|
Hostel - บทสั่งสอนนักท่องเที่ยว
เมืองไทยเรานี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แต่ก็นั่นแหละ บางครั้งผมรู้สึกไม่ชอบใจในบางเรื่อง

ใบปิดหนังเรื่องนี้ในฮ่องกง (มั้ง) ขาย เควนติน ตาเรนติโน ผู้อำนวยการสร้างก่อนเลย
Hostel เป็นหนังสยองขวัญที่ผมชอบมากๆ ในรอบปี ผมเองเป็นขาประจำหนังโหด เกรดบีพวกนี้อยู่แล้ว ได้แผ่นแบบ no rate มายิ่งสะใจ หลายๆคนมักจะประนามว่าไร้สาระ แต่จริงๆแล้วผมรู้สึกเสมอมันแฝงอะไรไว้ให้คิดมากกว่านั้น โดยเฉพาะประเด็นทางสังคม อย่างในยุค 50 หนังสยองขวัญเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว จานบินต่างๆ คือการสะท้อนปัญหาเสียดสีสังคมยุคสงครามเย็น และการหวาดกลัวลัทธิคอมมิวนิสต์กันเกินเหตุของรัฐบาลตอนนั้น
เนื้อหาของหนังง่ายดายมาก หนังพุดถึงนักท่องเที่ยวประเภท แบ๊คแพ๊คกิ้ง กลุ่มหนึ่งที่ดูเหมือนจะลืมทำบุญก่อนออกเดินทาง 3 คน แพ็กซ์ตัน และ จอร์จ เป็นอเมริกัน อีกคน โอลิ เป็นไอริช พวกเขาเจอกันที่กรุงอันสเตอร์ดัม โดยมีเจตนาคล้ายกันคืออยากเดินทางหาประสบการณ์ทางเพศกับสาวๆท้องถิ่นให้มากที่สุดเท่าที่มีโอกาส ทั้ง 3 พบกับอเล็กซ์ก่อนจะได้รับคำแนะนำ (พร้อมคลิปวีดีโอ ) ถึงเมืองๆหนึ่งที่สาวพร้อมจะมีเซ็กส์กับนักท่องเที่ยวแทบทุกคนอย่างง่ายดาย
ผมเองเคยเดินทางไปหลายๆที่ในประเทศหลายครั้งตอนเด็กจนโต มันต่างกันมากกับเมื่อก่อน เมืองท่องเที่ยวตั้งแต่เชียงใหม่ยันไปถึงสงขลา บาร์เบียร์ เกสเฮาส์ รถเช่า ผุดเป็นดอกเห็ด นักท่องเที่ยวเกือบร้อยละ 90 ไม่ได้สนใจในวิถีชาวบ้าน วัฒนธรรม สังคมท้องถิ่น พวกเขามาเพื่อดื่มกินสินค้าราคาถูก และจ้องแต่จะหาสาวๆเพื่อจุดประสงค์ทางเพศ
ที่เซ็งที่สุดสำหรับผมคือคนไทยเรานี่แหละที่จัดหาทุกอย่างที่พูด สนองนักท่องเที่ยวเหล่านั้นอย่างเต็มคราบ อยากได้อะไรก็ได้เลย
วันแรกที่พวกเขาทั้ง 3 ไปถึงเมืองนั้นก็ตรงรี่เข้าพักในโรงแรมและก็ได้เจอสาวๆอย่างที่หวังทันที พวกเขาจับคู่ออกไปเที่ยวกลางคืน (ส่วนที่เสียดสีอีกอย่างคือเมืองนั้นสวยจริงๆครับ แต่พวกนั้นกลับไม่เสียเวลาเดินชมเมือง ตรงรี่ไปโรงแรมเลย ) เช้ามาพบว่า โอลิ หายไปก่อนที่คืนนั้นและอีกวัน จอร์จ กับ แพ๊กซ์ตัน จะเจอประสบการณ์ที่สยองขวัญที่สุดที่พวกเขาเคยพบเคยเจอ
หนังเขียนบท - กำกับโดย อีลี ร๊อธ - Eli Roth ใช้เวลาปูเรื่องให้คนดูเห็นความไม่ชอบมาพากลเกือบๆครึ่งเรื่อง แพ๊กซ์ตัน คือคนเดียวที่รอดมาได้จากเมืองที่มีรายได้หลักๆจากการล่อนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่สนแต่เหล้ากับสาวๆ มาจับไว้ ให้นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มที่รวยพอจะจ่ายเงิน เพื่อจะทรมานกลุ่มแรก จะทำอย่างไรก็ได้ และหนังเปิดโอกาสให้ผมเห็นความรุนแรงอย่างจะๆตา ไม่ว่าการเอามีดเชือด เลื่อยหั่น ตัดคอ ไปจนถึงเอามีดเจาะลูกตาจนห้อยร่องแร่ง !!!???

คนขวามือคือตัว ผกก.ซ้ายมือคือ ทาคาชิ ไมกิ ผู้กำกับหนังขาโหดสุดรุ่นใหม่ของญี่ปุ่น (หนังของเขาเสียดสีสังคมญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ตั้งแต่การเอาเด็กมาฆ่าคน การทารุณทางเพศในครอบครัว และกินเนื้อคนกันเอง )เขามารับบทเล็กๆเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจ่ายตังค์เพื่อฆ่าคนเล่น !!
การท่องเที่ยวทุกวันนี้มันทำให้สังคมบิวเบี้ยว นักท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มาเพื่อหาชมสิ่งทีดีงามเหลือน้อยกว่าน้อย พบเจอแต่นักท่องเที่ยวที่มุ่งมาหาความสุขใส่ตัวอย่างเต็มที่ - คนถึงขั้นเอาไปลงหนังสือกันว่า เมืองไทยมันดินแดนแห่งโสเภณี ส่วนกัญชาน่ะ หาง่ายสบายมาก
โทษพวกเขาก็ไม่ได้ ถ้าเราไม่หาให้พวกเขาจนเต็มคราบอย่างนี้
หนังเสียดสีอย่างใจว่านักท่องเที่ยวเดี๋ยวนี้น่ะมีแค่ 2 กลุ่ม กลุ่มแรกพวกเหยื่อคือพวกที่มุ่งแต่เรื่องอย่างว่า อีกกลุ่มคือพวกคนรวยที่เดินทางมาแบบพร้อมจะจ่ายเต็มที่ เพื่อซื้อสิ่งที่ซื้อไม่ได้ในบ้านตัวเอง ซึ่งในที่นี้หนังเสียดสีว่าพวกเขาจ่าย เพื่อซื้อชีวิตคนมาทรมานเล่นก่อนจะฆ่าทิ้ง - หนังสรุปได้สะใจผมคือ สุดท้ายก็นักท่องเที่ยวสองกลุ่มนี้แหละที่ฆ่ากันจนเลือดสาดกันไปข้าง
เมืองไทยเรานี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ครับ - บางครั้งผมรู้สึกไม่ชอบใจในบางเรื่อง
นักท่องเที่ยวบางคนดูถูกพวกเราเกินไป บางคนมาแบบเจตนาที่น่าสมเพศ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามด้วยว่าเราทำตัวให้พวกเขาดูถูกหรือไม่ อยากได้เด็กชาย - เด็กหญิงขอให้บอก จัดให้ แล้วไม่ให้ฝรั่งมันดูถูกอย่างไรได้
ผมเองแม้จะไม่ชอบใจ แต่ก็เข้าใจว่าในสังคมทุนนิยมนี้ทุกคนต่างก็ต้องเอาตัวรอด ทำทุกอย่างเพื่อหารายได้ยังชีพ เพราะภาครัฐเองก็ไม่เคยคิดจะดูแล แถมยังสนับสนุนทางอ้อมโดยการเลยตามเลยในหลายๆเรื่อง และปล่อยไปตามยถากรรมจนเรื่องการท่องเที่ยวกลายเป็นปัญหาสังคมแบบนี้ - จนแทบไม่มีทางแก้แล้ว ตราบใดยังยึดแค่เงินเป็นใหญ่ มีอะไรก็เอามาขายกันหมดแหละครับ
เห็นว่าหนังประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำชมเห็นว่าตอนนี้มีภาค 2 แล้วด้วย - ในโลกแห่งสังคมทุนฟุ้งเฟ้อแบบนี้ ใครมีอะไรก็ยอมขายให้นักท่องเที่ยวที่พร้อมจะยอมจ่ายเหมือนกัน เราก็จะเจอแต่นักท่องเที่ยวแบบนี้กว่า 80 % ที่มาใช้บริการ
ดูหนังไปทำให้ผมสะใจว่าไอ้พวกนักท่องเที่ยวคิดตื้นๆต้องเจอบทเรียนแบบนี้ซะมั้ง เจ๋งแฮะ - แต่มามองความจริงเรื่องท่องเที่ยวบ้านเรา ก็เข้าใจลำบากจริงๆครับ ไม่รู้ทำไงดี.........
Create Date : 05 กันยายน 2550 |
Last Update : 5 กันยายน 2550 17:07:03 น. |
|
13 comments
|
Counter : 863 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: เป๋อน้อย วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:18:00:07 น. |
|
|
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 5 กันยายน 2550 เวลา:18:27:06 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:0:43:14 น. |
|
|
|
โดย: haro_haro วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:9:51:48 น. |
|
|
|
โดย: Bernadette วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:24:13 น. |
|
|
|
โดย: mr.cozy วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:10:55:15 น. |
|
|
|
โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:12:42:40 น. |
|
|
|
โดย: Bernadette วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:15:58:56 น. |
|
|
|
โดย: Bernadette วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:16:57:22 น. |
|
|
|
โดย: Kurt Narris วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:1:41:16 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:2:27:21 น. |
|
|
|
โดย: mr.cozy วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:13:26:50 น. |
|
|
|
| |
|
|