ซากเมืองโบราณใน Pompei
แม้ว่าปอมเปอี จะสามารถเดินทางมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากโรม หรือนาโปลี หรือเนเปิ้ลได้ แต่เราเองมาค้าง เพราะอยากจะเที่ยวแบบสบายๆ ไม่เสียเวลากับการเร่งรีบไปขึ้นรถ
มาถึงตอนค่ำ โดยเปลี่ยนรถจากโรม มานาโปลี และจากนาโปลี มาลงปอมเปอี แล้วนั่งรถเมโทรมาลงอีกที โบสถ์ใหญ่ประจำเมืองปอมเปอี  ตอนเช้าดูแปลกตาไป ทั้งที่เป็นโบสถ์เดียวกัน  ภายในโบสถ์    จตุรัสใหญ่ หน้าโบสถ์  ทางซอยข้างๆ จะเป็นแผงขายของที่ระลึก และตลาดเล็กๆ ก็เดินไปทางนั้นเลย รับรองไม่หลง ที่ติดตู้เย็นมากมาย  อันนี้พรีเซนต์น่ารัก เลยทำให้ต้องควักกระเป๋า  ทางเดินนี้แหละค่ะ โบสถ์ที่เราเพิ่งออกมา อยู่ข้างหลัง ทางที่เราเดิน จะเลียบรั้วของอุทยานเมืองเก่าปอมเปอี รูป  เข้ามาแล้วทำการซื้อตั๋วเร็วมาก สิ่งแรกที่เจอคือ Amphitheater  ขอบอกว่าร้อนมากๆ ต้นไม้ไม่มีให้หลบ จะเป็นการดี ถ้าพกร่ม และทาครีมกันแดดมาอย่างดี งานภาพวาดเก่า หลังจากบูรณะแล้ว  ถนนในเมืองลักษณะปูด้วยหินใหญ่ๆ ไม่เท่ากัน เดินเมื่อยมาก รูป  นี่คงเป็นร้านพิซซ่าโบราณ อิอิ  ที่นี่มีไฮไลท์อยู่ที่บ้านหลายหลัง ที่เป็นวิลล่า ยังมีรูปภาพวาดให้เห็นอยู่  ได้เห็นอะไรเขียวๆ ใน courtyard ของวิลล่าบ้าง  เห็นแบบนี้ ถ้าไม่บอกจะเชื่อว่าเป็นบ้านปัจจุบัน ไม่ได้ต่างกันเล้ย  ซากวิหารยิ่งใหญ่ ปัจจุบันก็เหลือแต่เสา  เนื่องจากหลังคา ก่อสร้างด้วยไม้บ้าง จึงไม่เหลืออะไรใหญ่โตแข็งแรงให้เห็น  แม้ปัจจุบัน จากการเดินชมก็ทำให้เห็นว่าปอมเปอีเป็นเมืองใหญ่ที่มีผังเมืองดีมาก  ถ้วยโถโอชาม และเอ่อ คน ที่เขาเก็บไว้ในส่วนของพิพิธภัณท์  หมาน้อยที่เจ็บปวดกับความตายโดยไม่รู้ตัว ข้างในไม่ได้มีศพน้องหมาแต่เป็นการหล่อขึ้นมา จากช่องว่างที่เกิดขึ้นเมื่อน้องหมาโดนลาวาหุ้มตัวไว้  หวังว่าภูเขาไฟวิสุเวียซ มันคงจะไม่ระเบิดขึ้นมาตอนเราเดินอยู่  เมื่อเข้าไปในส่วนในของเมือง พื้นที่จะสูงขึ้น ก็ปีนกันเมื่อยหน่อย ที่นี่ใช้การเดินเท้าอย่างเดียวเท่านั้น  ชมวิวจากกำแพงเมือง  แม้ว่าจะมีผู้สูงอายุมาด้วย แต่ทริปนี้ทุกคนเต็มที่ และพอใจกับชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์   ร่องรอยภาพวาดฝาผนังมีอยู่ตามวิลล่าใหญ่ๆ  ต่อไปจะเป็นไฮไลท์ 555 ซ่องโบราณ  ตามฝาผนังก็จะมีรูปกิจกรรมอย่างว่า ถ้าเป็นปัจจุบันก็คงใช้เป็นทีวีจอแบนฉายหนังไปพลางๆ  หากอยากดูแบบเยอะๆ แนะนำให้ไปเที่ยวชมพิพิธภัณท์อิโรติกที่นาโปลี  และสุดท้ายแวะไปชมความน่าอดสูของคนในเมืองที่เสียชีวิตแบบไม่ได้เตรียมตัว ทำให้คิดได้อีกว่า ชีวิตมันไม่แน่นอนจริงๆ  เดินจนหมดเมือง ขาลากหมดวันพอดี ต้องไปเติมท้องให้อิ่ม ด้วยอาหารท้องถิ่น  ร้านอาหารบนถนนสายที่เดินมานี่แหละ อาหารง่ายๆ แต่สะใจในรสชาติแบบดั้งเดิม   เนื่องจากพวกเราทานเนื้อกัน ก็เอามาแชร์กันชิมได้   หลังอาหารก็ต้องกินกาแฟ เดินจากร้านอาหารกลับมาจตุรัสหน้าโบสถ์ที่เก่า เลือกร้านกาแฟนี้เพราะคนเสิร์ฟเป็นกันเองมาก มีไอติมขายด้วย  บริการโดยหนุ่มอิตาลี ทั้้งสิ้น  พอเริ่มค่ำ ไม่รู้จะทำอะไร เพราะค้างที่นี่ เราก็ไปเดินตลาดกัน มะนาวยักษ์มาก  หลังจากทานอาหารเช้าอิ่มหนำ ก็เดินทางกลับไปยังสถานีรถไฟ (เดิน)  ระหว่างรอรถไฟขึ้นกลับไปโรม  สมาชิกของเรา ดูยังยิ้มแย้มแจ่มใสกันอยู่ ที่ไหนได้ ขึ้นรถปั๊บหลับทุกรอบ  ไว้ตื่นมาพบกันต่อในเมืองถัดไป Naples / Napoli ค่ะ Rome (Roma) ไม่ได้สร้างในวันเดียว
รูปสวยๆ จากโรม
เราก็ไม่เคยโยนเหรียญในน้ำพุเทรวี่นะคะ เพราะขี้เหนียว แต่กลับไปบ่อยมาก  บันไดสเปน ไปตอนที่มีคนมาแต่งงานพอดีเลย  ถ้าอยากถ่ายรูปให้คนน้อยๆ หน้าหนาวควรไปก่อน 10 โมงเช้า รับรองโล่งค่ะ  จตุรัส Navona  ขาวๆ สวยๆ เห็นมาแต่ไกล  ยอดโบสถ์เก๋ๆ ในโรม  น้ำพุที่ Piazza Popolo  โคลอสเซียมยามค่ำ ถ้ามีกล้องดีๆ คงสวยกว่านี้เยอะค่ะ  ระหว่างทางเข้าไปในพิพิธภัณท์วาติกัน  โถงภายในพิพิธภัณท์วาติกัน  จตุรัสหน้าโบสถ์ St.Peters  ได้โอกาส ไปจีบหนุ่มๆ Swiss Guard  จตุรัสเมืองวาติกัน แต่กลางคืน  ป้อม San Angelo 
|
เที่ยวไปสองไพเบี้ย
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] รบกวนอย่าส่งข้อความหลังไมค์ค่ะ ติดต่อที่อีเมล์ตรง smileyinbelgium@hotmail.com นะคะ Group Blog
All Blog Link |
|||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||
