ "ไก่" ทุกประเภทค่า...


2. ไม่กินถั่วงอก -- ยิ่งเป็นถั่วงอกสด หรือถั่วงอกที่ใส่มาในก๋วยเตี๋ยวจะไม่กินเลยค่ะ รู้สึกว่ามันเหม็นเขียว แต่ก็มีข้อยกเว้นนะคะ คือถั่วงอกในหอยทอดที่มันสุกๆ กินค่ะ เหอๆ


3. ใฝ่ฝันอยากเป็นดีเจ -- เหตุผลเพราะชอบฟังเพลง และขาดเสียงเพลงไม่ได้ แล้วก็ชอบเปิดเพลงให้คนอื่นฟัง ชอบจัดหมวดหมู่เพลง อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ เลยคิดว่าอยากจะเป็นดีเจ เคยจัดรายการใส่เทปคาสเซ็ทแต่ไม่กล้าส่งไปที่สถานีวิทยุ เลยเก็บไว้ฟังเองค่ะ แล้วมันก็ยังอยู่มาจนทุกวันนี้ อิอิ


4. เคยถูกเรียกไปคัดลีดคณะ -- โฮะๆ อันนี้ไม่ได้จะมาบอกว่าตัวเองหน้าตาดีนะคะ แต่มันเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาบางคนยังไม่เคยรู้เลยค่ะ เรื่องมันเกิดตอนปีหนึ่ง รุ่นพี่เค้าจะมายืนหาลีดเดอร์ที่ใต้ตึกคณะ แล้วจู่ๆ ก็มีพี่คนหนึ่งเรียกเราไป แล้วบอกว่าพรุ่งนี้น้องมาซ้อมด้วยนะคะ วันรุ่งขึ้นเราก็ไปซ้อมตามที่เค้าบอก ยืนสับมือไปเรื่อยๆ ด้วยหน้าตาปกติของเรา แต่พอเลิกซ้อม พี่เค้าก็เข้ามาบอกว่า "น้องคะ ถ้าน้องไม่อยากเป็น พรุ่งนี้น้องไม่ต้องมาซ้อมก็ได้นะคะ" ฮา...กลายเป็นว่าเค้าคิดว่าเราทำหน้าหงิกไม่พอใจที่โดนเรียกมาซ้อม ทั้งที่มันเป็นหน้าปกติของหนูค่าพี่ขา...


5. ตอนเด็กๆ บ้าหนังจีนกำลังภายในมากๆ -- เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเป็นนะคะ เรียกว่ากลับมาจากโรงเรียนตอนสี่โมงเย็นนี่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอช่องสามโดยพลัน ดูมันทุกเรื่อง แล้วก็บ้าขนาดไปเอากิ่งไผ่มาทำกระบี่ แล้วก็ร่ายเพลงกระบี่อยู่ใต้ถุนบ้านคนเดียวเลยก็มี หรือบางวันอยากเป็นนางเอกสวยๆ ที่ไม่บู๊ ก็ไปเอาเทปเก่าๆ มาดึงแถบแม่เหล็กออก แล้วเอามาพันตัวให้มันพลิ้วๆ แล้วก็เดินๆ วิ่งๆ หนีพรรคมารเข้าป่า (ในสวนส้มโอ) ฮ่าๆๆๆ นึกแล้วก็ขำค่ะ




เอาล่ะ หมดแล้ว ครบถ้วนกระบวนความ 5 ข้อ
ต่อไป...ก็เข้าสู่กระบวนการหาทายาท

และผู้ที่โชคดีก็คือ...
พี่ ณ มน
มดx-v3
น้อง Andra
เมเปิ้ลสีขาว
ไกลนั้น


ว่าแล้วก็เผ่นสิเรา ฟิ้ววววว!!!



Create Date : 11 มกราคม 2550
Last Update : 11 มกราคม 2550 18:12:43 น.
Counter : 339 Pageviews.

9 comment
เปลี่ยนโฉมบล็อกรับปีใหม่
ไหนๆ ก็ปีใหม่แล้ว ไอ้เราก็ยังไม่มีอะไรใหม่กะเค้าเลย
งั้น...เปลี่ยนหน้าตาบล็อกใหม่ดีกว่า โฮะๆๆๆ


คืนข้ามปี (ชื่อเพลงใหม่ของเอ็นโดรฟิน...ขอยืมมาใช้หน่อยนะ หุๆ) ไปนั่งหนาวอยู่ที่สวนส้มโอ นครชัยศรีนู่น เพราะวันรุ่งขึ้น เช้าแรกของปีใหม่จะไปใส่บาตรที่หลังหมู่บ้าน ซึ่งเป็นประเพณีที่ทำต่อกันมาน้าน...นาน เริ่มกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตั้งแต่จำความได้ ปีใหม่ก็ต้องตื่นตีห้า หอบหิ้วเอาของใส่บาตรซึ่งก็คือข้าวสารอาหารแห้งไปยืนสั่นหงึกๆ รอรถหกล้อคันใหญ่ไปรับพระที่วัดมารับบาตร

คืนนั้นเรากับคุณพี่สาวช่วยกันเตรียมของใส่บาตร โดยก่อนอื่นก็กรอกข้าวสารใส่ถุงพลาสติกเล็กๆ แล้วจากนั้นก็รวบรวมของอื่นๆ อันประกอบไปด้วย น้ำที่เป็นแก้วพลาสติก ผักกาดกระป๋อง นมถั่วเหลือง โอวัลติน 3in1 ยูโร่คัสตาร์ดเค้ก รวมทั้งข้าวสารใส่ในถุงพลาสติกใหญ่อีกที ก่อนจะจับจีบปากถุงมัดด้วยลวดสีอย่างสวยงาม...

ปีก่อนๆ ก็ไม่เคยจะมานั่งทำอะไรอย่างนี้เลยนะ แค่กรอกข้าวสารใส่ถุงเสร็จก็เสร็จแล้ว ของที่เหลือก็ใส่ตะกร้าไว้แล้วก็หยิบๆ ใส่ทีละอย่าง

แต่คุณพี่สาวว่างจัด กลัวเวลามันเหลือเฟือ ก็เลยหาเรื่องซะอย่างงั้น...

แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกัน สะดวกดี หยิบใส่รูปละชุดๆ ไม่สับสน แถมประหยัดเวลาอีกด้วย และทำให้มั่นใจได้ว่าพระทุกรูปจะได้ของครบชุด ไม่มีตกหล่น ฮา...

พอใส่บาตรหลังบ้านเสร็จก็กลับมาอาบน้ำเตรียมไปทำบุญที่วัดอีก นัยว่ากลัวบุญที่ทำจะสะสมไปไม่ถึงสิ้นปีอ่ะ ฮ่ะๆ

ไม่หรอกค่ะ จริงๆ แล้วไปวัดเป็นเพื่อนยาย เพราะยายไม่ได้ไปใส่บาตรตอนเช้ามืด

อาบน้ำกินข้าวเสร็จก็ไปตัดดอกเข็มหลังบ้านเพื่อจะเอาไปบูชาพระ เตรียมปิ่นโตเสร็จสรรพแล้วก็ขนของลงเรือกันเล้ย...

ทีแรกเรากะพี่สาวจะไปกับยายแค่สามคน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่ารถยนต์ไม่อยู่ ทางเดียวที่จะไปวัดได้คือเรือเท่านั้น และหลังจากที่เราลองไปกระตุกเครื่องเรือแล้วไม่สามารถกระตุกให้มันติดได้ (หงะ...ก็เครื่องมันใหญ่กว่าเครื่องตัดหญ้าที่เคยกระตุกนี่นา) ป้าก็เลยต้องไปด้วยอีกคน ไม่อย่างงั้นก็คงต้องพายกันไป แล้วกว่าจะถึงวัด พระก็คงฉันเสร็จแล้วแน่ ฮ่าๆ


ไปถึงก็ได้ยินมรรคนายกนำสวดอะระหังซะแล้ว...พวกเราไม่ได้ไปสายนะคะ แต่พระลงศาลาเร็วกว่าปกติตะหาก


ขึ้นไปบนศาลาก็เห็นคนเต็มพรึ่บไปหมด ที่ประจำของเราก็โดนยึดไปซะแล้ว เลยต้องนั่งอยู่แถวๆ หน้าประตูนั่นเอง

พอพระฉันเสร็จ พระอาจารย์เจ้าอาวาสก็เดินพรมน้ำมนต์...หูย...โดนเข้าไปแทบกรี๊ด ไม่ได้โดนผีเข้านะคะ แต่ว่าน้ำมนต์เย็นเจี๊ยบอย่างกับเพิ่งออกจากตู้เย็นแน่ะ


พอทำบุญเสร็จก็แวะซื้อขนมที่ร้านค้าที่วัด เป็นร้านกาแฟร้านประจำของก๋ง (คุณตา) เมื่อก่อนทุกเช้าก๋งจะถีบจักรยานมากินกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ แล้วก็สนทนาสภากาแฟกันตามประสา แต่เดี๋ยวนี้ก๋งขี่จักรยานไม่ไหวแล้ว เลยไม่ได้ไปกินกาแฟมาหลายปี ป้าก็เลยซื้อก๋วยเตี๋ยวไปฝาก (แบบว่าร้านนี้เค้าก็ขายก๋วยเตี๋ยวด้วยอ่ะค่ะ อิอิ)


ระหว่างที่ป้าซื้อของเรากับพี่สาวก็ไปไหว้กระดูกแม่ที่โบสถ์ เดินกลับมาป้าก็ซื้อของเสร็จพอดี พอจะลงเรือเราก็ถามยายว่าปิ่นโตไปไหน เพราะก่อนไปโบสถ์เราฝากปิ่นโตกับยายเอาไว้ ยายก็บอกว่าเอาวางไว้ตรงเสาข้างทางลงโป๊ะ แต่ปรากฏว่าตอนนี้มันไม่อยู่แล้ว


เรา พี่ และป้า เดินหากันอยู่พักใหญ่ คนที่อยู่แถวนั้นรู้เข้าก็ช่วยมองหา แต่ก็ไร้วี่แวว พวกเราก็เลยกลับบ้านกันแบบเซ็งๆ ยายเสียดายปิ่นโตเถานั้นมาก เพราะใช้มาสามสิบกว่าปี ได้แต่หวังว่าจะมีคนหยิบผิดไปแล้วเอามาคืนให้


พอกลับมาถึงบ้านได้ซักพักก็มีคนเอาปิ่นโตกลับมาคืนให้เพราะมีคนหยิบผิดไปจริงๆ นั่นแหละ เค้าเอาไปคืนที่วัด แล้วคนที่ช่วยหาก็เลยเอามาคืนให้ถึงบ้าน โชคดีจริงๆ


ตอนบ่ายน้องชายเกิดอยากจะตัดผม มดน้อยบาร์เบอร์ก็เลยต้องเปิดทำการน่ะสิค้าทั่นผู้ชม

คุณน้องอยากได้ทรงไว้จอนเปิดหู เราก็จัดห้าย...
ข้างขวา ดูดีทีเดียว แต่พอข้างซ้าย... ช่างจำเป็นเกิดพลาด ซอยเพลินจนมันแหว่ง พ่อคุณก็โวยวายซะลั่นเชียว...แหม ทุกอย่างมันต้องมีทางแก้ไขสิ

เราก็เลยบอกน้องไปว่า "แกก็ทำให้อีกข้างมันเท่ากันสิ"
พ่อน้องชายสุดหล่อลังเลอยู่แป๊บนึง ก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมจำนน เพราะไม่มีอะไรจะเสีย ฮ่าๆๆๆ เราก็เลยจัดการซอยข้างขวาให้มันเปิดหูมากกว่าเดิมอีกนิดส์นึง แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แหว่งซะจนหน้าเกลียดหรอกนะคะ เพราะว่าข้างขวามันก็ยังปรกหูอยู่นิดนึง แต่ข้างซ้ายมันเลยขึ้นไปไม่ลงมาปรกหูเท่านั้นเอง...ก็มันอยากจะเปิดหูอยู่แล้วนี่ คิกๆๆๆ


สุดท้ายพอสระผมเสร็จ ก็หล่อไม่เบาทีเดียวน้า...จะบอกให้ ดูไม่ออกเลยหละว่าให้พี่สาวตัดให้ เหอๆ



Create Date : 03 มกราคม 2550
Last Update : 3 มกราคม 2550 18:48:30 น.
Counter : 304 Pageviews.

5 comment
สวัสดีปี ๒๕๕๐

พรุ่งนี้อีกวันเดียวก็จะหมดปี 2549 แล้ว...

เร็วจังเลยเนอะ

เมื่อต้นปีเรา list สิ่งที่ตั้งใจจะทำให้สำเร็จไว้ 3 อย่าง แต่พอถึงตอนนี้...สิ้นปีแล้ว ทำสำเร็จไปได้แค่อย่างเดียวเอง

เดี๋ยวปีใหม่ที่จะถึงนี้จะเอาใหม่ แล้วปลายปีหน้ามาดูกันซิว่าสถิติของเราจะดีขึ้นมั้ย

สำหรับปีที่กำลังจะผ่านไป ใครที่มีเรื่องราวไม่สบายใจก็ปล่อยให้มันผ่านไปกับปีเก่านะคะ ปีใหม่เรามาเริ่มต้นกันใหม่ ถึงความจริงเราจะเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน แต่ก็ถือเอาฤกษ์ดีปีใหม่ในการเริ่มต้น เราจะได้มีกำลังใจไงคะ (เกี่ยวกันตรงไหนหว่า )

เอาเป็นว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ ขอให้เป็นปีที่สดใส สดชื่น สมหวังกันทุกๆ คนนะคะ




Create Date : 30 ธันวาคม 2549
Last Update : 30 ธันวาคม 2549 17:21:26 น.
Counter : 546 Pageviews.

13 comment
ขอมือหน่อยได้ไหมอากาศหนาว...หนาวไม่ชอบเลย

ตั้งชื่อหัวข้อเป็นเพลงซะงั้น...(เพราะคิดไม่ออก หุหุ)

ถึงเพลาเข้าหน้าหนาวจริงๆ จังๆ ซักที หลังจากที่แห้งๆ แล้งๆ ฟ้าใสๆ แดดเปลี่ยนสีดูเชิงมานานพอสมควร

จริงๆ ก็หนาวมาได้สองอาทิตย์แล้ว แต่เพิ่งจะได้หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง ไม่เคยคิดว่าบ้านเราจะหนาวได้ขนาดต้องใส่ถุงเท้านอน

ขนาดบ้านเรายังหนาวขนาดนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าคนที่อยู่บนยอดดอย ในป่าในเขา เค้าจะหนาวขนาดไหน และยิ่งถ้าไม่มีเสื้อกันหนาว ไม่มีผ้าห่ม จะอยู่กันยังไง?

ดูข่าวแล้วรู้สึกสงสารวัวควายจับใจ เห็นวัวบางตัวที่เจ้าของก่อกองไฟให้ มายืนอังจนแทบจะเข้าไปยืนในกองไฟอยู่แล้ว ขนก็ไม่มีกะเค้า...กรรมจริงๆ เลยเจ้าวัวเอ๊ย...

เมื่อวานซืนไปนอนค้างบนแพที่กาญจนบุรี ขนาดมีเสื้อกันหนาว มีถุงเท้า และมีผ้าห่ม ยังนอนสั่นหงึกๆ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไปหมด เพราะการหดตัวเกร็งของกล้ามเนื้อเนื่องจากความเย็น ขนาดนั้นเรายังทรมาน นอนไม่หลับเลย แล้วคนที่ขาดแคลนเสื้อกันหนาวจะทรมานขนาดไหนกันนะ...ไม่อยากจะคิดเลย

ปีนี้น้ำก็ท่วมหนัก แถมเวลาหนาวก็ยังหนาวหนัก คนเดือดร้อนส่วนใหญ่ก็ต้องประสบภัยซ้ำซาก เฮ้อ...เศร้าแทน

ยังไงปีหน้าฟ้าใหม่ ก็ขอให้ทุกข์ภัยของคนไทยทุกๆ ภาคอันตรธานหายไปโดยเร็วด้วยเทิ้ด...สาธุ



วันนี้วันที่ 25 ธันวา หรือวันคริสต์มาสที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญ เพราะเป็นวันประสูติของพระเยซู

ตั้งแต่เช้ามีคนมา Merry Christmas ตั้งหลายคนละ แต่เราไม่ได้ Merry ตอบไปเลยซักคนเดียว เพราะเราคิดว่ามันไม่ใช่วันสำคัญสำหรับเรา...ก็เราไม่ได้นับถือพระเยซูซักหน่อยนี่นา...

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีใครค่อนขอดเอาบ้างรึเปล่า ว่า "ไม่อินเทรนด์" หรือ "ไม่ตามกระแส" แต่ก็ช่างเหอะ ก็เรามันเป็นพวก "คอนเซอร์เวทีฟ" นี่นา (ไม่ขนาดนั้นหรอก พูดให้ดูเว่อร์ๆ ไปงั้นเอง เหอๆ)

แต่ก็จริงนะ คนไทยเรานี่ก็แปลก ทีวันวิสาขบูชา ไม่ยักมา "สุขสันต์วันวิสาขะ" กันมั่งเลยนิ

วันนี้มาอยู่บ้านยาย นั่งรถสองแถวจากนครปฐมมาลงหลังบ้านเลย บนรถเรานั่งข้างๆ นักศึกษาอาชีวะสาวคนนึง ระหว่างทางเห็นเธอยกมือไหว้ เราก็หันไปมองว่าไหว้อะไร ก็เห็นว่าเป็นศาลอะไรซักอย่าง มีผ้าแพรสามสีผูกอยู่เต็มไปหมด ครั้งที่หนึ่งผ่านไป ซักพักก็มีครั้งที่สอง หันไปดู ก็พบว่าเป็นศาลเหมือนครั้งแรก

เราก็ได้แต่นึกในใจว่า เออ แปลกดีเหมือนกันนะ รถแล่นผ่านวัด ผ่านพระ ผ่านเจดีย์ ผ่านโบสถ์ตั้งมากมาย เธอกลับไม่ยกมือไหว้ แต่กลับมายกมือไหว้อย่างตั้งอกตั้งใจกับสิ่งที่มีผ้าสามสีผูก...สิ่งที่ไม่นิยามในพระพุทธศาสนา

อันที่จริงมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล เราก็ไม่ได้ว่าเค้าผิดหรืออะไร เพียงแต่ว่านึกแปลกใจเฉยๆ ว่าการที่บอกว่านับถือศาสนาพุทธ เพียงแค่ไว้โชว์ในบัตรประชาชน หรือทะเบียนบ้านรึเปล่า

เคยดูรายการพิเศษวันพ่อ ที่มีฝรั่งคนหนึ่งทำเกษตรแบบผสมผสาน และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามที่ในหลวงพระราชทานให้พวกเราคนไทยทุกคน ฟังคำพูดแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยจริงๆ เห็นด้วยทุกประการเลย

เค้าว่า...ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนไทยทุกคนบอกว่ายึดมั่นในสามสถาบันนี้

ทุกคนบอกว่ารักชาติ...แต่ได้ยินเพลงชาติ ก็ไม่เห็นจะมีกี่คนที่หยุดยืนตรงเคารพธงชาติ หรือแม้แต่ความสามัคคีที่มีอยู่ในเพลงชาติ ก็ไม่เห็นเราจะมีกันเลย

ทุกคนบอกว่านับถือศาสนา...ศาสนาพุทธ แค่ศีล 5 ยังถือกันไม่ครบ ศาสนาอื่นๆ ก็ไม่เห็นจะทำตามคำสอน คือให้ทำความดี ไม่เบียดเบียนกัน ก็ไม่ทำ

ทุกคนบอกว่ารักในหลวง...ใส่เสื้อเหลืองกันทั้งประเทศ ตะโกนสุดเสียงว่าทรงพระเจริญ แต่คำสอนของพ่อ ให้รักกันให้สามัคคีกัน ให้ใช้ชีวิตพอเพียง กลับไม่ทำกัน...

แล้วอย่างงี้ยังจะกล้าพูดกันอีกมั้ยเนี่ย?

อ้าว พูดถึงเรื่องคริสต์มาสอยู่ดีๆ นี่นาเรา ไหงไปๆ มาๆ มาพล่ามอะไรอยู่ล่ะเนี่ย เหอๆ

แค่อยากจะบอกคนที่ผ่านไปผ่านมาว่า หากว่าเจ้าของบล็อกไม่ไป Merry Christmas ที่ไหน หรือใครเมอร์รี่มาแล้วไม่เมอร์รี่ตอบ ก็อย่าหาว่าหยิ่งเลยนะคะ มันไม่ใช่วิสัย จริงจริ๊ง...

แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะ มีคนส่งความปรารถนาดีมาให้ ทำไมจะไม่ชอบล่ะ

เอาเถอะค่ะ บล็อกนี้อ่านเล่นๆ ขำๆ นะคะ ไม่ต้องคิดมาก เจ้าของบล็อกมันเบลอไปแล้ว เพราะหนาวจัด

ลมหนาวมาเมื่อไร...ใจฉันคงยิ่งเหงา
คืนวันที่มันเหน็บหนาวไม่รู้จะทนได้นานเท่าไร
ลมหนาวมาเมื่อไร...กลัวฉันกลัวขาดใจ
เพราะหัวใจที่มันอ่อนไหว ไม่เคยได้รักจากใคร เสียที



Create Date : 25 ธันวาคม 2549
Last Update : 25 ธันวาคม 2549 22:54:42 น.
Counter : 504 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  5  6  

มดน้อยต้อยตีวิด
Location :
นครปฐม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Blog นี้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙

-------------------------------------------------

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามผู้ใดละเมิดโดยการนำรูปภาพและข้อความต่างๆ บางส่วนหรือทั้งหมดใน Blog นี้ไปเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ส่วนตัวหรือในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่บัญญัติไว้สูงสุด
::ผลงาน::
New Comments