13 พ.ย.2023 ภาคบ่าย

หุบเขาทาคาสึโดะ (Takatsudo Gorge) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อบนเส้นทางรถไฟท้องถิ่น Watarase Keikoku Railway




มีทางเดินริมแม่น้ำให้เราชมความงามของหุบเขาที่ถูกตกแต่งด้วยใบไม้เปลี่ยนสีอย่างใกล้ชิด

ใช้เวลาช่วงบ่ายเดินทางจาก JR Takasaki ด้วยรถไฟ local : JR Ryomo line ไปลงที่สถานี Kiryu
(สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสี ในบริเวณรอบสถาน Kiryu คือ Hotoku-ji Temple แต่วันที่ไป ใบไม้ยังไม่เปลี่ยนสี)





จากสถานี Kiryu ย้ายชานชาลา มาขึ้นรถไฟ Watarase Keikoku Railway
วิ่งระหว่างคิริวในกุนมะและมะโตในโทจิงิซึ่งจะเชื่อมต่อนกิโกโดยนั่งรถบัสประจำทาง รางรถไฟถูกตั้งตามหุบเขาวาทาราเซะจึงคุณสามารถชมความงามของหุบเขาและธรรมชาติโดยรอบแห่งนี้จากรถไฟ มีขบวนธรรมดาและขบวน Torroko ซึ่งเป็นขบวนเชิงการท่องเที่ยว

เราพยายามไปซื้อตั๋วขบวนท่องเที่ยวที่ Lawson ที่ Niigata แล้ว แต่เค้าไม่รู้เรื่อง เราเลยไม่พยายามต่อ แค่เอาตัวเองไปขึ้นรถชบวนธรรมดาก็พอ เพราะเราจะไปแค่สถานี Omama



จาก สถานี Kiryu ไปลงสถานี Omama เราไม่ได้ออกจากสถานี แต่มีช่องการเดินรถไฟอยู่ข้าง ๆ กดตู้ซื้อตั๋วตรงนั้นเลย ออกจะงง ๆ นิดนึง มีเวลาไม่มาก ทำตามคนข้างหน้า



หน้าตาขบวนรถไฟที่ขึ้น



นั่งรถไฟประมาณครึ่งขั่วโมงก็ถึงสถานี Omama



มาถึงเกือบบ่ายสามโมง เห็น information centre อยู่หน้าสถานีเลยแวะเค้าไปถาม เผื่อได้ข้อมูลดี ๆ ... จนท. ทำหน้า งง ๆ ประมาณว่า จะเลิกงานกลับบ้านแล้ว มาทำไมตอนนี้

ช่วงที่ไป มีงานแสดงดอกเบญจมาศคันโต ที่สวนนากาเมะซึ่งเป็นโรงละครที่มีประวัตมากกว่า 80 ปีในเมืองมิโดริ

จะมีงานจัดแสดงดอกเบญจมาศที่ปลูกขึ้นในหลากหลายแบบ หุบเขาหุบเขาทาคาสึโดะที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานที่จัดงานไปทางเหนือราว 1 กิโลเมตรนี้

แต่เค้าก็ให้ข้อมูลอย่างดี ว่า ถ้าจะไปเที่ยวงานแสดงดอกเบญจมาศต้องรีบ ๆ หน่อยนะคะ เพราะว่างานกำลังจะปิด อาจชมได้ไม่เต็มที่

เราก็เลยตัดสินใจไม่ไป กะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีเลียบหุบเขาเก็บภาพแสงเย็น พระอาทิตย์ตกดินกับธารน้ำที่มีใบไม้แดงก็พอ เค้าก็ชี้ทางบอกให้

ระยะเดินเท้าจากหน้าสถานีไปถึงหุบเขาทาคาสึโดะ แค่ 450 เมตรเดินสบาย ๆ ค่ะ



ระหว่างทางเจอศาลเจ้าเล็ก ๆ



ฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าสถานที่จัดงานเทศกาลเบญจมาศ เห็นคนเดินออกมาพอสมควร






เดินไปยังสะพานแดง ทาคาสึโดะ (Takatsudo bridge) ค่ะ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ วาตาราเสะ (Watarase River)







ถ่ายภาพได้ตั้งแต่ตรงนี้ค่ะ มีทางคนเดินกว้างขวางพอให้ตั้งขาตั้งกล้องโดยไม่ขวางทางรถวิ่งได้





แสง contrast มาก ถ่ายรูปลำบาก แถมถ้าจะให้ได้รูปสวยต้องยื่นกล้องออกไปไกล ๆ เสียวกล้องตกเหวลึกไม่ใช่ย่อย

พอเดินจนสุดสะพาน จะมีทางเดินให้ลงไปเดินเล่นเลียบหุบเขา ริมแม่น้ำ
ไม่วังเวงค่ะ มีคนลงไปเดินพอสมควร










ต่างชาติที่เจอ ก็มีไต้หวัน นะคะ เค้ามาเดินชมวิวกันเป็นคู่ ๆ แต่เรามาถ่ายรูป



มีศาลาให้นั่งพัก แต่ไม่ค่อยสะอาด ต้องหาผ้ามาเช็ดเอง





ปลายทางของเราเป็นสะพาน Hanetaki Bridge รูปสามเหลี่ยมนั่นล่ะค่ะ จะมีทางให้เดินสบาย ๆ กลับสถานีรถไฟได้



ว่าจะรอให้ได้แสงพระอาทิตย์ตกดิน แต่ว่าเก็บภาพหมดแล้ว และต้องรออีกนานมาก ... กลับเลยก็แล้วกันค่ะ





วิวขากลับเป็นลานจัดกิจกรรมและลานจอดรถ มีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง ก็สวยดีค่ะ แต่ไม่ได้แวะลงไปถ่ายภาพใกล้ ๆ






กดซื้อตั๋วกลับสถานี Kiryu ค่ะ ทำไมราคาแค่นี้ แล้วตอนขามา อะฮั้นกดผิดเหรอคะ .. เฮ้อ ...

ชมวิวรอรถไฟค่ะ





รถไฟขากลับ วิวในรถดีค่ะ มีแต่เด็กนักเรียนผู้ชายกับหนุ่ม ๆ มนุษย์เงินเดือน มองเพลินดี

กลับเข้า JR Takasaki station แล้วนั่งชินคันเซ็นกลับ Niigata ค่ะ
ไปหาปลาดิบร้านเดิมกิน ... อิ่มอร่อยในราคาไม่ถึง 1,400 เยน



ฝาท่อ ที่ Omama เมือง Midori จังหวัด Gunma


 

ตอนที่ 1 Niigata ครั้งแรก แบบตัวคนเดียว


ตอนที่ 2 Tokumei-en garden : Takasaki แบบไม่ได้ตั้งใจ
 

Create Date : 09 มิถุนายน 2567
Last Update : 9 มิถุนายน 2567 9:13:42 น.		1 comments
Counter : 851 Pageviews.
Share Tweet