จากการที่ สำนักงานการค้าต่างประเทศเกาหลี (Korea Agro Trade Centre (S) Pte. Ltd. ) ร่วมกับ โรงเรียนการอาหารนานาชาติสวนดุสิต (Suan Dusit International Culinary School) จัดอบรมอาหารเกาหลี ไปเมื่อวันที่ 13 - 14 มีนาคมนั้น...หลายๆ คนก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าอบรม เพราะว่าได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เต็มเร็วมากๆ เลยค่ะ ดาวก็เลยนำความรู้เรื่อง "กิมจิ" มาฝากกันค่ะ กิมจิ Kimchiกิมจิ ถือกำเนิดในเกาหลีราวศตวรรษที่ 7 ด้วยพื้นที่กว่า 70% ของเกาหลีเป็นภูเขา และสภาพอากาศในช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัดเป็นเวลานาน ไม่สามารถทำการเกษตรกรรมได้ จึงต้องหาวิธียืดอายุ การเก็บรักษาผลผลิตไห้นาน และสามารถรับประทานได้ตลอดฤดูหนาวชื่อเรียก "กิมจิ" สันนิษฐานว่า เพี้ยนมาจากคำว่า shimchae หมายถึง การดองผักด้วยเกลือ แล้วเพี้ยนเป็น dimchae -> kimchae -> kimchi ในที่สุด กิมจิ ผ่านการหมักด้วยกระบวนการทางชีวภาพ ซึ่งเกิดจาก "จุลินทรีย์" เปลี่ยนสารอาหารพวกแป้งหรือน้ำตาลให้เป็นกรด ทำให้ผลิตภัณฑ์มีรสเปรี้ยว ส่วนรสเค็มได้จากเกลือที่เติมลงไปเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ต่างๆ ที่ไม่ต้องการ นอกจากกลิ่นรสที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว กิมจิยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะกิมจิ มีวิตามินซีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย และยังจัดเป็นอาหารโปรไบโอติก ช่วยส่งเสริมการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ด้วย กิมจิเป็นที่รู้จักกันดี คือ กิมจิผักกาดขาว แต่ยังมีกิมจิอีกกว่า 100 ชนิด เช่น กักตูกี (กิมจิหัวผักกาด), โออีโซบักกี (กิมจิแตงกวา), พ่ากิมจิ (กิมจิต้นหอม), ซึ่งนอกจากจะรับประทานกิมจิเป็นเครื่องเคียงประจำมื้ออาหารแล้ว ยังสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัดกับเนื้อสัตว์, แกงกิมจิ, ข้าวผัดกิมจิ, ก๋วยเตี๋ยว, แพนเค้กกิมจิ หรือกระทั่งอาหารตะวันตก เช่น พิซซ่า, แฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯวันนี้เน็ตมันหวอๆ หลุดบ่อยมากกกก ทั้งๆ ที่ยังม่ะได้เซฟ ..เฮ้อคราวหน้าจะเอาสูตรกิมจิมาฝากค่ะ Create Date : 23 มีนาคม 2551 Last Update : 23 มีนาคม 2551 13:03:44 น. 14 comments Counter : 1450 Pageviews. ShareTweet