Group Blog
|
เสกรักข้ามภพ...ตอน 1
เสกรักข้ามภพ...บท 1/1
พลันที่ร่างสูงใหญ่ราวหนุ่มตะวันตกก้าวสู่ประตูรั้วโรงเรียน ก็ดึงสายตานับสิบๆ คู่ให้จับจ้องไปที่เขาเป็นตาเดียว สิ่งที่สะดุดผู้พบเห็นมากที่สุด คือใบหน้าหล่อเหลาคมคาย บวกกับหุ่นสมาร์ตมาดแมนชนิดที่สาวๆ เห็นแล้วเป็นต้องเหลียวมองซ้ำ หากเขามีผิวสีคล้ำกว่านี้ ก็จะตรงกับคำว่า ดาร์ค ทอลล์ แอนด์ แฮนด์ซัม ดีๆ นี่เอง แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาคือ การจับกลุ่มกระซิบกระซาบระหว่างครูด้วยกัน
ติณณภพ ยังคงเดินไปที่ห้องเรียนอนุบาลด้วยจังหวะก้าวสม่ำเสมอ บอกตัวเองว่าชินเสียแล้วกับภาพบรรยากาศเหล่านั้น ด้วยไปที่ไหนๆ มักเจอปฏิกิริยาจากผู้คนรอบข้างไม่แตกต่างกัน นั่นคือ พากันซุบซิบหรือไม่ก็ตื่นตะลึงยามเห็นเขา ติณณภพรู้ว่าตัวเองมีใบหน้าดึงดูดใจเพศตรงข้ามนับแต่แตกเนื้อหนุ่ม แต่ไม่เคยทะนงตน ตรงกันข้ามออกจะไม่แยแสกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองด้วยซ้ำแม้ว่าจะมีหญิงต่างชาติต่างภาษาเข้ามาเสนอให้ถึงที่ตลอดเวลาที่เรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกาก็ตาม และนับจากเขาเรียนจบกลับมา ถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา ๓-๔ ปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีหญิงทั้งสาวและไม่สาวแวะเวียนมาหาเขาไม่ได้ขาด ทว่าเขาก็ยังเป็นเขา “ผู้ชายเย็นชา” ที่ไม่สนใจใครอยู่นั่นเอง หลายคนอยากพิสูจน์ หลายคนอยากเอาชนะ และหลายคนท้าพนันในกลุ่มเพื่อน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกราย บางทีไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียวที่ทำให้สาวๆ เพียรอยากเอาชนะและไม่ยอมย่อท้อ แต่ด้วยฐานะและชาติตระกูลต่างหากที่ยั่วยวนใจให้สาวๆ อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขาทั้งกายและใจ แม้จะได้ชื่อว่า “พ่อเรือพ่วง” ก็ตาม ติณณภพ เป็นหนุ่มใหญ่วัย ๓๕ เป็นลูกชายคนโตของตระกูลอัครเศรษฐ์ที่ดูแลธุรกิจโรงแรมในเครือทั้งหมด เขามีลูกสาวคนหนึ่งอยู่ในวัยกำลังซนชื่อว่า “มีนา” เมื่อเขาเดินเข้าไปในระยะสายตาของเด็กหญิง เสียงหวานใสก็ร้องขึ้นอย่างยินดี “พ่อติณมาแล้ว!” แม่หนูน้อยตะโกนพลางถลาเข้าไปโถมกอด โดยมีวงแขนหนาอ้ารับ “รอนานหรือเปล่าลูก” ติณณภพอุ้มลูกสาวด้วยวงแขนข้างหนึ่ง มืออีกข้างถือกระเป๋าเป้ให้แม่หนูน้อย ก่อนหอมแก้มซ้ายขวา กิริยาเป็นไปอย่างอ่อนโยน “ไม่เลยค่ะ น้ำอุ่นมีครูอาริสาอยู่เป็นเพื่อน” หนุ่มใหญ่มองตามสายตาลูกสาวที่พูดจบก็มองด้านหลัง พบแววตาสีนิลของครูสาวมองมาอยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ เขาก้มศีรษะเชิงขอบคุณ ก่อนทักทาย “ขอบคุณครับที่ช่วยดูแลน้องน้ำอุ่นระหว่างที่ผมยังมาไม่ถึง” “ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่วันนี้พี่เลี้ยงไม่อยู่หรือคะ” ครูสาวถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ใบหน้าสะท้อนความขัดเขิน “ไม่ครับ เธอขอไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด” ติณณภพหมายถึง “ป้าเอื้อง” พี่เลี้ยงเด็กวัย ๔๘ “ช่วงนี้คุณติณณภพเลยต้องมารับหนูน้ำอุ่นเองสิคะ” “ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับรบกวนเวลาคุณครูมากแล้ว น้ำอุ่นลาคุณครูสิลูก” ติณณภพรอจนลูกสาวยกมือไหว้คุณครูประจำชั้นแล้ว เขาจึงผงกศีรษะลาแล้วเดินออกมาท่ามกลางสายตานับสิบๆ คู่มองตาม หลายเสียงถึงกับพึมพำไล่หลังว่า “หล่อ สมาร์ตยังกับพระเอกหนังเลย!” “พ่อติณ เราจะไปไหนกันคะ” แม่หนูน้อยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั่งนิรภัยสำหรับเด็กซี่งอยู่ทางเบาะหลังรถถามขึ้น “แวะซื้อของขวัญให้คุณย่า ก่อนไปอวยพรวันเกิดครับ” ตอบพลางเหลือบมองทางกระจกหน้า มีนาอายุ ๕ ขวบกว่าๆ เป็นเด็กช่างพูดช่างซักเกินวัย หน้าตาน่ารักน่าชัง ฉลาด รับฟังเหตุผล เขาหวังว่าความรักและความเอาใจใส่ที่เขาทุ่มเทให้จะช่วยชดเชยการขาดแม่ได้ แม่หนูน้อยไม่เข้าใจ แต่คิดตามประสาเด็กว่าพ่อกำลังจะพาไปเที่ยว จึงยิ้มร่าชอบใจ แล้วพูดว่า “พ่อรู้ไหมคะใครๆ ต่างอิจฉาน้ำอุ่นที่มีพ่อหล่อ” ติณณภพเลิกคิ้ว ก่อนหัวเราะแผ่วเบา “ใครๆ ที่ว่าน่ะมีใครบ้าง” “ก็หนูใบเตย หนูวาวา หนูปิ่น ทุกคนเป็นเพื่อนสนิทน้ำอุ่น แถมคุณครูสาก็ยังบอกว่าพ่อหล่อมากๆ” คนฟังไม่ได้ถือเป็นจริงเป็นจัง แต่อยากเอาใจลูกเลยสานต่อบทสนทนา “แล้วพวกเขาไปเห็นพ่อได้ไง ในเมื่อพ่อไม่ค่อยไปรับลูกที่โรงเรียน” “รูปถ่ายในกระเป๋าสตางค์สิคะ น้ำอุ่นเอาออกมาอวด” ติณณภพฟังแล้วส่ายหน้า เรียวปากยังคงคลี่ยิ้มเมื่อหยอกล้อกลับ “ระวังนะลูก เอาพ่อไปอวดมากเดี๋ยวใครๆ จะพานเหม็นขี้หน้าพ่อ” “ใครบอกละคะ มีแต่บอกว่าพ่อน้ำอุ่นหล่อ เป็นพระเอกหนังได้สบาย” “แล้วลูกตอบพวกเขาไปว่าไง” “น้ำอุ่นก็บอกว่าอย่ามาคิดแย่งพ่อเด็ดขาด พ่อติณเป็นพ่อของน้ำอุ่น” คำตอบดูจะไม่เป็นเหตุเป็นผลนัก แต่ก็จุดประกายรอยยิ้มขำๆ ปนเอ็นดูบนใบหน้าที่ปกติเคร่งขรึมของติณณภพได้ แล้วเสียงเจื้อยแจ้วของแม่หนูก็ดังขึ้นต่อว่า “วันนี้คุณครูอ่านนิทานให้ฟังด้วยค่ะ เรื่องแม่มดกับสโนว์ไวท์ น้ำอุ่นเกลียดแม่มดใจร้าย พ่อว่าแม่มดมีจริงไหมคะ?” มีนาหมายถึงนิทานก่อนนอนหลังเวลาพักเที่ยง ติณณภพฟังคำถามแล้วคลี่ยิ้มอีกครา “นิทานก็คือนิทานลูก ในโลกนี้ไม่มีแม่มดอยู่จริงหรอก” “ว้า... ไม่มีจริงเหรอ แล้วทำไมคุณครูบอกว่าให้น้ำอุ่นกับเพื่อนๆ หลับไวๆ ถ้ายังคุยกันไม่เลิก แม่มดจะออกมาเสกให้พวกหนูเป็นหินละคะ” ยามนั้นแม่หนูน้อยยังไม่รู้จักคำว่า “เสก” แต่จำจากครูมาพูดต่อ คนเป็นพ่อหัวเราะ “คุณครูก็แค่ขู่หนู จะได้เลิกคุยกันไงลูก” แม่หนูน้อยขมวดคิ้วมุ่น “งั้นต่อไปถ้าคุณครูขู่เรื่องแม่มดอีก น้ำอุ่นก็จะบอกว่าแม่มดไม่มีจริง หนูไม่กลัวหรอก” “ไม่ดีหรอกลูก คุณครูพูดอะไรก็ต้องเชื่อฟัง ครูบอกให้หยุดคุยก็ต้องหยุด เพราะเราอาจกำลังรบกวนเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหลับอยู่” “แต่คนอื่นๆ ก็คุยกัน ไม่เห็นหลับสักคน” “ก็เพราะแย่งกันคุยนี่ไง ถึงทำให้ไม่มีใครหลับ วัยขนาดหนูจำเป็นต้องนอนเยอะๆ เพื่อจะได้โตไวๆ นะลูก” “โตไวๆ” แม่หนูน้อยทวนคำ ก่อนพูดต่อ “น้ำอุ่นอยากให้มีแม่มดจริงๆ นะ น้ำอุ่นจะได้ขอให้แม่มดเสกให้น้ำอุ่นโตเร็วๆ จะได้ช่วยพ่อทำงาน” คนฟังคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนมากขึ้น “หนูไม่ต้องช่วยพ่อทำงานหรอกลูก แค่เป็นเด็กดีเชื่อฟังพ่อ เชื่อฟังคุณครูก็พอแล้ว ว่าแต่หนูไม่เกลียดแม่มดแล้วเหรอ เมื่อกี้ยังบอกปาวๆ ว่าเกลียดแม่มดเพราะรังแกสโนว์ไวท์” “เกลียดก็เกลียดหรอกค่ะ แต่น้ำอุ่นอยากเจอแม่มดด้วย จะได้ขอให้ช่วยเสกให้นายต้าเป็นหิน” “ต้าคือใคร?” “เพื่อนที่เพิ่งมาใหม่ค่ะ เขาชอบทำเสียงดังเวลาครูเล่านิทาน น้ำอุ่นไม่ชอบเลย” จากนั้นก็เป็นเรื่องของ “ต้า” ก่อนจะตามมาด้วยเรื่องอื่นๆ ซึ่งแล้วแต่แม่หนูน้อยจะคิดออก “พ่อติณคะ ร้านนี้ค่ะ” มีนากระตุกมือของติณณภพเข้าไปในร้านจำหน่ายตุ๊กตาซึ่งภายในตกแต่งด้วยวัสดุโบราณเพื่อให้ร้านดูเก่าแก่ ติณณภพรู้สึกประหลาดใจ เพราะมาแถวนี้บ่อยครั้งแต่ไม่เคยสังเกตว่ามีร้านตุ๊กตาอยู่แถวนี้ด้วย “สวัสดีค่ะ สนใจตุ๊กตาแบบไหนคะ” “ตุ๊กตาบาร์บี้ แล้วก็เสื้อผ้าให้ตุ๊กตาค่ะ” แม่หนูน้อยตอบ “เข้าไปดูด้านในเลยค่ะ ทางร้านมีเสื้อผ้าสำหรับหนูด้วยนะคะ สนใจไหมเอ่ย?” แม่หนูน้อยหันไปทางติณณภพราวกับขออนุญาต เจ้าตัวพยักหน้า ก่อนตอบ “ตามสบายลูก อยากได้อะไรก็บอกคุณน้าเลย” “ค่ะ งั้นเดี๋ยวดิฉันพาเข้าไปเลือกในร้าน คุณละคะสนใจอะไรไหมคะ” “ไม่ครับ ผมขอดูอะไรแถวนี้ระหว่างรอลูกแล้วกันครับ” “งั้นตามสบายค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะตามเด็กมาบริการนะคะ” “ครับ” ติณณภพตอบแล้วเดินดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วพลันสายตาสะดุดตาเข้ากับของบางอย่างในถาดไม้ ด้วยความแปลกแยกอย่างไม่น่าจะหลงมาวางรวมอยู่ในข้าวของตรงนี้ แหวนพลอยสีขาวแปลกๆ ท่ามกลางสายรัดข้อมือ ดึงดูดสายตาให้จับจ้องโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีอะไรบางอย่างเชิญชวนให้หยิบขึ้นมาดู เมื่อพินิจอย่างใกล้ชิดก็เห็นว่าเป็นแหวนทองคำขาวหัวแหวนทำด้วยโอปอล ความรู้สึกบอกว่าที่เห็นเป็นสีขาวในตอนแรกนั้นบัดนี้ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีชมพูเหลือบอย่างน่าอัศจรรย์ ติณณภพลองสวมบนนิ้วก้อยขวา น่าแปลกที่สวมได้พอดิบพอดี ชายหนุ่มพยายามถอดคืน แต่หากถอดไม่ออก เขาเหลือบดูป้ายราคาที่ปักไว้ข้างถาด ซึ่งเขียนว่า “฿100/ชิ้น” ไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อถอดไม่ออก จึงต้องตัดสินใจซื้อ “ผมขอซื้อแหวนวงนี้ครับ” ติณณภพหันไปบอกพนักงานขายอีกคนซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากหลังร้าน “แหวนอะไรคะ?” “แหวนนี้ไงครับ” ตอบพลางยื่นไปตรงหน้า “คุณคงเข้าใจผิด ร้านนี้ไม่มีแหวนจำหน่ายค่ะ” “แต่แหวนนี้มันวางอยู่ในถาดไม้นั่น...” บอกพลางชี้มือไปทางด้านหลัง “คุณคงตาฝาด ในร้านนี้ไม่ได้ขายแหวนจริงๆ ค่ะ ในถาดนั่นก็เห็นอยู่ว่าเป็นสายรัด” “งั้นแหวนวงนี้จะมาอยู่ที่ผมได้ไง” “สวมอยู่ที่นิ้วคุณ ก็เป็นของคุณอยู่แล้วหรือเปล่าคะ” “คุณกำลังจะบอกว่ามันเป็นของผมอยู่แล้ว แต่ผมจำไม่ได้อย่างนั้นเหรอ” “ฉันไม่รู้จะตอบเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ในเมื่อคำตอบก็เห็นๆ อยู่” ติณณภพรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดต่อไป เพราะยิ่งพูดดูเหมือนเขายิ่งกลายเป็นตัวตลกในสายตาอีกฝ่าย เพราะแววตาคู่นั้นราวกับจะบอกว่าเขาฟั่นเฟือนไปแล้ว ชายหนุ่มจึงเลิกโต้แย้งได้แต่เก็บงำคำพูด เมื่อแม่หนูน้อยเดินออกมาจากด้านในร้าน เขาจึงรีบชำระเงินแล้วก็จูงเด็กหญิงออกมา หากเขากลับได้ยินพนักงานหญิงกระซิบกระซาบให้ได้ยินแว่วๆ ว่า “ผู้ชายคนนั้นแปลกมากพี่นิล หน้าตา การแต่งกายก็ดี้ดีแต่สติคงไม่ปกติ แหวนอยู่บนนิ้วตัวเองแท้ๆ กลับมาบอกว่าร้านเราขาย เอาแต่จะจ่ายเงินท่าเดียว นี่ถ้าหน้าตาดูไม่ได้ละก็ เอคงไล่เขาออกจากร้านแล้ว” ------------
|
คณิตยา
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?] รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์ ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556 พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ --------------- ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310 ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท
|