All Blog
来也匆匆,去也冲冲 【Lái yě cōngcōng, qù yě chōng chōng】
Photo: “来也匆匆,去也冲冲 【Lái yě cōngcōng, qù yě chōng chōng】”สำหรับคนที่เคยเข้าห้องน้ำที่ประเทศจีน อาจจะพบประโยคนี้บ่อยๆติดอยู่ตรงประตูหน้าโถส้วม เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่ามันแปลว่าอะไร ^^วันนี้เราจะมาเรียนคำว่า “匆匆 【cōngcōng】” กันครับ匆匆 【cōngcōng】 เป็น Adj แปลว่า รีบเร่งทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น我今天起晚了,早饭吃了一片面包就匆匆出门了。【Wǒ jīntiān qǐ wǎn le, zǎofàn chī le yī piàn miànbāo jiù cōngcōng chūmén le】วันนี้ฉันตื่นสาย ข้าวเช้ากินขนมปังไปแผ่นเดียวก็รีบออกจากบ้านเลย她匆匆照了下镜子,就走了。【Tā cōngcōng zhào le xià jìngzi,Jiù zǒu le】เขารีบๆส่องกระจกอยู่แว๊บนึง ก็ไปเลยพอจะเข้าใจคำว่า 匆匆 กันแล้วใช่มั้ยครับ ทีนี้เรากลับมาดูประโยคเดิมนี้บ้างว่ามันจะแปลว่าอะไร来也匆匆,去也冲冲 【Lái yě cōngcōng, qù yě chōng chōng】จริงๆประโยคนี้มันมาจากสำนวนจีนที่ว่า 来也匆匆,去也匆匆。【Lái yě cōngcōng, qù yě cōngcōng】 ซึ่งแปลว่า

สำหรับคนที่เคยเข้าห้องน้ำที่ประเทศจีน อาจจะพบประโยคนี้บ่อยๆติดอยู่ตรงประตูหน้าโถส้วม เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่ามันแปลว่าอะไร ^^

วันนี้เราจะมาเรียนคำว่า “匆匆 【cōngcōng】” กันครับ

匆匆 【cōngcōng】 เป็น Adj แปลว่า รีบเร่งทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น

我今天起晚了,早饭吃了一片面包就匆匆出门了。
【Wǒ jīntiān qǐ wǎn le, zǎofàn chī le yī piàn miànbāo jiù cōngcōng chūmén le】
วันนี้ฉันตื่นสาย ข้าวเช้ากินขนมปังไปแผ่นเดียวก็รีบออกจากบ้านเลย

她匆匆照了下镜子,就走了。
【Tā cōngcōng zhào le xià jìngzi,Jiù zǒu le】
เขารีบๆส่องกระจกอยู่แว๊บนึง ก็ไปเลย

พอจะเข้าใจคำว่า 匆匆 กันแล้วใช่มั้ยครับ ทีนี้เรากลับมาดูประโยคเดิมนี้บ้างว่ามันจะแปลว่าอะไร

来也匆匆,去也冲冲 【Lái yě cōngcōng, qù yě chōng chōng】

จริงๆประโยคนี้มันมาจากสำนวนจีนที่ว่า
来也匆匆,去也匆匆。【Lái yě cōngcōng, qù yě cōngcōng】 ซึ่งแปลว่า "มาเร็วไปเร็ว" ซึ่งคำว่า 匆 【cōng】 มันมีเสียงคล้ายกับคำว่า 冲【chōng】 ซึ่งแปลว่า "กดชักโครก"

เค้าก็เลยเอาสำนวนนี้มาดัดแปลงเป็นข้อความติดไว้หน้าห้องน้ำ

来也匆匆,去也冲冲 【Lái yě cōngcōng, qù yě chōng chōng】
ตอนมาเร่งรีบมา (เพราะปวดฉี่ ปวด...) เสร็จธุระแล้วตอนจะไปก็ให้กดชักโครกด้วย

(ที่ต้องติดไว้แบบนี้เพราะว่า คนจีนมีนิสัยที่เข้าห้องน้ำแล้วไม่กดชักโครก คนถัดไปเข้ามา ก็จะเห็นทันทีว่าคนก่อนหน้านี้เค้ากินอะไรลงไปในท้องบ้าง....ซึ่งมันทำให้กินข้าวไม่ลงไปหลายวันเลยทีเดียว)

หวังว่าประเทศไทยคงจะไม่ต้องติดป้ายแบบนี้ในห้องน้ำนะครับ ^^''



Create Date : 06 มีนาคม 2557
Last Update : 6 มีนาคม 2557 23:05:58 น.
Counter : 27619 Pageviews.

1793 comment
วันส่งท้ายปีเก่าจีน (除夕)
Photo: 【เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีจีน】วันตรุษจีน จริงๆแล้วก็คือ วันปีใหม่จีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 31 มกราคม ซึ่งยังไม่ถึง เรามาพูดถึงวันนี้กันก่อนดีกว่า วันนี้คนจีนจะเรียกว่า

วันตรุษจีน จริงๆแล้วก็คือ วันปีใหม่จีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 31 มกราคม ซึ่งยังไม่ถึง เรามาพูดถึงวันนี้กันก่อนดีกว่า วันนี้คนจีนจะเรียกว่า "วันส่งท้ายปีเก่าจีน"

"วันส่งท้ายปีเก่าจีน" ก็คือวันสุดท้ายของปีนั่นเอง (นับแบบปฎิทินจีน) ซึ่งก็ตรงกับวันนี้ (30 มกราคม) นั่นเอง คนจีนจะเรียกวันนี้ว่า 大年三十【dà nián sān shí】หรือเรียกสั้นๆว่า 除夕【chúxī】 หรือบางคนก็เรียกว่า 除夜【chúyè】 หรือ 岁除 【suìchú】



วันส่งท้ายปีเก่าจีน ถือว่าเป็นวันที่ครื้นเครงที่สุดในเทศกาลตรุษจีนเลยก็ว่าได้ กิจกรรมหลักๆในตอนเช้าของวันส่งท้ายปีเก่าจีนก็คือ นำ 春联 【chūnlián】 (กระดาษสีแดงที่เขียนบทกลอนหรือคำอวยพรปีใหม่โดยจะมีเป็นคู่ๆ) มาติดที่ด้านข้างซ้ายขวาของประตูบ้าน ตรงกลางก็จะติด ตัวอักษร 福 【fú】 ซึ่งแปลว่า "ความสุข" ไว้ โดยจะติดแบบกลับด้าน ที่ติดแบบนี้ก็เพราะว่า พอคนอื่นเห็น เค้าก็จะพูดว่า 福倒了 【fú dào le】 (ตัว 福 กลับด้านแล้ว) ซึ่งเสียงเหมือนกับคำว่า 福到了 ซึ่งแปลว่า "ความสุขมาถึงแล้ว" นั่นเอง



hilight ของวันนี้จะอยู่ที่ช่วงเย็น ทุกๆบ้าน ทุกๆครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันไกลแค่ไหน ก็จะดิ้นรนกลับมาให้ถึงบ้านภายในวันนี้ให้ได้ เพื่อที่จะล้อมวงกินข้าวกัน ซึ่งคนจีนเค้าเรียกว่า 吃团圆饭 【Chī tuányuán fàn】

เอ๊ะบางคนอาจจะสงสัย กะอีแค่กินข้าวพร้อมหน้ากันมันยากขนาดนั้นเลยหรอ ขอตอบว่า: "ยากมากครับ" เนื่องจากประเทศจีนนั้นใหญ่มาก บางคนต้องจากบ้านไปไกลเพื่อไปทำงาน ใน 1 ปีก็จะมีวันนี้แหล่ะที่จะได้กินข้าวพร้อมหน้ากัน วันนี้ถึงถือว่าเป็นวันสำคัญมากวันหนึ่งสำหรับพวกเขา



ในระหว่างที่ล้อมวงกินข้าวกัน ที่พลาดไม่ได้เลยก็คือการดูรายการ春节联欢晚会【Chūnjié liánhuān wǎnhuì】ของช่อง CCTV (เรียกสั้นๆว่า 春晚) ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึงประมาณเกือบๆตี 1 ซึ่งรายการ 春晚 นั่นจะมีดาราชื่อดังของจีนมากมายมาร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ละครเวที ร่วมสนุกชิงรางวัลต่างๆ รายการ 春晚 แทบจะพูดได้ว่าเป็นรายการที่คนจีนแทบทั้งประเทศดูในวัน 除夕

ยังมีอีกกิจกรรมนึงที่สำคัญก็คือ "การโต้รุ่งในคืนสิ้นปี" หรือที่คนจีนเรียกว่า 守岁 【shǒusuì】ซึ่งเป็นประเพณีที่ชาวจีนจะไม่นอนหลับกันในคืนวันสิ้นปี เพื่อต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ที่ทำแบบนี้เพราะเชื่อกันว่า จะทำให้พ่อแม่ของตนมีอายุยืนยาว

วันนี้จะมีใคร守岁 กันบ้างรึเปล่าครับ ^__^



Create Date : 30 มกราคม 2557
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2557 17:40:55 น.
Counter : 17105 Pageviews.

0 comment
教师节 【jiàoshī jié】 วันครู
Photo: วันนี้วันครู วันครูภาษาจีนเรียกว่า “教师节 【jiàoshī jié】”วันนี้ถ้าใครได้เรียนกับครูสอนภาษาจีนก็อย่าลืมพูดกับเค้าว่า老师,节日快乐!【Lǎoshī, jiérì kuàilè!】 สุขสันต์วันครูหรือว่า老师,您辛苦了!【Lǎoshī, nín xīnkǔ le】ขอบคุณอาจารย์ ที่ลำบากลำบนสั่งสอนพวกเรา 【เกร็ดความรู้ภาษาจีน】วันครูในประเทศจีนตรงกับวันที่ 10 เดือนกันยายนของทุกปีแต่ปีนี้ (ปี 2014) ทางการจีนได้ประกาศว่าวันครู จากเดิมวันที่ 10 เดือนกันยายน ให้เปลี่ยนเป็นวันที่ 28 เดือนกันยายน ที่เปลี่ยนเนื่องจาก ต้องการให้วันครูมีความหมายลึกซึ้งขึ้น (วันที่ 28 กันยายน เป็นวันเกิดของ 孔子 【Kǒngzǐ】 ขงจื้อ)

วันนี้วันครู วันครูภาษาจีนเรียกว่า “教师节 【jiàoshī jié】”

วันนี้ถ้าใครได้เรียนกับครูสอนภาษาจีนก็อย่าลืมพูดกับเค้าว่า

老师,节日快乐!【Lǎoshī, jiérì kuàilè!】 สุขสันต์วันครู

หรือว่า

老师,您辛苦了!【Lǎoshī, nín xīnkǔ le】
ขอบคุณอาจารย์ ที่ลำบากลำบนสั่งสอนพวกเรา

【เกร็ดความรู้ภาษาจีน】
วันครูในประเทศจีนตรงกับวันที่ 10 เดือนกันยายนของทุกปี
แต่ปีนี้ (ปี 2014) ทางการจีนได้ประกาศว่าวันครู จากเดิมวันที่ 10 เดือนกันยายน ให้เปลี่ยนเป็นวันที่ 28 เดือนกันยายน ที่เปลี่ยนเนื่องจาก ต้องการให้วันครูมีความหมายลึกซึ้งขึ้น (วันที่ 28 กันยายน เป็นวันเกิดของ 孔子 【Kǒngzǐ】 ขงจื้อ)



Create Date : 16 มกราคม 2557
Last Update : 16 มกราคม 2557 12:01:09 น.
Counter : 26678 Pageviews.

7 comment
道不同,不相为谋 ถ้าอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ก็อย่ามาคบกันเลย

ช่วงนี้เห็นการเมืองกำลังเข้มข้น การแบ่งแยกทางความคิดเป็นไปแบบสุดขั้ว เลยทำให้นึกถึงประโยคที่ ขงจื่อ 【孔子】 เคยพูดไว้ว่า

“道不同,不相为谋” 【dào bù tóng,bù xiāng wéi móu】

ความหมายก็คือ 走着不同道路的人,就不能在一起谋划 
【Zǒu zhe bù tóng dàolù de rén ,jiù bù néng zài yìqǐ móuhuà】
ในเมื่อเส้นทางที่เลือกเดินมันไม่เหมือนกัน ก็ไม่สามารถที่จะร่วมงานกันได้

หรือแปลในอีกความหมายนึงก็คือ "ถ้าอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ก็อย่ามาคบกันเลย คงจะพูดกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ"

ขงจื่อ 【孔子】 ยังอธิบายเพิ่มอีกด้วยว่า 
不过,观点不同并非道不同,因为君子需要容纳不同的观点,但不容纳目标不同的人。
【Bùguò ,guāndiǎn bùtóng bìng fēi dào bù tóng ,yīnwéi jūnzǐ xūyào róngnà bùtóng de guāndiǎn ,dàn bù róngnà mùbiāo bù tóng de rén】

แต่ว่าถ้าแค่ความคิดเห็นบางอย่างไม่ตรงกัน ไม่ได้แปลว่า ทางที่เดินไม่เหมือนกัน เพราะว่าคนที่จะเรียกว่าสุภาพชนได้นั้นจะต้องสามารถยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ แต่จะไม่มีทางยอมรับคนที่มีจุดมุ่งหมาย (อุดมการณ์)ที่ต่างจากเราได้

ผมคิดว่าประเทศไทย จริงๆแล้วแบ่งได้เป็น 3 สี (ไม่ใช่สีแดง สีเหลือง อย่างที่แบ่งกันอยู่ตอนนี้หรอกครับ) แบ่งได้เป็น สีดำ สีขาว และ สีเทา

"สีดำ" คือพวกคนเลว คนชั่วแบบสุดขั้ว ในสังคมไทยจริงๆมีไม่เยอะหรอกครับ คงจะไม่เกิน 10%

"สีขาว" คือพวกคนดี ดีแบบสุดขั้วเหมือนกัน ทำอะไรโดยไม่หวังผลตอบแทน ในสังคมไทย ก็มีไม่เยอะเหมือนกันครับ คงจะไม่เกิน 10% เหมือนกัน

"สีเทา" สีนี้มีเยอะที่สุดครับ ก็ประชาชนทั่วไปนี่แหล่ะครับ สีเทาอยู่ระหว่างสีขาวกับสีดำ พร้อมที่จะไปทางที่ดี หรือจะไปทางที่เลวก็ได้ 
ในสังคมเรานั้นมีทั้งคนดีและคนเลว ฉะนั้นจะเลือกคบใครก็ดูให้ดีๆก่อนนะครับ เหมือนกับสุภาษิตไทยที่กล่าวไว้ว่า "คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล"

ปล. blog นี้เป็น blog สำหรับเรียนภาษาจีนนะครับ เพราะฉะนั้น ขออนุญาติงดแสดงความเห็นทางการเมืองใน blog นี้นะครับ ขี้เกียจตามลบครับ ^^



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2556 10:49:42 น.
Counter : 5152 Pageviews.

0 comment
เรื่องราวความรักของแม่ที่มีต่อลูก (母亲节感人故事)
           วันนี้เป็นวันแม่ ก่อนอื่นก็ขออวยพรให้คุณแม่ทุกท่านมีความสุขในวันแม่นะครับ วันนี้ผมจะมานำเสนอเรื่องซึ้งๆเกี่ยวกับความรักของแม่ที่มีต่อลูก แต่ว่า... blog ผมเป็น blog สอนภาษาจีนใช่มั้ยหล่ะครับ แน่นอนเรื่องซึ้งๆเกี่ยวกับคุณแม่ที่จะนำเสนอในวันนี้ก็ต้องเสนอเป็นภาษาจีน ^^

           我上床的时候是晚上11点,窗户外面下着小雪。我缩到被子里面,拿起闹钟,发现闹钟停了——我忘买电池了。天这么冷,我不愿意再起来。我就给妈妈打了个长途电话:“妈,我闹钟没电池了,明天还要去公司开会,要赶早,你六点的时候给我个电话叫我起床吧。”妈妈在那头的声音有点哑,可能已经睡了,她说:“好,乖。” 

           ตอนที่ฉันขึ้นเตียงเตรียมตัวจะนอนคือตอน 5 ทุ่ม ด้านนอกหิมะกำลังตกอยู่ ฉันมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม หยิบนาฬิกาปลุกขึ้นมาเพื่อเตรียมตั้งเวลาแต่กลับพบว่านาฬิกาถ่านหมด!!  เฮ้อ!! ดันลืมซื้อถ่านอีก ข้างนอกก็หนาวซะขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะลุกออกจากเตียงไปซื้อถ่าน ดังนั้นฉันจึงโทรหาแม่บอกแม่ว่า "แม่! นาฬิกาปลุกถ่านหมดแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปประชุมแต่เช้า ตอนหกโมงเช้าแม่โทรมาปลุกหน่อยนะ"  แม่ซึ่งน่าจะนอนหลับไปแล้ว ใช้เสียงแหบๆตอบกลับมาว่า "ได้จ้ะ ลูก"

           电话响的时候我在做一个美梦,外面的天黑黑的。妈妈在那边说:“小桔你快起床,今天要开会的。”我抬手看表,才五点四十。我不耐烦地叫起来,“我不是叫你六点吗?我还想多睡一会儿呢,被你搅了!”妈妈在那头突然不说话了,我挂了电话。

           ตอนที่โทรศัพท์ดัง ฉันกำลังอยู่ในความฝัน ด้านนอกยังมืดๆอยู่ เสียงของแม่ที่ดังมาจากโทรศัพท์พูดว่า "ตื่นได้แล้วลูก วันนี้มีประชุม" ฉันดูนาฬิกาข้อมือพบว่าเพิ่งจะ 5:40 ฉันจึงบ่นกับแม่อย่างไร้ความอดทนว่า "บอกให้หกโมงโทรมาไม่ใช่หรอ ยังนอนต่อได้อีกหน่อยแหน่ะ ปลุกทำไมแต่เช้าเนี่ย!!" เสียงของแม่ในโทรศัพท์อยู่ดีๆก็เงียบไป ฉันก็เลยวางสายไป

           起来梳洗好,出门。天气真冷啊,漫天的雪,天地间茫茫一片。公车站台上我不停地跺着脚。周围黑漆漆的,我旁边却站着两个白发苍苍的老人。我听着老先生对老太太说:“你看你一晚都没有睡好,早几个小时就开始催我了,现在等这么久。”

            ลุกขึ้นมาจากเตียง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกจากบ้าน ตอนเช้าอากาศหนาวมาก พื้นเต็มไปด้วยหิมะ รอบๆป้ายรถเมล์ยังคงมืดๆอยู่ มีคนแก่ 2 คนซึ่งเป็นสามีภรรยากันยืนอยู่ข้างๆฉัน ฉันได้ยินสามีพูดกับภรรยาว่า "ดูสิ!! เมื่อคืนทั้งคืนนอนไม่เป็นสุขเลย ยังเร่งให้ฉันออกมาเร็วๆอีก เนี่ยตอนนี้เลยต้องมายืนรอ ตั้งนานแล้วนะเนี่ย"

            是啊,第一趟班车还要五分钟才来呢。终于车来了,我上车。车的是一位很年轻的小伙子,他等我上车之后就轰轰地把车开走了。我说:“喂,司机,下面还有两位老人呢,天气这么冷,人家等了很久,你怎么不等他们上车就开车?”

            ฉันคิด "ใช่สิ!! ก็รถคนแรกยังต้องอีก 5 นาทีถึงจะมาแหน่ะ" ในที่สุดรถก็มา พอฉันขึ้นรถ คนขับที่ดูอายุยังน้อยๆอยู่ก็รีบออกรถทันที ฉันตะโกนบอกคนขับว่า "เห้ย ยังมีคนแก่ 2 คนรอขึ้นรถอยู่เลย อากาศหนาวขนาดนี้ พวกเขารอมาตั้งนานแล้ว ทำไมคุณไม่รอให้พวกเขาขึ้นมาก็ขับออกมาแล้วหล่ะ"

            那个小伙子很神气地说:“没关系的,那是我爸爸妈妈!今天是我第一天开公交,他们来看我的!”  

            我突然就哭了。————我看到爸爸发来的短消息:“,妈妈说,是她不好,她一直没有睡好,很早就醒了,担心你会迟到。”

            คนขับมองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกๆ "ไม่เป็นไรหรอก พวกเขาคือพ่อแม่ของผมเอง วันนี้เป็นวันแรกที่ได้งานขับรถ พวกเขาเลยออกมาดูผม" 
             ฉันร้องไห้ทันทีตอนที่ได้เห็นข้อความที่พ่อส่งมาให้ "แม่เค้าบอกว่า ขอโทษ เป็นเพราะแม่ไม่ดีเอง แม่เค้านอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน ตื่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว กลัวว่าลูกจะไปสาย"

            อ่านจบแล้วทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่า เมื่อก่อนผมก็เป็นเหมือนผู้หญิงในเรื่องนี้ ตอนเรียนป.ตรี ผมพักอยู่ที่หอ ไม่ได้อยู่บ้านกับพ่อแม่ แม่มักจะโทรมาถามอยู่เสมอว่า กินข้าวยัง เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ย ความรักของแม่ที่มีต่อผม ผมกลับมองว่าเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ ทำไมแม่ชอบจุกจิก ขี้บ่นขนาดนี้ ตอนนี้ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกเสียใจทุกครั้ง

"ในชีวิตนี้คนที่เราติดค้างมากที่สุด แต่กลับไม่ได้ต้องการให้เราตอบแทนอะไร มีแค่ "พ่อแม่" เท่านั้น อย่าไปว่าพ่อแม่ว่า ชอบจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น พวกเขาก็แค่อยากจะดูแลเรา เอาใจใส่เรา พวกเราแค่ใจเย็นๆ ตอบพวกเขา โทรหาพวกเขาบ้าง มีเวลาก็กลับไปเยี่ยมพวกเขาบ้าง เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยใช่มั้ยหล่ะครับ ขอแค่พวกเรายินยอมจะทำ แค่นี้พ่อแม่เค้าก็มีความสุขแล้วหล่ะครับ"

ปล.ถ้าแปลออกมาแล้วภาษาดูแปลกๆ ผิดๆถูกๆก็อย่าว่ากันนะครับ ยังเป็นมือใหม่อยู่เลยครับ ^^



Create Date : 12 สิงหาคม 2556
Last Update : 12 สิงหาคม 2556 11:40:39 น.
Counter : 4892 Pageviews.

4 comment
1  2  3  4  

Jingji
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 130 คน [?]



New Comments