Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
15 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
《ต้าฮั่นเทียนจื่อ 3》 ตอนที่ 5




สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป

ตีพิมพ์ครั้งแรก : 18 พฤษภาคม 2550 / ปรับปรุงแก้ไข :

ฝึกหัดแปลโดย : เสี่ยวชิงวา


จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 3 - ตอนที่ 5


เว่ยจางกงจู่กับฮั่วฉีเหลียนแต่งตัวปลอมเป็นชายหนีออกไปเที่ยวเล่นนอกวัง เดินเล่นมาจนถึงที่ตลาด ระหว่างทางเว่ยจ่างกงจู่ทรงหันไปเห็นตุ๊กตาดินเผาหน้าตาน่ารักวางขายเรียงรายอยู่จึงทรงแวะเข้าไปหยิบขึ้นดูอย่างสนพระทัย

คุณชายซื้อซักชิ้นเถอะ น่ารักๆทั้งนั้นเลย ” คนขายเอ่ยเชิญชวน

ฮั่วฉีเหลียนที่เดินนำหน้า ไม่เห็นเว่ยจ่างกงจู่เดินตามมาจึงหันหน้ากลับไปดูเห็นกำลังยืนดูของอยู่ก็รีบเดินเข้าไปหาแล้วโผล่หน้าเข้าไปถาม “ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่เหรอ

เว่ยจ่างกงจู่ที่กำลังดูของอยู่เพลินๆถึงกับตกพระทัยตรัสต่อว่า “ เจ้าทำเอาข้าตกอกตกใจหมดเลย ” จากนั้นก็ทรงยื่นตุ๊กตาที่อยู่ในมือให้ฮั่วฉีเหลียนดูแล้วตรัสถาม “ เจ้าดูนี่สิ น่ารักไหม

ไม่ต้องดูแล้วล่ะ ข้าจะพาเจ้าไปดูอย่างอื่น ” พูดพร้อมกับดึงตุ๊กตาออกจากมือของเว่ยจ่างกงจู่ไปวางไว้ที่เดิมแล้วบอกกับคนขายว่าไม่เอาแล้ว จากนั้นก็ฉุดมือเว่ยจางกงจู่ให้เดินออกมาจากที่ตรงนั้น ทันใดนั้นฮั่วฉีเหลียนก็ตาดีหันไปเห็นป้ายโฆษณา จึงชักชวนเว่ยจ่างกงจู่ให้เดินเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความอยากรู้ว่าบนป้ายนั้นเขียนไว้ว่าอะไร

ฮั่วฉีเหลียนอ่านอักษรที่เขียนไว้บนป้ายด้วยเสียงอันดังว่า “ ตงฟางหมอดูแม่นๆ สามคำทำนายในหนึ่งวัน หากต้องการอยากจะทราบโชคชะตา ขอให้เดินไปทางตะวันออกหนึ่งร้อยก้าว ” เมื่ออ่านจบทั้งสองก็หันมามองหน้ากัน จากนั้นก็เอ่ยออกมาแทบจะพร้อมกันว่า “ ตงฟางซั่ว







ฮั่วฉีเหลียนรีบส่งสัญญาณบอกเว่ยจ่างกงจู่ให้เดินทางมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกทันที ฮั่วฉีเหลียนออกตัวเดินนำเว่ยจ่างกงจู่ไปลิ่วๆ จนเว่ยจ่างกงจู่เดินตามแทบไม่ทันถึงกับต้องร้องบอก “ เจ้ารอข้าด้วยสิฮั่วฉีเหลียนจึงหันกลับมาจับมือของเว่ยจ่างกงจู่แล้วจูงเดิน “ ก้าวตามจังหวะเท้าของหม่อมฉันให้ทันนะ เพคะ

อีกไกลเท่าไรกันล่ะเนี่ยเว่ยจ่างกงจู่ตรัสถาม

เดินเร็วอีกหน่อย เดินเร็วๆเข้า เพคะฮั่วฉีเหลียนเอ่ยเร่ง

ดู..ดูโน่นสิ เรามองเห็นแล้วล่ะเว่ยจ่างกงจู่ตรัส

อีกแป๊บเดียวก็ถึง อีกแป๊บเดียวเพคะ อยู่ข้างหน้าโน่นเอง

เมื่อทั้งสองไปถึงที่หมายก็หยุดยืนดูลาดเลาอยู่ที่หน้าร้าน เห็นหมอดูกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาง่วงอยู่กับการฝนหมึก

ลูกค้าทั้งสองจะมาดูดวงหรือว่ามาทำนายตัวอักษรล่ะ

เสียงทักของหมอดูได้สร้างความแปลกใจให้กับทั้งสองเป็นอย่างมาก หมอดูทราบได้อย่างไรว่าทั้งสองยืนอยู่ที่หน้าร้านทั้งๆที่หมอดูเองก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามอง เว่ยจ่างกงจู่จึงตรัสถามขึ้น “ เจ้าก็คือตงฟางหมอดูแม่นๆหรือ

เจ้าของสมญานามตงฟางหมอดูแม่นๆ ผู้นี้มีชื่อจริงว่าเจียงชง ได้เงยหน้าขึ้นมาบอกกับผู้ถามว่า “ แม่นหรือไม่ ทำนายแล้วก็จะทราบเอง

เมื่อได้ยินที่เจียงชงเอ่ยออกมา ทั้งสองจึงหันมามองหน้ากัน แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปนั่งอยู่ต่อหน้าเจียงชง

เว่ยจ่างกงจู่ได้ตรัสถามขึ้นอีกว่า “ ปีนี้เจ้าอายุเท่าไรแล้ว

ข้าใช้ชีวิตผ่านมาได้สามสิบปีแล้ว

ทันทีที่ได้ยินฮั่วฉีเหลียนก็โพล่งออกไปว่า “ งั้นเจ้าก็คือตัวปลอมนั่นเอง

มีหลักฐานหรือเจียงชงเอ่ยถาม

ฮั่วฉีเหลียนจึงเอ่ย “ ซินแสตงฟางซั่ว เมื่อยี่สิบปีก่อนชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป จะยังมีอายุสามสิบอยู่ได้อย่างไร เว้นเสียแต่เจ้าจะมีเคล็ดลับที่ทำให้ตนเองดูเป็นหนุ่ม

ข้าก็ไม่เคยอวดอ้างตนเองว่าเป็นตงฟางซั่วนี่เจียงชงบอก

เจอคำตอบนี้เข้าฮั่วฉีเหลียนถึงกับอึ้งหันไปมองหน้าเว่ยจ่างกงจู่ เว่ยจ่างกงจู่จึงตรัสช่วย “ แต่ว่าเจ้าเรียกตัวเจ้าเองว่าตงฟางหมอดูแม่นๆนี่

ก็ข้ามาจากตงฟาง(ทิศตะวันออก) คำทำนายของข้ารึก็แม่นมาก ท่านทั้งสองต้องการทำนายตัวอักษรสักหน่อยไหมล่ะ วันนี้ยังเหลืออีกหนึ่งคำทำนาย

แล้วเจ้าคิดค่าทำนายเท่าไรล่ะฮั่วฉีเหลียนเอ่ยถาม

หลังการทำนายไปแล้ว หากคำทำนายแม่น เจ้าค่อยเอาเงินมาให้ข้า แต่ถ้าไม่แม่นข้ายินดีชดใช้เงินให้เจ้า

ตกลงฮั่วฉีเหลียนหันมาทางเว่ยจ่างกงจู่แล้วเอ่ย “ เจ้าทำนายละกัน เร็วๆด้วย ” เว่ยจ่างกงจู่นั่งนึกถึงตัวอักษรอยู่สักครู่ก็กระซิบบอกฮั่วฉีเหลียน

เชิญเขียนตัวอักษรเจียงชงเอ่ยกับทั้งสองพร้อมกับยื่นพู่กันให้

ฮั่วฉีเหลียนรับพู่กันมาเขียนตัวอักษร (ฮั่น) ลงไปบนกระดานไม้ เขียนเสร็จก็หยิบขึ้นมาจ่อตรงหน้าของเจียงชง

เจียงชงเอ่ยถาม “ อยากถามถึงคนหรือว่าถามถึงเรื่องราวล่ะ

(อ้าว เป็นหมอดูแม่นๆก็ต้องรู้สิว่าลูกค้าจะถามอะไร) ฮั่วฉีเหลียนจึงยื่นหน้าเอ่ยอย่างยียวนออกไปว่า “ เจ้าไม่มีปัญญาเดาหรือไงว่าเราจะถามอะไร

เจียงชงจึงมองไปที่ตัวอักษรแล้วเอ่ย “ ตัวอักษร (ฮั่น) ประกอบด้วยอักษร (สุ่ย - น้ำ) มีอักษร (เฉ่า - หญ้า)อยู่ที่หัว ส่วนข้างล่างก็มีอักษร (โค่ว - ปาก) ที่ด้านล่างของเส้นแนวนอนสามเส้นก็มีคนอยู่ อักษรตัวนี้ จึงถามทั้งเรื่องราวและก็ถามถึงบุคคล

เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะถามเกี่ยวกับคนฮั่วฉีเหลียนเอ่ยถาม

ก็ในตัวอักษรมีคนอยู่น่ะสิ

แล้วที่ถามเรื่องราวล่ะเว่ยจ่างกงจู่ตรัสถาม

ตัวอักษร (ฮั่น) ก็คือดินแดนแห่งราชวงศ์ฮั่น ความน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์ฮั่น เจ้าอยากจะถามเกี่ยวภารกิจของชาติ แต่ว่าภายในนั้นก็มีคนที่เจ้าห่วงใยอยู่ด้วย

ได้ยินที่เจียงชงเอ่ย ทั้งสองคนถึงกับร้องว้าวแล้วหันมาสบตากัน เว่ยจ่างกงจู่หันไปตรัสถาม “ งั้นคนที่นางถามเป็นใครกันล่ะ

แน่นอนต้องเป็นผู้ชาย ลูกผู้ชายชาตรี องอาจกล้าหาญ

คราวนี้ทั้งสองยิ่งร้องมากกว่าว้าว ฮั่วฉีเหลียนจึงเอ่ยถามต่อ “ แล้วตอนนี้เค้าอยู่ที่ไหนล่ะ

สถานที่ที่มีหญ้าและน้ำ

แล้วจะกลับมาได้เมื่อไหร่

ช่างเป็นอะไรที่ยากนัก ตัวอักษร (ฮั่น) หากอักษร (สุ่ย - น้ำ)หายไปเจียงชงพูดพร้อมกับเอามือปิดอักษร (สุ่ย) “ แล้วนำมาวางเคียงข้างกับอักษร (เจีย - สวยงาม) ก็จะกลายเป็นตัวอักษร (หนาน - ยาก, ลำบาก) อธิบายได้ว่ามีสาวงามกำลังรอคอยเค้าอยู่ที่ฉางอัน ส่วนเค้าก็อยากจะกลับมาบ้านจนใจจะขาด

แม่นจริงๆเลยเว่ยจ่างกงจู่ตรัสออกมาด้วยความเลื่อมใสก่อนจะตรัสถามต่อว่า “ ท่านคิดค่าทำนายเท่าไร

ไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ รอให้เค้ากลับมาถึงก่อน ค่อยจ่ายเงินก็ยังไม่สาย



จี้อันซื่อพร้อมด้วยจี้ฉินหู่กับหลี่ฮั่นนำกำลังกองทัพไปปราบกองทหารของอ๋องเจียงตูที่คิดก่อการกบฎจนได้รับชัยชนะ จี้อันซื่อได้มีคำสั่งให้จี้ฉินหู่เดินทางล่วงหน้าไปจับตัวอ๋องเจียงตูกับครอบครัวเพื่อนำตัวไปรับโทษที่ฉางอัน


จี้ฉินหู่เมื่อรู้ว่าจี้อันซื่อกับหลี่ฮั่นขี่ม้าเดินทางมาตรวจตราความคืบหน้าที่จื่อตงเตี้ยน(紫東殿)ซึ่งเป็นตำหนักของอ๋องเจียงตู ก็รีบวิ่งออกมาให้การต้อนรับพร้อมกับรายงานสถานะการณ์

รายงานท่านพ่อจิ้ฉินหู่เอ่ยกับต้าเจียงจวินจี้อันซื่อ

จี้อันซื่อเอ่ยถามกลับไปว่า “ ใครเป็นผู้รายงาน

ก็ลูกไงท่านพ่อจิ้ฉินหู่เอ่ยอย่างงงๆ

บนสนามรบไม่มีคำว่าลูก ไม่มีคำว่าพ่อ เจ้าลองรายงานใหม่อีกครั้งสิ

ข้านายทหารยศเสี้ยวเว่ย(校尉) ชื่อจี้ฉินหู่ ขอรายงานต่อท่านนายพลใหญ่ว่า กองทหารทั้งหมดของอ๋องเจียงตูได้รับความพ่ายแพ้แล้ว

เมื่อข้าศึกถอยหนีก็จำต้องไล่ตาม สำหรับอ๋องเจียงตูกับครอบครัวนั้น เจ้าจงไปตามจับตัวอย่าให้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว

รับทราบจี้ฉินหู่รับคำสั่งเสร็จก็พาทหารไปตามจับตัวอ๋องเจียงตู


จี้อันซื่อยืนรออยู่ด้านหน้าตำหนัก หลี่ฮั่นเดินออกมาเอ่ยกับจี้อันซื่อว่า “ รายงานท่านนายพลใหญ่

ค้นดูทั่วแล้วหรือยัง

เรียนท่านนายพลใหญ่ คนที่ควรจะจับตัวไว้ก็ได้จับตัวเอาไว้หมดแล้ว

แล้วอ๋องเจียงตูหลิวเฟยล่ะ

เค้าดื่มยาพิษปลิดชีวิตตนเองแล้วครับ


จี้อันซื่อเดินนำหน้าหลี่ฮั่นกับจี้ฉินหู่เข้าไปในตำหนัก ที่เบื้องหน้ามีศพของอ๋องเจียงตูนอนตายอยู่ ที่ข้างๆศพมีหญิงสาวนางหนึ่งนั่งร้องไห้หันหลังให้กับคนทั้งสามอยู่

เจ้าเป็นใครจี้อันซื่อเอ่ยถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา จี้ฉินหู่จึงส่งเสียงดังบอกหญิงสาวผู้นั้นว่า “ ท่านนายพลใหญ่ถามเจ้าอยู่นะ

หญิงสาวผู้นั้นค่อยๆหันหน้ามาบอก “ เค้าไม่คู่ควรที่จะมาถามอะไรเรา

หลี่ฮั่นได้ยินที่หญิงสาวพูดจึงรีบเอ่ยถาม “ หากท่านนายพลใหญ่ไม่คู่ควร ยังจะมีคนที่คู่ควรอีกหรือ

นายพลใหญ่ จะใหญ่สักแค่ไหนกันเชียว ก็แค่บ่าวรับใช้ของคนตระกูลหลิว เราก็คือจวิ้นจู่(郡主 คำเรียกหญิงสาวที่เป็นบุตรของคนระดับอ๋อง)ของอ๋องเจียงตู พวกเจ้าได้ปฏิบัติตนตามธรรมเนียมการเข้าพบเชื้อพระวงศ์แล้วหรือไม่

น่าเสียดาย ที่ท่านอ๋องพ่อของเจ้ากระทำการไม่สำเร็จ คนชนะก็ได้เป็นอ๋องเป็นโหว คนแพ้ก็เป็นโจรดีๆนี่เอง ข้าคงปฏิบัติต่อเจ้าเช่นเดียวกับที่ปฏิบัติต่อโจร ” พูดจบจี้อันซื่อก็สั่งจี้ฉินหู่จี้ฉินหู่รับคำสั่ง

ข้าน้อยพร้อมรับคำสั่ง

ตัดหัวหลิวเฟยแล้วนำกลับเมืองหลวง ส่วนบรรดาญาติพี่น้องไม่เว้นคนแก่หรือเด็กก็ให้จับกลับไปฉางอันพร้อมกัน ” จากนั้นก็กำชับอีกว่า “ เจ้าต้องระมัดระวังขณะคุมตัวส่งกลับฉางอันล่ะ

ข้าน้อยรับทราบ


รหว่างที่จี้ฉินหู่พาทหารคุมตัวนักโทษเดินทางกลับฉางอันนั้น ก็มีม้าเร็วตะโกนไล่ตามหลังมาว่า “ มีนักโทษหลบหนีจี้ฉินหู่จึงรีบไปตรวจดูว่าเป็นใครกันที่หลบหนีไป เมื่อตรวจดูนักโทษทีละคนแล้ว จี้ฉินหู่ถึงกับเอ่ยออกมาด้วยความแค้นใจ “ หลิวซี่จวิน ยังไงเจ้าก็หนีข้าไม่พ้นหรอก


ที่ตำหนักไท่จื่อฝู่(太子府) ไท่จื่อหลิวจี้ว์ทรงหยิบหนิวเจี่ยวห้าว(牛角号 เครื่องดนตรีประเภทเป่าลักษณะคล้ายเขาสัตว์โค้ง)ออกมาส่งให้เว่ยจ่างกงจู่กับฮั่วฉีเหลียนเอาไปคนละอัน ไม่ต้องแย่งกันนะ

ฮั่วฉีเหลียนรับมาแล้วแอบทำหน้าเบ้กับเว่ยจ่างกงจู่

ใครอยากได้อ่ะเว่ยจ่างกงจู่ตรัสกับไท่จื่อ

ทรงคิดว่าพวกเรายังเป็นเด็กเล็กๆอยู่หรือเพคะฮั่วฉีเหลียนเหน็บ

แต่ไท่จื่อกลับตรัสอย่างชื่นชมกับของที่ตนเองนำกลับมาให้ทั้งสอง “ ตอนนั้นช่วงเวลาที่ท่านอาเว่ยชิงไปออกรบ ข้ายังรบเร้าให้ท่านนำหนิวเจี่ยวห้าวกลับมาให้ข้าเลยนะ

ช่วงเวลานั้น ทรงมีพระชนมายุได้กี่พรรษาเหรอ เพคะฮั่วฉีเหลียนทูลแดกดันไม่เลิก

เอาล่ะ เอาล่ะ ถือซะว่าเราเป็นพวกชอบคิดเองเออเอง คิดว่าพวกเจ้าคงจะชอบของฝากชิ้นนี้ก็แล้วกัน แต่ว่าครั้งนี้นะ เราได้ทำงานใหญ่ชิ้นหนึ่งล่ะ

งานใหญ่?ฮั่วฉีเหลียนหูผึ่งรีบทูลถาม “ งานใหญ่อะไรเหรอ เพคะ

เรา หลี่ฮั่น และจี้ฉินหู่ ได้สาบานเป็นพี่น้องกันแล้ว และเราได้นับพวกเจ้าสองคนเข้าไปด้วยแล้ว ” ไท่จื่อตรัสอย่างภูมิใจ แต่ฮั่วฉีเหลียนกลับส่ายหน้าเบื่อๆเมื่อได้ทราบงานใหญ่ของไท่จื่อ

หม่อมฉัน เป็นขณิษฐาแท้ๆ ยังต้องร่วมสาบานด้วยเหรอ เพคะเว่ยจ่างกงจู่ตรัสถาม

ในตอนนั้นฮั่นซิงหุ้ย ก็มีเสด็จป้าผิงหยางกงจู่ของพวกเรารวมอยู่ด้วย ” ทรงหันมาทางฮั่วฉีเหลียนแล้วตรัสต่อว่า “ ฮั่วฉีเหลียน ยังมีเจ้าด้วยอีกคนหนึ่ง

มีหม่อมฉันด้วยเหรอ เพคะ

จะชายหรือหญิงก็ไม่สำคัญ ยังไงก็มีเจ้ารวมอยู่ด้วย

แต่ว่าหม่อมฉันก็ไม่อาจทราบได้ว่า คนเสเพลเกเร(狐朋狗友)อย่างสหายของพระองค์ คู่ควรพอที่จะร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับหม่อมฉันหรือไม่

เค้าสองคนเนี่ยนะที่ไม่คู่ควร

วิทยายุทธ์ของพวกเค้าทั้งสองคนเหนือกว่าหม่อมฉันหรือเปล่าล่ะ เพคะ

ขี้คุย

งั้นก็เชิญพระองค์ชื่นชมและยอมรับไปคนเดียวแล้วกัน ฉีเหลียนขอทูลลา ” ทูลเสร็จก็เดินหนีจากไปดื้อๆ

ไท่จื่อรู้สึกเคืองกับกิริยาท่าทางของฮั่วฉีเหลียน จึงตรัสกับเว่ยจ่างก่งจู่เจ้าดูนางสิ ทำตัวพิลึกกึกกือไปกันใหญ่แล้ว พี่ว่าจะพานางไปเล่นอะไรสนุกๆสักหน่อย นางก็มาทำเสียบรรยากาศหมด

อะไรสนุกๆที่พี่ว่า นี่ใช่ใช้กำลังงัดข้อแข่งกับเพื่อนๆ(左膀右臂)ของพี่หรือเปล่าเนี่ย เป็นการเล่นที่ต้องใช้สมองสักนิดก็ไม่มี ดูอย่างเสด็จพ่อในตอนนั้นสิเพคะ ท่านโชคดีมากๆที่มีตงฟางซั่ว

ตงฟางซั่ว ร้อยกว่าปีจึงจะมีคนอย่างเค้าสักคน นั่นเป็นอะไรที่ยากมากๆเชียวนะ

แต่ว่าถ้าตอนนี้ยังมีตงฟางซั่วอยู่ล่ะ เพคะ

ตงฟางซั่ว เค้ากลับมาแล้วเหรอ

แม้ว่าเค้าจะไม่ได้แซ่ตงฟาง แต่ว่าความสามารถของเค้าก็ไม่ด้อยไปกว่าตงฟางซั่วเลยนะ เพคะ

ได้ยินปุ๊บไท่จื่อรีบตรัสถามทันทีว่า “ เค้าอยู่ที่ไหน


ไท่จื่อหลิวจี้ว์รีบเดินทางมายังร้านของตงฟางหมอดูแม่นๆในทันที เมื่อไปถึงก็เห็นเจียงชงกำลังให้คำทำนายแก่ลูกค้าอยู่ จึงหยุดยืนดูอยู่ห่างๆที่นอกร้าน หลังจากที่ลูกค้าลากลับไปแล้ว ไท่จื่อหลิวจี้ว์ก็เดินเข้าไปหาเจียงชงแล้วตรัสถาม “ เจ้าใช่คนที่ยกตนเองเทียบชั้นกับตงฟางซั่วหรือเปล่า

ข้าไม่บังอาจหรอกเจียงชงตอบอย่างถ่อมตน

ทำนายอักษรให้ข้าทีสิ

ต้องขอโทษด้วย วันนี้ข้าได้ทำนายครบสามคำทำนายแล้ว วันพรุ่งนี้ท่านค่อยมาเร็วกว่านี้ก็แล้วกัน

ไท่จื่อหลิวจี้ว์ไม่อยากมาเสียเที่ยวจึงเอ่ยถาม “ ไม่มีข้อยกเว้นบ้างหรือ

ภายในสามคำทำนาย ทุกคำทำนายล้วนถูกต้องแม่นยำ หากเกินสามคำทำนายไปแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรไปจากคำพูดที่เหลวไหลไร้สาระ ต้องขออภัยคุณชายด้วย




Create Date : 15 เมษายน 2550
Last Update : 24 สิงหาคม 2550 10:37:40 น. 1 comments
Counter : 1520 Pageviews.

 
เฮ้อเจ้าหมอดูตัวแสบออกมาแล้ว


โดย: Nuvan IP: 124.157.128.72 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:13:36:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.