|
ข้าวราดแกงกะหรี่ และเส้นหมี่แกงกะหรี่ไข่
เมนูนี้ดัดแปลงมาจากสูตรของคุณกัสซี่ค่ะ ลองไปดูสูตรเต็มๆ ของเธอได้ที่นี่ //www.maama.com/column/guzzie/view.php?id=000145 ส่วนสูตรของแอนเป็นมังสวิรัติค่ะ เลยใช้ซุปก้อนเห็ดหอมทำน้ำซุปแทนปลาโอ ส่วนมันฝรั่งบด ใช้แป้งข้าวโพดละลายน้ำแทน
ส่วนผสม สูตรนี้สำหรับ 5-6 ที่ - กระเทียมสับ 1 หัว - หัวหอมใหญ่ 2 หัว - แครอทหัวกลางค่อนข้างเล็ก 3 หัว - ข้าวโพดอ่อน 6 ฟัก - ซีอิ๊วขาว ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ - เกลือป่น นิดหน่อย เท่าไหร่จำไม่ได้ - ซุปเห็ดหอม 1 ก้อน - แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ - ผงกะหรี่ (อันนี้จำไม่ได้จริงๆ แต่ใส่เยอะอ่ะ) - พริกไทยป่น (อย่าใส่เยอะ เดี๋ยวเด่นเกินผงกระหรี่) - พริกป่นเล็กน้อย (ไม่ชอบเผ็ดไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) - น้ำมัน & เนยสำหรับผัด (แอนใส่ทั้งสองอย่าง) - น้ำสะอาดสำหรับทำน้ำซุป ไม่ได้ตวงค่ะ แต่ใช้กระทะหม้อขนาด 28 ซม. ใส่น้ำลงไปเกือบเต็ม
วิธีทำและการเตรียม 1. สไลด์แครอทให้เป็นแผ่นๆ (จริงๆ อยากได้หนากว่านี้หน่อย แต่ว่าที่บ้านที่สไลด์มีขนาดเดียว) หั่นข้าวโพดอ่อนเป็นชิ้นสั้นๆ ตามขวาง ซอยหัวหอมใหญ่เป็นซีกโตๆ (จะหั่นครึ่งอีกทีก็ได้ค่ะ แต่เคี่ยวไปแล้วยุบจนแทบมองไม่ออก) 2. ใส่กระเทียมลงไปผัดกะน้ำมัน จากนั้นใส่เนยลงไป แล้วใส่หอมใหญ่ลงไป ผัดให้พอหอมเริ่มนิ่มเกรียมเนย แล้วค่อยใส่แครอท (แต่ถ้าขี้เกียจจะใส่ลงไปพร้อมกันเลยก็ได้ ทีแรกไม่อยากใส่เนยค่ะเลยใช้น้ำมัน ปรากฏว่าดูแล้วคงจะอร่อยน้อยกว่าเลยไปเอาเนยมาใส่) 3. พอผักเริ่มคลุกน้ำมันและเนยทั่วแล้วเริ่มนิ่ม ใส่ผงกระหรี่ ผัดให้ทั่วซัก 2-3 รอบ ค่อยใส่น้ำซุปลงไป (ถ้าไม่สะดวกต้มน้ำซุปก่อนก็ใส่น้ำกับก้อนซุปลงไปเลยก็ได้ค่ะ) 4. รอให้น้ำซุปเดือดปุดๆ ราไฟลงให้อ่อน แต่ยังเดือดอยู่เติมเครื่องปรุงซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น พริกป่น เคี่ยวไปซักพักให้น้ำซุปเริ่มงวดลง ลองค่อยๆ ใส่แป้งข้าวโพดทีละนิด คนดูให้พอข้นอย่างให้เหนียว เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนน้ำซุปงวดลงเหลือ 2 ใน 3 ของทีแรก แกงข้นหนืดกำลังดี ก็ดับไฟได้ค่ะ
ข้าวที่ทำหน้าตาแปลกนิดนึงค่ะ เพราะใช้ข้าวกล้องหุงรวมกับข้าวสาลีกล้องค่ะ กินแล้วกรุบๆ ดีเหมือนกัน
อันนี้เป็นเครื่องของเส้นหมี่ - เส้นหมี่ข้าวโพด (สีเหลืองนวลสวยมาก) 1 ก้อน - ไข่ไก่ 1 ฟอง - ต้นหอม ผักชี รากผักชี - หัวหอมใหญ่ซอยละเอียด - ผักกะหล่ำซอยละเอียด - ปุ้ยเก่ง 1/2 ช้อนแกง (เครื่องปรุงรสเจทำจากถั่วเหลือง ตักออกมาหน้าตาเหมือนซอสหอย แต่แอนว่ามิโซะอร่อยกว่าอ่ะ ถ้าไงเปลี่ยนเป็นมิโซะก็ได้)
วิธีปรุง 1. ลวกหัวหอมใหญ่กับกะหล่ำปลีพอยุบหน่อย ตักออกพักไว้โรยหน้า 2. ต้มน้ำใส่ปุ้ยเก่งลงในน้ำแกงพร้อมกับรากผักชี พอหอมน้ำซุป ตักรากผักชีออก 3. ใส่เส้นหมี่ลงไปต้ม พอเริ่มจะสุก ใส่ไข่ลงไปแล้วรีบดับไฟ (จะเอาไข่ใส่ตอนเทใส่ชามก็ได้ค่ะหน้าตาจะสวย) 4. จัดผักกะหล่ำและหัวหอมลวก วางลงข้างๆ ไข่ ครึ่งซีกของชาม 5. ตักแกงกะหรี่ประมาณ 1 ทัพพีกว่าๆ ราดลงบนเส้นหมี่ กินได้
Create Date : 04 กันยายน 2548 | | |
Last Update : 5 กันยายน 2548 0:10:00 น. |
Counter : 1245 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
งาป่นสำหรับโรยข้าว
สูตรคิดขึ้นมาเพราะว่ามีเพื่อนคนนึง เค้าไปตรวจมวลกระดูกแล้วมวลกระดูกเบาไปมากกว่าเกณฑ์ ผู้ตรวจก็ให้ข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นโรคกระดูกพรุน เจ้าตัวเค้าก็กังวลเอามากๆ ว่าทำยังไงถึงจะหาย เพราะถ้าเป็นจริงๆ ก็คงต้องกินแคลเซียมเสริมกันเป็นปีๆ (ค่าที่วัดได้ต่ำกว่าเกณฑ์ครึ่งนึงได้ แต่เจ้าก็ไม่ได้ไปตรวจซ้ำกับหมอให้ละเอียดเลยไม่รู้พรุนจริงป่าว) เผอิญว่าตอนนี้เค้าก็มีปัญหาเรื่องการกิน เพราะจัดฟันอยู่ (ฟันล้มค่ะ จัดตอนอายุมากเกินไปหน่อยแล้ว คงนาน กินไม่อร่อยอ่ะ) หลังจากพูดคุยกันอยู่นาน เค้าก็ว่าจะกินนม แอนว่า นมมีข้อเสียที่ปริมาณแคลเซี่ยมในนมไม่ได้มากนัก และมีไขมันสูง ขืนกินนมเอาแคลเซี่ยม มีหวังได้คลอเรสเตอรอลมาเป็นของแถม เลยแนะนำให้กินงาดำป่นค่ะ แรกๆ กินไป เค้าก็บ่นว่ารสมันชืดๆ กินยาก จะให้กินวันละ 3 ช้อนโต๊ะ คงเบื่อตาย แอนก็เลยคิดสูตรงาป่นโรยข้าว แบบทำง่ายๆ ตามประสาคนไม่ค่อยชอบทำกับข้าว (เฮ้อ กลุ้ม กว่าจะกินจนชินเล่นเอาคนลุ้นเหนื่อยเหมือนกัน)
ส่วนเรื่องอาหารอะไรมีแคลเซี่ยมสูง ลองอ่านตามลิ้งข้างล่างนี้ดูค่ะ //www.balavi.com/content_th/Health_trick/HT00028.html
ส่วนผสม - งาดำ 3 ช้อนโต๊ะ (ป่นแล้วก็ได้ แต่ตำเองจะหอมและมันกว่าค่ะ) - เกลือ 1 หยิบมือ (น้อยๆ นะคะเดี๋ยวเค็มไป) - พริกไทยดำ 1 ช้อนชา (จะใช้แบบป่นแล้วก็ได้ ตำเองจะหอมกว่า) - น้ำตาลทรายแดง 1-2 ช้อนชา (แล้วแต่ว่าชอบหวานมั้ย เจ้าตัวเค้าชอบหวานแอนเลยใส่ไป 2 ช้อน แต่แอนทำเองใส่ช้อนเดียว)
วิธีทำ ** ง่ายสุดๆ ค่ะ ออกแรงนิดหน่อย อย่างแรกคือ ตำพริกไทย งาดำ เข้าด้วยกันในครก (ครกหินจะดีมากค่ะ) โรยเกลือลงไปเล็กน้อย แต่ว่า ต้องค่อยๆ ตำงาทีละนิด ถ้าใส่รวดเดียวทั้งหมดจะไม่ละเอียด บางเม็ดยังเป็นเม็ดๆ กินเข้าไปแล้วก็ไปผ่านลำไส้เล่นๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรค่ะ ** นำงาป่นผสมพริกไทยและเกลือมาเติมน้ำตาล คลุกให้เข้ากันตามชอบ ** สำหรับส่วนผสมนี้ปริมาณแคลเซี่ยมน่าจะเพียงพอสำหรับที่ต้องการใน 1 วัน (กินวันเดียวก็หมดแล้ว) ** ถ้าทำเก็บไว้เยอะๆ แนะนำว่า ขวดที่ใส่ควรมีสารดูดความชื้นที่เป็นซองๆ อยู่ด้วยค่ะ
ปล. ปกติแอนกินทั้งผักทั้งเต้าหู้อยู่แล้วค่ะ พักหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้กินงาโรยข้าวเท่าไหร่ เพราะกินทีไรจะกินข้าวมากกว่าปกติ อร่อยนิ แหะ แหะ ทำเองชมตัวเอง
Create Date : 07 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 7 สิงหาคม 2548 12:19:31 น. |
Counter : 1313 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ผักเคียงน้ำพริก
บางคนชอบทานผักสด บางคนชอบทานผักลวก แต่แอนชอบทานผักผัดค่ะ อาจเพราะว่า ผักใบเขียวบางชนิด ถ้าเอาผักสดๆ มากินกับน้ำพริก รสจะขื่นๆ เหม็นเขียว เอาไปลวกก็เสียความหวานของผักไปกับน้ำลวก เพราะงั้นแอนมักจะเอามาผัดกับน้ำมันซะมากกว่า โดยที่ไม่ได้ใช้น้ำมันมากอะไร ใช้กระทะเทฟลอนก็ช่วยให้ไม่ติดกระทะ อีกอย่างก็คือ น้ำมันจะช่วยละลายวิตะมินบางตัวออกมาด้วย (วิตะมินที่ละลายในน้ำมัน ก็ได้แก่ A, D, E, K) พอเอามาผัดผักจะหวานอร่อยกว่า อย่างผักที่ชอบๆ กินกับน้ำพริกก็เช่น ผักโขมจีน ผักหวาน ใบโหระพา ผักกะหล่ำ (2 อันหลังนี้กินสดๆ ก็ชอบค่ะ) ปกติถ้าทำใช้น้ำมะกอกประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (หรือบางทีผสมกับน้ำมันงาแบบที่ไม่ได้คั่ว) ผัดผักแล้วโรยเกลือนิดหน่อย ถ้าชอบกระเทียมก็เจียวก่อนก็ได้ค่ะ ทำแบบนี้ผักจะไม่มันเกินไป ผัดเร็วๆ พอสุกกรอบอร่อย
นอกจากเอามาผัดเฉยๆ บางทีก็เอามาใส่ใข่เจียว (ใส่ผักเยอะๆ) อย่างผักหวานนี่ ใบจะเล็กๆ เอามาทำเป็นไข่เจียว ออกมาจะคล้ายๆ ชะอมไข่เลยค่ะ ไข่เจียวโหระพาก็ได้รสหอมอร่อยดีอีกเหมือนกัน บางทีเจียวไข่ลงไปก่อน แล้วค่อยโรยผักลงไป พอกลับหน้าผักจะหอมกรอบกำลังดี กินผัก ไม่ต้องผัดจนสุกมากเกินไป เดี๋ยววิตะมินหายไปกับไฟหมดค่ะ
Create Date : 11 พฤษภาคม 2548 | | |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2548 12:28:28 น. |
Counter : 527 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ข้าวผัดน้ำพริกปลาย่าง
ส่วนผสม - น้ำพริกปลาย่างเจ้าอร่อย (น้ำพริกสดนะคะ ไม่ใช่อย่างแห้งๆ) - ข้าวกล้อง - ผักคะน้ำยอดหั่นเป็นท่อนสั้นๆ (ใช้บร๊อคโคลี่ก็ได้) - แครอทหั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ หรือท่อนผอมๆ สั้นๆ - กระเทียมสับ - น้ำมันพืชเล็กน้อย
วิธีทำ ** เจียวกระเทียมสับในน้ำมันพืชให้หอม ผัดแครอทให้เกือบสุกก่อนแล้วค่อยใส่คะน้ำ (จะเอาแครอทไปลวกก่อนก็ได้ค่ะ) ** ใส่ข้าวลงไปผัดให้เข้ากับผัก ใส่น้ำพริกลงไป ผัดทั้งหมดให้เข้ากัน ถ้าน้ำพริกรสกลมกล่อมดีก็ไม่ต้องปรุงเพิ่ม พอข้าวเริ่มแห้งดี ยกลง เสิร์ฟพร้อม ผักสด ผักต้มตามชอบ ** ถ้าใครอยากจะทำน้ำพริกเองก็ได้ค่ะ เจ้าของบล๊อคเน้นง่ายเข้าว่า ขี้เกียจนั่งเผาพริกเผาเกลือ เอ๊ย ไม่ใช่ เผาปลา ซื้อเค้าเอาดีกว่า เจ้าที่ซื้อมานี่รสชาติใช้ได้ ไม่เผ็ดเกินไป
Create Date : 21 เมษายน 2548 | | |
Last Update : 21 เมษายน 2548 22:43:04 น. |
Counter : 1730 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
แกงเผ็ดเห็ดโคนญี่ปุ่น
ส่วนผสม - เห็ดโคนญี่ปุ่น 1 แพ็ค (ประมาณ 2 ขีด ซื้อในท๊อปส์) - น้ำพริกแกงเผ็ดสำเร็จรูป ประมาณ 1 ขีด - กะทิสำเร็จรูป 1 กล่อง (ประมาณ 200 ซีซี) - มะเขือเปาะ 6-8 ลูก - มะเขือพวง 1 แพ็ค (ประมาณเท่าไหร่ไม่รู้) - พริกชี้ฟ้าแดงซอยเป็นเส้นยาวๆ 2-3 เม็ด - ใบโหระพา 1 กำ - ใบมะกรูด 4-5 ก้าน
วิธีทำ ** ผัดเครื่องแกงเผ็ดกับหัวกะทิประมาณ 2 ช้อนโต๊ะจนแตกมัน (ถ้าใช้เนื้อสัตว์แทนเห็ด ก็ผัดเนื้อสัตว์หลังจากผัดเครื่องแกง ผัดให้สุก) ** ใส่น้ำกะทิลงไป (กะดูไม่ให้มันเกินไปนัก) ต้มจนเดือดปุดๆ (อย่าให้เดือดมาก) ฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป ใส่เห็ด ใส่มะเขือเปาะ มะเขือพวงลงไป ต้มจนเริ่มสุกนิ่มนิดๆ ** ใส่พริกชี้ฟ้าแดง ซักพัก ดับไฟ ใส่ใบโหระพา คนๆ ให้พอผักสลดเล็กน้อย ** แกงเผ็ดรสจะออกเค็มกับเผ็ดนำ ถ้ารสจางไปก็เติมน้ำปลา หรือใช้น้ำตาลตัดรสได้เล็กน้อยพอให้รสกลมกล่ม เสิร์ฟกับขนมจีน หรือข้าวสวยก็ได้ กินกับผักสดก็ดีนะ ** กินแกงกะทิแบบนี้ ควรกินมะเขือไปด้วยมากๆ ช่วยลดคลอเรสเตอรอลค่ะ (ไม่รู้กินหมดหม้อจะพอหรือเปล่า) แต่ถ้ากลัวก็ตัดกะทิออก หน้าตาจะออกคล้ายๆ แกงป่าค่ะ ** ตอนที่ทำหน่ะ เห็ดโคนเวลาอยู่ในแกงเผ็ดนี่รสชาติเหมือนเนื้อไก่เลยค่ะ เคยเอามาใส่แกงจืดก็ไม่อร่อยเท่า ท่าทางจะเหมาะกะของเผ็ด
Create Date : 11 เมษายน 2548 | | |
Last Update : 11 เมษายน 2548 20:57:39 น. |
Counter : 1198 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|