All Blog
【ไวยากรณ์จีน】 一点儿也不。。 (..ไม่ได้เลยซักนิด)


 วันนี้เราจะมาเรียนรูปประโยคนี้กัน

【一+M+(N)+都/也+不/没+。。。。。】

M คือ ลักษณะนาม ส่วน N คือ คำนามนะครับ 

รูปประโยคนี้จะใช้เน้นในการปฎิเสธอะไรซักอย่างหนึ่ง ให้ดูหนักแน่นขึ้น หรืออาจจะถึงขั้นดูเว่อร์ไปเลยก็เป็นไปได้

ตัวอย่างเช่น

เราต้องการจะพูดว่า "เราพูดภาษาจีนไม่เป็น" ปกติ เราก็จะพูดว่า

我不会说汉语。 【Wǒ bù huì shuō hànyǔ】

แต่นี่เราต้องการเน้นให้มากขึ้นว่า "เราพูดไม่เป็นเลยซักนิด" ก็เลยเปลี่ยนเป็นรูปประโยค 【一+M+(N)+都/也+不/没+。。。。。】

我一点儿也不会说汉语。【Wǒ yīdiǎnr yě bù huì shuō hànyǔ】

(คำว่า 一点儿 สามารถใช้เป็นลักษณะนามของทุกสิ่งได้ จะบอกถึงจำนวนนิดหน่อย)

ลองดูตัวอย่างที่มีลักษณะนามอื่นๆนะครับ

这几个字,我不认识。【Zhè jǐ gè zì, wǒ bù rènshi】
ตัวอักษรพวกนี้ ฉันไม่รู้จัก

ทีนี้เราต้องการเน้นให้ดูเว่อร์ขึ้น หนักแน่นขึ้น ก็จะพูดเป็น

这几个字,我一个都不认识。
【Zhè jǐ gè zì, wǒ yī gè dōu bù rènshi】
ตัวอักษรพวกนี้ ฉันไม่รู้จักเลยซักตัว

(คำว่า 个 เป็นลักษณะนามของตัวอักษร 字)

ถ้าต้องการใช้คำว่า 一点儿 ก็ใช้ได้เหมือนกัน ก็จะพูดว่า

这几个字,我一点儿都不认识。
【Zhè jǐ gè zì, wǒ yīdiǎnr dōu bù rènshi】
ตัวอักษรพวกนี้ ฉันไม่รู้จักเลยซักนิด

**ถ้าต้องการเน้นกรรม เราก็สามารถนำมาต่อท้ายลักษณะนามได้ด้วย**

ตัวอย่างเช่น

เราต้องการพูดว่า ตอนเช้าไม่ได้กินข้าว ปกติเราก็จะพูดว่า

早上我没吃饭。【Zǎoshang wǒ méi chīfàn】

แต่ถ้าเราต้องการเน้นว่า "ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินข้าวซักคำเลย" เราก็จะพูดว่า

早上,我一口饭都没吃。
【Zǎoshang, wǒ yīkǒu fàn dōu méi chī】

(饭 ลักษณะนามหน่วยที่เล็กที่สุดก็คือ 口 ที่แปลว่า "คำ")

สรุปก็คือ รูปประโยค 【一+M+(N)+都/也+不/没+。。。。。】 จะใช้เน้นประโยคปฏิเสธให้ดูหนักแน่นยิ่งขึ้น โดยลักษณะนามที่จะใช้นั้น ต้องเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และถ้าต้องการเน้นกรรม ก็สามารถนำมาวางไว้ข้างหลัง ลักษณะนาม (M) ได้ด้วย (ประโยคบอกเล่าทั่วไปไม่สามารถแปลงเป็นรูปประโยคนี้ได้)

ถ้าว่างก็ลองทำแบบฝึกหัดดูนะครับ เผื่อจะเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น ลองดูว่าถ้าเจอประโยคเหล่านี้ จะเปลี่ยนเป็นรูปประโยค 【一+M+(N)+都/也+不/没+。。。。。】 ยังไง

1.她刚到北京,还没有朋友。
2.这几天,我没有说汉语。
3.上午我没喝水。
(เฉลยอยู่ด้านล่างครับ)












1.她刚到北京,一个朋友都没有。
2.这几天,我一句汉语都没有说。
3.上午,我一点儿水都没喝。




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2557 14:51:22 น.
Counter : 35572 Pageviews.

0 comment
能 กับ 可以 เอ๊ะ!! ใช้ต่างกันยังไงนะ

คงจะมีคนไม่น้อยที่เรียนภาษาจีนแล้วเคยถามอาจารย์ว่า 能 【néng】 กับ 可以 【kěyǐ】มันต่างกันยังไงหรอ แปลเป็นภาษาไทย ก็แปลว่า "ได้,สามารถ" เหมือนๆกัน สำหรับคนที่รู้แล้ว ก็ลองดูนะครับว่าเข้าใจตรงกับผมรึเปล่า ส่วนคนที่ยังไม่รู้วันนี้เราจะไขความลับของ 2 คำนี้กัน 

【1】ในกรณีที่พูดถึงความสามารถหรือว่าความถนัดในการทำอะไรซักอย่าง(โดยมากจะเป็นความสามารถที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดหรือว่าไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ฝึกฝน)
ถ้าเป็นในกรณี้นี้ เราจะใช้คำว่า "能" ไม่ใช้คำว่า "可以" 

ตัวอย่างเช่น
คนเราเกิดมา ก็มีตา สามารถมองเห็นได้ มีหูสามารถฟังได้ เป็นความสามารถที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิดถูกมั้ยหล่ะครับ เราก็จะใช้คำว่า 能

我有眼睛,我能看。【Wǒ yǒu yǎnjīng, wǒ néng kàn】
ฉันมีตา สามารถมองเห็นได้

我有耳朵,我能听。【Wǒ yǒu ěrduo, wǒ néng tīng】
ฉันมีหู สามารถฟังได้

【2】มีอีกกรณีหนึ่ง ที่พูดถึงความสามารถหรือความถนัดในการทำอะไรซักอย่างเหมือนกัน แต่จะเป็นการพูดถึงทางด้านปริมาณ ในกรณีนี้คำว่า 能 จะตรงกับคำว่า "เก่ง" ไม่สามารถใช้คำว่า 可以 เช่นกัน (ด้านหน้า 能 มันจะมีคำว่า 很,真) ตัวอย่างเช่น

他真能吃。【Tā zhēn néng chī】
เขากินเก่งจริงๆ

他真能说,说了3个小时了。
【Tā zhēn néng shuō, shuō le sān gè xiǎoshí le】
เขาพูดเก่งจริงๆ พูดมาตั้ง 3 ชั่วโมงแล้วยังไม่หยุดเลย 

【3】แต่ในกรณีที่ต้องการแสดงถึงว่า มีความสามารถที่จะทำสิ่งๆหนึ่งได้ในระดับหนึ่ง (ไม่ว่าระดับนั้นจะสูงหรือต่ำก็ตาม) ในกรณีนี้ เราสามารถใช้ได้ทั้ง 能 และ 可以 ตัวอย่างเช่น

他一天能记住50个汉字。
【Tā yītiān néng jì zhù wǔ shí gè hànzì】
วันนึงเขาสามารถจำตัวอักษรจีนได้ 50 ตัว

จากประโยคตัวอย่างด้านบนจะเห็นว่าเป็นความสามารถในด้านความจำ แล้วมีการบ่งบอกถึงระดับความสามารถในการจำ ก็คือ วันนึงจำได้ 50 ตัวอักษร ในกรณีนี้เราสามารถใช้ 可以 แทนที่ 能 ได้

他一天可以记住50个汉字。
【Tā yītiān kěyǐ jì zhù wǔ shí gè hànzì】

ยกตัวอย่างอีก 1 ตัวอย่างละกัน พูดถึงความสามารถในการทำงานบ้างละกัน สมมุติต้องการจะบอกว่า เขาขยันมาก วันนึงทำงานได้ตั้ง 12 ชั่วโมง เราก็จะพูดว่า

他很努力,一天能/可以工作12个小时。
【Tā hěn nǔlì, yī tiān néng/kěyǐ gōngzuò shí èr gè xiǎoshí】

แต่ว่าถ้าเป็นในรูปปฏิเสธ จะไม่สามารถใช้คำว่า 不可以 ได้ จะใช้ได้แค่คำว่า 不能 ตัวอย่างเช่น

我一个小时不能记住100个汉字。
【Wǒ yī gè xiǎoshí bù néng jì zhù yī bǎi gè hànzì】
ชั่วโมงนึง ฉันจำตัวอักษรจีน 100 ตัวไม่ไหวหรอก

【4】ในกรณีที่พูดถึง ความสามารถที่ก่อนหน้านี้มีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถที่เกิดจากการฝึกฝนหรือไม่ต้องฝึกฝนเรียนรู้ก็ตาม แต่อาจจะด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งทำให้สูญเสียความสามารถนั้นไป หรือ สูญเสียไปแล้ว และได้ฟิ้นฟูกลับคืนมาแล้ว ในกรณีนี้ เราจะใช้คำว่า 能 และ 不能 เท่านั้น

他手受伤了,不能打篮球了。
【Tā shǒu shòushāng le, bù néng dǎ lánqiú le】
มือเขาได้รับบาดเจ็บ เล่นบาสไม่ได้แล้ว
(เมื่อก่อนเล่นบาสเป็น แต่เพราะว่าได้รับบาดเจ็บก็เลยเล่นบาสไม่ได้)

他脚好了,能踢足球了。
【Tā jiǎo hǎo le, néng tī zúqiú le】
ขาเขาหายดีแล้ว เตะบอลได้แล้ว
(เมื่อก่อนก็เตะบอลเป็น แต่เพราะขาได้รับบาดเจ็บเลยเตะบอลไม่ได้ชั่วคราว แต่ตอนนี้หายดีแล้ว เลยกลับมาเตะใหม่ได้)

【5】พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะทำเรื่องๆหนึ่งหรือสิ่งๆหนึ่ง ในกรณีนี้ เราจะสามารถใช้ได้ทั้งคำว่า 可以 และ 能 ตัวอย่างเช่น 

A:你明天能/可以去吗?【Nǐ míngtiān néng/kěyǐ qù ma?】
A:พรุ่งนี้ไปได้มั้ย

B:我明天能/可以去。【Wǒ míngtiān néng/kěyǐ qù】
B:พรุ่งนี้ไปได้

(ประโยคตัวอย่างข้างบนเป็นการถามถึงความเป็นไปได้ที่จะไปวันพรุ่งนี้ จึงสามารถใช้ 可以 แทนได้)

หรืออย่างเวลาที่เราไปซื้อของ แล้วจะถามแม่ค้าว่า ลดได้มั้ย (ซึ่งก็คือถามถึงความเป็นไปได้ที่จะลดราคาสินค้าให้) ในกรณีแบบนี้เราก็ใช้ได้ทั้ง 能 และ 可以 ได้

A:这件衣服能/可以便宜一点儿吗?
A:【Zhè jiàn yīfu néng/kěyǐ piányi yīdiǎn ma?】
A:เสื้อตัวนี้ลดได้อีกมั้ย

B:能/可以再便宜一点儿。
B:【Néng/kěyǐ zài piányi yīdiǎnr】
B:ลดได้อีกนิดหน่อย

(ในกรณีที่ใช้คำว่า 可以 สามารถตอบแบบห้วนๆได้เลยว่า 可以 แต่ถ้าใช้คำว่า 能 ด้านหลังจะต้องมีคำกริยาต่อท้ายเสมอ อย่างเช่น 

A:你能去吗?คุณไปได้มั้ย
B:可以。/能去。/可以去。 ไปได้(เลือกตอบแบบไหนก็ได้)

แต่ถ้าเป็นรูปปฎิเสธ จะไม่สามารถใช้คำว่า 不可以 ได้ จะใช้ได้แค่คำว่า 不能 ตัวอย่างเช่น

A:你能/可以吃牛肉吗? 【Nǐ néng/kěyǐ chī niúròu ma?】
A:คุณกินเนื้อวัวได้มั้ย

B:我不能吃牛肉。【Wǒ bùnéng chī niúròu】
B:ฉันกินเนื้อวัวไม่ได้

【6】ในกรณีที่พูดถึง การอนุญาติทำอะไรซักอย่าง หรือถามว่าสามารถทำอย่างนู้นอย่างนี้ได้มั้ย โดยปกติแล้วจะใช้คำว่า 可以

ตัวอย่างเช่น ลูกกำลังขออนุญาติแม่กินช็อคโกแลต ก็จะพูดกับแม่แบบนี้

A:妈妈,我可以吃巧克力吗?【Māma, wǒ kěyǐ chī qiǎokèlì ma?】
A:แม่ครับ ผมกินช็อคโกแลตได้มั้ย

B:可以吃。【kěyǐ chī】
B:กินได้

แต่ถ้าเป็นในรูปปฎิเสธ เป็นการห้ามหรือไม่อนุญาติให้ทำอะไรซักอย่างเราจะสามารถใช้ได้ทั้ง 不可以 และ 不能  ตัวอย่างเช่น

A:我可以用你的手机吗?【Wǒ kěyǐ yòng nǐ de shǒujī ma?】
A:ผมใช้มือถือคุณได้มั้ยครับ

B:不可以/能用。【Bù kěyǐ/néng yòng】
B:ใช้ไม่ได้,ห้ามใช้

หรืออย่างเช่นเราต้องการห้ามไม่ให้คนสูบบุหรี่ เราอาจจะพูดกับเค้าว่า

这里不能吸烟。【Zhèlǐ bù néng xīyān】
ที่นี่สูบบุหรี่ไม่ได้

【7】ในกรณีที่ต้องการแนะนำให้คนอื่นลองทำอะไรซักอย่าง ในกรณีนี้เราจะใช้คำว่า 可以 ไม่สามารถใช้คำว่า 能 ได้ ตัวอย่างเช่น

如果有事,你可以找我帮忙。
【Rúguǒ yǒushì, nǐ kěyǐ zhǎo wǒ bāngmáng】
ถ้ามีธุระอะไร ก็สามารถหามาฉัน ให้ฉันช่วยได้

北京很好玩儿,你可以去看看。
【Běijīng hěn hǎowánr, nǐ kěyǐ qù kànkan】
ปักกิ่งสนุกนะ คุณลองไปดูสิ

เป็นยังไงบ้างครับ พอจะเข้าใจและใช้เป็นกันมากขึ้นมั้ย วิธีการใช้ของคำว่า 能 และ 可以 อาจจะมีเยอะกว่านะครับ แต่ว่าที่ใช้บ่อยๆก็จะมีประมาณนี้ อาจจะยังยากไปนิดนึงสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มเรียนใหม่ๆ ค่อยๆเรียนรู้และค่อยๆจำรูปประโยคไปละกันนะครับ




Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2557 20:31:04 น.
Counter : 23735 Pageviews.

0 comment
和/跟。。。过不去 【จงใจหาเรื่อง....】

【和/跟。。。过不去】

รูปประโยค 和/跟。。。过不去 จะแปลว่า จงใจหาเรื่องใครซักคนหนึ่ง หรือว่า อะไรซักอย่างหนึ่ง เช่น ทำงานในบริษัท เจ้านายเราไม่ชอบขี้หน้าเรา จงใจหาเรื่องเราตลอดเวลา เมื่อมีเพื่อนร่วมงานถาม เราอาจจะพูดกับเค้าว่า

他故意跟我过不去。【Tā gùyì gēn wǒ guòbuqù】
เขาจงใจหาเรื่องฉันชัดๆ

หรืออย่างเช่น เวลาเห็นเพื่อนกำลังวิตกกังวลากับเรื่องอะไรซักอย่าง จนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ สุขภาพแย่ลงทุกๆวัน เราอาจจะพูดกับเพื่อนว่า

你别跟自己过不去。【Nǐ bié gēn zìjǐ guòbuqù】
อย่าหาเรื่องกับตัวเองเลย (จริงๆแล้วก็คือ ปล่อยวางซะบ้างเถอะ)



Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2557 16:24:20 น.
Counter : 8127 Pageviews.

0 comment
วิธีการใช้ 的 ในภาษาจีน
  วันนี้เราจะมาเรียนวิธีการใช้ 的 กันนะครับ

“的” ในภาษาจีนนั้นทำหน้าที่หลักๆอยู่ 2 อย่างคือ 

1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ

รูปแบบที่ใช้คือ “N + 的 + N”

ตัวอย่างเช่น
我的书 【Wǒ de shū】 หนังสือของฉัน
他的笔 【Tā de bǐ】 ปากกของเขา
朋友的手机 【Péngyǒu de shǒujī】 มือถือของเพื่อน

2. ใช้แสดงคุณลักษณะ ขยายคำนาม

รูปแบบที่ใช้คือ “(很)Adj+的+N”

ตัวอย่างเช่น
很好的老师 【Hěn hǎo de lǎoshī】 อาจารย์ที่ดีมาก
很旧的手机 【Hěn jiù de shǒujī】 มือถือที่เก่ามาก
很难的问题 【Hěn nán de wèntí】 คำถามที่ยากมาก

Special!! ถ้าในกรณีที่เป็นรูปแบบที่ 1 (N+的+N) แต่ไม่ได้ใช้แสดงความเป็นเจ้าของสามารถละ 的 ทิ้งได้ ตัวอย่างเช่น

男老师 【Nán lǎoshī】 อาจารย์ชาย  (คำว่า 男 แปลว่า ผู้ชาย ไม่ได้ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของคำว่า 老师 ซึ่งแปลว่าอาจารย์ เพราะฉะนั้น เราสามารถละ 的 ทิ้งได้)

中文书 【Zhōngwén shū】 หนังสือภาษาจีน

运动鞋 【Yùndòng xié】 รองเท้ากีฬา

** ที่ต้องจำไว้อย่างนึงก็คือ คำว่า 的 นั้นใช้ได้กับคำนามเท่านั้น เพราะฉะนั้นด้านหลังของ 的 จะต้องเป็น "คำนาม" เท่านั้นครับ**

อ่านวิธีใช้คำเสริมโครงสร้าง 的 地 得 แบบเบื้องต้นได้ที่ 




Create Date : 12 มกราคม 2557
Last Update : 12 มกราคม 2557 13:08:03 น.
Counter : 42636 Pageviews.

0 comment
"左一 + ลักษณะนาม , 右一 + ลักษณะนาม"
เวลาที่เราต้องการจะพูดถึงจำนวนเยอะๆ ในภาษาจีน เรามักจะใช้คำว่า 很多 หรือว่า 那么多,这么多 ใช่มั้ยหล่ะครับ

แต่วันนี้เราจะมาเรียนรูปประโยคใหม่ ที่ใช้บอกถึงจำนวนเยอะๆได้เหมือนกันครับ

"左一 + ลักษณะนาม , 右一 + ลักษณะนาม"



เรามาดูตัวอย่างจากในรูปกันก่อนดีกว่า สมมุติว่าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ละกันนะครับ

วันนี้แม่อารมณ์ดี เลยอยากเดินเข้ามาคุยกับลูกในห้อง พอเปิดประตูมาปุ๊บ ก็เห็นลูกกำลังรื้อเสื้อที่วันนี้เพิ่งซื้อมาใหม่ออกมาดู แม่เห็นเข้า ก็เลยมองไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ยัดเต็มไปด้วยเสื้อผ้า ไม่รู้ว่าจะเอาเสื้อใหม่ยัดเข้าไปตรงไหนแล้ว แม่ก็ทนไม่ได้ที่จะบ่นลูก ก็เลยบอกว่า

你看你,左一件,右一件的,咱们家都能开时装店了。
【Nǐ kàn nǐ ,zuǒ yī jiàn ,yòu yī jiàn de ,zánmen jiā dōu néng kāi shízhuāngdiàn le】
ดูสิลูก ซ้ายก็เสื้อ ขวาก็เสื้อ (เสื้อเยอะขนาดนี้) บ้านเราจะเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้าได้แล้วนะลูก!

ลักษณะนามของเสื้อผ้าคือ 件 รูปประโยคนี้ก็เลยใช้คำว่า
左一件,右一件 ในการบอกว่า เสื้อผ้าเยอะมาก

ลองดูตัวอย่างอีกซักประโยคละกันนะครับ

你左一本,右一本的,买那么多书干嘛?
【Nǐ zuǒ yī běn ,yòu yī běn de ,mǎi nà me duō shū gàn ma?】
คุณซื้อหนังสือเยอะแยะขนาดนี้มาทำไมหรอ?
(ลักษณะนามของหนังสือคือ 本)

ใช้เป็นแล้ว เวลาจะพูดถึงอะไรที่มีจำนวนมากๆก็สามารถใช้รูปประโยคนี้แทนได้นะครับ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ



Create Date : 07 ตุลาคม 2556
Last Update : 7 ตุลาคม 2556 21:23:56 น.
Counter : 3243 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  

Jingji
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 130 คน [?]



New Comments