Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
7 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
จอมจักรพรรดิ์ ฮั่นอู่ตี้ ภาค 1 - ตอนที่ 14

ตีพิมพ์ : 10 พฤศจิกายน 2549
แก้ไข : 11 พฤศจิกายน 2549


สารบัญ | ตอนที่แล้ว | ตอนถัดไป
ตอนที่ 14 หาคนมาช่วย




“ข้าก็ว่าอย่างงั้น ไท่จื่อที่ต้องถูกถอดออกจากตำแหน่ง ทั้งๆที่ก็เห็นกันอยู่ว่าโอกาสที่จะได้
ขึ้นครองราชย์นั้นอยู่แค่มือเอื้อม(唾手可得) แต่กลับคว้าเอาไว้ไม่ได้(功亏一篑)นี่ สู้ตาย
ไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่ซะอีก(生不如死 - เซิงปู้หรูสื่อ)”

จางทังเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้รับทราบคำทำนายของตงฟางซั่วจากหลี่หลิง แต่เมื่อพูดจบ
ก้วนฟูที่นั่งฟังอยู่ในที่นั้นด้วยก็ลุกพรวดขึ้นเอ่ยกับจางทังว่า
“ตำแหน่งองค์รัชทายาท(ไท่จื่อ)นั้น หวงซ่าง(หวงตี้)ทรงเป็นผู้วินิจฉัยกำหนดบุคคลที่จะ
ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง แม้แต่ขุนนางหรือประชาชน ทุกคนต่างก็ทราบดี คงไม่มีใครหน้าไหน
กล้าที่จะมาขับไล่ถอดเค้าออกจากตำแหน่งได้หรอก”

“เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ความกล้าที่ไหนเลย แต่อยู่ที่เหตุผลที่จะนำมาใช้อ้าง เพื่อที่จะถอดถอน
ต่างหาก”
จางทังหยุดสักครู่แล้วเอ่ยต่อว่า “ถึงแม้ว่าหวงซ่างจะสามารถพระราชทานอภัย
โทษให้จิ่วเกอได้ แต่พระองค์ก็คงไม่สามารถที่จะรักษาพระเกียรติของไท่จื่อได้อีกต่อไป”

“งั้นจะทำอย่างไรกันดีล่ะ” หลี่หลิงเอ่ยถามความเห็นขึ้น
ก้วนฟูเอ่ยด้วยความโมโห “ข้าเห็นว่า ครั้งนี้เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อจงใจที่จะหาเรื่องกันชัดๆ”
“แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว คดีนี้เป็นแค่ดคีฆาตกรรมธรรมดาคดีหนึ่งเท่านั้น
ขนาดตัวเจ้าเองก็ได้ยินยอมขอยอมรับผิดชดใช้ชีวิตของตนเองให้แล้ว แต่เจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ
เองกลับยังรั้งตัวไท่จื่อไว้ไม่ปล่อย อีกทั้งยังพยายามบังคับให้ยอมรับว่าเป็นไท่จื่ออีก เรื่องนี้
ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องซับซ้อนยังไงชอบกล”
จางทังเอ่ย
ก้วนฟูเสนอ “หากพวกเราช่วยกันนำตัวจิ่วเกอออกมาได้ก็คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
จางทังรีบเอ่ยห้าม “ไม่ได้ สถานการณ์ยิ่งกำลังคับขันอยู่ พวกเราจะต้องไม่กระทำการใดๆ
ด้วยความหุนหันพลันแล่น(轻举妄动)เป็นอันขาด ไม่งั้นจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ไปอีก”

ก้วนฟูเอ่ยขึ้น “สำหรับครั้งนี้ ที่ท่านพูดมาข้าไม่ขอเก็บเอามาเป็นสาระละกัน” พูดจบก็หันไป
ทางหลี่หลิง หลี่หลิงเจ้าไปกับข้า”
“ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้านะ” จางทังเอ่ยเสียงเข้ม
ก้วนฟู : “ขนาดจิ่วเกอพวกเรายังคุ้มครองไม่ได้เลย เป็นพี่ใหญ่แล้วมีประโยชน์อะไรอ่ะ”
จางทัง : “ตอนที่พวกเรากับจิ่วเกอร่วมสาบานเป็นพี่น้องกัน เจ้ายังรีบกลับมาร่วมคำนับด้วย
เรื่องนี้ก็ไม่ถือเป็นสาระด้วยงั้นหรือ ก็ดี งั้นความสัมพันธฉันท์พี่น้องของพวกเราก็จะไม่มีเจ้า
ก้วนฟู เจ้าอยากจะทำอะไรก็ตามใจเจ้า ขออย่างเดียวอย่าดึงจิ่วเกอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

หลี่หลิงได้ยินที่ทั้งสองพูดเถียงกันก็เกิดลังเล แล้วตัดสินใจเอ่ยขึ้นว่า “ข้าว่าตามพี่ใหญ่”
ได้ยินที่หลี่หลิงเอ่ย ก้วนฟูจึงได้แต่ถอนหายใจนิ่งเงียบ
จางทังเสนอขึ้น “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะรีบเดินทางกลับฉางอันเข้าเฝ้าก่วนเถากงจู่เพื่อ
หารือว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร และจะหาโอกาสเข้าเฝ้าหวงซ่างเพื่อขอพระราชทานอภัย
โทษ พวกเจ้าสองคนก็รออยู่ที่นี่ คอยสังเกตดูการเคลื่อนไหวของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ แล้วอย่า
ก่อเรื่องอะไรขึ้นล่ะ”
หันไปบอกก้วนฟู ก้วนฟู ขอเพียงแต่เจ้ารับปาก ข้าก็จะรีบออกเดิน
ทางทันที”

“ก็ได้ ข้ารับปากท่าน” ก้วนฟูเอ่ยรับคำ
“เรื่องของจิ่วเกอ ข้าคงต้องมอบให้เป็นภาระของเจ้าแล้ว” จางทังเอ่ยพร้อมกับยกมือทั้งสอง
ขึ้นตบบ่าของก้วนฟูเบาๆ
ก้วนฟูพูดให้จางทังสบายใจว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง”
จางทังหันไปพูดกำชับกับหลี่หลิงว่า หลี่หลิง เมื่อพี่ใหญ่ไม่อยู่ เจ้าต้องเชื่อฟังพี่สามรู้ไหม”
หลี่หลิงรับคำ “ข้าทราบแล้ว”

*****



ระหว่างที่จางทังขี่ม้าเพื่อจะเดินทางกลับฉางอันนั้น ได้ขี่ม้าผ่านมาทางร้านของตงฟางซั่ว
เห็นตงฟางซั่วกำลังเล่นอยู่กับนกพิราบสีขาวตัวหนึ่ง จึงลงจากม้าเดินเข้าไปหา
“ซินแสตงฟาง ดูท่านมีความสุขเหลือเกินนะ” จางทังเอ่ยทักทายขึ้น
“ก็เจ้านกตัวนี้มันช่างขี้เล่นซะเหลือเกิน” ตงฟางซั่วตอบ
จางทังเอ่ยถามขึ้น “ท่านซินแส ถ้าหากการให้คำทำนายของท่านในวันนี้ ยังไม่ครบสามคำ
ทำนายแล้วล่ะก็ ข้าอยากจะขอร้องให้ท่านช่วยทำนายให้ข้าสักหน่อย”

“ที่เจ้าจะถามคงเกี่ยวกับอักษรตัวนี้” ตงฟางซั่วเอ่ยพร้อมกับชี้ไปที่ตัวอักษร 太(ไท่)
“ท่านซินแสสมกับเป็นผู้หยั่งรู้(未卜先知)จริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้อักษรตัวนี้ชี้แนะข้าด้วย”
“เจ้าต้องการถามเกี่ยวกับคน หรือว่าจะถามเรื่องราวล่ะ” ตงฟางซั่วถาม
“ถามเกี่ยวกับคน” จางทังบอก
“อักษร 太(ไท่)ตัวนี้มีอยู่เพียงคำตอบเดียวคือ อยู่เหนือคนทั่วหล้า” ตงฟางซั่วเอ่ยเป็น
ปริศนา
“คนๆนี้ ข้าต้องการอยากจะถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของเค้า” จางทังรีบเอ่ยเข้าเรื่องที่
ตนเองต้องการอยากจะทราบ
“อยู่เหนือคนทั่วหล้า คงยากที่จะหลีกเลี่ยงจากภัยอันตราย หากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงจาก
ภัยในครั้งนี้ก็คงจะต้องไปตามหาสิ่งที่อยู่เหนือตัวอักษร 太(ไท่) ขึ้นไป”
ตงฟางซั่วบอกใบ้
เป็นนัยๆ
แต่จางทังก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ตงฟางซั่วพยายามจะบอก จึงเอ่ยถามขอความกระจ่าง
“ท่านได้โปรดช่วยอธิบายให้ข้าเข้าใจให้ชัดเจนกว่านี้ได้หรือไม่”
“อักษร 太(ไท่) ในเวลากลางวันสิ่งที่ส่องสว่างที่สุดก็คือ 太阳(ไท่หยาง - ดวงอาทิตย์)
ส่วนสิ่งที่เจิดจ้าที่สุดในเวลากลางคืนก็คือ 月亮(เย่ว์เลี่ยง - ดวงจันทร์) หรือ 太阴(ไท่ยิน
- ดวงจันทร์) ห้องที่ใช้กราบไหว้สักการะเหล่าบรรพบุรุษ(宗庙)ของหวงตี้ก็ยังเรียก 太庙
(ไท่เมี่ยว) แม้แต่แพทย์ที่ให้การรักษาประจำราชสำนัก(御医)ก็ยังเรียก 太医(ไท่อี)
เสด็จพ่อของหวงตี้เรียก 太上皇(ไท่ซ่างหวง) แล้วเสด็จแม่ของหวงตี้ล่ะ”

“太后(ไท่โห้ว) อ๋อ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านซินแสที่ทางสว่างให้ ข้าขอลาล่ะ” พูดจบ
ก็หันหลังเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน” ตงฟางซั่วรีบร้องเรียก
จางทังนึกได้ว่าตนเองยังไม่ได้ให้เงินตงฟางซั่วสำหรับค่าทำนายจึงเอ่ยพร้อมกับหยิบเงิน
“ต้องขอโทษด้วย ข้าลืมให้เงินท่าน”
“จากนี่ไปฉางอันระยะทางค่อนข้างไกล ท่านเดินทางไปคนเดียวคงจะเหงา นำนกตัวนี้เดินทาง
ไปเป็นเพื่อนด้วยสิ”
ตงฟางซั่วพูดพร้อมกับนำกรงนกออกมา
“แต่ข้าเลี้ยงนกไม่เป็น” จางทังบอกกับตงฟางซั่ว
“นกตัวนี้เลี้ยงไม่ยากหรอก เพียงแต่เจ้าป้อนข้าวป้อนน้ำก็พอแล้ว เมื่อใดที่ท่านไม่ต้องการ
มันอีกต่อไป เพียงแต่ปล่อยมัน เดี๋ยวมันจะบินกลับมาหาข้าเอง”
หลังจากนำนกใส่กรงเสร็จ
ก็ยื่นส่งให้แก่จางทัง
จางทังรับกรงนกมาพร้อมกับเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอขอบคุณ”

*****

เนี่ยนหนูเจียวหลังจากที่ทราบว่าไท่จื่อถูกจับติดคุกอยู่ที่จวนของเจ้าเมืองเยี่ยนชื่อ ก็วางแผน
คิดหาหนทางที่จะไปพบกับไท่จื่อให้ได้



ในห้องที่ใช้ตั้งศพชั่วคราวของจางเชียน หลิวอี้ซึ่งยืนหันหลังให้ประตูกำลังยืนครุ่นคิดจ้องมอง
ร่างที่ไร้วิญญาณของจางเชียนอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูพร้อมกับการเดินเข้ามาของคนๆ
หนึ่ง แต่ว่าหลิวอี้ใจจดใจจ่อกับเรื่องที่กำลังครุ่นคิดอยู่จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียง แต่เมื่อรู้สึกตัวจึง
เอ่ยถามออกไป “เจ้าเป็นใคร” พร้อมกับหันหน้าไปมอง
“คุณชายร้ายจริงๆเลยนะ” เสียงทักทายจากผู้มาเยือนเอ่ยทักหลิวอี้
หลิวอี้พอเห็นเป็นเนี่ยนหนูเจียวก็เสียงอ่อนเสียงหวานเอ่ยทักตอบกลับไปว่า
“เจียวเจียว เจ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร”
เนี่ยนหนูเจียวจึงออดอ้อนกลับไปว่า “ก็ข้าคิดถึงท่านนี่ ท่านเนี่ย ไปแล้วไปลับ ไม่กลับมาหา
ข้าอีกเลยนะ(肉包子打狗 一去不回头)”

“เอาล่ะ เอาล่ะ ถ้างั้น ข้าเดินไปเป็นเพื่อนเจ้ากลับสำนักคณิกาไห่ถังเพื่อคุยกันเป็นการส่วนตัว
ละกัน”
หลิวอี้พูดเอาใจเนี่ยนหนูเจียว
“ข้ายังไม่กลับ ข้าอยากจะอยู่คุยกับเจ้าที่นี่” เนี่ยนหนูเจียวบอกปฏิเสธ
“ที่นี่นะหรือ ที่นี่มีศพคนตายอยู่นะ”
“คนตายแล้วเป็นยังไง คนตายไม่ได้ยินที่พวกเราคุยกันหรอก” เนี่ยนหนูเจียวพูดพร้อมกับเดิน
ไปดูศพของจางเชียนใกล้ๆ แล้วก็เอ่ยถามขึ้นว่า “คนๆนี้ใช่คนที่ถูกไท่จื่อทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต
หรือไม่”

“ไท่จงไท่จื่ออะไรกัน ตอนนี้ต่อให้ตายเค้าก็ยังไม่ยอมรับเลย”
“ไม่รับว่าฆ่าคนตายเหรอ”
“ไม่รับว่าเป็นไท่จื่อต่างหาก”
“บางที ข้าอาจจะทำให้เค้ายอมรับก็ได้นะ” เนี่ยนหนูเจียวรีบเสนอตัวโดยมีแผนบางอย่างในใจ
“เจ้านะเหรอ” หลิวอี้พูดอย่างไม่เชื่อในฝีมือของเนี่ยนหนูเจียว
“ขนาดผู้กล้ายังต้องพ่ายต่อเสน่ห์ของสาวงาม ไท่จื่อก็คงไม่ต่างกันกระมัง”
“ก็ได้เจียวเจียว หากเจ้าทำสำเร็จล่ะก็ ข้าจะขอเจ้ามาตกแต่งเป็นเมียเอก(正房)ของข้า”




Create Date : 07 เมษายน 2549
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2549 17:08:42 น. 4 comments
Counter : 2184 Pageviews.

 
ช่วยลุ้นรออ่านอยู่ว่าแต่ว่าใกล้จบหรือยัง


โดย: Nuvan IP: 124.157.153.234 วันที่: 29 ตุลาคม 2549 เวลา:18:24:55 น.  

 
รอๆๆๆอย่างจดจ่อ


โดย: AllSTORY IP: 58.9.128.247 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:41:35 น.  

 
ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามอ่าน

ตอบคุณ Nuvan (หนูแหวน หรือ หนูแว่น หรือ หนูวรรณ) เรื่องนี้อีกนานกว่าจะจบ คงอีกสักสองปีกว่าผู้แปล(มือสมัครเล่น)จะแปลจบ


โดย: WangAnJun วันที่: 10 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:11:19 น.  

 
555 งั้นก็สู้ๆๆตายฮับ


โดย: Nuvan IP: 124.157.154.165 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:07:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WangAnJun
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add WangAnJun's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.