FC Bayern München - Die Deutschermeister 2012/13 แชมป์นี้ที่รอคอย



ฟุตบอลบุนเดสลีกา นัดที่ 28 ระหว่าง Eintracht Frankfurt vs Bayern Munich เมื่อวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 2556 เป็นนัดชี้ชะตาแชมป์บุนเดสลีกา ถ้าพี่เสือชนะในนัดนี้ ไม่ว่าทีมอันดับสองอย่าง "โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์" จะชนะหรือแพ้ก็ตาม "บาเยิร์น มิวนิก" จะเป็นแชมป์บุนเดสลีกาในฤดูกาลนี้ทันที แต่ถ้าดอร์ทมุนด์ชนะ และบาเยิร์นเสมอหรือแพ้ การเป็นแชมป์ก็จะเลื่อนออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์

ประมาณนาทีที่ 30-40 (จำไม่ได้ กร๊ากกก) น้องมึนโดนทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ได้เป็นคนทำหน้าที่ยิงจุดโทษเหมือนทุกครั้ง แต่ให้ ดาวิด อลาบา มายิงแทน แล้วน้องอลาบาก็ยิงออกข้างประตูไปทำให้พลาดโอกาสขึ้นนำ (น้องมึนเจ็บตัวฟรีเลย - -") และหมดครึ่งแรกไปด้วยการเสมอกัน 0-0


กองเชียร์ออกจะอึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะว่าวันนี้เล่นกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และแฟรงค์เฟิร์ตเองก็เล่นเต็มที่ เกือบเสียประตูด้วยแน่ะ!!!

แต่แล้วในนาทีที่ 52 กัปตันลาห์มเลี้ยงลูกขึ้นมาจากฝั่งขวาแล้วครอสเข้ากลาง บาสตี้ (บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์) อยู่ตรงนั้นพอดี ทำการ "ตอกส้น" เข้าประตูไปอย่างสวยงาม!!! เย้~ ขึ้นนำ 0-1 จนได้!!!

ขณะเดียวกันดอร์ทมุนด์ที่โดนนำก่อนตั้งแต่ครึ่งแรกและตีเสมอได้ก่อนหมดครึ่งแรก ก็มายิงนำอีกในครึ่งหลัง นั่นหมายความว่าถ้าเราโดนตีเสมอขึ้นมาล่ะก็ อดฉลองแชมป์คืนนี้แน่...


หลังจากได้ประตูขึ้นนำแล้ว พี่เสือก็พยายามจะยิงประตูที่ 2 แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเสียที และสกอร์ก็เป็นอย่างนั้นอยู่จนหมดเวลาการแข่งขัน

หมดเวลา...ชนะ...เยส เราเป็นแชมป์แล้ววววววววว~~~!!!!


ทั้งนักเตะและโค้ชต่างกระโดดโลดเต้นยินดีกับแชมป์รายการแรกซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของทีม เราเองก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง 55555 จะไม่ให้ดีใจได้ไง ตั้งแต่เชียร์บาเยิร์นมาปีนี้เข้าปีที่ 3 ยังไม่เคยได้แชมป์อะไรกับเค้าเลย ไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกของการได้เป็นแชมป์เลยสักครั้ง... T.T


ปีที่แล้ว เกมในบุนเดสลีกานัดที่จะตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์ระหว่างบาเยิร์นกับดอร์ทมุนด์ ก็แพ้ ดอร์ทมุนด์ได้แชมป์ไป พี่เสือได้ตำแหน่งรองอันดับหนึ่งไปครอง (ไม่ใช่นางงาม! 555)

บอลถ้วย DFB Pokal เข้าชิงกับ ดอร์ทมุนด์ (อีกแล้ว) ก็แพ้ ดอร์ทมุนด์ได้แชมป์ไป

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ชนะมาดริดมาได้เข้าชิง แต่ก็แพ้เชลซี ได้แค่รองแชมป์ไป (รายการนี้เจ็บปวดที่สุด T_____T ดังนั้น...เราจะไม่พูดถึง)

ปีก่อนหน้านั้น (ปีแรกที่เราเชียร์พี่เสือ) ก็ไม่ได้แชมป์อะไรเลยเหมือนกัน นั่นหมายความว่าพี่เสือห่างหายจากการได้แชมป์มาสองปีเต็ม และปีนี้พวกเขาก็ได้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่คืน!!! 5555


ปีนี้พี่เสือมาดีตั้งแต่เปิดฤดูกาล ทำลายสถิติต่างๆ นานาเป็นว่าเล่น (จะไม่มาพรรณนาในนี้ละกันนะ มันเยอะ อิอิ) อยู่ในอันดับหนึ่งของตารางตั้งแต่นัดแรกยันนัดล่าสุด (เหลืออีก 6 นัดจะหมดฤดูกาล) และการได้แชมป์ตั้งแต่นัดที่ 28 นี่ก็ถือเป็นการทำลายสถิติครองแชมป์ในเวลาอันรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาเชียวนะเออ~~

โดยที่สถิติเก่านั้นทำไว้โดยทีม บาเยิร์น มิวนิก (ชื่อคุ้นๆ มั้ย 555) เมื่อปี 2002/03 ได้แชมป์ตั้งแต่นัดที่ 30 ของฤดูกาล งานนี้ได้เร็วกว่าถึง 2 นัด!!! (ความจริงจะได้ตั้งแต่นัดที่ 27 แล้ว ถ้าดอร์ทมุนด์แพ้สตุ๊ทการ์ทนัดนั้น แหม่...เสียดาย!)


พอทีมรักได้แชมป์นี่อะไรก็ดูสดใสไปหมดเลยจริงๆ นะ 55555 ได้ดีใจ ได้ฉลองกับแฟนๆ เสือใต้ด้วยกันผ่านทางทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก มีความสุขอ่ะ เพิ่งได้ลิ้มรสความสุขจากการที่ทีมที่เราเชียร์ได้แชมป์ก็คราวนี้หละ 5555555

ตอนนี้ยังไม่มีการมอบถาดแชมป์ ต้องรอนัดสุดท้ายของฤดูกาล จะได้เห็นกัปตันลาห์มมี่ชูถาดซะที >/////< แล้วก็จะรอวันที่มีขบวนแห่ไปที่ศาลาว่าการเมืองมิวนิก มีแฟนบอล้นหลามมาออกันอยู่ที่ลานจตุรัสมาเรียนปลาทซ์เพื่อร้องเพลง Stern des Südens กันให้ดังสนั่น! (อยากไปอยู่ตรงนั้นบ้างจริงๆ) แค่คิดก็มีความสุขแล้วอ่ะ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ ที่มีความสุขนี่ก็เพราะว่าเห็นน้องมึนและเพื่อนๆ มีความสุขนั่นแหละ ^////^


ผลงานอันยอดเยี่ยมของพี่เสือในปีนี้ เราขอยกความดีความชอบทั้งหมดให้ปู่จุ๊บ (จุปป์ ไฮน์เกส) ที่เข้ามาช่วยเรียกความยิ่งใหญ่ของพี่เสือกลับมา หลังจากลุง ฟาน กัล โดนเนรเทศกลับฮอลันดาไปเมื่อต้นปี 2011 แล้วน้าอันเดรียส ยองเคอร์ ก็มารับช่วงต่อสั้นๆ ก่อนปู่จะเข้ามาคุมทีม แม้ว่าปีที่แล้วจะพลาดไปอย่างที่บอกไปแล้ว แต่ว่าปีนี้ปู่ก็สามารถทำได้สำเร็จ...

น่าเศร้า...ที่หมดฤดูกาลนี้ปู่จะไม่อยู่กับเราแล้ว T____T สโมสรตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับปู่เพื่อที่จะไปดึงเอา เป๊ป กวาร์ดิโอลา อดีตโค้ชของบาร์ซามาคุมทีมแทนในฤดูกาลหน้า


เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ยังไม่อยากพูดถึง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ขอรักปู่จุ๊บหมดใจ และสัญญาว่าจะคิดถึงปู่ตลอดไป Danke Opa Jupp! ^___^




Create Date : 09 เมษายน 2556
Last Update : 9 เมษายน 2556 1:11:19 น.
Counter : 1103 Pageviews.

0 comment
You change my life. เมื่อฟุตบอลเปลี่ยนชีวิต...
Since you came into my life, everything has changed...~

เนื้อเพลงท่อนหนึ่งของเพลง Paint My Love ของ Micheal Learns to Rock
เราว่ามันบรรยายความรู้สึกของเราที่มีต่อกีฬาฟุตบอลได้ดีที่สุดหละ...


แต่ไหนแต่ไร เราเป็นคนชอบดูีกีฬาทุกประเภท เมื่อก่อนนั้นจะบอกกับทุกคนว่า มีกีฬาเพียงสองอย่างเท่านั้นที่เราไม่ชอบดูเอาซะเลย หนึ่งก็คือกอล์ฟ และสอง ฟุตบอล

กระนั้น กีฬาประเภทหลังนี้ก็มีข้อยกเว้นอยู่เหมือนกัน ก็คือเราจะดูเฉพาะรายการใหญ่ๆ เช่น ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ นี่ก็จะดูเฉพาะแมตช์ที่ทีมชาติไทยลงแข่งเท่านั้น โอลิมปิกก็ยังไม่ค่อยดูนะ ดูอีกทีก็ฟุตบอลโลกเลย โดยมีทีมที่เชียร์มาตั้งแต่เริ่มดูฟุตบอลเป็นอยู่สองทีม คือ เนเธอร์แลนด์ และ เยอรมนี

ที่ว่าเชียร์นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าตามดูทุกนัด เพียงแต่เชียร์อยู่ห่างๆ คอยตามผล ดูบ้างถ้ามีโอกาส นักเตะก็รู้จักอยู่บ้างไม่กี่คน ที่รู้จักมากหน่อยก็จะเป็นทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (ชุด France '98 นี่รู้จักเกือบทั้งทีม 555) ส่วนทีมชาติเยอรมันนั้นยอมรับกันตรงๆ ว่ารู้จักแค่ Jürgen Klinsmann, Oliver Kahn แล้วก็รุ่นหลังนี่ก็ Michael Ballack เท่านั้นเอง

ช่วง ม.ต้น-ม.ปลาย นี่เพื่อนๆ ในห้องก็ชอบดูฟุตบอลกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ก็ดูพรีเมียร์ลีกอังกฤษ แล้วก็มีทีมโปรดกันคนละทีม ช่วงนั้นพี่สาวเราก็ชอบดูฟุตบอลเหมือนกัน เราก็เลยมีโอกาสได้ดูบ้างเ็ป็นบางครั้ง แล้วก็มีทีมโปรดกับเค้าเหมือนกันนะเออ นั่นก็ืคือ ทีมปืนใหญ่ Arsenal เพราะว่าตอนนั้นชอบ Dennis Bergkamp (ทีมชาติเนเธอร์แลนด์) แต่ก็ดูไปงั้นๆ ไม่ได้คิดว่ามันสนุกอะไรเลยซักนิด ติดจะน่าเบื่อด้วยซ้ำไป คน 22 คนมาวิ่งไล่ลูกฟุตบอลกลมๆ ลูกเดียวทั่วสนาม...มันสนุกตรงไหน...


จนกระทั่งฟุตบอลโลกครั้งที่แล้ว World Cup 2010 South Africa ได้มีโอกาสดูแบบเต็มๆ แล้วก็ไม่รู้ทำไมเราถึงอยากจะดู ตั้งหน้าตั้งตารอเชียร์เยอรมันเต็มที่ กระตือรือร้นมากๆ ที่หอดูไม่ได้นัดแรกนัดหนึ่งถึงกับหัวเสีย... นัดแรกที่เยอรมันลงแข่งเจอกับออสเตรเลีย นัดนั้นเราไ่ม่ได้ดู รู้แต่ว่าชนะไป 4-0 อลังการมาก

นัดที่สองถึงได้ดู เป็นนัดที่แข่งกับเซอร์เบีย นัดนั้นแพ้ 1-0 แถม Miroslav Klose ยังโดนใบเหลืองใบที่สองเป็นใบแดงต้องออกจากสนามอีกด้วย

ทีมโปรดแพ้ในนัดแรกที่ได้ดู...ออกจะเซ็งอยู่ไม่น้อย แต่ก็มีบางอย่างมาทดแทน นั่นก็คือเราได้เห็นทีมชาติเยอรมนีเล่นฟุตบอลที่ดีมากๆ สำหรับเรา สไตล์การเล่นแบบเดินหน้าบุกแถมสวนกลับเร็ว มันทำให้การดูฟุตบอลของเรามีสีสันขึ้นเยอะ ...เออ นี่แหละฟุตบอลที่ดูแล้วสนุก...

นอกจากนั้น เราก็ได้พบว่านักเตะทีมชาติเยอรมนีนี่ก็หน้าตาดีแฮะ (ก๊ากกก) สะดุดตาคนแรกคือ กัปตันทีม เบอร์ 16 ตัวเล็กๆ น่ารัก คิ้วเข้มปั้ด Philipp Lahm

ส่วนคนถัดมาคือ เบอร์ 13 นักบอลตัวสูงเก้งก้าง คนนี้ไม่ได้สะดุดที่หน้าตา แต่สะดุดที่ขายาวเก้งก้าง วิ่งทีเหมือนนกกระยางของมัน แต่วิ่งเร็ว แล้วก็จี๊ดจ๊าดดี หาจังหวะวิ่งไปหน้าประตูได้ตลอด รับส่งบอลกับ Lahm ได้เข้าขาลื่นไหลดี ไอ้เจ้านี่น่าสนใจแฮะ...

Thomas Müller คือชื่อเจ้าหนุ่มน้อยคนนั้น เห็นผู้บรรยายบอกว่าอายุแค่ 20 เพิ่งติดทีมชาติ แล้วก็เพิ่งยิงประตูแรกในทีมชาติไปเมื่อนัดที่เจอกับออสเตรเลียนั่นเอง

จากนั้น เราก็เริ่มหาข้อมูลของเจ้าหนู Thomas Müller นี่ เริ่มจากการอ่านชื่อก่อนเลย ฟังจาก Google แล้ว Google อ่านว่า "มึลเล่อะ" เราก็เลยเริ่มเรียก "น้องมึน" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นัดต่อๆ มา กานา อังกฤษ อาร์เจนตินา ก็จับตาดูน้องมึนเป็นพิเศษ แล้วก็ไม่ผิดหวัง ทั้งจ่ายทั้งยิงเอาคะแนนจากแม่ยก (เีงียบๆ) คนนี้ตลอดเวลา แต่นัดที่เจออาร์เจนตินา น้องมึนได้ใบเหลืองจากการทำ hand ball โดยไม่ได้ตั้งใจ รวมใบเหลืองที่ได้จากนัดที่เจอกานาจึงเป็นใบเหลืองใบที่สอง ถ้าทีมเข้ารอบนัดถัดไปก็จะไม่ได้ลงหนึ่งนัด...ซึ่งนัดนั้นเยอรมนีชนะอาร์เจนตินา 4-0 ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับสเปน...

รอบรองชนะเลิศ น้องมึนไม่มีสิทธิ์ลงสนาม ต้องมานั่งดูเพื่อนๆ เล่นบนอัฒจันทร์ เกมวันนั้นดูอึดอัดเป็นพิเศษ ทีมเราเล่นไม่ออก ไม่เหมือนที่เคยเล่นนัดที่ผ่านๆ มา เกมสวนกลับเร็วที่เคยใช้ได้ผล วันนั้นก็ไม่มีโอกาสได้ใ้ช้เลย

กล้องจับไปที่น้องมึนบ่อยๆ เห็นท่าทางน้องกระวนกระวายมาก นั่งลุ้นเพื่อนอยู่บนอัฒจันทร์ พอครึ่งหลัง โดนสเปนทำประตูขึ้นนำ 1-0 น้องมึนเริ่มลงมายืนลุ้นข้างสนามตรงป้ายโฆษณา ตอนนั้นเองที่เรารู้ตัวว่าเริ่มหลงรักเด็กคนนี้ เพราะความรู้สึกเห็นใจ แล้วก็คิดแทนน้องมึนว่า น้องคงอยากลงไปเล่น อยากลงไปช่วยเพื่อนมากๆ ตอนนั้นอยากร้องไห้จริงๆ

ในที่สุดเกมก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้... เยอรมนีแพ้สเปน 1-0 ตกรอบรองชนะเลิศ หมดโอกาสเข้าไปชิงถ้วยฟุตบอลโลก เสียใจ...หดหู่...เกือบจะร้องไห้ตอนเห็นบาสตี้ (Bastian Schweinsteiger) ยืนกอดกับกัปตัน Lahm...ยอมรับว่าไม่เคยเชียร์บอลแล้วอินขนาดนั้นมาก่อน วันรุ่งขึ้นแทบไม่อยากไปทำงานเลยทีเดียว

แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไปนัก เยอรมนียังมีสิทธิ์ชิงอันดับ 3 กับ อุรุกวัย และนัดนี้น้องมึนได้ลงแล้วก็เป็นคนยิงประตูแรกให้เยอรมนีขึ้นนำด้วย จบเกมด้วยสกอร์ เยอรมนี 3 - 2 อุรุกวัย เราได้อันดับ 3 มาครองกันแบบชื่นมื่น...



ฟุตบอลโลกจบไป แต่เรื่องราวของเรากับทีมชาติเยอรมนีชุดนี้ไม่ยอมจบ... (ฮ่าๆๆ) หลังจากนั้นเราก็มาหารูปหนุ่มๆ ทีมชาติ ทั้งตอนซ้อม ตอนแข่ง ดูแล้วก็ยิ่งหลงรักทีมนี้มากขึ้นๆ ทุกที ทุกคนดูรักกัน น่ารักกันมากๆ เริ่มติดตามเข้าเว็บไซต์ DFB (Deutsche Fußball Bund = German Football Association) ได้เห็นคลิปซ้อม คลิปสัมภาษณ์ ดูตารางแข่งของทีมชาติ ทั้งกระชับมิตร และทัวร์นาเมนต์ ลงทุนติดอินเตอร์เนตที่หอ เพื่อที่จะดูทีมชาติแข่งทางอินเตอร์เนตเพราะไม่มีถ่ายทอด หลังจากจบฟุตบอลโลก เราก็ไม่เคยพลาดการแข่งขันของทีมชาติเลยซักนัดเดียว จนตอนนี้ก็เข้าปีที่ 3 แล้ว...

จากทีมโปรด...กลายเป็นทีมรัก... ฟุตบอล EURO 2012 ที่เพิ่งจบไป ก็เป็นอีกครั้งที่เราผิดหวัง เรา...หมายถึงตัวเราเอง และหนุ่มๆ ด้วย ทุกคนหวังว่าจะไปให้ไกลที่สุดจนถึงถ้วยแชมป์ และเราก็เชื่อว่าหนุ่มๆ มีศักยภาพพอที่จะคว้าแชมป์ได้ แต่เมื่อมันไม่เป็นอย่างที่หวัง แน่นอน...เราเสียใจที่ไม่ได้แชมป์ แต่ก็ไม่มากเท่าเสียใจที่เห็นหนุ่มๆ เสียใจ เห็นพวกเขาสิ้นหวัง เห็นพวกเขานั่งร้องไห้... ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะมานั่งร้องไห้เพราะบอลแพ้

ยังไงก็ตาม ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป อย่างที่น้องมึนเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "At the end of the day, football is not everything" เราก็ยังคงเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนต่อไป หวังว่าสักวันหนึ่ง เราคงได้เห็นหนุ่มๆ ทีมชาติเยอรมนีของเราได้ชูถ้วยใดถ้วยหนึ่งแน่ๆ


อย่างที่บอก...ว่าฟุตบอลได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปมากมาย ไม่ใช่แค่กลายเป็นคนตามดูฟุตบอลทีมชาติทุกนัด แต่ยังมาดูฟุตบอลสโมสรด้วย...ก็ตามน้องมึนกับลาห์มมี่ไป FC Bayern München ด้วยน่ะสิ... แถมไม่เคยคิดจะซื้อเสื้อฟุตบอลมาใส่ ตอนนี้ก็มีอยู่สามตัว... (ฮ่าๆๆๆ)

อีกอย่างหนึ่งคือ ทีมชาติเยอรมนี โดยเฉพาะน้องมึน ทำให้เราตั้งปณิธานว่า ชีวิตนี้เราจะต้องไปเยอรมันให้ได้ และจะต้องไปเจอน้องมึนกับตัวให้ได้สักครั้งในชีวิต จากที่เมื่อก่อนแค่คิดว่าอยากไปเยอรมัน พอใครถามว่าทำไมถึงอยากไป...ตอบไม่ได้ เพราะแค่อยากไปเยือนประเทศที่คนของเขาเขียนหนังสือมาให้เราเรียนแถมได้ชื่อว่าเป็นเลิศด้านวิศวกรรม (ตำราวิศวะที่เราเรียนแทบทุกวิชา คนเขียนเป็นชาวเยอรมัน, นวัตกรรมยานยนต์อันดับหนึ่งของโลก BMW กำเนิดที่ประเทศเยอรมนี, เทคนิคการสร้างสะพานแขวนด้วยลวดสลิงเริ่มที่เยอรมนี (อันนี้อาจารย์บอกมาอีกที)) แต่ตอนนี้ จุดมุ่งหมายเราชัดเจนขึ้น...คือไปหานักบอล!!! (ก๊ากกก)

นอกจากนั้นแล้ว การดูฟุตบอลโลกยังทำให้เราได้เข้าไปพบสังคมใหม่สังคมหนึ่ง จากคนที่ชอบทีมชาติเยอรมนีเหมือนกัน กลายเป็นกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่พูดคุยกันเรื่องฟุตบอล เรื่องนักฟุตบอล เรื่องส่วนตัว เรื่องกิน เรื่องเที่ยว และเลยไปจนถึงเรื่องปัญหาชีวิต... กลุ่มคนที่ (เรา) เรียกตัวเองว่า "แม่บ้านเยอรมัน"

ไม่คิดว่าการดูฟุตบอลจะทำให้เราำได้พบเจอมิตรภาพจากคนที่น่ารักกลุ่มหนึ่ง เป็นสังคมใหม่ที่เราไม่เคยเจอ เป็นคนกลุ่มแรก (และตอนนี้เป็นกลุ่มเดียว) ที่เราไปไหนมาไหนด้วย นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิท ไม่คิดว่าคนที่รู้จักมักจี่กันทางอินเตอร์เนต จะมาสนิทสนมกันขนาดไปเที่ยวด้วยกัน ไปนอนค้างบ้านกันได้ ไม่คิดว่าการดูฟุตบอลจะทำให้เราได้เจอมิตรภาพที่ดีๆ แบบนี้...


ขอบคุณ...ฟุตบอล



Create Date : 25 ตุลาคม 2555
Last Update : 21 มีนาคม 2556 15:05:44 น.
Counter : 627 Pageviews.

1 comment
UEFA Champions League : Matchday 3 กับลูกโทษลูกแรกของน้องมึน


ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนัดที่สามจบไปแล้วเมื่อวันอังคาร-พุธที่ผ่านมา มีหลายคู่ที่พลิกล็อก แฟนบอลก็คงได้เฮแล้วก็คงได้เซ็งกันไปตามแต่สถานการณ์นะคะ ^^

ส่วนตัวเรา ขอประกาศให้รู้ก่อนว่าเราเป็นสาวกทีมชาติเยอรมนีอินทรีเหล็ก ส่วนทีมจากสโมสรนั้นคือ FC Bayern München หรือ FC Bayern Munich จาก Bundesliga นั่นเองค่ะ

ก่อนที่จะแข่งนัดที่สามนี้ Bayern Munich อยู่อันดับสามของกลุ่ม หลังจากที่ไปแพ้ทีมจากเบลารุส BATE Barisov เมื่อนัดที่แล้วซึ่งไปเป็นทีมเยือนโดยแพ้ไป 3-1 นัดนี้พบกับทีมจากฝรั่งเศส LOSC Lille โดยที่ Bayern Munich เป็นทีมเยือนอีกเช่นเดียวกัน

ประเด็นที่จะเขียนบล็อกนี้คงไม่ได้มาวิเคราะห์วิจารณ์เกมฟุตบอลอะไรนะคะ เพราะเราเองก็วิจารณ์ไม่เป็นหรอก รู้แค่ว่าดูแล้ว "สนุก" หรือ "ไม่สนุก" ก็แค่นั้น เรื่องแท็กติกอะไรต่างๆ นานา ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญเขาวิจารณ์กันไปก็แล้วกันเนอะ

ก่อนแข่ง ตามประสาแฟนบอล เราก็เครียดอยู่เล็กน้อยเพราะสถานการณ์ของทีมไม่ค่อยดีเท่าที่ควร ถ้าแพ้นัดนี้อีก โอกาสตกรอบแรกก็ย่อมเพิ่มขึ้น ดังนั้นจะต้องชนะเท่านั้น แล้วไอ้การเชียร์บอลที่จะต้อง "ชนะเท่านั้น" เนี่ย มันดีซะเมื่อไหร่ ดีไม่ดีความดันขึ้นกันแบบไม่รู้ตัว (ฮาาาา)


เริ่มเกมมา Bayern Munich ก็เป็นฝ่ายเปิดเกมบุก ครองบอลได้มากกว่า แล้วก็มีโอกาสยิงมากกว่า แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้

นาทีที่ 18 กัปตัน (Philipp Lahm) ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ และผู้ตัดสินก็ชี้ให้เป็นจุดโทษ ตอนนั้นเราก็เฮแล้ว คิดว่าริเบรี่ (Frank Ribery) ต้องเป็นคนยิง และคงไม่พลาดแน่ๆ

โดยปกติแล้ว อันดับการยิงจุดโทษของ Bayern Munich จะเป็นโอ้ (Mario Gomez) (บางวันอาจเรียก "นังโอ้" ด้วยความรัก ฮาาา) ร็อบเบน (Arjen Robben) หรือไม่ก็บาสตี้ (Bastian Schweinsteiger)แต่สองคนแรกไม่ได้ลง และบาสตี้ก็ยังคงขาดความมั่นใจจากการยิงจุดโทษอยู่ไม่น้อยหลังจากที่พลาดจุดโทษสำคัญๆ ไปสองสามครั้งตั้งแต่นัดชิงชนะเลิศ UEFA Champions League ปีที่แล้วนู่น เราก็เลยคิดว่าริเบรี่ หรือไม่ก็กัปตันลาห์มมี่นี่หละจะต้องเป็นคนยิงแหงๆ

แต่แล้ว...พอกรรมการเป่าให้จุดโทษซักพัก เห็นน้องมึนไปยืนตรงตำแหน่งนั้น... หา! น้องมึนจะยิงจุดโทษ?!?!

แม่ยกช็อคค่ะ...อึ้งไปพักใหญ่ เพราะตั้งแต่ติดตามดูน้องมึนเล่นฟุตบอลมา ตอนนี้ก็เข้าปีที่สามแล้ว ยังไม่เคยเห็นน้องยิงจุดโทษเลยซักครั้ง แอบคิดว่ามันยิงจุดโทษไม่เป็นด้วยซ้ำไป ก๊ากกกก

แต่จะว่าไป เราก็เคยอ่านสัมภาษณ์ของบาสตี้อยู่บ้างเหมือนกัน บาสตี้บอกว่า ตอนนี้ทั้งตัวเขาเองและร็อบเบนคงจะไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ของการยิงจุดโทษแล้ว (หลังจากที่ทั้งสองคนพลาดจุดโทษสำคัญเหมือนกัน) แต่บาสตี้คิดว่าน้องมึนก็เป็นคนที่ยิงจุดโทษได้ดีคนหนึ่ง

"ถ้าได้เห็นตอนซ้อมยิงจุดโทษจะรู้ว่าโธมัสมีวิธีการยิงที่ไม่เหมือนใครและยิงได้ดีมากๆ เลยทีเีดียว"

บาสตี้ว่างี้

ตอนจะยิงเราก็ลุ้นแทบตาย เพราะถ้ายิงไม่เข้านี่คงได้มีการถากถางกันยันลูกบวชแน่ๆ เหมือนที่หลายๆ คนเคยโดนมาแล้ว...

นาทีที่ 20 สิ้นเสียงนกหวีด น้องมึนก็วิ่งซอยเท้าเบาๆ เข้าไปหาลูกฟุตบอลแล้วก็เตะเข้าไปเสียบมุมทางขวา ขณะที่ผู้รักษาประตูของ Lille พุ่งไปทางซ้าย

เย้!!! น้องมึนยิงจุดโทษเข้า แล้วก็ทำให้ทีมขึ้นนำ 0-1 ไม่ต้องโดนล้อแล้ว!!! ฮ่าๆๆๆๆ


และสกอร์นี้ก็อยู่อย่างนี้จนจบเกม เป็นอันว่า Bayern Munich เอาชนะไป 0-1 เก็บสามแต้มกลับมิวนิก และน้องมึนก็กลายเป็นฮีโร่ของเพื่อนๆ

ต่อไป เราก็คงมีโอกาสได้เห็นน้องมึนยิงจุดโทษอีกบ่อยๆ แต่ความจริงก็ไม่ค่อยอยากให้ยิงเท่าไหร่นะ อย่างที่บอกนั่นแหละ ถ้ายิงไม่เข้ากลัวจะโดนถากถาง แต่ (อีกที) คิดว่าคงไม่โดนหรอก เพราะว่าน้องมึนจะยิงเข้าทุกครั้ง อิอิ





Create Date : 25 ตุลาคม 2555
Last Update : 21 มีนาคม 2556 15:10:32 น.
Counter : 623 Pageviews.

0 comment

มดน้อยต้อยตีวิด
Location :
นครปฐม  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Blog นี้เปิดทำการตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙

-------------------------------------------------

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗

ห้ามผู้ใดละเมิดโดยการนำรูปภาพและข้อความต่างๆ บางส่วนหรือทั้งหมดใน Blog นี้ไปเผยแพร่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ส่วนตัวหรือในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายที่บัญญัติไว้สูงสุด
::ผลงาน::
New Comments