Review : Japan Trip [Part 4] วันที่7 ตะลุยUniversalวันฮาโลวีน & วันที่8 ปราสาทโอซาก้า,Osaka Aquarium
My Makeup TodaY วันที่เจ็ดในญี่ปุ่น [31/10/2013] วันนี้จะไปลั้นลาแอ๊บเด็กที่สวนสนุกขอตาแน่นจัดเต็ม ขนตาบนยี่ห้อ BohkToh เบอร์ P-047 ขนมาจากไทย ส่วนขนตาล่างสอยที่ญี่ปุ่น(แต่ที่ไทยก็มี) Dolly Wink เบอร์ 08 จ้าMy Outfit TodaY แบบว่าอยากจะเป็นนักเรียนญี่ปุ่นบ้างอ้ะ555 วันนี้วันฮาโลวีน (31/10/2013) วันปล่อยผีขอปล่อยแก่หน่อยเห๊อะ! ด้านในใส่ Uniqlo Heattech แขนยาว อากาศ 15-16 องศาอยู่ได้สบายๆ ชุดนี้สอยมาจากร้าน Body Line ย่าน Dotonbori ที่เขียนไว้ใน [Part 3] คร๊าบ ถ้าจำไม่ผิดตัวนี้ราคา 3,990 yen (1,240 บาท) ผ้าดีมากกกมีเสื้อคลุมเข้าเซ็ตด้วยฮะ เป้าหมายของวันนี้มุ่งหน้าสู่ Osaka Univeral Studios Japan เย้ๆ การเดินทางมา Universal ง่ายนิดเดียวขึ้นรถไฟสาย JR ได้เลย สามารถใช้ JR Pass ได้เยี่ยมฮร่ะ โดยนั่งไปลงสถานีปลายทาง Universal City Station เค้าไม่ได้ซื้อบัตรไปก่อนเลยต้องไปต่อแถวซื้อเอาที่หน้าสวนสนุก วันที่ไปตรงกะวันฮาโลวีนคนเยอะใช้ได้เลยต่อแถวอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงฮะ ค่าบัตรแบบ 1Day Pass เล่นได้ทุกสิ่งอย่างสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 6,600 yen (2,050บาท) บัตรเด็กแบบ 1Day Pass อยู่ที่ 4,500 yen (1,400 บาท) จ้าUniversal Studio Japan แห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งตอนที่เค้าไปมีโซนใหม่ที่กำลังก่อสร้างอยู่เห็นโครงร่างเป็นปราสาทๆ กรีดร้องงงเลยอ้ะยิ่งได้เห็นจากในข่าวว่าอนาคตมันจะเป็นโซน Harry Potter กรี้ดๆ เสร็จเมื่อไหร่จัดไปจะมาตะลุยที่นี่ซ้ำอีกแน่นอน มาถึงปุ๊บรีบวิ่งไปต่อแถวเล่นเครื่องเล่นตัวเด็ดที่หลายคนแนะนำก่อนเลย กับรถไฟเหาะ Hollywood Dream - The Ride คนเยอะใช้ได้แต่ต่อแถวไม่นานมากประมาณครึ่งชั่วโมงฮะ โชคดีมากกกได้นั่งหน้าสุด เย้ๆ ซึ่งเจ้ารถไฟนี้จะมีเบาะสองแบบ คือวิ่งไปข้างหน้ากับเบาะแบบแบ็คดรอปวิ่งแบบหันหลัง เค้าได้แบบหันหน้า สำหรับอันนี้เค้าว่าชิลๆนะคือสนุกดีแต่ไม่ค่อยหวาดเสียวเท่าไหร่นั่งเพลินๆ ปีก่อนไปเล่นที่ Universal สิงคโปร์มาชอบอันที่สิงคโปร์มากฝ่าแฮะ ตอนนั้นจำได้ว่าเล่นแล้วเล่นอีกขึ้นไปหลายรอบเลยติดใจ มาช่วงเทศกาลแม้คนเยอะแต่จะฟินเพราะเค้าจะจัดตกแต่งในสวนสนุกตามเทศกาล ซึ่งฮาโลวีนฟินยิ่งกว่าเพราะชาวญี่ปุ่นเค้าแต่งตัวจัดเต็มเฟร่ออ!!! เข้าบรรยากาศฝุดๆ ถ่ายกับแม่เสือสาวสองคนน่าร๊าก.........แต่เค้ารู้นะมองอะไรกันอยู่อ้ะ! เพราะเค้าก็แอบมอง555 ฮาโลวีนของคนญี่ปุ่นจัดเต็มแค่ไหนดูได้จากภาพ อิอิ ส่วนใหญ่แต่งตัวกันมาเป็นทีม เดินดูหนุ่มๆสาวๆคอสเพลย์ก็สนุกละฮ้าฟ บ้านสนูปปี้!!! เห็นแล้วหมูวิ่งเข้าใส่ไปต่อแถวเลย แต่....แป่ว!เค้าบอกว่าสำหรับเด็กเท่านั้น โหยเสียใจอ้ะผู้ใหญ่ชอปสนูปปี้มันผิดเหรอ?!? กระซิกๆ โซนคิตตี้แบ๊วได้อีก ชมพูทั้งโซนแบ๊วววววมว๊ากกก อีกหนึ่งเครื่องเล่นที่เค้าแนะนำมิควรพลาด JAWS : Armity Habour Boat Tours เป็นการล่องเรือตามฉากในหนังเรื่อง JAWS เลย ฉากสวยมากกกยังกะอยู่เมืองนอกจริงๆ คือฉลามที่โผล่มาก็เด็ดตัวใหญ่มาก แต่ที่เด็ดสุดคือคนขับเรือสาวชาวญี่ปุ่น เด็ดตรงที่นางแอ็คติ้งชนะเลิศ แม้จะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นฟังไม่ออกซักคำแต่สัมผัสได้ถึงฟิลลิ่ง555 ยังไม่ทันจะเจอฉลามนางก็พยายามบิวท์ให้เรากลัว คือเสียงเล็กๆพูดญี่ปุ่นรัวๆน่าร๊ากกกชอบๆ นับถือเลยว่าขับเรือทั้งวันต้องแอ็คติ้งแบบนี้ทั้งวันสุดยอดมากคร๊าบ หมูประทับใจ ใกล้เที่ยงเริ่มหิวหาไรหม่ำรองท้องก่อน ที่นี่ตอนเข้าไม่ตรวจกระเป๋าเค้าแอบพกหนมปังมาด้วยแหะๆ อาหารในนี้ก็ราคาสูงตามสไตล์สวนสนุกอ่าน้า เซฟได้เซฟนิดละกัน เพิ่งหม่ำเสร็จไปหาอะไรนั่งดูเพลินๆดีกว่า เลยเดินเข้ามาโซน WATERWORLD เป็นการแสดงโชว์ฉากแอ็คชั่นเอฟเฟ็คตระการตามากฮับ แต่เหมือนกับที่สิงคโปร์เป๊ะๆซึ่งเค้าเคยดูมาแล้ว แต่ถึงแม้ดูซ้ำก็ยังสนุกน้า นักแสดงคนละชุดฟิลลิ่งต่างกันมันส์ไปคนละแบบ อิอิ ถ่ายคลิปวิดีโอสั้นๆมาให้ชมกันด้วย >>>CLICK<<< ลุยเครื่องเล่นต่อกันที่ Back To The Future : The Ride ดำเนินเรื่องโดยศาสตราจารย์สติเฟื่องที่สร้างรถทะลุอวกาศขึ้นมา แล้วรถคันหนึ่งโดยวัยรุ่นขโมย เราเลยต้องขับตามล่า ลักษณะเป็นเครื่องเล่นแบบนั่งในรถแล้วมีไฮโดรลิกโยกๆไปมา มีฉากฉายด้านหน้าก็สนุกดีฮับ แต่แถวยาวใช้ได้ต่ออยู่เกือบชั่วโมงแน่ะ เครื่องเล่นสุดท้ายที่ได้เล่นและเสียเวลาในการต่อแนวนานที่สุดของที่สุดThe Amazing Adventures of SPIDER-MAN เครื่องเล่นฮ็อตฮิตอันดับหนึ่งที่มาแล้วมิควรพลาด ของเค้าฮิตจริงต่อแถวอยู่ 1 ชั่วโมง 45 นาที โอ้วมายก็อช!!! ดูด้านหน้าคนจะและน้อยมากพรางตาให้เราหลงเข้าไป พอเห็นแถวด้านในแล้วแทบช็อคคือมีเขาวงกตให้ต่อแถวอีกยาวเฟื้อย เข้าไปแล้วออกไม่ได้ด้วย เลยต้องจำใจยืนขาลากต่อไป หุหุ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าน้า เพราะเป็นเครื่องเล่นแบบสามมิติต้องใส่แว่น 3D เป็นการต่อสู้ของสไปเดอร์แมนกับเหล่าตัวร้ายมากมายหลายพันธุ์ คือมันส์อ้ะ มีพ่นน้ำ พ่นไฟ พ่นไอเย็น เรียกได้ว่าสี่มิติเลยหล่ะ แนะนำว่ามาถึงนี่แล้วควรลอง จะให้ดีแนะนำว่าวิ่งมาต่อแถวเล่นอันนี้ก่อนก็ดีฮะ แต่ถ้าใครเคยเล่น Transformer ที่สิงคโปร์มาแล้วอันนั้นสร้างทีหลัง ภาพและเอฟเฟ็คอาจจะอลังกว่านิดนึงแต่ก็สนุกไปคนละแบบคร้าบ จุดพีคสุดของการมา Universal คือ เค้ามีเซอร์ไพรส์ฮาโลวีน!!! ซึ่งบอกเลยว่าเซอร์ไพรส์มากกกก ในตารางเห็นว่าจะมีซอมบี้พาเหรด ก็กะว่าคงเป็นพาเหรดให้เรานั่งดูเหมือนปกติ แต่ที่ไหนได้.... เค้าปิดไฟในสวนสนุกเกือบเหมือนเหลือแค่สปอตไลท์ฉายแบบสลัวๆ แล้วปล่อยซอมบี้ออกมาเป็นฝูงๆกระจายตัวทั่วสวนสนุกเลยจร้า!!! ซอมบี้เล่นได้เนียนเฝร่อ ท่าเดิน อาการ เดินมาแฮ่ใส่คนที่เดินไปมา สาวๆญี่ปุ่นกรี้ดกันอลังการ มีฉากซอมบี้รุมกินคนด้วยใครแจ็คพ็อตจะโดนลากไปรุมกิน คือเจ๋งอ้ะ! ไม่คิดว่าจะเซอร์ไพรส์กันแบบนี้วิ่งหนีซอมบี้กันอลวนอยู่เกือบยี่สิบนาที เค้าก็มีปล่อยทหารออกมาจัดการต้อนซอมบี้ มีการแสกนร่างกายเราด้วยว่าเป็นคนหรือซอมบี้ อัดคลิปสั้นๆมาให้ชมกันมันส์ที่สุดคุ้มค่าบัตรสองพันกว่าบาทละ 555 ฟินนาเล่ >>>ซอมบี้ไล่กินคนCLICK<<< และ >>>ทหารไล่ซอมบี้CLICK<<< ออกจากสวนสนุกประมาณสองทุ่มกว่ากลับมาหาอะไรหม่ำในเมือง ตั้งใจจะไปตามล่าหาร้านโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นร้านดังซึ่งอยู่แถวๆย่าน Dotonbori ระหว่างทางเดินผ่านเหมือนศาลเจ้าอะไรซักอย่างคนญี่ปุ่นมาไหว้กันเยอะเลย เลยเนียนเข้าไปไหว้ด้วย ศาลนี้แปลกตรงที่เค้าจะตักน้ำรดพระปูนปั้นสององค์ด้านข้าง และสาดน้ำเข้าที่องค์พระใหญ่ตรงกลางด้วย ขออภัยเค้ามิทราบชื่อศาลเพราะเดินผ่านโดยบังเอิญฮัย มื้อเย็นวันนี้ฝากท้องกันที่ร้านโอโคโนมิยากิชื่อดัง Okonomiyaki - MIZUNO ตั้งอยู่ย่าน Dotonbori ไม่ไกลจากร้านปูยักษ์ตรงตีนสะพานเท่าไหร่ หันหน้าหาร้านปูยักษ์เดินตรงไปทางขวา เจอร้านคาราโอเกะ Big Echo อยู่ซ้ายมือ เลี้ยวขวาเข้าซอยโลด ร้าน Mizuno จะตั้งอยู่ซ้ายมือสังเกตง่ายๆคนต่อแถวรอหม่ำเต็มหน้าร้านฮะ เห็นตามรีวิวเค้าว่าร้านนี้เป็นโอโคโนมิยากิ(พิซซ่าญี่ปุ่น)สไตล์โอซาก้า เจ้าต้นตำรับ ซึ่งเค้าจะมาทำให้เราหม่ำกันสดๆที่โต๊ะ โอโคโนมิยากิสไตล์โอซาก้า จะผสมเครื่องทุกอย่าง เนื้อ ผัก แป้ง คนๆเข้าด้วยกันเลยแล้วทอดบนกระทะ สุกแล้วจะโปะด้วยไข่ดาวไข่แดงเยิ้มๆ ราดซอสชุ่มๆ โรยด้วยสาหร่ายผงๆ ดูวิธีการทำที่หมูถ่ายมาได้ในคลิปฮะ >>>CLICK<<< อูยดูเองหิวเอง 555 เสร็จเรียบร้อยออกมาได้หน้าตาแบบนี้ฮับ ซอสอาหย่อยแต่ไม่ฉ่ำพอเค้าขอซอสเพิ่ม จำว่าซอสมีสองแบบ แต่ลืมว่าแบบไหนบ้าง 555 ลองถามในร้านดูละกันเนอะ ร้านนี้แป้งไม่เยอะไม่เอือม หม่ำตอนร้อนๆอร่อยดีนักแล เค้าจำราคามิได้แต่คุ้นๆว่าราคาแอบแพงเหมือนกันแหละ ช่างมันมาแล้วต้องลองๆ ส่วนยากิโซบะดันสั่งรสโชยุ ขอบอกว่าเค็มแสบลิ้น มิควรสั่ง ถ้าจะสั่งให้สั่งเป็นยากิโซบะรสปกติ หรือรสหวานนี่หล่ะน่าจะดีกว่าฮะ อ้ออีกอย่างแนะนำให้สั่งเบียร์สดมาทานด้วยเข้ากั๊นเข้ากัน ฮี่ๆ เดินออกมาหน้าร้านคุณแฟนดีใจซ๊าเจอตู้คีบตุ๊กตาไลน์ครั้งละ 100 yen แต่ลืมไปป่ะว่าคีบไม่เป็นอ้ะ! โดนไป 300 yen เลิกเล่นเสียตังฟรี 555 กินอิ่มเรียบร้อยได้เวลาปล่อยผีฮาโลวีน กุ๊ก กุ๊ก กู๋...... นัดเจอเดอะแกงค์ตรงย่าน Dotonbori นั่นแล รวมพลผีนักเรียนหญิง วะฮ่าฮ่า อยู่ไทยทำไม่ได้มานี่ต้องจัดเต็ม งานนี้ไม่มีอะไรต้องอายเค้าแต่งผีบ้างคอสเพลย์บ้างกันเต็มถนนเลยคร๊าบ บอกแล้วว่าญี่ปุ่นเค้ามาเต็มจริงอะไรจริง ตื่นตาตื่นใจไปหมด ไอ้ชุดนักเรียนที่เราแต่งไปนี่นึกว่ายังไม่ได้แต่ง กลายเป็นชุดธรรมดาไปเลย 555 เป็นคืนฮาโลวีนที่เจ๋งสุดในชีวิต เดินดูชาวญี่ปุ่นคอสเพลย์ก็เป็นสุขใจ Happy Halloween 2013 My Makeup & Outfit TodaY วันที่แปดในญี่ปุ่น [1/11/2013] เมคอัพเบาๆแต่ติดใจติดขนตาล่างอีกละ ฮี่ๆ ขนตาบนเอามาจากไทยคู่นี้เค้าจำเบอร์มิได้ฮะ ปากผสมสองสี Etude Rosy Tint Lips #1 + Candy Doll #Apricot Beige คอนแทคเลนส์ยี่ห้อ DreamColor1 รุ่น Sky สี Violet จ้า อากาศสบายๆแต่งตัวชิลๆใส่ Heattch แขนยาวด้านในเผื่อหนาวนิดนึง วันนี้กะเดินทางในโอซาก้าเต็มที่ เลยซื้อเป็น Osaka One-Day Pass ราคา 800 yen (250 บาท) ใช้นั่งรถไฟ+รถบัสในโอซาก้าได้ทุกสายจนถึงเวลาเที่ยงคืน สามารถใช้ลดราคาบัตรเข้าชมสถานทีท่องเที่ยวบางแห่งได้ด้วยฮับ จุดหมายแรกของวันนี้คือปราสาทโอซาก้า เดินทางมาง่ายๆด้วยรถไฟ ได้ทั้ง JR ลงสถานี Morinomiya Station หรือ Tanimachi 4-Chome (exit No.1B) ขึ้นเข้าชมด้านในปราสาทต้องซื้อบัตรเข้าชมคนละ 600 yen (155 บาท) แต่เค้าใช้บัตร Osaka One-Day Pass ลดราคาค่าเข้าได้ 100 yen เลยได้เป็นบัตร Discount Ticket มาในราคา 500 yen อิอิ ลดไปสามสิบกว่าบาทนะเออปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า โอซาก้าโจ (Ōsaka-jō) เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองโอซาก้าที่มีประวัติมายาวนานมาก แต่เดิมพื้นที่นี้เคยเป็นของวัดพุทธชื่อว่า Osaka Hongan-ji เมื่อปีค.ศ.1583 ซึ่งท่าน Toyotomi Hideyoshi นักรบผู้ที่พยายามจะรวบรวมประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นหนึ่งเป็นครั้งแรกนั้นได้มาสร้างจวนที่พักขึ้นที่นี่ และภายหลังจึงปรับปรุง ให้กลายเป็นปราสาทโอซาก้า โดยมีความโดดเด่นเป็นยอดปราสาท หรือที่เรียกว่า Tenshukaku แต่หลังจากสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้ไม่กี่ปีก็ถูกทำลายในช่วงสงคราม ต่อมาปราสาทโอซาก้าก็ถูกครอบครองโดยโชกุน Tokugawa Ieyasu ซึ่งสั่งให้ซ่อมแซ่มจนสมบูรณ์เรียบร้อย ต่อมา ในปี 1665 ที่นี่ถูกฟ้าผ่าเสียหายอย่างมาก ยอดปราสาทที่สวยงามชำรุดไปหลายร้อยปีทีเดียว จนกระทั่งปี 1931 นายกเทศมนตรีโอซาก้า ก็หาเงินบริจาคมาซ่อมแซมอีกครั้ง การบูรณะซ่อมแซ่มครั้งสุดท้ายนี้ ทำให้ปราสาทโอซาก้ากลับมาสวยงามดังเดิม ปัจจุบันปราสาทโอซาก้ามีทั้งหมด 8 ชั้น ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติศาสต์ของโอซาก้า มีส่วนแสดงงานภาพเขียน เครื่องแต่งกายของนักรบสมัยโบราณ ภาพเสือและปลาที่เห็นเป็นแบบเดียวกับที่อยู่รอบตัวปราสาท เห็นเค้าว่าเคลือบด้วยทองคำอลังการได้ขึ้นเป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่นด้วยหล่ะ บนหอคอยชั้นแปดเป็นจุดชมวิวเห็นตัวเมืองโอซาก้าแบบ 360 องศาสวยงาม ก่อนกลับแนะนำหม่ำ Soft Cream ตรงร้านค้าหน้าตัวปราสาท เค้าหม่ำรสเกาลัด (Chestnut) เห็นหน้าตาแลง่อยๆขอบอกว่าอร่อยม๊วก อันละ 300 yen (93บาท) เนื้อไอศครีมนุ่มๆหวานมันผสมเนื้อเกาลัดด้วยเข้มข้นฝุดๆอร๊ายยย ด้านในปราสาทจะมีรถขายอาหารเป็นหย่อมๆมีเก้าอี้ให้นั่งชิลใต้ต้นไม้บรรยากาศดี๊ดี แถวนี้ใบเมเปิ้ลเพิ่งเริ่มเปลี่ยนสีมีแซมส้มแดงนิดหน่อยพอกรุบกริป จุดหมายที่สองของวันนี้ ศาลเจ้าเท็มมังงุ Osaka Temmangu Shrine นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Minamimorimachi เดินประมาณ 5 นาทีเค้าอาศัยถามๆคนแถวนั้นเอา แหะๆ ไม่เสียค่าเข้าใดๆนะค้า ประวัติโดยคร่าวๆศาลเจ้าแห่งนี้เป็นศาสนสถานในศาสนาชินโตที่โด่งดัง สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.949 เก่าแก่มากปีประวัติมากว่าพันปี ผู้คนข้างเคียงมักเรียกศาลดังกล่าวว่า"Temma No Tenjin-san" ซึ่งหมายถึงที่สถิตย์ของเทพเจ้า Tenjin ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนญี่ปุ่น ในฐานะของเทพเจ้าแห่งการศึกษา จึงเป็นศาลที่นักเรียนนักศึกษาจากทั่วประเทศ แวะเวียนมากราบไหว้เพื่อขอให้สอบผ่านเข้าสถานศึกษาที่แต่ละคนตั้งใจไว้ ทุกวันที่ 24 และ 25 กรกฏาคมของทุกปีศาล Osaka Temmangu จะเจ้าภาพจัดเทศกาล Tenjin Matsuri ซึ่งเป็นเทศกาลขนาดใหญ่หนึ่งในสามเทศกาลของญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติมากว่า 1,000 ปี ศิษยานุศิษย์จำนวนกว่า 3,000 คนในชุดแต่งกายโบราณ จะพากันร้องรำทำเพลงแห่ไปทั่วเมือง ก่อนที่จะพากันไปลงเรือ ร่วมกับเพื่อนฝูงและญาติมิตรกว่า 12,000 คน ล่องเรือจำนวน 100 ลำไปทั่วลำน้ำโอกาว่า ท่ามกลางผู้ชมกว่า 2 ล้านคน และพลุงดงามกว่า 5,000 ดอก โอ้วอลังการมาก!!Credit : //www.osaka-info.jp/th/event/tenjin_matsuri.html มีเสาโทริอิจิ๋วด้วย ระหว่างทางเดินกลับไปขึ้นรถไฟฟ้าเดินผ่านย่านร้านค้าร้านอาหาร เห็นร้านปลาไหลย่างหลายร้านเลย เห็นแล้วน้ำลายยืดเลยสุ่มๆเดินเข้าไปลอง เลือกร้านนี้หล่ะ ดิสเพลหน้าร้านเชิญชวนมากหน้าตาน่าหม่าฝุดๆ บรรยากาศภายในร้าน ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น คือแบบญี่ปุ่นล้วนไม่มีภาษาอังกฤษเลยจ้า ต้องสั่งด้วยกระบวนท่าดัชนีอรหันสั่งข้าวหน้าปลาไหลชามเล็กมาลอง ข้าวหนึ่งชามโปะมาด้วยปลาไหลเนื้ออวบๆ 1 ชิ้น ชามนี้คือไซส์เล็กราคา 500 yen (155 บาท) เหมือนจะน้อยแต่ไม่น้อยแบ่งกันหม่ำสองคนได้นะเออ ขอบอกว่าปลาบปลื้มเลือกร้านได้เด็ดอร่อยมากกกก ปลาไหลย่างแห้งกำลังดีไม่ไหม้จนเกินไป มีน้ำซอสให้ราดเพิ่มเองด้วยบนโต๊ะเค้าชอบซอสชุ่มๆจัดไป ซอสเค้ารสกลมกล่อมมากหวานๆเค็มๆ ไม่หวานแหลมแบบบ้านเรา กรี้ดดดเขียนรีวิวไปหิวไปคิดถึงปลาไหลร้านนี้จุงเบยยยย จุดหมายสุดท้าย Osaka Aquarium Kaiyukan นั่งรถไฟใต้ดินสายสีเขียวเข้ม Chuo Line ไปลงที่สถานี Osaka Ko (C11) ออกทาง Exit 1 งานนี้ไม่ต้องกลัวหลงมีป้ายชี้ไปอควาเรียมตั้งแต่รถไฟใต้ดินเลย จากสถานีเดินไปประมาณ 5-10 นาทีแต่หาไม่ยาก สังเกตชิงช้าสวรรค์ (Tempozan Giant Ferris Wheel) แล้วเดินตรงดิ่งไปเลย พิพิธภัณฑ์จะตั้งอยู่ในพื้นที่ของ Tempozan Harbor Village ภายในนั้นจะมี Tempozan Marketplace (เปิด 11.00 น. 20.00 น.) เป็นแหล่งช้อปปิ้งครบวงจรตั้งอยู่ด้วยOsaka Aquarium Kaiyukan : พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง เปิดทุกวัน เวลาเปิดปิด 10.00-21.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ (อายุเกิน 16 ปี) คนละ 2,300 yen (715 บาท) เด็ก 1,200 yen ( 373 บาท) รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ในเว็ปของพิพิธภัณฑ์เลยฮับ มีภาษาไทยให้ด้วย //www.kaiyukan.com/language/thai/index.htm พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้คือเป้าหมายของการมาโอซาก้าเลย คุณแฟนเค้าไฝ่ฝันมานานอิอิ เพราะที่นี่ป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในร่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก สูง 8 ชั้น มีแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด 14 แทงก์ บ้านเราดูกระจอกไปเลยแหะๆ เดินแล้วเพลินน่าร๊ากทุกตู้ ทำไมแมวน้ำเค้าน่าตาแอ๊บแบ๊วกว่าบ้านเราเนี่ย 555 โซนแมงกระพรุนก็เพลินมีหลายสายพันธุ์มากสวยจริงจัง ปลาโลมาที่นี่เชื่องคนมาก ป้าแม่บ้านมาเช็ดตู้โลมาว่ายมาเล่นตามมือป้าเลยน่าร๊ากกก ไคลแม็กซ์ของที่นี่ก็คือแทงก์ที่ใหญ่ที่สุดนี้ มีชื่อว่า "Pacific Ocean" เป็นแทงก์ที่ใหญ่อลังการมากสูง 9 เมตร จุน้ำ 5,400 ตัน เห็นอันนี้ว่าใหญ่แล้วยิ่งทำให้อยากไปเห็นว่าแทงค์ที่ใหญ่สุดในโลก ที่ Georgia Aquarium อเมริกา เค้าว่าใหญ่ว่านี้เกือบห้าเท่าหูยจะขนาดไหนน้อ ในแทงก็นี้มีปลาฉลามวาฬซึ่งเป็นปลาที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกว่ายอยู่ 2 ตัว โว๊ววว!!! ใช้เวลาอยู่รอบๆแทงก์นี้เกือบชั่วโมงเพลิดเพลินเจริญใจมาก เค้ามีเปิดเพลงบรรเลงเบาๆปลาก็เหมือนฟังออกว่ายตามจังหวะเพลงเชียว มองปลาว่ายไปมาได้ไม่เบื่อ คุ้มค่าบัตรที่จ่ายเข้ามาละ 555 กระจกอะคริลิกที่ใช้เป็นผนังแทงก์หนาตั้ง 30 ซ.ม.แน่ะไม่หนาจริงเอามิอยู่นะนั่น ก่อนถึงทางออกจะมีบ่อให้จับต้องน้องปลาตัวเป็นๆได้แต่ต้องล้างมือก่อนนะจ๊ะ ปลาฉลามทรายไม่ดุร้ายผิวหนังเค้าจะสากๆคล้ายกระดาษทรายเลยสมชื่อ ส่วนปลากระเบนผิวหยุ่นๆคล้ายเจลลี่มากเด้งดึ๋งๆ ชอบตัวลายเสืออ้ะแซ่บเว่อร์ กลับออกมาจากอควาเรียมยังเหลือเวลาเลยแวะไปชอปที่ย่าน Dotobori อีกแป๊บนุง แหะๆ ดีใจเจอร้าน GU ด้วย เป็นร้านในเครือ Uniqlo แต่ดีไซน์วัยสะรุ่นกว่าที่สำคัญราคาถูกกว่า!!! เดินวนไปวนมาได้มาสามตัว หมดไปไม่ถึงแปดร้อยบาทดีใจจุงเบย มื้อดึกวันนี้หม่ำแถวๆโรงแรมเค้าพักตรงสถานี Awasa ทางออก Exit 9 ขึ้นจากทางออกเลี้ยวขวาเดินตรงไปไม่ไกลจะเจอร้านเป็นเพิงๆ ขายโอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ อุด้ง ฯลฯ สภาพร้านบ้านๆคลุมพลาสติกใส แต่บอกเลยว่าอย่าดูถูกหน้าตาเพราะอาหารอร่อยเทพมากและราคาถูกด้วย! เมื่อวานได้ลองโอโคโนมิยากิร้านดังมาแล้ววันนี้ต้องสั่งของร้านนี้มาเทียบ เสิร์ฟมาตกกะใจโอโคโนมิยากิอันใหญ่กว่าหน้าเค้าอีกอ้ะ หนาเกือบนิ้ว โปะด้วยไข่ยางมะตูมเยิ้มๆ ซอสรสเข้มข้นมาก ไม่อยากจะบอกอร่อยกว่าร้านดังอีกง่ะ!!! ต่อด้วยยากิโซบะรสแบบที่เราคุ้นเคยไม่เค็มจัดโปะไข่ยางมะตูมมาเช่นกัน เฮ้ยอร่อยกว่าอีกแล้ว ยังไม่พอสั่งปลาหมึกปิ้ง กะคอนยักกุหรือบุกก้อนในซุปอุด้งมาด้วย พร้อมเบียร์ 1 แก้ว กับเบียร์แบบ 0% Alcohol อีกหนึ่งขวด (รสชาติเหมือนเบียร์ธรรมดาเล้ย) อาหาร 4 อย่างที่จานใหญ่มากกินแทบไม่หมด เบียร์อีกสอง มื้อนี้หมดไปแค่ 2,030 yen ตีเป็นเงินไทย 630 บาท เท่านั้น ตื้นตันอร่อยได้ในราคาไม่แพงไม่ต้องต่อแถวกินด้วยเริ่ด! หนังท้องตึงหนังตาเริ่มหย่อนเข้าโรงแรมแช่ออนเซ็นเข้านอนได้ ราตรีสวัสดิ์ฮร้าฟ -----------------------------------------------------------------------------จบภาคสี่ไปแอบอิ่มๆอืดๆ อิอิ แล้วเจอกันใหม่ใน [PART 5] น้า ใครยังไม่ได้อ่านภาค 1-3 เข้าไปชมได้ตามลิงค์ด้านล่างฮับ Review : Japan Trip [Part 1] เปิดฉากตะลุยประเทศในฝัน ต้องเตรียมอะไรบ้าง & วันที่สอง ณ Akihabara Review : Japan Trip [Part 2]วันที่3หม่ำโซบะชื่อดัง ณ วัดJindai-ji & วันที่4ตะลุยชินจูกุชมวิวบนตึกสูง Review : Japan Trip [Part 3] วันที่5 ศาลเจ้า Meiji Jingu@Harajuku & วันที่ 6 นั่งชินคันเซ็นไปโอซาก้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าคร๊าบ
Create Date : 01 มกราคม 2557
Last Update : 12 มกราคม 2557 15:38:41 น.
4 comments
Counter : 10332 Pageviews.
โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ IP: 101.108.234.181 วันที่: 2 มกราคม 2557 เวลา:10:46:43 น.
โดย: SaRaY วันที่: 4 มกราคม 2557 เวลา:22:52:36 น.
โดย: Cheap Oakley oil rig IP: 94.23.252.21 วันที่: 2 สิงหาคม 2557 เวลา:20:20:02 น.
โดย: Cheap Louis Vuitton Wallet outlet IP: 94.23.252.21 วันที่: 21 สิงหาคม 2557 เวลา:20:21:30 น.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 535 คน [? ]
..........ชื่อ "ทราย" นะค๊า นามแฝงที่ใช้ก็มี SaRaY และก็ Mhunoiii (หมูน้อย) ค่า สนใจการถ่ายภาพ กะการแต่งหน้า จากเป็นงานอดิเรกจะกลายเป็นงานประจำอยู่แล้ว 555 เลยอยากจะทำบลอคเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้มานะค๊า ได้มากบ้างน้อยบ้าง มั่วๆกันปายยยย อิอิ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนแบบ หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของรูปภาพและข้อความใน http://www.mhunoiii.bloggang.com แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ หรือเพื่อการอ้างอิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด ปล.ห้ามมิให้นำภาพใดๆจากในบล็อคไปใช้เพื่อการขายของโดยเด็ดขาดนะคะ !!! ---------------------------------------------------------