Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
12 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 15


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป
ตอนที่ 15 น้ำเอยน้ำใจ





หลังจากที่ทั้งสองต้องยืนแช่อยู่ในน้ำมาเป็นระยะเวลานาน ไท่จื่อเริ่มรู้สึกว่าตนเองยืนจะไม่
ไหว ออกอาการโงนเงนทำท่าว่าจะล้มมิล้มแหล่ กัวเส่อเหรินเห็นไท่จื่อจะล้มลงจึงรีบเข้า
ไปประคองพร้อมกับเอ่ยถาม จิ่วเกอ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง จิ่วเกอ
ไท่จื่อเอ่ยขึ้นอย่างเนือยๆ “ไม่ไหวแล้ว ข้าจะไม่ไหวแล้วจริงๆ ขาทั้งสองของข้าดูเหมือน
ว่าจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว”

จิ่วเกอ มาให้ข้าดูหน่อย” กัวเส่อเหรินเอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใย
“พวกเรายอมรับเถอะ พวกเรายอมรับเถอะ” ไท่จื่อเอ่ยอย่างเหนื่อยล้า
“ไม่ได้นะ จิ่วเกอ ไม่ได้อย่างเด็ดขาดเลย” กัวเส่อเหรินรีบห้าม “หากท่านยอมรับแล้ว
พวกเราคงจะต้องถูกส่งตัวกลับฉางอันแน่ๆ”

“กลับก็กลับสิ” ไท่จื่อเอ่ยอย่างไม่สนใจ “ตอนนี้ข้ากำลังคิดถึงแต่ที่นอนของข้า ข้าอยาก
จะขอนอนหลับอย่างสบายๆสักตื่น”

จิ่วเกอ หากคนในวังและนอกวังต่างรู้เรื่องนี้เข้าแล้วล่ะก็ ท่านจะยังดำรงตำแหน่งเป็นไท่จื่อ
อีกต่อไปได้อย่างไร”
กัวเส่อเหรินเอ่ยเตือนสติ
“ขอเพียงแต่ไม่ต้องแช่อยู่ในน้ำอย่างนี้ ต่อให้ไม่เป็นไท่จื่อข้าก็ยอม” ไท่จื่อให้เหตุผล
แบบเด็กๆ
“ไม่ได้นะ”
“เจ้ารีบตะโกนเรียกพวกนั้นเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว” ไท่จื่อโยเย
“ยังไงก็ไม่ได้ จิ่วเกอ เอาอย่างนี้ละกัน ท่านปีนขึ้นมานั่งบนไหล่ของข้า ข้าจะขอแบกท่าน
เอง”

“ไม่ได้ ตัวเจ้าเองแบกรับน้ำหนักข้าไม่ไหวหรอก” ไท่จื่อปฏิเสธความหวังดีของกัวเส่อเหริน
“ท่านรีบปีนขึ้นไหล่ข้าเถอะ” กัวเส่อเหรินรบเร้า
“ไม่เอา” ไท่จื่อปฏิเสธ
จิ่วเกอ ท่านรีบปีนขึ้นมาสิ” กัวเส่อเหรินเร่ง
“ข้าทำไม่ได้” ไท่จื่อยังยืนยันคำเดิม กัวเส่อเหรินจึงต้องชักแม่น้ำทั้งห้ามาเกลี้ยกล่อมไท่จื่อ
จิ่วเกอ น้ำที่นี่เย็นจัดจนจับเข้าไปถึงในกระดูก(阴气入骨)เลยทีเดียว หากท่านต้องแช่อยู่
ในน้ำนี้นานเกินไปแล้วล่ะก็ เกิดอยู่มาวันหนึ่ง ท่านได้พบกับเนี่ยนหนูเจียวเข้า ต่อให้นางยิน
ยอมที่จะอิงแอบแนบชิดซบอยู่ในอ้อมอก(投怀送抱)ของท่าน หรือยอมร่วมเตียงเคียงหมอน
(同床共枕)กับท่าน พวกท่านก็ไม่สามารถที่จะอยู่เคียงคู่ด้วยกันได้อีกต่อไป และท่านก็ไม่
สามารถที่จะครอบครองตัวนางได้อีกด้วย ท่านรู้หรือเปล่าจิ่วเกอ ท่านรีบขึ้นมานั่งบนไหล่ข้า
เร็วๆเถอะ”

[ที่กัวเส่อเหรินพูดออกมาเช่นนี้ ผู้แปลขอบังอาจเดาเอาเองว่า การที่ไท่จื่อต้องแช่อยู่ในน้ำเย็นนานๆ ความเย็นของน้ำอาจจะส่งผล
ให้ช้างน้อยของไท่จื่อหมดความรู้สึกหรือหมดสภาพ จนไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป]

“ไม่” ไท่จื่อยังคงยืนยันคำเดิม
จิ่วเกอ มีข้ากัวเส่อเหรินอยู่ ท่านไม่ต้องกลัว ข้าจะแบกท่านเอง” พูดจบกัวเส่อเหรินก็
ดำลงไปในน้ำ ไท่จื่อเห็นดังนั้นแล้วรู้สึกอึ้งนิดนึง ในใจก็คิดว่าจะทำตามที่กัวเส่อเหรินเสนอ
ดีหรือไม่ แต่ในที่สุด เพื่อความสบายของตนเองที่จะไม่ต้องแช่อยู่ในน้ำ จึงตัดสินใจปีนขึ้นไป
นั่งอยู่บนบ่าของกัวเส่อเหริน เมื่อเห็นว่าไท่จื่อนั่งเรียบร้อยแล้วกัวเส่อเหรินก็ผุดหน้าของตน
เองโผล่พ้นจากน้ำ จากนั้นก็แบกไท่จื่อที่นั่งอยู่บนไหล่ ค่อยๆพาตนเองเดินไปยืนให้หลังชิด
ติดกับผนังด้านหนึ่ง


กัวเส่อเหริน ข้าไม่เป็นไรแล้วล่ะ มาแบกข้าไว้อย่างนี้ แล้วตัวเจ้าล่ะ เจ้าเองก็ยังไม่มีเมีย
ไม่มีลูก(娶妻生子)ไม่ใช่เหรอ”
ไท่จื่อถามด้วยความห่วงใย
กัวเส่อเหรินตื้นตันจนน้ำตาไหล จิ่วเกอ ข้ารู้สึกดีใจที่ท่านเป็นห่วงเป็นใยข้า แต่ข้าไม่เป็น
ไรหรอก เพราะตัวข้าเองก็ไม่ได้สนอกสนใจหรือมีความรู้สึกใดๆกับผู้หญิงคนไหนเลย จริงๆ
นะ”

[ขอแซวนิดนึง คำพูดช่างชวนให้เกิดความสงสัย หรือว่า ที่แท้กัวเส่อเหรินก็เป็น...]
ไท่จื่อได้ยินดังนั้นรีบบอก “ไม่ได้ ไม่ได้” พร้อมกับขัดขืนพยายามจะลงจากบ่าของกัวเส่อ
เหริน
“เจ้ารีบปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้ ข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า”
[ขอแซวอีกหน่อย จริงๆไท่จื่อคงจะกลัวที่ทราบความจริง เลยต้องรีบขอลงจากบ่า]
แต่กัวเส่อเหรินก็พยายามรั้งไว้ไม่ยอมให้ไท่จื่อลงง่ายๆ จิ่วเกอ ท่านฟังคำของข้า...”
“เจ้ารีบปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้” ไท่จื่อไม่ฟังเสียง พยายามที่จะขอลงจากบ่าของกัวเส่อเหริน
ให้ได้
จิ่วเกอ จิ่วเกอ กัวเส่อเหรินเรียกไท่จื่อ “ท่านจะลงจากบ่าของข้าไม่ได้นะ ข้ากัวเส่อ
เหริน
เป็นเพียงคนธรรมดา(平民百姓) ถึงแม้ข้าจะมีลูกชาย ข้าก็คือกัวเส่อเหริน ถึงแม้จะ
ไม่มีลูกชาย ข้าก็ยังคงเป็นกัวเส่อเหริน ไม่เห็นเป็นไร แต่ตัวท่านไม่เหมือนกับข้า ท่านคิด
ดูสิ ลูกชายของท่าน วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นไท่จื่อ และวันข้างหน้าก็จะได้เป็นหวงซ่าง(皇上)
ข้าไม่อาจปล่อยให้ท่านไม่มีไท่จื่อ ข้าไม่อาจปล่อยให้ท่านไม่มีผู้สืบสกุลได้หรอก จิ่วเกอ
ถือซะว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ข้าทำเพื่อท่านล่ะกัน ข้าเต็มใจที่จะทำ”

กัวเส่อเหริน ถ้าหากพวกเราได้เป็นอิสระเมื่อไร ข้าหลิวเช่อ(刘彻 พระนามของไท่จื่อ)
ชั่วชีวิตนี้ ข้าไม่มีวันที่จะลืมเจ้าเด็ดขาด”
พูดจบก็หลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งในคำพูดของ
กัวเส่อเหริน


ที่ด้านบนเนี่ยนหนูเจียวตะโกนส่งเสียงร้องเรียกไท่จื่อ “คุณชาย คุณชายตระกูลฮั่น”
ไท่จื่อได้ยินเสียงเรียกจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปดูตามเสียงเรียก พอเห็นเป็นเนี่ยนหนูเจียวจึง
บอกกับกัวเส่อเหริน
กัวเส่อเหริน เห็นทีข้าจะต้องฝันไปแน่ๆ ข้าฝันว่าข้าเห็นเนี่ยนหนูเจียว
จิ่วเกอ ตอนนี้ท่านอย่าฝันแบบนี้สิ มันอาจจะทำให้ท่านเจ็บได้นะ”
“ไม่สิ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ความฝันล่ะ กัวเส่อเหริน เจ้าลองหยิก(掐)ขาของข้าดูทีสิว่าจะ
เจ็บหรือเปล่า”

กัวเส่อเหรินใช้มือหยิกไปที่ต้นขาทั้งสองข้างของไท่จื่อที่พาดอยู่บนบ่าแล้วถาม
“เจ็บหรือเปล่า”
“ไม่เจ็บล่ะ มันเป็นความฝันจริงๆเหรอ” สักพักจิ่วเกอก็เอ่ย “คงไม่ใช่หรอก ขาของข้าคง
จะชาหมดความรู้สึกไปแล้วแน่ๆ เจ้าลองเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นแล้วหยิกข้าดูใหม่อีกทีสิ”

กัวเส่อเหรินเงยหน้าขึ้นไปเหลือบเห็นใบหน้าของเนี่ยนหนูเจียวที่อยู่ด้านบน พลันร้องออก
มา “พระเจ้าช่วย ข้าก็คงจะฝันไปด้วยแน่ๆ”
เนี่ยนหนูเจียวส่งเสียงบอก “พวกเจ้าไม่ได้ฝันกลางวันหรอก ข้ามาหาพวกท่านนะ”
“ถ้าไม่ใช่ความฝัน งั้นเจ้ายื่นมือออกมาให้ข้าดูทีสิ” ไท่จื่อบอกกับเนี่ยนหนูเจียว
เนี่ยนหนูเจียวจึงยื่นมือของตนเองลงไป ไท่จื่อพอเห็นมีมือยื่นลงมาจากด้านบนก็รำพึงว่า
“ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่ความฝันนี่” พร้อมกับยื่นมือของตนเองขึ้นไปเพื่อจะจับแต่จับไม่ถึง
จึงร้องบอกกัวเส่อเหริน กัวเส่อเหริน ไม่ใช่ความฝัน เจ้ารีบมาช่วยข้าเร็ว”


ขณะที่ไท่จื่อกำลังเปลี่ยนท่าทางของตนเองจากท่านั่งไปเป็นท่ายืนอยู่บนบ่าของกัวเส่อเหริน
เพื่อที่จะพูดกับเนี่ยนหนูเจียวที่อยู่ด้านบนได้สะดวกขึ้นนั้น เนี่ยนหนูเจียวก็หันไปบอกกับ
หลิวอี้ว่า “พวกท่านออกไปกันก่อนเถอะ”
“ก็ได้” หลิวอี้ตอบแล้วหันไปทางทหาร “พวกเราไป”
เมื่อหลิวอี้พร้อมทหารเดินออกไปแล้ว เนี่ยนหนูเจียวก็หันกลับมายังไท่จื่อ
“เจ้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร เค้าอนุญาตให้เจ้ามาหาข้าเหรอ” ไท่จื่อเอ่ยถาม
หลิวอี้เป็นคนพาข้ามา” เนี่ยนหนูเจียวตอบ
หลิวอี้?”
“เค้าต้องการให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมท่านให้ยอมรับว่าเป็นไท่จื่อ
“หึ ที่แท้ก็เป็นกลอุบายสาวงาม(美人计 - เหม่ยเหรินจี้)” พูดจบก็หัวเราะ แล้วก็เอ่ย
เหน็บแนมเนี่ยนหนูเจียวต่อ
เนี่ยนหนูเจียวที่ข้าทั้งรักและภักดี ที่แท้เจ้าก็เป็นนังอสรพิษร้ายในจอกสุราที่คอยรับใช้
เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ เจ้าจงไสหัวไปซะ กลับไปบอกคนที่ส่งเจ้ามาว่า ข้าจิ่วเกอ ไม่ใช่
ไท่จงไท่จื่ออะไรหรอก แล้วก็ไม่ต้องใช้กลอุบาย(花招)ใดๆเช่นนี้อีก ต่อให้ส่งสาวงาม
ทั้งเมืองเยี่ยนชื่อมา ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าน้องชาย(下身)ของข้านั้นได้ด้านชาหมด
ความรู้สึก สูญเสียสมรรถภาพไปแล้ว และข้าก็เลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงแล้ว ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า”

เนี่ยนหนูเจียวหันรีหันขวางกลัวหลิวอี้จะได้ยินรีบเอ่ยขึ้นว่า
“คุณชายตระกูลฮั่น ท่านฟังข้าพูดก่อน”
“เจ้ายังจะพูดอะไรอีก ข้าบอกให้ไปไงล่ะ” ไท่จื่อเอ่ย
กัวเส่อเหรินรีบเอ่ยแทรก “เจ้าได้ยินหรือเปล่า บอกให้เจ้าไปไม่ได้ยินหรือไง ข้าจะบอก
อะไรให้ จิ่วเกอไม่มีทางทำตามที่เจ้าบอกหรอก(不吃你这一套) เจ้าจงรีบไปซะ ไม่งั้น
ข้าจะใช้ผรุสวาทวาจาที่เจ็บๆ ด่าเจ้า”

“ดีมาก เจ้าจงด่าเค้าแทนข้าที” ไท่จื่อรีบสนับสนุน
“ได้ ข้าจะด่าแทนท่านให้” กัวเส่อเหรินตกลง
“เจ้าจงใช้คำด่าที่รุนแรง หยาบคาย และก็ทนฟังไม่ได้นะ” ไท่จื่อเสนอ
เนี่ยนหนูเจียว เจ้า เจ้าช่างน่ารังเกียจ(讨厌)” ช่างเป็นคำด่าที่เจ็บแสบที่สุดของ
กัวเส่อเหรินที่ทำให้ไท่จื่อถึงกับอึ้งเมื่อได้ยิน
[จริงๆกัวเส่อเหรินไม่กล้า จึงไม่ได้ใช้คำด่าทอที่รุนแรงต่อเนี่ยนหนูเจียว ไท่จื่อจึงอึ้งเพราะผิดคาด]
“คุณชาย ท่านอย่าเพิ่งโกรธ ข้าต้องการช่วยท่านออกไปจริงๆ”
“เจ้าหรือจะช่วยข้า เจ้าจะช่วยข้าอย่างไร ใช้ใบหน้าสวยๆ(花容月貌)ของเจ้า หรือว่า
เสียงเพราะๆ(莺声燕语)ของเจ้าล่ะ”
ไท่จื่อพูดประชด
“ข้าต้องการช่วยท่าน เพี่อที่ว่าหลังจากที่ท่านได้ขึ้นครองราชแล้วจะสามารถช่วยแก้แค้น
แทนข้า”

“แก้แค้นเหรอ เจ้าต้องการแก้แค้นเรื่องอะไร”
เนี่ยนหนูเจียวเห็นหลิวอี้แอบดูอยู่จึงเปลี่ยนเรื่องพูดด้วยเสียงอันดังว่า
จิ่วเกอ ท่านดูมือของข้าสิ เนื้อละเอียดหรือไม่ นุ่มนวลหรือไม่” พร้อมกับโชว์ฝ่ามือให้
ไท่จื่อดู ไท่จื่อจ้องมองไปที่ตัวอักษร 斩(ตัดคอ) ที่อยู่บนฝ่ามือด้านขวากับตัวอักษร 侯
(เจ้าเมือง) ที่อยู่บนฝ่ามือด้านซ้ายของเนี่ยนหนูเจียว แล้วเอ่ยถามเบาๆว่า
“ตัดคอเจ้าเมืองอะไร ใช่เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อหรือไม่”
เนี่ยนหนูเจียวรีบพูดเสียงดังกลบเกลื่อนไม่ให้หลิวอี้ได้ยิน
“ข้าละคิดถึ้งคิดถึงท่าน ทุกทุกวันตั้งตาคอยท่าน อยากจะเห็นหน้าท่าน ใครจะไปรู้ล่ะว่า
ท่านอยากจะเล่นสนุก เล่นหยอกล้อกันจนเข้ามาถึงบริเวณภายในคุกน้ำกันล่ะ”

“เจ้ากับเค้ามีความอาฆาตแค้นเคืองเรื่องอะไรกัน” ไท่จื่อถาม
“ข้าจะบอกท่านในภายหลัง” บอกไท่จื่อเสร็จก็พูดเสียงดังต่อ “ข้าว่า แค่ท่านยอมรับว่า
เป็นไท่จื่อก็พอแล้ว”
พร้อมกับพยักหน้าให้ไท่จื่อพูดยอมรับ แต่ไท่จื่อไม่ทำตาม ตะโกน
เสียงดังออกไปว่า“ข้าก็ได้บอกไปแล้วนี่ ว่าข้าไม่ใช่ไท่จงไท่จื่อ เจ้ารีบไสหัวไปซะ”

[美人计 กลอุบายสาวงาม เป็นหนึ่งใน 36 กลยุทธ์ทางการทหาร ที่ประกอบด้วยเล่ห์กลอุบายต่างๆเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
ทั้ง 36 กลยุทธ์ มีดังนี้
กลยุทธ์ที่ 1 瞒天过海(หมานเทียนกั้วไห่ - อำพรางฟ้าข้ามทะเล สร้างภาพลวงตบตาฝ่ายตรงข้าม แล้วจู่โจมโดยไม่ให้ทัน
ได้ตั้งตัว)
กลยุทธ์ที่ 2 围魏救赵(เหวยเว่ยจิ้วจ้าว - โอบล้อมเว่ยช่วยจ้าว ทำการแยกกำลังพลของข้าศึกที่อยู่รวมกันให้กระจัดกระจาย
เป็นส่วนๆ จากนั้นจึงจู่โจม)
กลยุทธ์ที่ 3 借刀杀人(เจี้ยเตาซาเหริน - ยืมดาบฆ่าคน อาศัยกำลังพลจากฝ่ายอื่นจัดการศัตรูแทน เพื่อลดการสูญเสียของ
ฝ่ายตน)
กลยุทธ์ที่ 4 以逸待劳(อี่อี้ไต้เหลา - คอยซ้ำยามอ่อนแรง หากตนเป็นฝ่ายตั้งรับให้ใช้ความสงบนิ่ง ฉกฉวยโอกาสรอจังหวะ
ที่ฝ่ายรุกเกิดอาการอ่อนเพลีย หมดกำลัง แปรเปลี่ยนฝ่ายตนให้เป็นฝ่ายรุกแทน)
กลยุทธ์ที่ 5 趁火打劫(เชิ่นหั่วต่าเจี๋ย - ฉวยโอกาสยามปั่นป่วน เมื่อข้าศึกตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ ให้รีบฉวยโอกาสซ้ำเติม
โดยเร็วอย่าให้ตั้งตัวได้)
กลยุทธ์ที่ 6 声东击西(เซิงตงจีซี - แสร้งตีตะวันออกจู่โจมตะวันตก หลอกล่อให้ศัตรูหลงทาง เข้าใจผิด)
กลยุทธ์ที่ 7 无中生有(อู๋จงเซิงโหย่ว - ในจริงมีเท็จ ในเท็จมีจริง หลอกล่อจนข้าศึกเกิดการไขว้เขวว่าอะไรจริง อะไรเท็จ
แล้วลงมือในขณะที่ศัตรูยังงงอยู่)
กลยุทธ์ที่ 8 暗渡陈仓(อั้นตู้เฉินชาง - ปกปิดเป้าหมายหลักของการโจมตี โดยสร้างเป้าหมายหลอก ไปที่เป้าหมายอื่น
เมื่อศัตรูเผลอไม่ได้ระวังป้องกันเป้าหมายหลัก จึงเข้าโจมตี)
กลยุทธ์ที่ 9 隔岸观火(เก๋ออั้นกวนหั่ว - เมื่อศัตรูเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายกัดกันเอง ให้รอดูสภาพการณ์ จากนั้นจึงดำเนิน
การตักตวงผลประโยชน์จากความปั่นป่วนนั้น)
กลยุทธ์ที่ 10 笑里藏刀(เสี้ยวหลี่ฉางเตา - รอยยิ้มซ่อนดาบ แสดงให้ฝ่ายศัตรูเกิดความเข้าใจไปว่าฝ่ายเราคงไม่คิดที่จะ
เคลื่อนไหวจู่โจมหรือเตรียมกระทำการใด เมื่อศัตรูตายใจหรือชะล่าใจแล้วจึงลงมือทันที)
กลยุทธ์ที่ 11 李代桃僵(หลี่ไต้เถาเจียง - หากสถานการณ์ของฝ่ายตนอยู่ในสภาวะเสียเปรียบอยู่ อาจจะต้องสละบางอย่าง
เพื่อพลิกตนเองมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ)
กลยุทธ์ที่ 12 顺手牵羊(ซุ่นโส่วเชียนหยาง)
กลยุทธ์ที่ 13 打草惊蛇(ต๋าเฉ่าจิงเสอ)
กลยุทธ์ที่ 14 借尸还魂(เจี้ยซือหวนหุน)
กลยุทธ์ที่ 15 调虎离山(เตี้ยวหู่หลีซัน)
กลยุทธ์ที่ 16 欲擒故纵(อี้ว์ฉินกู้จ้ง)
กลยุทธ์ที่ 17 抛砖引玉(เพาจวนอิ่นอี้ว์)
กลยุทธ์ที่ 18 擒贼擒王(ฉินเจ๋ยฉินหวัง)
กลยุทธ์ที่ 19 釜底抽薪(ฝูตี่โชวซิน)
กลยุทธ์ที่ 20 浑水摸鱼(หุนสุ่ยมัวอี๋ว์)
กลยุทธ์ที่ 21 金蝉脱壳(จินฉานทัวเชี่ยว)
กลยุทธ์ที่ 22 关门捉贼(กวนเหมินจัวเจ๋ย)
กลยุทธ์ที่ 23 远交近攻(หย่วนเจียวจิ้นกง)
กลยุทธ์ที่ 24 假途伐虢(เจี่ยถูฝากั๋ว)
กลยุทธ์ที่ 25 偷梁换柱(โทวเหลียงห้วนจู้)
กลยุทธ์ที่ 26 指桑骂槐(จื่อซังม่าหวย)
กลยุทธ์ที่ 27 假痴不癫(เจี่ยชือปู้เตียน)
กลยุทธ์ที่ 28 上屋抽梯(ซ่างอูโชวที)
กลยุทธ์ที่ 29 树上开花(ซู่ซ่างไคฮวา)
กลยุทธ์ที่ 30 反客为主(ฝ่านเค่อเหวยจู๋ - เปลี่ยนจากแขกเป็นเจ้าบ้าน เมื่อตกเป็นฝ่ายตั้งรับให้ทำตัวเสมือนเป็นแขก
ค่อยๆสะสมกำลังเพื่อช่วงชิงโอกาสเปลี่ยนจากฝ่ายรับมาเป็นฝ่ายรุกแทน)
กลยุทธ์ที่ 31 美人计(เหม่ยเหรินจี้ - กลอุบายสาวงาม ให้มุ่งไปที่จุดอ่อนของแม่ทัพของศัตรู ทำการแทรกซึมแล้วกระตุ้น
จุดอ่อนนั้นเสีย)
กลยุทธ์ที่ 32 空城计(คงเฉิงจี้ - กลอุบายเมืองร้าง สร้างความฉงนสงสัยให้แก่ฝ่ายศัตรูหลงคิดว่าเป็นหลุมพราง)
กลยุทธ์ที่ 33 苦肉计(ขู่โร่วจี้ - กลอุบายทำร้ายตนเอง เพื่อคลายความน่าสงสัยจากฝ่ายศัตรู)
กลยุทธ์ที่ 34 反间计(ฝ่านเจี้ยนจี้ - กลอุบายสร้างความระแวงให้ฝ่ายศัตรู จากไส้ศึกที่ศัตรูส่งมา)
กลยุทธ์ที่ 35 连环计(เหลียนหวนจี้)
กลยุทธ์ที่ 36 走为上(โจ่วเว่ยซ่าง) ]




Create Date : 12 เมษายน 2549
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2549 12:32:44 น. 3 comments
Counter : 2560 Pageviews.

 
ยังรออ่านอยู่ท่านเป็นกำลังจายให้


โดย: Nuvan IP: 58.147.122.200 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:45:42 น.  

 
สงสัยคุณหวังจะชินกับการเรียกคุณข้างบนว่า "หนู"
เลยเรียกเราว่า "หนู" อย่างเราต้อง "หมู" แล้วล่ะ คุณหวัง


โดย: YuBing วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:25:06 น.  

 
เอาอีกๆ


โดย: AllSTORY วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:2:29:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.