*** พื้นที่ส่วนตัวของ พันตำรวจเอก ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการกองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี นี้ จัดทำขึ้นเพื่อยืนหยัดในหลักการที่ว่า คนเรานั้นจะมีความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ได้ ก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพในการแสดงความคิดโดยบริบูรณ์ และความเชื่อที่ว่าคนเราเกิดมาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีอำนาจใดจะพรากความเป็นมนุษย์ไปจากเราได้ ไม่ว่่าด้วยวิธีการใด ๆ และอำนาจผู้ใด ***
*** We hold these truths to be self-evident, that all men are created equal, that they are endowed by their Creator with certain unalienable rights, that among these are life, liberty and the pursuit of happiness. That to secure these rights, governments are instituted among men, deriving their just powers from the consent of the governed. That whenever any form of government becomes destructive to these ends, it is the right of the people to alter or to abolish it, and to institute new government, laying its foundation on such principles and organizing its powers in such form, as to them shall seem most likely to effect their safety and happiness. [Adopted in Congress 4 July 1776] ***
Group Blog
 
All Blogs
 
การปรับตัวในการมาเรียนในประเทศสหรัฐ

การมาเรียนในสหรัฐฯ ทำให้เราได้รับวัฒนธรรมดี ๆ หลายประการ ประการแรก คือ การตรงต่อเวลา การตรงต่อเวลา และเอาจริงเอาจังในหน้าที่การงาน โดยเฉพาะในการทำงานเป็นกลุ่มแล้ว การแลกเปลี่ยนทัศนคติ ความคิดเห็น เป็นเรื่องสำคัญมาก หากใครไม่เตรียมตัวมาก่อน และไม่ยอมพูดแสดงความคิดเห็นในการทำงานกลุ่มนี่ ก็อาจจะถูกดูถูกดูแคลนว่าไม่ฉลาด(โง่) โดยเฉพาะในการเรียนของพวก Business School หลายแห่ง ซึ่งจะมีระบบที่ให้นักเรียนที่ทำงานกลุ่มด้วยกัน ลงคะแนนลับเพื่อขับไล่บุคคลที่เป็นประเภท Free Rider ออกจากกลุ่ม ซึ่งย่อมมีผลต่อการเรียน เกรดที่จะได้รับ การสำเร็จการศึกษาด้วย

การตรงต่อเวลา เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ที่จะต้องระลึกถึงตลอดเวลา ชาวฝรั่งเขาตรงต่อเวลาดี นัดเวลาไหนเป็นเวลานั้น ไม่เหมือนคนเอเชีย โดยเฉพาะคนไทยเราด้วยกัน นัดกันแล้ว ไม่เคยเลยที่จะได้เป็นไปตามเวลา ต้องรอกันนานมาก จนเพื่อน ๆ อเมริกัน และชาวญี่ปุ่น ที่เขาเคร่งครัดต่อหน้าที่และเวลามาก เขาถามว่าทำไมคนไทยเป็นอย่างนี้ ผมอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ตรงไหน (เลยเอาไว้บนบ่าเหมือนเดิม) ผมได้แก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ไปว่า เขาคงติดธุระที่ไม่อาจก้าวล่วงได้

นอกจากไม่ตรงเวลาในการนัดหมายแล้ว การเข้าห้องเรียนสายเป็นข้อที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง หากสายแล้ว ก็ไม่ควรจะเข้าห้องเรียน เพราะเป็นการรบกวนสมาธินักเรียนและอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ ทางแก้ไข คือ ต้องไปก่อนเวลา แต่นักเรียนไทยเรา ก็มีชื่อเสียงเรื่องนี้อีก อันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรมีชื่อเสียงเลย มันจึงเป็น “ชื่อเสีย”มากกว่าครับ

การคุยในห้องเรียนเป็นเรื่องที่เสียมารยาทอย่างร้ายแรง ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง ในโรงเรียนกฎหมายฯ นักเรียนจะพูดได้ เมื่อยกมือขออนุญาตและอาจารย์เรียกชื่อให้พูดหรือถามแล้วเท่านั้น แต่นักเรียนไทยบางคน อาจจะเคยชินมาจากสมัยอยู่เมืองไทย ในขณะที่นักเรียนไทยบางคนคุยกัน สายตานักเรียนคนอื่น ๆ นับสิบคู่ ก็มองหน้า ไม่รู้ว่าเขาจะด่าในใจว่า ไอ้พวกนี้ มันไร้วัฒนธรรมจริง ๆหรือเปล่า

เนื่องจากโรงเรียนกฎหมายนั้น ผู้เรียนมักจะเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว ไม่เคยคุยกันในห้องเรียน มีแต่เสียงพิมพ์คอมพิวเตอร์แข่งกันระงมไปหมดฯ รวมถึงมือที่ยกขึ้น เพื่อขออนุญาตแสดงความเห็น แทบจะไม่เคยได้ยินนักเรียนฝรั่งพูดว่า “ขอโทษครับ ผมไม่ได้เตรียมตัวมา” เลย ด้วยเหตุนี้ การเตรียมตัวก่อนไปเรียน อ่านหนังสือ (Assignment) ตามที่อาจารย์มอบหมาย ในแต่ละวิชา ประมาณ ๒๐ หน้าขึ้นไป ต่อวันต่อวิชาให้ทัน เพราะอาจารย์ จะไม่อธิบายอะไรมากมาย มีแต่คำถาม และการแสดงความเห็นของเพื่อนร่วมชั้นเป็นสำคัญฯ หากไม่เตรียมตัวไป จะไม่ได้อะไรเลย นอกจากนั่งตากแอร์เย็น ๆ ให้จบชั่วโมงหนึ่งไปเท่านั้น

เรื่องการคุยกันนี้ สำหรับนักเรียน Undergrad หรือพวกนักเรียนปริญญาตรี นั้น ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า มันคุยกันหรือเปล่า แต่ถ้าผมเป็นอาจารย์ ผมคงไล่นักเรียนที่คุยกันออกจากห้องเรียน แต่อาจารย์อเมริกันนี่ เขาก็ดีนะครับ ยังรักษาหน้านักเรียนที่คุยกัน ไม่ถึงกับไล่ออกจากห้องเรียนฯ

ตอนผมอยู่เมืองไทย เคยได้รับเชิญไปสอนวิชากฎหมายที่สถาบันราชภัฎสองแห่ง และสอนที่วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ เข้าใจความรู้สึกดีว่า ถ้านักเรียนคุยกันแล้ว อาจารย์รู้สึกอย่างไร ที่ราชภัฎฯ มีชื่อในกรุงเทพฯ นักเรียนคุยกันมาก อุตส่าห์เตรียมตัวอย่างดี จัดทำเอกสารไปให้ ฯลฯ ในห้องเรียน ๕๐ กว่าคน จะมีนักเรียนตั้งใจเรียนประมาณ ๓๐ คน ที่นั่งด้านหน้า ผมต้องเชิญนักเรียนที่คุยกันออกจากห้องเรียนไปฯ แต่ท้ายที่สุด ผมก็ต้องขอพิจาณาตัวเอง เพราะไม่มีความสามารถจะสอนนักศึกษาที่เคารพได้

นักศึกษาที่ราชภัฎฯ ต่างจากที่วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ (ภาคสมทบของ จุฬาฯ ) ผมทึ่งนักศึกษาพยาบาลตำรวจ (นศพต) มาก เขาเตรียมตัวมาดี มีส่วนร่วมในการเรียนการสอนเป็นอย่างดี มีคำถามที่น่าสนใจ จึงสอนอย่างต่อเนื่องอยู่ประมาณ ๓ ปี น่าเสียดาย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยุบวิทยาลัยพยาบาลตำรวจไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องผมจะไม่มีที่สอนนะครับ ผมเห็นว่า บุคลากรที่มาเรียนที่นี่มีคุณภาพสูง และเมื่อสำเร็จการศึกษาพยาบาลศาสตร์แล้ว พวกเขาเป็นที่ต้องการของตลาดมาก แม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่มีอัตราบรรจุฯ พวกเขา ก็สามารถผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพทางการแพทย์และพยาบาลให้สังคมไทยได้ ไม่น่าจะยุบเลย

ความจริง เด็กราชภัฎฯ เขาน่าเห็นใจไม่น้อย เขาถูกจัดเป็นพลเมืองชั้นสอง สำหรับนักเรียนชั้นอุดมศึกษาฯ รัฐลงทุนให้พวกเขาน้อยมาก เมื่อเทียบกับจุฬาฯ ธรรมศาสตร์ และสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ ผู้บริหารราชภัฎฯ เอง ผมก็ว่า มีส่วนทำให้สถาบันของตนเองไม่เจริญก้าวหน้าฯ ตอนผมไปสอนฯ ไม่มีแม้แต่เจ้าหน้าที่ของสถาบันฯ มาดูแล ไม่มีห้องพักอาจารย์พิเศษฯ ไม่มีน้ำให้ดื่ม หากผมอยากจะดื่มน้ำ ต้องไปซื้อเอง ถ้าอยากจะใช้ไมค์ฯ ให้ไปเบิกเอาฯ โอ๊ย ผมไม่อยากบ่น แต่คิดในใจว่า แล้วคณาจารย์ดี ๆ ที่ไหน เขาจะมาอดทนกับสภาพแบบนี้วะ ผมขอลาไม่ไหวจริง ๆ







Create Date : 20 มิถุนายน 2548
Last Update : 11 มิถุนายน 2553 13:07:17 น. 7 comments
Counter : 471 Pageviews.

 
ผมได้จัดการแก้ไข หมวดหมู่ของบล๊อก จึงได้ลบบล๊อกเก่า แต่ได้สำเนาเอาคำวิจารณ์และข้อเสนอแนะมาด้วยครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยกันอ่านครับ คำแนะนำของท่านมีคุณท่านและทำให้บล๊อกผมมีชีวิตครับ ขอบคุณอีกครั้ง

*************************************
ขอบขอบคุณ คุณ Sunnine, Carlziess Lens, Rebel, PADAPA—DOO, Invisible Guy, คุณน้องจอมแก่นแสนซนฯ ที่ได้ คอมเม้นท์ดี ๆ ในบล๊อกเก่านะครับ

คุณหมอฯ ที่บอกว่าคนไข้มักมาช้าฯ ไม่ตรงเวลา และคุณหมอเริ่มชินแล้ว ถ้าคนไข้มาช้า คุณหมอ ก็คิดค่า late fee แบบเมืองนอกเลยครับ ถ้าไม่มาเลย นี่โดนหนักเลยครับ แต่สงสัยรวมอยู่ใน ๓๐ บาท รักษาทุกโรคแล้วกระมัง

คุณซันนี่ครับ ผมก็อายจริง ๆ ครับ เขาก็ไม่ได้ว่าเฉพาะคนมาสายหรอก เขาก็ว่าเราด้วย ว่าทั้งชาติเลยก็ว่าได้ ว่าทำไมคนไทย นิสัยอย่างนี้

ผมว่ามันปลูกฝังกันได้นะครับ เรื่องตรงต่อเวลาเนี่ย คุณ PADAPA—DOO อย่าคิดว่าแก้ไม่ได้เลยครับ มันต้องทำได้ซิ ...ต้องมีสักวัน....ที่คนไทย รู้จักคำว่า ต้องตรงต่อเวลา

คุณ Rebel เอาน้ำทะเล หยอดผ่านสายคอมพิวเตอร์มาเผื่อผมด้วยครับ อย่างไรก็เที่ยวเผื่อผมด้วย ทะเลเมืองไทย สวยที่สุดในโลกแล้วครับ ผมมันประเภท ไทยรักไทย ครับ (ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคการเมืองนะครับ)

โดย: POL_US วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:13:55:53 น.
*************************************

ขอบคุณที่ไปเยี่ยม และชมว่าบล๊อคสวยค่ะ เกาะกูดสวยจริงๆ ค่ะ ถ้าเทียบกับเกาะช้างที่มีเทค ผับ ขึ้นเยอะแยะไปหมด ที่นี่ยังรักษาธรรมชาติดีอยู่มาก น้ำทะเลใสจริงๆ ไม่อยากกลับบ้านเลย อยากจะอยู่อีกหลายๆ วัน อิอิ...

ชีวิตในเมืองมันวุ่นวายนัก....ไปเป็นชาวเกาะกันดีมั้ยเนี่ย...

โดย: sunnine วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:14:07:55 น.
*************************************
ตามมาอ่านครับ เพิ่งตื่น อาจารย์ที่สอน Intro Law ตัวหนึ่งของคณะผม เกายณไปแล้ว แต่คณะยังจ้างให้เป็นอาจารย์พิเศษสอนอยู่ ทนเห็นนักเรียนคุยกันไม่ได้ บ่อยครั้งที่อาจารย์วางไมค์ แล้ววิ่ง (ขอใช้คำนี้แล้วกัน 60 กว่าแล้ววิ่งเก่งจริงๆ) วิ่งไปริบบัตรนิสิต เพื่อเอามาจดชื่อหักคะแนน แกบอกว่าถ้าคุณเป็นผู้ชาย ผมชกคุณไปแล้ว(เอาหละสิ แน่จริงๆ) พี่ลองเอาวิธีไปใช้มั่งก็ดีนะครับ เสียแต่ว่า พี่คงจะต้องวิ่งเหนื่อยหน่อย อาจเป็นกิโลๆได้

โดย: แจ้น วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:14:13:03 น.
*************************************
เรื่องการทำงานกลุ่มนี่ เรียนที่ประเทศเรา ต้องอดทนกับพวกfree riderมากๆเลยค่ะ เราจะไปเกี่ยง งานก็ไม่เดิน ในที่สุดก็ต้องทำเอง สรุปโน้ตย่อ ถ้าไม่ให้เอาไปซีร็อกซ์ก็หาว่าไม่มีน้ำใจ

โดย: keyzer วันที่: 3 มิถุนายน 2548 เวลา:15:12:50 น.
*************************************
อิชั้นก็กำลังจะไปเป็นครูกับเค้าเหมือนกันค่ะ คุณตำหนวด
กลัวเหลือเกิ๊น ว่าจะเจอเด็กไม่ตั้งใจเรียน ไม่เก่งไม่เป็นไร แต่ไม่ตั้งใจเรียนนี่ คุณคูอย่างอิชั้น จะตบะแตกเอาง่ายๆ นา อิอิ

ปอลอ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำที่ไปให้ไว้ที่บล็อก
น่าคิด น่าสนใจมากๆ เลย

โดย: ซีบวก... อนาคตครูโหดประจำชาติ อิอิ วันที่: 4 มิถุนายน 2548 เวลา:9:13:42 น.
*************************************
ตั้งใจเรียนนะคะ

โดย: เมฆน้อยสีฟ้า วันที่: 11 มิถุนายน 2548 เวลา:22:32:45 น.
*************************************

ผมได้ตอบไปสำหรับผู้คอมเม้นท์ รอบแรกแล้ว จึงถือโอกาสขอบคุณผู้ที่เขามาอ่าน ในภายหลัง ผมว่า เรื่องไม่ช่วยกันทำงานฯ รับไม่ได้ ครับ แต่เรื่องช่วยกันเรียนนี่ สำหรับผมเต็มทีครับ ช่วยผม เอกสาร จัดทำให้ โน้ต เอาไปเลย ไม่ว่ากันฯ ติวให้ด้วย (ถ้าเกิดตัวเองพอรู้ครับ) เราช่วยกันสนับสนุนกันเต็มที่ครับ “ ยิ่งให้ยิ่งได้ครับ” อย่างน้อย ก็สุขใจ และได้ความรู้แก่ตัวเองครับ





โดย: POL_US วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:5:45:41 น.  

 
สวัสดีค่ะ...

ขอบคุณคุณพี่มากนะค๊ะที่เข้าไปทักทายที่บล็อก

มีความสุขมากๆนะค๊า


โดย: ยัยแก้มบุ๋ม : ) วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:8:49:36 น.  

 
พอดีพ้นช่วงการเป็นนักเรียนไปแล้ว โชคดีไป

ไม่ต้องฟังคุณครูบ่น

แต่เข้ามาเห็นด้วย

เรื่องเราควรรักษาเวลามากกว่านี้ อายเค้า

เหมือนมันกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวคนไทยไปเลย อ๊าย อาย


โดย: จตุพร (พฤษภาคม 2510 ) วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:13:21:47 น.  

 
อยากให้น้องๆ เข้ามาอ่านมากๆ ครับ...การตรงต่อเวลา และการไปเพื่อที่จะเรียนแบบตั้งอกตั้งใจเรียน ไม่ใช่ไปพูดคุย...มีประโยชน์มากครับ


โดย: noom_no1 วันที่: 20 มิถุนายน 2548 เวลา:21:01:32 น.  

 
มาทักทายค่ะพี่
สาระเพียบเหมือนเดิม
ชอบค่ะชอบ


โดย: แม้ว (montagio ) วันที่: 21 มิถุนายน 2548 เวลา:12:08:01 น.  

 
คนไทยไม่ค่อยมีวินัย แม้ว่า จะเจ็บปวดก็ต้องยอมรับตามนั้นครับ...




โดย: dont wanna no วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:0:08:19 น.  

 
ขอติชมนิดหน่อยนะครับ การสอนในราชชภัฎที่คุณบอก ผมกลับคิดว่า คุณน่าจะอดทนกับเด็กๆ ให้มากกว่านี้นะครับ ทำอย่างไรให้เด็กที่ไม่ตั้งใจหันกลับมาตั้งใจ น่าจะเป็นอะไรที่คนที่มีความเป็นอาจารย์ควรจะต้องเอาไปเป็นโจทก์ใหญ่ที่น่าคิดมากกว่า เด็กที่เก่ง ขยันย่อมเป็นที่ชื่นชมของอาจารย์ แต่เด็กที่ไม่เก่ง ไม่ขยันนี่สิครับ ทำยังไงให้เขาอยู่รอดปลอดภัยได้ มันน่าสำคัญมากกว่านะครับ ถ้าเป็นผมผมจะสอนที่ราชภัฎต่อไป.... เพราะผมก็คนหนึ่งที่เป็นเด็กหลังห้อง ไม่ตั้งใจเรียน เเต่สุดท้ายได้ดีเพราะอาจารย์ที่เข้าใจผม เด็กที่ไม่เก่งทำงัยให้อยู่รอดได้ ย่อมสำคัญเเละน่าภูมิใจมากกว่าเด็กที่เก่ง และขยันตั้งใจเรียนเป็นที่ยอมรับของคนในส่วนใหญ่นะครับ ถ้าเป็นผมๆ จะอดทนกับเด็กๆๆ และทำให้เห็นว่าเด็กราชภัฎไม่ได้เป็นเด็กชั้น 2 และมีความรู้ความสามารถเทียบเท่าเด็กมหาวิทยาลัยทั่วๆๆไป อย่างเนี้ยะมีความสุขกว่าเยอะ ...................คุ้ม


โดย: 555 IP: 58.9.60.197 วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:9:15:18 น.  

POL_US
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 82 คน [?]




คลิ๊ก เพื่อ Update blog พ.ต.อ.ดร. ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ ได้ที่นี่
https://www.jurisprudence.bloggang.com






รู้จักผู้เขียน : About Me.

"เสรีภาพดุจดังอากาศ แม้มองไม่เห็น แต่ก็ขาดไม่ได้ "










University of Illinois

22 Nobel Prize & 19 Pulitzer Prize & More than 80 National Academy of Sciences (NAS) members







***คำขวัญ : พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า

ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ

ชาติหวังกำลังฝีมือ

เจ้าคือความหวังทั้งมวล



*** ความสุข จะเป็นจริงได้ เมื่อมีการแบ่งปัน :

Happiness is only real when shared!














ANTI-COUP FOREVER: THE END CANNOT JUSTIFY THE MEANS!






Online Users


Locations of visitors to this page
New Comments
Friends' blogs
[Add POL_US's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.