|
Chapter 20 - My Idiot Job & Supervisor
งานคือเงิน เงินคืองาน ทำไปนานๆ ตูดบานแน่กรู
อย่างที่บอกไปว่างานที่ผมทำในสวนสนุกมันก็คือ งานที่ให้ผมยืนอยู่เฉยๆ จับไม้กวาดขึ้นมาปัดกวาดบ้างเล็กน้อย แล้วก็รอให้ถึงเวลาClock out เสร็จแล้วก็มารอรับเช็ค ผมว่ามันทรมารนะงานแบบนี้ที่ต้องยืนอยู่ทั้งวันวันละ8ชั่วโมง แถมยังอยู่คนเดียวด้วย ห้ามออกไปไหนอยู่แต่ในร้านที่มีพื้นที่ 5คูณ5ตารางเมตร ไม่ได้พูดกับใคร พูดเล่นทักทายลูกค้าบ้างนานๆที แต่ถึงจะเซ็งโคตรๆยังไงผมก็หาความสนุกเล็กๆน้อยๆจากการทำงานที่เหมือนติดคุกอยู่ในสวนสนุกนี้ได้
วันแรกที่ผมเข้ามาทำงานหลังจากผ่านการTrainingมาจากMerchandise Departmentอย่างดี เขาก็ส่งให้ผมไปทำงานคนเดียวเลยที่ร่านTotally Toddlerแห่งนี้ ทีแรกผมถึงกับงง อะไรวะให้กุกระเหรี่ยงผู้มาจากไทยแลนด์ รับผิดชอบหน้าที่ในร้านนี้คนเดียวเหรอ มันเป็นร้านขายของจริงๆ ไม่ใช่เปิดซุ้มขาย เขาคงจะไว้ใจผม ผมคิดแบบนั้นนะทีแรก แต่ทำไปนานๆเข้าก็รู้ว่าที่นี่มันไม่มีใครอยากจะทำเขาจึงส่งผมมาประจำ
ผมมีSupervisorชื่อว่าDelia เธอเป็นเม็กซิกันคับแต่ผิวขาวเหมือนพวกฝรั่ง เธอพูดภาษาสเปนได้คล่องเชียวแหละ Deliaอายุเท่าๆผมนี่แหละ เธอตัวเล็กดูน่ารักดี ดวงตาสีดำขนตายาวสวยทีเดียว เห็นตัวเล็กๆน่ารักแบบนี้แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่แรงคับ เรียกได้ว่าเป็นMean Girlคนนึงเลยทีเดียว ดูเธอจะไม่ค่อยชอบผมเท่าไร อันนี้มันมีที่มาคับ เหตุมันเป็นเพราะว่าไอ้เจเพื่อนคนไทยที่มันทำงานอยู่กับผมด้วยกันนี่แหละ มันไม่มีอะไรทำมันเลยมาล้อว่าผมแอบชอบเพื่อนของDeliaคนนึงที่ชื่อว่าJenny
Jennyเธอก็เป็นสาวเม็กซิกันเหมือนกัน อายุเกือบ30ได้แล้ว และที่สำคัญJennyมีลูกมีครอบครัวแล้ว ไอ้เจมันล้อไปล้อมาไม่รู้Jennyคิดจริงหรือป่าว เธอเลยไม่คุยกับผมไปเลย ผมก็พยายามเข้าไปคุยกับเธอนะแต่เธอก็เหมือนกับว่าไม่อยากที่จะโดนไอ้เจล้อ เลยเมินๆผมไปเลย ไอ้เจมันเป็นคนบ้าๆบอๆแต่ผมชอบมันนะ มันเป็นสาวอักษรศิลปากร มันก็ช่วยผมไว้หลายครั้งเหมือนกันในเรื่องงาน
จนในที่สุดแล้วJennyก็รังเกียจผมไปซะงั้น ไม่รู้ว่าคิดจริงๆหรือยังไง โถ่..มีลูก2คนแล้วผมจะไปชอบอีกได้ไงวะเนี่ย หลังจากนั้นไม่นานDeliaก็เป็นเหมือนกันค่อยๆรังเกียจผมอีกคนนึง
งานที่ผมต้องรับผิดชอบวันๆนึก็ไม่มีอะไรมาก แค่หายใจเข้าหายใจออก ปัดกวาดเช็ดถูบ้าง นานๆDeliaจะเข้ามาตรวจสักที พอเข้ามาผมก็รีบวิ่งไปเอาไม้กวาดมากวาดพื้นทันที เหอๆๆๆ บางครั้งก็ได้รับคำสั่งพิเศษบ้าง เช่นไปขนของ แกะกล่องกระดาษ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานที่โคตรจะเซ็งทั้งนั้น ผมมีเพื่อนร่วมงานคนนึงชื่อว่าEloy Eloyมันเป็นหนุ่มอายุ18ร่างท้วมนิดๆแต่ไม่อ้วน คนอเมริกันจะเรียกว่ามันว่าHispanic Whiteคือมีเชื้อสายเม็กซิกันแต่ผสมไป ผสมมาจนตอนนี้เป็นคนผิวขาวแบบฝรั่งแล้ว Eloyมันบอกว่ามันพูดสเปนได้นิดหน่อย (พูดอังกฤษไม่ได้เลย555) ไม่ใช่ครับมันพูดอังกฤษชัดคับแบบอเมริกันเลย ก็เพราะมันเกิดที่อเมริกา มันชอบมาถามผมถึงเรื่องมวยไทยอยู่บ่อยๆ มันคลั่งUltimate Fightingมาก มันบอกว่าเวลามันดูUFCมันจะเรียกเพื่อนๆมันมาดูที่บ้าน ดูไปดูมาก็ล่อกันเองเลย
Eloyมันน่าสงสารครับมันฝันอยากจะเป็นตำรวจตงฉิน แต่มันเสือกเคยโดนจับข้อหาเสพกัญชา เลยอดเป็นตำรวจเลย จริงๆแล้วผมว่าEloyนิสัยดีคับผมชอบมัน เห็นมันครั้งแรกก็รู้เลยว่าไอ้นี่หน้าตาไม่มีพิษมีภัย คบได้สนิทใจ มันเป็นคนจริงใจดี คำพูดของมันที่พูดออกมาก็ ฟักฟักซัคซัคทั้งนั้นแหละคับตามแบบวัยรุ่นทั้วไป แต่เวลาผมจะถามหรือจะขอให้มันทำอะไรให้ มันช่วยผมเต็มที่ มีอยู่ครั้งนึงผมคุยเรื่องเพลงกับมัน ผมบอกมันว่าผมชอบวงRED HOT CHILI PEPPERS วันรุ่งขึ้นมันไรท์เพลงของRED HOTมาให้ผมเลย
อีกคนที่อยากพูดถึงชื่อTing Tingเป็นคนแล้วแก่คับ อายุสัก60กว่าได้ จริงๆคับไม่ได้เขียนผิด ที่นี่คนอายุ60กว่าก็ต้องทำงานเดี๊ยวผมจะเล่าให้ฟังวันหลังว่าทำไม Tingนิสัยดีคับ เป็นโปลิสไม่ใช่ตำรวจนะคับ เขาบอกว่าบรรพบุรุษเขามาจากโปร์แลนด์ Tingหน้าตาเหมือนกับGrannyเลย ใครเคยดูการ์ตูนเรื่องTweeztyคงจำคุณยายคนที่ถือไม้กวาดไล่ตีแมวได้ คนนั้นแหละคับTing ผมให้เหรียญ10บาทไทยกับTingไป วันนึงTingบอกผมว่าเหรียญของผมเดินทางไปอยู่ที่New Jersyแล้ว เพราะเขาให้เหรียญของผมกับหลานชายที่เป็นนักสะสมเหรียญต่อ
ถึงงานของผมมันออกจะธรรมดาแต่บางวันผมก็ได้เจอกับลูกค้าแปลกๆเข้ามาในร้านเหมือนกัน ซึ่งมันก็ทำให้ขำๆได้บ้าง มีอยู่วันนึงผมทำงานอยู่ในร้านตามปกติ สาวญี่ปุ่นกลุ่มนึงเดินเข้ามาในร้านเลย5คน โอโหหัวใจแทบหยุดเต้น สวยๆเอ็กซ์ๆทั้งนั้น น่ารักอีกด้วย โอ้ววววเราเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ หลังจากเดินดูของในร้านสักพักสาวสวยคนนึงก็หยิบหมวก(ของเด็ก)ขึ้นมาลองสวมดูแล้วเดินมาจ่ายตังกับผม ผมเลยต้องขอคุยด้วยซะหน่อยเผื่อจะได้รู้จักกันไว้ เผื่อจะได้กินซูชิแกล้มกับซาลาเปาในอนาคต
ผมถามเธอว่ามาเธอจากญี่ปุ่นหรือ? Are u from Japan? เธองงคับ ทำหน้าเอ๋อ ผมเลยรู้ว่าเธอพูดอังกฤษไม่เป็น แต่แหมน่ารักขนาดนี้ผมเลยพยายามใหม่กะจะชวนเธอให้เธอพูดด้วยให้ได้ Are u a tourist? เธองงอีกคับ แล้วทำหน้าเอ๋อเหมือนเดิม แล้วเธอก็ยกมือข้างขวาขึ้นมาทำมือแบบที่เราวัดความสูงกันน่ะ แล้วพูดออกมาเป็นสำเนียงญี่ปุ่นว่าTall Tall???? ให้ตายสิคับ เธอได้ยินคำว่าTouristเป็นTall เธอคงนึกว่าผมถามเธอว่าเธอสูงเท่าไร? จะบ้าเหรอไง ผมหมดความพยายามแล้ว เลยให้เธอจ่ายเงินค่าสินค้าเลยไม่ชวนคุยมันแล้ว แต่เธอต้องการจ่ายเงินโดยใช้บัตรเครดิตคับซึ่งตามระเบียบผมจะต้องขอดูพาสปอร์ตเธอก่อน ผมเลยบอกเธอว่า May I See your Passport? เหมือนเคยคับ แล้วก็ก็หยิบบัตรบ้าอะไรไม่รู้ในกระเป๋าตังมาให้ผม เป็นนามบัตรมีแต่ภาษาญี่ปุ่น ผมเลยพูดใหม่ช้าๆว่าP-a-s-s-p-o-r-t เธอจึงทำหน้าgetคับ เธอล้วงมือเข้าไปตรงขอบกางเกง!!??!! ทำให้ผมเห็นผิวขาวๆที่หน้าท้องของเธอ หุ่นดีมากคับ เธอล้วงเข้าไปหยิบพาสปอร์ตของเธอมาให้ผม ให้ตายสิ เธอเหน็บพาสปร์อตไว้ตรงขอบกางเกง ผมมองไม่ทันเห็นว่าเธอเหน็บไว้ในกางเกงในหรือนอกกางเกงใน!!??!! เธอยืนพาสปอร์ตให้ผม ผมรับมาเปิดดูแขนสั่นไปหมดเลย เธอชื่ออายูมิ อายุ18ปี จากนั้นผมก็ส่งคืนให้เธอไป ในใจกะจะเอามาดมสักทีก่อนส่งคืน แต่กลัวอายูมิจะด่าว่า"ไอ้โรคจิต"เป็นภาษาญี่ปุ่น
อีกรายนึงเข้ามาในร้านของผม4คนคับ ชาย2หญิง2 มีผู้ชายคนนึงเป็นเอเชีย นอกนั้นเผ็นฝรั่งหมด ชายคนที่เป็นฝรั่งเดินเข้ามาคุยกับผม "คุณมาจากไหนเหรอ มาทำงานที่นี่เหรอ แล้วจะกลับเมื่อไรล่ะ" ผมก็ตอบไปหมดทุกคำถาม แล้วหมอนี่ก็เริ่มถามว่า "คุณรู้จักJesusไหม" ผมตอบไปว่า "ผมรู้จักสิคับ ผมเคยเรียนมา โถ่ศาสนาคริสตร์ พระเยซูทำไมจะไม่รู้จักเล่า" ตาของหมอนี่ดูมีประกายขึ้นมาทันที"แล้วคุณนับถือศาสนาอะไร"เขาถาม ผมตอบไปว่า"ผมเป็นพุทธ" เขารีบพูดขึ้นมาทันทีว่า "ถ้าผมไม่ยอมรับในพระเจ้า ตายไปผมจะตกนรกนะ" แล้วเขาก็ชักชวนต่างๆนานาให้ผมยอมรับในพระเจ้าของเขา และให้ผมเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสตร์ เกลี้ยกล่อมผมซะนานเขาก็ถามผมว่า ผมมีคำภีร์ไบเบิลไหม ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วว่าผมไม่มี เขาทำหน้าตกใจคับ เหมือนกับว่าผมบอกเขาไปว่าผมมี2จู๋ เขารุกต่อทันทีโดยบอกว่าจะส่งไบเบิลมาให้ผมเล่มนึง แล้วก็ขอเมลผมไป เขาย้ำว่าให้ผมเลือกเอาเองว่าอยากจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ตอนที่ผมตายแล้ว หลังจากที่ได้เมลของผมไปแล้วเขาก็เอามือขึ้นมากุมไว้ตรงอก 3คนที่มากับเขายกมือขึ้นมากุมเอาไว้เหมือนกันทันที แล้วก็ก้มหน้าสวดอะไรไม่รู้ให้ผมฟังดังลั่นร้านไปหมด ผมฟังไม่ออกเลยสักคำจนมาถึงประโยคสุดท้ายเขาบอกว่าIn the name of god May the god bless PK ทำนองนี้????? งงคับ จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้ซื้ออะไรเลย(ผมไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้เป็นนักบวชหรือป่าว เพราะเขาสามารถสวดให้พรแก่ผมได้)
อีกรายนึงมีผู้หญิงหน้าตาผมดูไม่ออกว่าจะอยู่จำพวกไหนกันแน่ เอเชียก็ไม่ใช่ อินเดียนแดงก็ไม่เชิง เม็กซิกันก็คล้ายๆ เธอมาถามผมว่า "สุขาอยู่หนใด" ผมก็เลยบอกทางเธอไป แต่มันมีกลิ่นแปลกๆสิคับตอนที่เธอเดินเข้ามา เหม็นมากๆ มันคือกลิ่นอึแน่นอนผมมั่นใจ พอเธอหันหลังเดินออกไปเท่านั้น ผมหายสงสัยที่มาของกลิ่นเลย เธอขี้แตกคับติดเต็มกางเกงเลย สงสัยจะไปเล่นเครื่องเล่นที่มันน่ากลัวมาซะจนราดเลย 555
รายสุดท้ายนี่แปลกแต่จริงคับ มีผู้หญิงคนนึงฝรั่งผิวขาวผมบล็อนหุ่นดูดีเลย เข้ามาเที่ยวในParkโดยใส่บิกินี่แว่นกันแดดกับรองเท้า เท่านั่นไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย เดินกลางถนนด้วยชุดแค่นั้นจริงๆ เสียดายตอนนั้นไม่มีกล้อง จะได้ถ่ายมาให้ดูกัน
Create Date : 11 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 28 กันยายน 2550 1:32:43 น. |
|
6 comments
|
Counter : 509 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้อนน้ำตาล IP: 124.157.215.240 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:1:01:12 น. |
|
|
|
โดย: sweetpolarbeat IP: 222.123.219.102 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:38:34 น. |
|
|
|
โดย: MeJayya วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:19:56 น. |
|
|
|
โดย: Annenar IP: 158.108.2.8 วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:15:13:16 น. |
|
|
|
โดย: bell IP: 61.91.200.29 วันที่: 16 ธันวาคม 2550 เวลา:21:48:23 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
PK worked as a retailler in Totally Toddler store Six Flags Magic Mountain Valencia California by himself (one man standing) Since March 2006 - June 2006
"In Some Situation the funninest place turn to be the borriest place"
"I'm a working man I don't understand why clockout come so slow everytime That's one line I stay right behind"
|
|
|
|
|
|
|
|