~Lady in Lotus~เม้นก็ได้ ด่าก็ดี มีคุณค่ากับนางผู้นี้ทุกประการค่ะ
Group Blog
 
All Blogs
 

chapter6

หลังจากได้เวลอันสมควร ชินเดอเรลล่ากับสโนฮยอนก็จะต้องกลับบ้าน นอกจากจะได้แซนวิชไส้ปลาร้าตามต้องการแล้ว น้องมินหมวกแดงก็ยังแถมแซนวิชหมึกหยองทุเรียนให้ชินเดอเรล่าด้วย

“ฉันจะไปหาคุณยายพอดีค่ะ เดี๋ยวไปพร้อมกัน แล้วค่อยแยกกันตรงทางแยกบึงใหญ่ก็ได้นะคะ” น้องมินหมวกแดงเอ่ยกับสองสาวก่อนจะฝากลูกจ้างให้ดูร้านแทนในขณะที่เธอไปหาคุณยาย

“ช่วงนี้คุณยายไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ ฉันเลยต้องไปหาคุณยายทุกวัน”น้องมินบอกพลางคว้าหมวกสีแดงประจำกายที่แขวนอยู่ข้างหลังเคาเตอร์มาสวม ก่อนถือตะกร้าใส่อาหารแล้วเดินออกจากร้านไปพร้อมสโนว์ฮยอนและชินเดอเรล่า โดยมีเจ้าชายกบบุญยงกระโดดตามไปติดๆ

“น้องมินเป็นอะไรรึเปล่าจะ ดูขรึมๆเงียบๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ปกติร่าเริงสนุกสนานนี่ มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ คุยกับพี่ได้นะ”สโนว์ฮยอนเอ่ยขึ้น เมื่อสังเกตว่าน้องมินหมวกแดงมีท่าทีคุร่นคิด ไม่สดใสเหมือนทุกครั้งที่เคยเจอ

“ก็ช่วงนี้คุณยายไม่สบายค่ะ เลยเป็นห่วงนิดหน่อย”

“น้องมินดูเครียดขนาดนี้ อาการคุณยายคงไม่นิดหน่อยแน่ๆเลย”สโนว์ฮยอนพูดเสียงเรียบ

“กว่าแม่เลี้ยงฉันจะกลับก็คงบ่ายแก่ๆ ยังพอมีเวลานะ เราขอไปเยี่ยมคุณยายเธอได้ไหมจ๊ะมิน”ชินเดอเรล่าพูดเสียงนุ่ม นน้องมินหมวกแดงคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจ

“ก็ได้ค่ะ”

“เย้ สองสาวสวยไปกับยงด้วย”เจ้ากบบุญยงร้องอย่างดีใจ แต่น้องมินตวาดทันที

“เงียบไปเลยแก”

“ดุจริ๊งงงง แม่หมวกแดง ไม่ไปด้วยแล้ว รอที่บึงนะ ขากลับก็มาเรียกละกัน” เจ้าชายกบงอนตุ๊บป่องขึ้นมาซะดื้อๆ ก่อนจะกระโดดจากไปอีกทางหนึ่ง

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกเรามาเถอะนะจ๊ะมิน เราเป็นเพื่อนกัน อย่าปิดบังเลยนะ”ชินเดอเรล่าบอกพลางแตะแขนน้องมินเบาๆ

“จริงอย่างที่ยัยชินพูดนะ มีอะไรให้เราช่วยก็บอกเถอะ ถึงช่วยไม่ได้รับฟังก็ยังดีนะ” สโนว์ฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สาวน้อยหมวกแดงมองหน้าเพื่อนทั้งสองก่อนถอนใจเฮือกใหญ่ แล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องที่อยู่ในใจของเธอ

“พวกพี่เคยได้ยินเรื่องเทพศิลปินกับวงดนตรีของเทพเจ้าฝั่งตะวันออกไหมคะ” ชินเดอเรล่ากับสโนว์ฮยอนมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ

“ก็เคยอ่ะจ้า ทำไมเหรอ”สโนว์ฮยอนถามอีก

“เรื่องนี้มันรบกวนจิตใจฉันมากเลยค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะตามหาทายาทของเทพศิลปินได้ยังไง”

“ทำไมต้องตามหาล่ะคะ”ชินเดอเรล่าถาม ในขณะที่หัวใจของเธอนั้นกำลังเต้นแรงกว่าปกติ

“เพราะมันเป็นความปรารถนาของคุณยายน่ะสิคะ ในเมื่อคุณยายทำไม่สำเร็จ ทายาทที่ถูกเลือกอย่างฉันต้องทำ”

“ทายาทที่ถูกเลือก!!!” สองสาวโพล่งขึ้นพร้อมกัน จนน้องมินต้องถามอย่างแปลกใจ

“มีอะไรเหรอคะ”

ชินเดอเรล่าหยิบถุงผ้าใบหนึ่งออกจากกระเป๋ากระโปรง แล้วยื่นให้น้องมิน สาวน้อยรับเปิดดูทันที ก่อนจะร้องเสียงหลงด้วยความประหลาดใจอย่างที่สุด

“ห๊า!!….นี่มัน….”

“ใช่แล้วล่ะ มันคือศิลาศักดิ์สิทธิ์” สโนว์ฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “รีบไปหาคุณยายเถอะ เราคงมีเรื่องที่ต้องคุยกันอีกยาว”

แล้วสามสาวก็เร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ถึงกระท่อมคุณยายโดยเร็ว

…………….

“ช่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆ ฉันตามหาทายาทเทพศิลปินมาเกือบทั้งชีวิต แต่ครั้นจะเจอก็ง่ายดายจนไม่อยากจะเชื่อ”คุณยายพูดพร้อมส่งยิ้มกว้าง สดใส อย่างที่น้องมินหมวกแดงไม่เคยเห็นมานับสิบปี เมื่อได้ทราบว่าน้องมินได้พบกับทายาทเทพศิลปินผู้ครอบครองศิลาศักดิ์สิทธิ์แล้ว และศิลาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามชิ้นก็อยู่ตรงหน้า

“คุณตาบอกเราว่่า ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญค่ะ แต่ถูกกำหนดไว้แล้วด้วยโชคชะตา” ชินเดอเรล่าบอกคุณยาย

“ฉันอยากพบคุณตาของเธอเหลือเกิน ถ้าไม่ใช่โจเซฟก็ต้องเป็นจัสติน”

“เราก็ไม่ทราบชื่อจริงๆของคุณตาค่ะ เพราะคนแถวนั้นเรียกคุณตาว่า ผู้เฒ่าเดียวดาย”สโนว์ฮยอนบอก คุณยายพยักหน้ารับรู้ ก่อนบอกอีกว่า

“พวกเธอพาเขามาหาฉันให้เร็วที่สุดจะได้ไหมจ๊ะ” สองสาวก็รับคำอย่างมั่นเหมาะ

คุณยายกวาดสายตามองทั้งสามสาวด้วยความรู้ึสึกมากมายระคนกัน ทั้งดีใจที่ได้พบทายาทผู้ถูกเลือกของเทพศิลปิน ปลาบปลื้มที่วิชาเทวดุริยางค์จะยังคงอยู่ แต่การที่ทายาททั้งสามเป็นผู้หญิงก็ทำให้คุณยายหวั่นใจพอควร สาวๆจะทำหน้าที่ของทายาทเทพศิลปินได้ดีเพียงใดนะ แล้วภารกิจสำคัญที่แม้แต่ทายาทเทพรุ่นคุณยายยังไม่อาจทำสำเร็จนั้น สาวๆจะทำได้หรือเปล่านะ






Free TextEditor




 

Create Date : 30 กันยายน 2553    
Last Update : 30 กันยายน 2553 16:58:24 น.
Counter : 189 Pageviews.  

chapter 5

“สโนว์ฮยอน แม่เลี้ยงฉันเค้าอยากกินแซนวิชไส้ปลาร้า ฉันจะไปหาที่ไหนดีอ่ะ”ชินเดอเรล่าเอ่ยขึ้นหลังจากจัดการงานบ้านเสร็จสิ้น โดยมีเพื่อนสาวนั่งให้กำลังใจอยู่ที่โซฟาหลุยส์กลางบ้าน

“จะยากอะไร ก็ไปซื้อมาสิจ๊ะ ข้ามเขตป่าฝั่งทิศเหนือไปหน่อยก็เจอแล้ว ร้านเค้าออกจะดัง”สโนว์ฮยอนบอกขณะนั่งบีบสิวเสี้ยนอย่างเมามันส์

“ก็ฉันไม่เคยไปนี่ เธอพาฉันไปหน่อยสิ”สโนว์ฮยอนวางกระจกบานจิ๋วที่ถืออยู่ลง ก่อนถาม

“มีเงินอยู่ใช่ไหม” ชินเดอเรล่าพยักหน้า “งั้นก็ไป เดี๋ยวฉันพาไปเอง ฉันรู้จักกับลูกสาวร้านนั้นอยู่ เผลอๆอาจได้ชิมฟรี คริคริ” แล้วสองสาวก็ออกเดินทางทันที

ไม่นานนัก สองสาวสวยก็เดินทางมาถึงอีกหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งมีร้านขายแซนวิชปลาร้าอันโด่งดัง สโนว์ฮยอนก็ได้พบกับคนที่เธออ้างถึงด้วย

“คุณน้องมินหมวกแดง!” เสียงเรียก ทำให้สาวน้อยหันมา และได้พบกัน

“แอร๊ยยยยย!!คุณพี่สโนว์ฮยอนนนนนนน นึกว่าใครที่ไหน เทอร์นาโดลูกไหนพัดมาคะเนี้ย”น้องมินหมวกแดงทักทายตอบอย่างเป็นกันเอง ก่อนเชิญทั้งสองมานั่งในร้าน แต่สองสาวเลือกจะนั่งที่หน้าเคาเตอร์ไม้โอ๊คเก่าแก่ที่น้องมินนั่งอยู่ก่อนแล้ว

“จ้า เจ้เอง พาเพื่อนมาอุดหนุนสินค้าคุณน้องน่ะจ๊ะ นี่ชินเดอเรลล่า เพื่อนคุณพี่เอง” สโนว์ฮยอนแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกันอย่างเป็นทางการ “นี่น้องมินหมวกแดง ลูกสาวเจ้าของร้าน”

แล้วสองสาวยิ้มให้กัน สโนว์ฮยอนจึงพูดขึ้นอีก

“ความจริงพวกเธอสองคนก็อายุเท่ากันนั่นล่ะนะ อ่อนกว่าฉันปีหนึ่ง แต่ยัยชินมันหน้าแก่เท่าฉัน ก็เลยหยวนๆเรียกเพื่อนจนติดปาก ส่วนน้องมินนี่ก็หน้้าเด็กใสกิ๊กเหมือนเดิมนะจ๊ะ”

“แอร๊ยยย!! คุณพี่ชมกันซึ่งหน้าแบบนี้ น้องเขินนะคะ”น้องมินหมวกแดงยิ้มจนดวงตากลายเป็นเส้นขีด

“ถ้างั้นฉันเปลี่ยนมาเรียกพี่สโนว์ตามมินหมวกแดงดีกว่า”ชินเดอเรล่าพูดพร้อมยิ้ม

“นี่พวกหล่อนกำลังยัดเยียดความอาวุโสให้ฉันใช่ไหม”สโนว์ฮยอนเท้าเอวถามเสียงเขียวก่อนค้อนขวับ

“โอ๋ๆๆๆๆ พี่อย่างอนนะคะ เดี๋ยวไม่สวยนะ”ชินเดอเรลล่าง้อแม่คนแก่กว่า

“ไม่เอานะคะพี่ไม่โกรธนะ อ่ะ นี่ลองแซนวิชไส้หมึกหยองทุเรียน”น้องมินหมวกแดงหยิบแซนวิชให้สโนว์ฮยอนก่อนจะยื่นให้ชินเดอเรล่าด้วย

“ฟรีป่ะเนี้ย”คนเป็นพี่ถาม

“ให้ชิมฟรีค่ะ รสใหม่เพิ่งออกมาไม่นานนี้เอง”

“แอร๊ยยยย เริ่ดดดด!!!”สโนว์ฮยอนร้องก่อนจะกัดแซนวิชคำโตเคี้ยวอย่างอเร็ดอร่อย

จู่ๆเจ้ากบบุญยงก็กระโดดขึ้นมาเสนอหน้าใหญ่ๆของมันที่บนเคาเตอร์ตรงกับที่สองสาวนั่งอยู่

“จ๊ะเอ๋!!”

“พรืดดดด” เสียงของแซนวิชที่สโนว์ฮยอนกำลังเคี้ยวนั้นถูกพ่นออกมาด้วยความตกใจ

ใบหน้าของเจ้าบุญยงวินาทีนั้น เต็มไปด้วยลิ่มทุเรียนและเส้นหมึกหยองที่เคล้ากันกับก้อนขนมปังและน้ำลายของสโนฮยอน

“หมดกัน หน้าหล่อๆของยง”เ้จ้ากบรำพึงเบาๆ

“เจ้าผีกบตอนนั้นนี้”ชินเดอเรล่าร้องบอกเสียงหลงด้วยความตกใจไม่แ้พ้กัน

“บุญยงเป็นเพื่อนของฉันเองค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะ”น้องมินรีบบอกสองสาวที่หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ

“เจ้าบุญยงหลบไปก่อนไป๊” น้องมินหันมาบอกเพื่อนรักสัตว์เลี้ยงของเธอ

“งั้้นยงขอไปล้างหน้าก่อนละกัน ทั้งหมึกทั้งทุเรียน เต็มหน้าเลย”ว่าแล้วเจ้ากบก็กระโดดลงจากเคาเตอร์แล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

…………………..

เมื่อสองสาวเริ่มคลายความตกใจแล้ว น้องมินหมวกแดงจึงเล่าเรื่องราวของเจ้ากบบุญยงให้ทั้งสองฟัง

“น่าสงสารเจ้าบุญยงนะคะ” ชินเดอเรล่ามีสีหน้าสลดลงหลังจากได้รับรู้”ทั้งที่เคยมีชีวิตที่เพียบพร้อม งดงามออกขนาดนั้น แต่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ บุญยงคงเจ็บปวดแล้วก็เป็นทุกข์มากเหมือนกันนะ” พูดจบ แม่สาวร่างบางก็ถอนใจเฮือกหนึ่ง

“เอาล่ะ ในเมื่อตอนนี้เราสามคนเป็นเพื่อนกันแล้ว เจ้ากบประหลาดนั่นเป็นเพื่อนของน้องมิน ก็เท่ากับว่าเป็นเพื่อนเราด้วย”สโนว์ฮยอนสรุป ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเจ้ากบตัวดีก็กระโดดหย็อยๆเข้ามา

“บุญยง มานี่สิ พี่สโนว์ฮยอนกับชินเดอเรล่ารับเธอเป็นเพื่อนแล้วนะ” ได้ยินดังนั้นเจ้าบุญยงจึงกระโดดขึ้นมาที่เคาเตอร์ส่งยิ้มแป้นแล้นให้สองสาว ก่อนบอก

“ขอบใจนะจ๊ะสาวสวยทั้งสอง”

“ฉันชื่อชินเดอเรล่านะ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า บุญยง” ชินเดอเรล่าพูดพร้อมส่งยิ้มหวาน

“ยินดีมากๆเช่่นกันครับผม คุณชินเดอเรล่าคนสวย”บุญยงทำเสียงหล่อพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มใส่ น้องมินจึงดีดหัวเข้าให้โป๊กหนึ่ง

“โอ๊ยย!!”เจ้าชายกบร้องเสียงหลง

“อย่ามาทำเจ้าชู้ใส่เพื่อนฉันนะ!!”

“นิดหน่อยเองอ่ะน้องมิน” พ่อเจ้าชายบ่นอุบ

“นิดหน่อยก็ไม่ได้ !!เดี๋ยวปั๊ดจบโยนลงกระทะซะนี่” คำขู่ของน้องมินได้ผล บุญยงทำหน้้าสลด

อีกสาวหนึ่งจึงพูดบ้าง

“ฉันชื่อสโนว์ฮยอนนะ เอ่อ…เมื่อกี้อ่ะ ขอโทษนะ”

“คร้าบบบบผม” เจ้ากบตัวดีทำเสียงสูง

“ถือว่าพี่เค้ารับน้องใหม่ละกันนะบุญยง” น้องมินบอกก่อนหัวเราะเบาๆ

“แหม! รับกันแรงเหลือเกินนะ มาเป็นชิ้นๆ เต็มหน้าเชียว”เหมือนบุญยงยังคงงอนนิดๆ น้องมินจึงเอ่ย

“บุญยงร้องเพลงให้เพื่อนใหม่ฟังหน่อยสิ”

บุญยงยิ้มกว้างก่่อนกระแอมทีหนึ่งพร้อมยืดตัวตรง แล้วส่งเสียงร้องเพลงอันไพเราะอย่างมหัศจรรย์ออกมาขับกล่อมเพื่อนสาวทั้งสามอย่างมีความสุข

ณ ขณะนี้ เกลียวแห่งมิตรภาพก็ได้ถูกถักสานต่อกันอย่างแน่นแฟ้นขึ้นอีกขึ้นหนึ่งแล้วด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ทุกดวงและเสียงอันใสกังวานของเจ้าบุญยง




 

Create Date : 30 กันยายน 2553    
Last Update : 30 กันยายน 2553 16:35:32 น.
Counter : 212 Pageviews.  

chapter4

น้องมินหมวกแดงตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเํธอจะต้องเป็นทายาทกลองเทพกระเดื่องคู่ตามเจตนารมย์ของคุณยาย และทำหน้าที่สำคัญคือต้องตามหาชิ้นส่วนศิลาศักดิ์สิทธิ์กับอัญมณีสีฟ้าให้ได้

“ว่าไงจ๊ะแม่สาวน้อย” น้ำเสียงกวนประสาทดังขึ้น ทำให้ความคิดทุกอย่างของน้องมินหมวกแดงชะงัก ก่อนหันไปหาต้นตอของเสียงนั้น และได้พบ

“แกอีกแล้วเหรอ ไอ้เจ้าสัตว์ประหลาด”น้องมินเท้าสะเอวเอ่ยเสียงเรียบพลางมองร่างประหลาดที่นั่งอยู่บนก้อนหิน

“ปั๊ดโธ่!! บอกแล้วว่าไม่ใช่สัตว์ประหลาด เป็นเจ้าชาย เจ้าชายกบบุญยง”เจ้ากบประหลาดร้อง พลันนึกได้จึงถาม

“แล้ววันนี้ว่างจะฟังเรื่องของฉันรึยัง”

“ได้สิ ว่างพอดีเลย” แล้วน้องมินหมวกแดงก็เดินไปนั่งที่ก้อนหินใต้ร่มไม้ใหญ่ไม่ไกลจากบึงน้ำเท่าใดนักโดยมีกบพูดได้ตัวนั้นกระโดดตามไป

“นี่ เจ้าตัวประหลาด” น้องมินเรียก ผู้ถูกเรียกสวนกลับทันที

“ไม่ใช่ตัวประหลาด เป็นกบ ชื่อบุญยง”

“เออ เจ้าบุญยง ทำไมแกถึงอยากเล่าเรื่องของแกให้ฉันฟังล่ะ”

“ฉันรู้สึกถูกชะตาเธอน่ะสิ อีกอย่างคือ…” เจ้ากบบุญยงสลดลงเล็กน้อย “เธอเป็นคนเดียวที่คุยกับฉันเกินสองประโยค” น้องมินย่นคิ้วอย่างสงสัย

“ทุกคนที่เจอฉัน เค้าตัดสินทันทีฉันว่าเป็นสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว ถ้าไม่พยายามฆ่า ก็วิ่งหนี พวกสัตว์เองก็ไม่ยอมให้ฉันเข้าใกล้ ฉันไม่มีเพื่อนเลย จนมีเธอที่มาหัวเราะเยาะฉัน คุยกับฉัน แทนที่จะพยายามหาไม้ไล่ตีฉัน ฉันจึงคิดว่าเธอน่าจะเป็นเพื่อนของฉันได้ เอ่อ…ฉันขอเป็นพื่อนกับเธอได้ไหม” น้องมินฟังดังนั้นก็ยิ้มกว้างก่อนตอบ

“ได้สิ ถ้าเจ้าอยากเป็นเพื่อนกับฉัน ฉันก็จะเป็นเพื่อนเจ้า ฉันชื่อมินแต่ใครๆชอบเรียกว่า น้องมินหมวกแดง” เจ้ากบบุญยงก็กระโดดไปรอบๆตัวน้องมินหมวกแดง พร้อมร้องอย่างดีใจ

“เย้ๆๆๆๆๆ ฉันมีเพื่อนแล้ว น้องมินหมวกแดงเป็นเพื่อนกับยงแล้ว” น้องมินหัวเราะชอบใจกับท่าทางตลกของเจ้าบุญยง ก่อนถามขึ้น

“เออ…ไหนๆก็เป็นเพื่อนกันแล้ว เล่าให้ฉันฟังได้ไหมว่าทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้”

น้องมินสังเกดเห็นได้ชัดว่าเจ้าเพื่อนใหม่มีสีหน้าขรึมลง

“ยงน่ะเหรอ…แต่ก่อนก็เป็นมนุษย์เหมือนเธอนั่นล่ะ เป็นเจ้าชายด้วยนะ แต่ถูกพ่อมดต่างแคว้นเสกมนต์ดำใส่ตอนที่ทำสงคราม เลยเป็นกบ ถูกคนจับไปบ่อยมากเลยนะ แต่มงกุฏบนหัวมันช่วยชีวิตยงทุกครั้ง”ดวงตาตี่ๆของเพื่อนฉายแววสงสัยขึ้นมา

“คนที่จิตใจไม่บริสุทธิ์หรือคิดไม่ดีกับยงจะไม่สามารถจับตัวยงได้ เพราะรังสีจากมงกุฏจะออกมา มันจะร้อนเหมือนไฟเลยล่ะ แต่ก่อนมันเป็นยอดมงกุฏของบรรพบุษ แต่เสด็จพ่อประทานให้ยงคนเดียว”

น้องมินมองมงกุฏทองสลักลายสวยงามประดับด้วยที่่มีอัญมณีสีน้ำเงินน้ำงามขนาดเท่านิ้วก้อยที่เด่นเป็นสง่าบนหัวของเพื่อนใหม่อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนบอก

“มงกุฏเธอมันก็คงจะมีค่ามากจริงๆ มิน่าล่ะคนถึงอยากจะจับเธอ”

“ยงก็เดินทางแบบหลบๆซ่อนๆมาจนถึงแคว้นโช แล้วยงก็พบกับเจ้าหญิงซอด้วง” สีหน้าของเจ้าบุญยงสลดลงอีกครั้ง “เธอเป็นคนเดียวที่สามารถจับตัวยงได้ และจุมพิตของเธอก็ทำให้ยงกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง”น้องมินสังเกตเห็นยิ้มน้อยๆและดวงตาของเจ้าุบุญยงเป็นประกายเมื่อเอ่ยถึง “เจ้าหญิง”ผู้นั้น

………..

ความโศกเศร้าก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเจ้ากบนั้นพร้อมๆกับน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

“ยงผิดเอง….ที่หลงระเริงในเสน่ห์ของตัวเองมากเกินไป ทั้งที่เจ้าหญิงซอด้วงดีกับยงทุกอย่างแต่ยงก็ทำให้เธอเสียใจ ยัยแม่มดผมขาวเลยสาปให้ยงน่าเกลียดแบบนี้ไง”

“อ้าว แล้วยัยแม่มดนั่นมีสิทธิ์อะไรมาสาปเธอล่ะ” น้องมินถามต่อทันที

“ไม่รู้สิ ยังไม่เคยได้ถามรายละเอียด มาถึงก็สาบแช่งเลย”

“แล้วเธอทำอะไรให้เจ้าหญิงเสียใจล่ะ”

“ก็แค่ไปกิ๊กๆกั๊กๆกับสนมหน้าใหม่ๆสองสามคน….แค่นั้นเองอ่ะ”เจ้าชายกบตอบเสียงอ่อน อีกฝ่ายสวนกลับเสียงขุ่น

“สมควรถูกสาป!!!”เจ้าบุญยงโอดครวญต่อทันทีว่า

“โธ่!!!อย่าใจร้ายกับยงนักสิแม่หมวกแดง ทำไงได้อ่ะ คนมันรูปหล่อ เสียงดี มีมาด ฉลาดหลักแหลม แจ่มเท่ เก๋ไก๋”น้องมินเบ้ปากอย่างหมั่นไส้กับการบรรยายสรรพคุณตัวเองของเจ้ากบ

“จริงๆแล้วเจ้าหญิงอ่ะเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก เธอเข้าใจดีว่ายงเป็นยังไง ต้องการอะไร รู้สึกยังไง แต่คนอื่นต่างหาก ที่ไมเข้าใจแล้วมาตัดสินชีวิตของเรา มันเลยกลายเป็นแบบนี้”

“แล้วจะทำยังไงต่อไปล่ะ จะกลับไปหาเจ้าหญิงรึเปล่า”เพื่อนหมวกแดงถาม

“คงกลับไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเจ้าหญิงแต่งงานใหม่ไปแล้ว ยงเองก็อยู่ในสภาพนี้คงไม่มีหน้ากลับไปหรอก”

น้องมินหมวกแดงพยักหน้า พลันนึกอะไรบางอย่างได้ จึงเอ่ยขึ้น

“เธออยากไปอยู่กับฉันไหมล่ะ” เจ้้ากบทำหน้าสงสัย “ไปอยู่กับฉันในฐานะสัตว์เลี้ยงของฉัน ถ้าคุณยายได้พบเธอต้องชอบเธอแน่ๆเลย เพราะเธอร้องเพลงเพราะ”

“น้องมินว่ายงเสียงดีเหรอ” เจ้าชายกบถามทวน

“ใช่ เสียงเธอเพราะดี ฉันชอบ”คำตอบนี้ทำให้เจ้าชายกบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอีกครั้ง

น้องมินหมวกแดงหัวเราะเบาๆก่อนพูดอีก “ป่ะ กลับบ้านกัน”

แล้วน้องมินหมวกแดงก็กลับบ้านพร้อมด้วยมิตรภาพใหม่ที่ได้ถักทอขึ้นด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์




 

Create Date : 30 กันยายน 2553    
Last Update : 30 กันยายน 2553 16:28:27 น.
Counter : 210 Pageviews.  

chapter3

ค่ำคืนที่เงียบสงัดมาเยือนอีกครั้ง ชินเดอเรล่าออกมานั่งมองดาวที่หน้าบ้านหลังจากที่ทุกคนในบ้านหลับกันหมด เธอเอาแผ่นศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่คุณตามอบให้มาดู พร้อมหวนคิดในสิ่งที่คุณตาเล่าให้ฟังเมื่อกลางวัน

“แท้จริงแล้วพวกเธอสองคนเป็นหลานของตา เพราะตาตามสืบมานานจนแน่ใจแล้วว่าเราเป็นญาติกัน การที่เราได้มาพบกันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่ลิขิตไว้แล้วด้วยโชคชะตา”ถ้อยคำของคุณตายังคงดังก้องในโสตประสาทของเธอ

“สโนว์ฮยอนเป็นหลานแท้ๆที่เกิดจากลูกของภรรยาคนที่สามของคุณตา ส่วนเรา เป็นหลานแท้ๆของน้องชายคุณตางั้นเหรอ” ชินเดอเรล่าเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่แข่งกันทอประกายวิบวับด้วยความสับสนในใจ

….พรุ่งนี้ของเธอจะเป็นยังไงนะ

“นี่ชิน… เธอว่า ที่คุณตาบอกอ่ะ มันจริงไหม”สโนว์ฮยอนถามขึ้นขณะที่เดินกลับจากเก็บเห็ดในป่า

“เรื่องที่เราเป็นหลานคุณตาน่ะเหรอ”

“ไม่ใช่ เรื่องวงดนตรีเทพเจ้าต่างหากล่ะ” สโนว์ฮยอนพูดด้วยเสียงจริงจัง

“ฉันก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกนะแต่คิดดูอีกที คุณตาจะโกหกเราทำไมกันล่ะ ท่านอุตส่าห์สอนดนตรีเราตั้งแต่ไม่เป็นเลยจนเราเล่นได้ขนาดนี้ เงินก็ไม่คิด ท่านดีกับเรามากนะ”ชินเดอเรล่าพูดเสียงนุ่ม

“ก็จริงอ่ะนะ”เพื่อนสาวรำพึงเบาๆ

ในความเงียบเพียงเสี้ยววินาทีั้นั้น สโนว์ฮยอนก็ได้เสียงประหลาดบางอย่างจนต้องสะกิดชินเดอเรล่า

“เธอได้ยินเสียงอะไรไหม”

“อยู่ดีๆน้องหาว่าพี่เป็นก๊บบบบบบ” เสียงแว่วตามสายลมมานี้ ทำให้ทั้งสองสาวต้องเงี่ยหูฟังชัดๆ

“อยู่ดีๆน้องหาว่าพีี่เป็นก๊บ อ๊บบบบบบบ”

“เหมือนจะมาจากทางบึงน้ำใหญ่นะ” ชินเดอเรล่าพูด “เราตามไปดูกันเถอะ”

เมื่อเดินมาถึงตรงที่คิดว่าเป็นต้นกำเนิดเสียง สองดรุณีกลับไม่พบใครเลย

“เฮ้ย แล้วเมื่อกี้เสียงใครร้องเพลงอ่า”สโนว์ฮยอนร้องเสียงหลง ทั้งสองมองหน้ากันเลิกลั่ก เหงื่อเริ่มแตกเป็นเม็ด

“ไม่น่าจะใช่นะเธอ กลางวันแสกๆ”ชินเดอเรล่าพูดเสียงสั่น

“มองหาใครเหรอจ๊ะน้องสาว”

“กี๊สสสสสสสสส “สโนว์ฮยอนร้องลั่นป่า ชินเดอเรล่าจึงร้องถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “ใครน่ะ ออกมาเดี่ยวนี้นะ”

“พี่ก็ออกมาแล้วนี่ไงจ๊ะสองสาว”

“กี๊สสสสสสสสสส ผีมันตอบเราด้วยอ่ะ” ชินเดอเรล่าพูดเสียงสั่น

“ไม่ใช่ผีจ้า เป็นเจ้าชาย”เสียงนั้นตอบกลับมาทันที

“แว๊กกกกกกกกกก ผี”สโนว์ฮยอนร้องพร้อมหลับตาปี๋

“อุ๊บ๊ะ!!!!บอกว่าเป็นเจ้าชาย ไม่ใช่ผีไง ลืมตาดูซะมั่งสิ(เฟร้ย)” สองสาวจึงค่อยๆลืมตาดุ และพบ………

“กรี๊ดดดดดดดดดด สัตว์ประหลาดกบ”สโนว์ฮยอนร้องลั่นป่าก่อนคว้ามือชินเดอเรล่า โกยอ้าวแบบไม่คิดชีวิต

“นี่เราคงหล่อเกินไปจนสาวๆตั้งตัวไม่ทันสินะ” เจ้ากบหน้าคนรำพึงอย่างภาคภูมิใจ




 

Create Date : 30 กันยายน 2553    
Last Update : 30 กันยายน 2553 16:23:05 น.
Counter : 209 Pageviews.  

chapter2

ที่ห้องใต้ดินในกระท่อมชายป่าใกล้เชิงเขามะนาวโห่ เสียงเบสทุ้มๆกับเสียงกีต้าร์ที่กรีดร้องออกมาเคล้าผสมกันอย่างลงตัว งดงามได้จบลง ครู่หนึ่งเสียงนั้นก็หยุดลงก่อนจะมีเสียงตบมือเปาะแปะเบาๆของชายชราเคราขาว

“เก่งมาก พวกเจ้าเก่งจริงๆ สมแล้วที่เป็นผู้ถูกเลือก” สองดรุณี ยิ้มสบตากันอย่างปลาบปลื้มในคำชม ก่อนจะวางเครื่องดนตรีประจำกายลง

“ขอบคุณค่ะคุณตา ที่เราทำได้ถึงขนาดนี้เพราะคุณตาสั่งสอนพวกเราค่ะ”ชินเดอเรลล่าเอ่ยเสียงหวานพร้อมส่งยิ้มน่ารัก

“จริงด้วยค่ะ ถ้าคุณตาไม่สอนเราคงเล่นไม่ได้ขนาดนี้แน่ค่ะ”สโนฮยอนก็หัวเราะเบาๆ

“พวกเจ้าเรียนรู้ทุกอย่างหมดแล้ว ตอนนี้ตาก็ไม่มีอะไรจะสอนแล้ว ต่อไปพวกเจ้าไม่ต้องมาที่นี่แล้วนะ”สองสาวมองหน้ากันอย่างเหวอๆ

“ทำไมล่ะคะคุณตา”

“เพราะหน้าที่ของตาหมดแล้ว และพวกเจ้าต้องทำหน้าที่นี้แทนตาต่อไป”

“หน้าที???”

“ตามตามานี่แล้วตาจะเล่าให้ฟัง” ชายชราเดินขึ้นมาจากห้องใต้ดินนั้นอย่างรวดเร็ว

……………….

ทางด้านน้องมินหมวกแดง ก็มาที่บ้านคุณยาย และได้ฝึกซ้อมตีกลองชุดที่ซ่อนตัวอยู่ภายในโพรงหินหลังบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหุบเขามะม่วงหาว ที่นี่เก็บทุกเสียงให้เป็นความลับได้เป็นอย่างดีมาตลอดหลายสิบปี จึงไม่มีใครรู้ว่าสิ่งล้ำค่าของคุณยายซ่อนอยู่ที่นี่ แม้แต่คุณแม่ของน้องมินเองก็ตาม

ทุกเสียงที่กระแทกโสตประสาทนั้นทำให้น้องมินรู้สึกสนุกสนานอย่างบอกไม่ถูก น้องมินรู้สึกดีและมีความสุขทุกครั้งที่ได้มาตีกลองกับคุณยาย

“หลานยาย เจ้าเรียนรู้ทุกอย่างจากยายหมดแล้วนะ ยายดีใจเหลือเกินที่วิชากลองเทพกระเดื่องคู่มีทายาทสืบต่อแล้ว” เสียงแหบของคุณยายกล่าวอย่างตื้นตัน

“ทุกครั้งที่ได้ตีกลองน้องมินมีความสุขมากๆเลยค่ะคุณยาย”

“มานี่มา ยายมีของจะให้” น้องมินก็ละจากกลองชุดเก่าแก่มาประคองร่างผ่ายผอมของคุณยายให้เดินกลับขึ้นไปที่กระท่อม

คุณยายมานั่งที่ม้านั่งในห้องนอน ก่อนบอกให้น้องมินมุดเข้าไปใต้เตียงและหยิบกล่องไม้ยาวเก่าแก่กล่องหนึ่งออกมา

“หลานจำเจ้าหมาป่าที่มันเคยเกือบจะกินเราได้ไหมจ๊ะ”

“ที่คุณลุงนายพรานมาช่วยฆ่ามันน่ะเหรอคะ” หลานสาวถามเอ่ยเสียงแจ๋ว

“นั่นล่ะจ๊ะ ความจริงแล้ว มันไม่ได้แค่จะมากินเราหรอก แต่มันต้องการของในกล่องนี่ต่างหาก”น้องมินหมวกแดงทำคิ้วย่นอย่างไม่ค่อยเชื่อคำของคุณยาย

“ของในกล่องนี้เป็นของวิเศษ ยายมอบให้หลาน”น้องมินรับกล่องมาเปิดดูก่อนร้องเสียงหลง

“ไม้ตีกลองทองคำ!!!” พลันตาคู่เล็กๆก็เห็นอย่างอื่นในกล่อง แล้วหยิบขึ้นมาดูอย่างสงสัย

“มันคือแผ่นศิลาศักดิ์สิิทธิ์ ที่ผู้เป็นทายาทเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง”

สิ้นคำคุณยาย น้องมินก็หยิบแผนหินที่รูปร่างเหมือนชิ้นพิซซ่าสีฟ้าครามสลักลวดลายอักขรโบราณขึ้นมา พลันรู้สึกเหมือนมีพลังประหลาดไหลเวียนภายในร่างกาย

“แต่เดิมมันเป็นแผ่นศิลาวงกลม ที่มีอัญมณีสีฟ้าอยู่ตรงกลาง มันเป็นสัญลักษณ์ของวงดนตรีของเทพเจ้าตะวันออก แต่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเหล่าเทพศิลปิน เทพแต่ละองค์เลยต้องหนีไป ศิลาเลยถูกแยกเป็นสามชิ้นส่วน กับเม็ดอัญมญีอีกหนึ่ง”

“คุณยายกำลังจะบอกว่าเรามีบรรพบุรุษเป็นเทพเจ้าเหรอคะ”ดวงตาตี่ๆนั้นเบิกโพลง

“ใช่แล้ว และเจ้าก็เป็นทายาทที่ถูกเลือก ยายน่ะตามหาทายาทผู้ครอบครองศิลาเจอคนหนึ่งเมื่อสี่สิบปีก่อนแต่เกิดสงคราม เลยพลัดหลงกันไป ป่านนี้ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าไม่รู้” สีหน้าของคุณยายเศร้าลง

น้องมินหมวกแดงวางกล่องของวิเศษลงก่อนคลานเข้ามาเกาะเข่าคุณยาย

“น้องมินจะตามหาผู้ครอบครองศิลาแทนคุณยายเองค่ะ” น้ำใสๆก็ไหลออกมาจากดวงตาพร่ามัวของหญิงชราด้วยความปลาบปลื้ม




 

Create Date : 30 กันยายน 2553    
Last Update : 30 กันยายน 2553 15:14:09 น.
Counter : 223 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

นางในดอกบัว
Location :
ขอนแก่น Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นเพียงคนที่รักในอักษร
แม้บางอ่อนด้อยความรู้อยู่แค่ไหน
จินตนาการความฝันหล่อเลี้ยงใจ
เดินต่อไปอย่างเป็นสุขทุกคืนวัน
Friends' blogs
[Add นางในดอกบัว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.