|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์เต็มที่ ก่อนนาทีระทึก
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์ หลายชั่วโมงถัดมา
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์ in 24 hrs! (1)
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…กลุ่มอพยพที่บางปู สมุทรปราการ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ดูมันให้ถึงที่...ภูเขาไฟพูจิ ที่ Fuji Five Lakes (ใช่ที่ๆที่ดีที่สุดแล้วเหรอ)
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…กลับมายืนที่เดิมกับตัวเลขบังคับที่ หาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…Future Town: Minato Mirai, Yokohama และ สะพานสายรุ้ง, Tokyo
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…First day in Tokyo & Panda On Tour
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…แผนเที่ยวญี่ปุ่น 10 วัน
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เจ็บนี้อีกนาน ณ ถนนที่ชันที่สุดในโลก Dunedin, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ทัวร์พุงป่อง โรงงานชอคโกแลต และ โรงเบียร์ Speight’s, Dunedin, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ฟักใหญ่ น้ำเต้าโต และตลาดร้อยปี, บึงฉวาง สุพรรณบุรี
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...พาเหรดเพนกวิน Phillips Island, Australia
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…GPS สมองกลหรือสมองคนจะแน่กว่ากัน Melbourne, Australia
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เที่ยวเมืองออสซี่ (แบบนี้) ขอไม่มีหนที่ 2!!!
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Butterfly Park, Coromandel New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…ทะเล ทะเล ทะเลลลลลลลลล Coromandel, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน…เรื่องระทึก ณ เมืองทะเล Coromandel, New Zealand และ Brokeback Mountain
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน....Auckland City กระเตงลูกชมเมืองวันเดียวก็เกินพอ!
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน… จอมปลวกพ่นน้ำ, บ่อน้ำขวดแชมเปญ, โคลนเลนเต้นระบำ … Rotorua, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…The Everest ฝันให้ไกล แล้วก็ไปให้ถึง
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…อุ้มท้องส่องพระอาทิตย์ที่ Sarankot, Nepal
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…เยี่ยมวังกุมารี เด็กหญิงที่ไม่ควรโต ที่ Dubar Square ,Nepal
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)...กาฎมัณฑุ สาธุ นะโมตัสสะ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (ภาคท้อง)…..ไป เนปาล ไม่ผจญภัยไม่ได้หรอก
- 1000 places to see before you die --มีกี่ที่จาก Thailand?
- คิดว่าไม่น่าเบื่อแล้วนะ
- เมืองที่เคยน่าเบื่อ Wellington, New Zealand
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Franz Josef Glacier เฮ้อ จบซะที
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Queenstown ที่เดียวก็เกินคุ้ม
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Christchurch มาถึงแล้วแดนกีวี่
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...Wellington ฟ้าฝนลมพัดเป็นเรื่องปกติ
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...ธรรมชาติให้มาขี้โคลนที่ Rotorua
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน...ซีนหวิวๆที่ Auckland City กับ ขี้โคลนแปลกๆที่ Rotorua
- ทัวร์แม่ลูกอ่อน (่1)....ย้ายสะโพกข้ามประเทศ BKK-AKL
|
|
|
|
|
ทัวร์แม่ลูกอ่อน...กัวลาลัมเปอร์เต็มที่ ก่อนนาทีระทึก
ฉันเริ่มหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องนั่งเที่ยวแบบหายใจไม่ทั่วท้อง ปัญหานึงที่เรามักเจอเวลาเหมารถเที่ยวต่างแดนก็คือ การวางแผนเส้นทางขับรถ ยิ่งถ้าคนขับไม่ชำนาญแล้วล่ะก็ ยิ่งไปกันใหญ่
ฉันยื่นลิสต์สถานที่ต่างๆที่อยากไปให้คนขับดู เค้าพูดอะไรงึมงัมไม่มีใครฟังออก แต่อีกไม่นานเราก็มาถึงวัดจีน Thean Hou ที่ฉันเองก็คิดในใจว่า “ถ้ามันไม่ใช่ใครจะรู้” ฉันเดินลงจากรถด้วยความระแวง มองดูป้ายก็ไม่เห็นมีชื่อ Thean Hou เลยซักนิด เค้าว่ากันว่าวัดนี้เป็นวัดจีีนที่ใหญ่ที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกตามตรงว่าในชีวิตนี้ฉันไม่ได้ไปวัดจีนมากมายนักก็เลยไม่สามารถจะกะด้วยสายตาได้ว่าวัดนี้ใหญ่จริงๆอย่างที่เค้าร่ำลือกันหรือเปล่า ฉันเคยไปอย่างมากก็วัดเล่งเน่ยยี่ ที่ไปสักการะความศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองให้ชาวมะโรงพ้นภัย ในช่วงหลายปีก่อนที่คนไทยต้องการความหวังจากสิ่งที่มองไม่เห็น ถ้าเทียบเรื่องขนาดฉันก็ต้องยอมรับว่าวัด Thean Hou ใหญ่กว่าวัดเล่งเน่ยยี่หลายเท่านัก
ภาพด้านนอกที่เห็นก็คือวัดนี้เรียงตัวสูงขึ้นไปหลายชั้น เมื่อเดินถึงตีนบันได ฉันออกจะอึ้งๆเมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังสนั่นประกอบไปด้วยเสียงโฆษกที่ดังมาจากห้องโถงใหญ่ด้านใน นี่เรามาวัดหรือศาลาการเปรียญกันแน่ เพื่อคลายความสงสัยฉันเดินเข้าไปในห้องทันที่ บนเวทีมีการแสดงของเด็กๆวัยประถมปลาย โดยมีผู้ปกครองคอยให้กำลังใจและถ่ายรูปกันอย่างแฟลชวาบไม่ขาดตอน ฉันมองไปรอบๆก็ไม่รู้ว่าจะถามใครดีว่านี่…คือวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือไม่ จริงๆแล้วฉันแอบกลัวว่าคำตอบคือ “ไม่ใช่” มันคงจะหน้าแตกดีพิลึก เพื่อรักษาฟอร์มต่อไป ฉันลองเดินลัดเลาะออกมาแล้วขึ้นบันไดด้านข้างขี้นไปยังชั้นถัดมา
จากทางเดินขึ้นโทรมๆเล็กๆเปิดเข้าสู่ลานกว้างหน้าโบสถ์ เมื่อมองไปรอบๆ เราสามารถมองเห็นวิวเมือง KL ได้อย่างกว้างไกล หลังคาวัดสีเหลืองตัดขอบด้านล่างด้วยสีเขียวและแดงที่ตั้งอยู่บนเสาสีแดงเรียงกันไปตามทางเดิน ภาพแบบนี้แหละที่เริ่มเข้าเค้า นอกจากนี้ส่ิงที่ช่วยคอนเฟิร์มว่าฉันคงมาไม่ผิดคงจะเป็นเสาสีขาวที่แกะสลักเป็นลายมังกรจีนที่เลื้อยพันเสาไปมา เหมือนกับว่าจะไปรวมกลุ่มกับเหล่ามังกรหลากสีหนวดยาวที่ยืนกันยั้วเยี้ยกางกรงเล็บแหลมรอจ้องจะตะครุบเหยื่ออยู่บนหลังคา ระหว่างมองก็พลางคิดไปว่า…เหยื่อของมังกรนั้นคือตัวอะไร แต่แล้วความสนใจของฉันกลับไปสะดุดหยุดกึ้กกับวัตถุสีขาวที่ใหญ่ตู้มเหมือนสุ่มไก่ที่เคลื่อนไหวไปมาอยู่แถวบันไดวัด หญิงจีนขาวอวบในชุดเจ้าสาวแบบสากลควงคู่มากับเจ้าบ่าวในชุดทักซิโด้กำลังจุดธูปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เค้าทั้งคู่มิได้ส่งตัวเข้าบูชายัญเพื่อเป็นเหยื่อของมังกรแต่อย่างใด หากแต่ว่าเค้าทั้งคู่กำลังสังเวยตัวเพื่อเป็นเหยื่อ…เหยื่อของความรัก

สิ่งพิเศษของวัด Thean Hou ก็คือที่นี่เป็นสถานที่ที่หนุ่มสาวหลายคู่มาทำพิธีจดทะเบียนสมรส โดยเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยคุ้มครองให้ความรักของเค้าเหล่านั้นมีความมั่นคงยืนนาน มันก็น่าสนใจดีตรงที่พวกเค้าเลือกที่จะใส่ชุดแต่งงานแบบสากลในการทำพิธีมากกว่าชุดกี่เพ้าแบบจีน มันเลยทำให้ภาพที่เห็นดูโดดเด่นไม่แพ้สถาปัตยกรรมของตัววัดที่ได้รับการยกย่องว่ามีการผสมผสานของศิลปะโบราณและเทคนิคสถาปัตยกรรมแบบสมัยใหม่ แต่สิ่งที่บ่งบอกความเป็นหญิงจีนอย่างจริงแท้แน่นอน ก็คือเหล่าเจ้าแม่ เทพยดาต่างๆภายในตัวโบสถ์ ก่อนจะออกจากวัด ฉันก็ไม่ลืมที่จะเสี่ยงเซียมซีเป็นที่ระลึก
เรามุ่งหน้าต่อไปยังมัสยิดแห่งชาติมาเลเซีย ช่วงที่ขับรถไปลูกชายของฉันก็หลับไปในวงแขน เมื่อไปถึงฉันบอกให้แมทเดินลงไปดูคนเดียวดีกว่าเพราะไม่อยากให้ลูกตื่น สามีหายไปประมาณ 15 นาทีก็เอารูปมาเปิดให้ดู ่ ฉันรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้เข้าไปดูด้วยตัวเอง ภาพของกระจกสีที่ประดับภายในด้านโถงของห้องทำละหมาดดูสวยแปลกตาไม่แพ้ลายฉลุภายนอกของตัวอาคาร ประกอบ ด้วยความโค้งมนตามแบบของมัสยิดทั่วไป ฉันไม่ได้มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมอะไรเลย ไม่กล้าที่จะบอกว่ามันดูแล้วมีความลึกซึ้งยังไงแค่ดูแล้วได้อารมณ์ความสวยแบบที่แตกต่างจากวัดไทยของเรา ไม่มีใครสวยกว่าใคร แต่เป็นเอกลักษณ์ของใครของมัน

รถวิ่งผ่านถนนหนทางจนมาถึง Central Market แหล่งชอปปิ้งของที่ระลึกแบบมาเลย์ๆ สินค้าที่วางขายแทบทุกร้านก็คือผ้าพันไหล่ปักเลื่อมสไตล์แขกและหน้ากากไม้แกะสลัก ฉันเดินอุ้มลูกที่ยังหลับปุ๋ยผ่านร้านต่างๆไปอย่างไม่ได้ให้ความสนใจนักจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ร้าน Cute Fish Spa ร้านนี้ ขายอะไรเนี่ย ฉันชะโงกหน้าเข้าไปดูก็เห็นคนกำลังเอาเท้าแช่น้ำและมีปลาเล็กๆวิ่งเข้ามาตอดเท้ากันใหญ่ ฉันแอบหดปลายเท้าและเกร็งย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่ามันคือการแทะหนังที่ตายแล้วก็ตาม ฉันว่าไปเข้าร้านเสริมสวยให้คนตะไบแต่งหนังให้มันน่าจะสบายใจกว่า หรือไม่ไปนั่งให้คนนวดเท้าให้ก็น่าจะสบายกว่าเยอะ แต่ถ้ามองอีกมุมมันก็คือการทำบุญทำทานให้สัตว์เล็ก ต่างคนต่างพึ่งพา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ปลาพี่งตะ..
หลังจากเดินจนเมื่อย ฉันก็ยังไม่ซื้ออะไร พวกเราก็ต้องทำตัวเป็นปลาเช่นกันด้วยการหยุดที่ร้านอาหารและหาอะไรกิน ….มิใช่ไปกวนส้นมือส้นเท้าใครแต่อย่างใด เราเลือกกินอาหารมาเลย์ด้วยความที่อยากรู้มานานแล้วว่ารสชาติของอาหารมาเลย์แท้ๆจะแตกต่างจากอาหารมาเลย์ที่เคยกินที่นิวซีแลนด์มากน้อยแค่ไหน ฉันเลือกสั่งเมนูที่คุ้นเคยอย่าง Chicken Rendang และชาเย็นแบบมาเลย์ ส่วนสามีก็เช่นกัน สั่ง Roti Chanai แต่ต้องผิดหวังอย่างแรงตรงที่ร้านนี้ไม่ขายโรตี ทางร้านเลยจัดขนมปังมาให้แทน รสชาติและหน้าตาของ Rendang จะคล้ายๆแกงพะแนงแต่จะมีรสหวานนำ ร้านนี้ทำได้ประทับใจมากฉันเลยขอสั่งกลับบ้านไปฝากน้องชายที่กทม. ส่วนชาเย็นนั้นเทียบไม่ติดกับชาเย็นสีส้มๆของบ้านเราเมืองเรา

หลังจากกินเสร็จฉันก็เริ่มมองหาของฝาก เท่าที่ผ่านมายังไม่มีอะไรที่ประทับใจเลย คนสำคัญที่ฉันต้องหาของไปฝากก็คือคุณย่า คุณย่ามีความผูกพันกับชาวมาเลย์มาตั้งแต่เล็กเนื่องจากเกิดและโตที่จ.ปัตตานี คุณย่ามักบ่นเสมอเวลาที่มีของกินจากทางใต้ขึ้นมาขายตามร้านในกทม.ว่าไม่เหมือนที่เคยกินตอนเด็กๆ ความรู้สึกแบบนี้ฉันเข้าใจดี นี่ขนาดฉันเพิ่ง 30 ต้นๆฉันยังคิดถึงขนมหลายอย่างที่สูญพันธ์ุไปแล้วไม่ว่าจะเป็นไอติมโฟร์โมส ขนมกรอบอาราเร่ ชอคโกแลตโดราเอมอนที่มากับของแถม ดังนั้นสิ่งที่ฉันมองหาเป็นของฝากก็คือของกิน ฉันเดินลัดเลาะตัดผ่านส่วนกลางของตึก จนมีกลิ่นฉุนๆของปลาเข้ามาเตะจมูก ฉันหันไปก็เจอข้าวเกรียบปลาชนิดยังไม่ได้ทอดวางเรียงรายอยู่หลายถุงใหญ่ นี่แหละ ของโปรดของย่า ข้าวเกรียบปลามีอยู่ 2 ชนิดใหญ่ๆ แบบสีน้ำตาล และแบบสีดำ ฉันไม่แน่ใจว่าแบบไหนเป็นรสอะไร ฉันเลยซื้อกลับไปฝากสมาชิกในครอบครัวทั้งสองชนิด


เวลาของเราก่อนเครื่องบินจะออกเหลืออีกประมาณ 5 ชั่วโมง ยังเที่ยวได้สบายๆ เรานั่งรถต่อไปยังวัดฮินดู แล้วผ่านหน้าทำเนียบ ก่อนจะไปสำรวจตลาดแขกย่าน Little India ตลาดแขกนี้ขายผ้าส่าหรีเป็นสินค้าหลัก และมีร้านทองเรียงรายกันเป็นตับ เราเดินเตร็ดเตร่กันซักพักจนกระทั่งได้เวลาที่ต้องกลับแล้ว


ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นจนเครื่องบินออกจากสนามบินได้ซัก 15 นาที เรานั่งคุยกันว่าลูกชายคนโตคงจะงอนเนอะ ถ้าโตกว่านี้แล้วรู้ว่าเราสามคนหนีมาเที่ยวกันแบบนี้ ฉันก็ปลอบใจกันเองว่า เอาน่า…กลับไปถึงทันก่อนลูกอยู่แล้ว…ไม่รู้หรอก อยู่ๆสามีก็ถามฉันแบบขำๆว่า “ถ้าเกิดเราเกิดตายหรือหายไป ใครจะเลี้ยงเคหลิบเหรอ” ฉันก็ตอบแบบทันควันแบบไม่ได้คิดมากว่า ก็ตา ยายน่ะสิ เค้าเลี้ยงได้อยู่แล้วน่ะ….แต่แล้วจู่ๆก็มีเสียงตามสายมาขัดจังหวะการสนทนาของเรา “ท่านผู้โดยสารโปรดทราบ…ขณะนี้เครื่องบินของเรามีปัญหาทางเทคนิคบางประการ เรามีความจำเป็นที่ต้องบินกลับสนามบินกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเช็คตัวเครื่อง ขออภัยมา ณ ที่นี้”
ฉันและสามีหันมามองหน้ากันอย่างไม่แน่ใจในส่ิงที่ได้ยิน แต่ก็ต้องมั่นใจเมื่อได้ยินเสียงจากผู้โดยสารคนอื่นๆเริ่มบ่นพึมพัมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “คราวที่แล้วก็แบบเนี้ย ช้าไปตั้ง 2 ช.ม.กว่าจะถึงบ้าน” ฉันแอบเหลือบมองไปด้านหลังเพื่อหาต้นเสียง เธอเป็นสาวไทยเชื้อสายมุสลิมที่ฉันเดาว่าคงต้องเดินทางด้วยสายการบินนี้เป็นประจำระหว่างไทยและมาเลเซีย ไม่ทันที่เธอจะบ่นต่อ เสียงตามสายก็ดังอีกครั้ง “ขอให้ผู้โดยสารอย่ากังวล หากหิว ทางเราจะมีน้ำเปล่า แจกฟรี และมีแซนวิช และซุป เดินขายตลอดการเดินทาง” นอกจากจะไม่ปลอบขวัญกันแล้ว ยังหาช่องทางทำมาค้าขึ้นอีกด้วย
พวกเราเริ่มนั่งไม่เป็นสุข เหมือนหมูกระทะดิบโดนปิ้ง คำถามเป็นลางของเราเริ่มเข้าเค้า ฉันยังมองโลกในแง่ดีว่าบางทีเราอาจไม่ถึงขั้นที่จะหายไปจากโลกนี้ แต่ที่แน่ๆเคหลิบต้องว้ากบ้านแตกแน่เพราะกลับไปแล้วคงไม่เจอเรา เครื่องบินสามารถประคองตัวเองไปจนถึง KL ช่างเทคนิค 2-3 คนวิ่งขึ้นมาเช็คระบบไฟของตัวเครื่องและชี้แจงให้ฟังอาการของเครื่องว่า “ไฟฟ้าขัดข้อง เครื่องพุ่งขี้นฟ้าไม่ได้” ฉันเข้าใจว่าเดี๋ยวทางสายการบินคงหาเครื่องใหม่มาเปลี่ยน แต่ความจริงก็คือ เราต้องนั่งเครื่องนี้กลับกทม.กันโดยต้องอาศัยความเชื่อว่า…กรรมที่เราทำมายังเยอะนัก ต้องอยู่ใช้กรรมกันต่อไป ในที่สุดเราก็กลับถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน เคหลิบหลับสลบไสลไปกับยาย เราต่างโล่งใจแต่ก็เหนื่อยล้าจากการลุ้นระทึก กรรม! หนีลูกเที่ยวก็งี้แหละ!
Create Date : 31 สิงหาคม 2552 |
|
26 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 20:22:11 น. |
Counter : 11662 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: nzmum 1 กันยายน 2552 4:05:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่เด็กชายเอื้อ (viji ) 8 กันยายน 2552 15:39:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ๋Jek IP: 58.8.80.81 2 ตุลาคม 2552 13:43:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่เด็กชายเอื้อ (viji ) 2 มกราคม 2553 18:17:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_tham 15 มิถุนายน 2553 6:00:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Oum IP: 98.160.230.36 8 ตุลาคม 2553 6:05:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Shawnbep IP: 139.99.104.93 15 มีนาคม 2562 13:43:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: obmenniks IP: 212.47.252.101 11 สิงหาคม 2562 12:58:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: GilbertFlata IP: 139.99.104.95 30 มกราคม 2563 4:51:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: RobertMus IP: 139.99.104.93 1 กุมภาพันธ์ 2563 15:50:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: RobertMus IP: 139.99.104.93 14 กุมภาพันธ์ 2563 6:22:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: AgedTwitter-swork IP: 139.99.104.93 18 กุมภาพันธ์ 2563 10:23:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: CarmenPoisk IP: 139.99.104.95 8 มีนาคม 2563 8:39:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: SandraDouth IP: 139.99.104.95 14 มีนาคม 2563 6:01:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Swosteesorish IP: 136.243.138.66 20 พฤศจิกายน 2563 2:13:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: Williamaxorn IP: 139.99.104.95 10 กุมภาพันธ์ 2564 7:09:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: Andrepaw IP: 139.99.104.93 25 กุมภาพันธ์ 2564 16:52:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: BrandonVix IP: 139.99.104.93 18 มีนาคม 2564 9:13:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: Christabip IP: 139.99.104.93 28 มีนาคม 2564 0:35:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: Lewisden IP: 178.213.21.185 23 มิถุนายน 2564 1:18:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: BobbyMic IP: 188.235.215.140 28 มิถุนายน 2564 19:18:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: GlennIgnor IP: 191.101.132.95 19 ตุลาคม 2564 0:18:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|