bloggang.com mainmenu search

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)



การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ต้องมีปัจจัยสำคัญหลักๆ ดังนี้

(1) ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว

(2) ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและใช้แล้วหมดไป

(3) ต้องมีศักย์ภาพในการขยายกิจการอย่างไม่มีขีดจำกัด




ข้อ 1. ต้องอยู่ในอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว

ทำไมต้องเป็นอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัว เรามาพิจารณาเปรียบเทียบอุตสาหกรรมที่แคบก่อน เช่นอุตสาหกรรมแผ่นเสียง อุตสาหกรรมเพจเจอร์ ในปัจจุบันมีผู้ใช้น้อยลงเรื่อยๆ ผู้ที่ยังทำธุรกิจกับอุตสาหกรรมดังกล่าว จะต้องหากลยุทธ์ใหม่ๆในการทำธุรกิจ หากต้องการที่จะประกอบธุรกิจให้อยู่รอด สำหรับธุรกิจที่ขยายตัวช้า ได้แก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ส่วนอุตสาหกรรมที่กว้างและกำลังขยายตัวคือ

- อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต

- อุตสาหกรรมสื่อสารและไปรษณีย์

- อุตสาหกรรมโภชนาการและสุขภาพ

- อุตสาหกรรมทะนุถนอมความงามและเครื่องสำอาง

อุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หลายบ้านไม่มีโทรทัศน์ ซึ่งบางบ้านมี บางบ้านไม่มี แต่ในปัจจุบันทุกบ้านมีโทรทัศน์ และมีหลายบ้านที่มีมากกว่า 1 เครื่อง ดังนั้น ธุรกิจที่เติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือการทำธุรกิจบนสื่อโทรทัศน์ เช่น ละคร เกมโชว์ วาไรตี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้อย่างมหาศาล แก่ผู้ทำธุรกิจบนสื่อโทรทัศน์ แต่ในปัจจุบัน ผู้ประกอบกิจการสื่อนี้ ขาดทุนหลายราย เพราะจำนวนช่องในการนำเสนอมีน้อย เวลามีจำกัด มีการกีดกันจากนายทุน มีการแข่งขันสูง และเมื่อเรามามองทางด้านอุตสาหกรรมอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันหลายบ้านไม่มีคอมพิวเตอร์ หลายคนไม่ได้ใช้อินเตอร์เน็ต หากเรามองไปในอีก 5 ปีข้างหน้า อีก 10 ปีข้างหน้า ทุกบ้านจะมีคอมพิวเตอร์ ทุกบ้านจะติดตั้งอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ที่ทำธุรกิจผ่านสื่ออินเตอร์เน็ต จะทำรายได้อย่างมหาศาลในปัจจุบันและในอนาคต

อุตสาหกรรมสื่อสารและไปรษณีย์ เช่นโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์พกพา การติดต่อสื่อสาร และการตอบรับทางไปรษณีย์ หากธุรกิจใดไม่ครอบคลุมถึงหรือไม่ใช้ระบบการสื่อสารหรือการตอบรับทางไปรษณีย์ คุณจะไม่สามารถทำธุรกิจได้เลยหากไม่มีการติดต่อสื่อสาร ในปัจจุบันมีผู้จำหน่ายมือถือเพิ่มมากขึ้น บริษัทให้บริการก็เพิ่มขึ้นอย่างรวมเร็วเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแสดงให้เห็นถึงอุตสาหกรรมการสื่อสารกำลังเติบโต อย่างไม่มีขีดจำกัด

ส่วนธุรกิจการตอบรับทางไปรษณีย์ คุณลองสังเกตตู้ไปรษณีย์ของคุณ ในเดือนหนึ่งๆ คุณได้รับจดหมายทางไปรษณีย์ เสนอขายสินค้าอะไรบ้าง ถึงแม้ว่าตัวคุณดูแล้วไม่สนใจ แต่ 1ใน 10 รายที่ได้รับสื่อดังกล่าว จะมีผู้สนใจและโทรกลับเพื่อสั่งซื้อสินค้าดังกล่าว นี่เป็นการทำการค้าอีกอย่างหนึ่งที่จะสามารถอยู่ได้ในอนาคต

อุตสาหกรรมโภชนาการและสุขภาพ รวมถึง อุตสาหกรรมทะนุถนอมความงามและเครื่องสำอาง ดูง่ายๆ ในโทรทัศน์ มีการโฆษณาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพมากมาย เช่นเครื่องออกกำลังกาย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องบำรุงผิวประทินผิว ลดรอยเหี่ยวย่น และเครื่องสำอางมากมาย ทำไมจึงมากเช่นนี้ ทำไมถึงสองอุตสาหกรรมนี้ จึงอยู่ในกลุ่มของตลาดที่กว้างและกำลังขยายตัว คุณเคยได้ยินคำว่า เบบี้บูมเมอร์ หรือไม่ เบบี้บูมเมอร์ คือกลุ่มคนกว่าพันล้านคนที่เกิดในเวลาใกล้เคียงกัน หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วงชั้นประชากรของโลกได้ล้มตายเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผลผลิตของทุกประเทศทั่วโลกต่ำลง และระบบเศรษฐกิจโลกถดถอย ทุกประเทศจึงต้องเร่งวางแผนเพิ่มประชากรในแต่ละประเทศโดยเร็วในช่วงระยะเวลาปี ค.ศ. 1946 ถึงปี ค.ศ. 1964 เบบี้บูมเมอร์กลุ่มนี้ปัจจุบันมีอายุอยู่ที่ 30-60 ปี มีฐานะการเงินที่มั่นคง มีเงินเก็บเพียงพอหลังเกษียณอายุ คราวนี้เรามามองถึงคนกลุ่มนี้ และบุตรหลานของคนกลุ่มนี้ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ว่านอกจากเงินแล้วทุกคนต้องการอะไร กลุ่มคนเหล่านี้มีอายุมากขึ้น เริ่มชราภาพร่างกายเสื่อมโทรมลงไปตามวัย ซึ่งตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีใครต้องการแก่ก่อนวัยอันควร ทุกคนจึงต้องการสุขภาพและรูปร่างที่ดีเหมือนเดิม ไม่ว่าจะต้องเสียเงินสักแค่ไหนก็ตาม ให้สังเกตว่าทำไมโรงพยาบาลเอกชน จึงเกิดขึ้นมากมากมายเหมือนดอกเห็ด รวมถึงสถานบริการต่างๆเกี่ยวกับสุขภาพ เพราะมีลูกค้ามากมายที่ใช้บริการ ดังนั้น สองอุตสาหกรรมสุดท้ายดังกล่าวคือ อุตสาหกรรมโภชนาการและสุขภาพ กับอุตสาหกรรมทะนุถนอมความงามและเครื่องสำอาง จึงเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่ง ซึ่งจะเป็นตลาดที่กว้างและกำลังขยายตัวในอนาคต

ดังนั้น ประการแรกที่ต้องคำนึงถึงในระบบการทำธุรกิจในอนาคต จะต้องเป็นธุรกิจที่มีตลาดที่กว้างและกำลังขยายตัว ไม่มีขอบเขตในการทำธุรกิจ สามารถทำธุรกิจได้ทั่วไทย และสามารถทำธุรกิจที่ประเทศใดๆก็ได้ในโลก



ข้อ 2. ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง และใช้แล้วหมดไป

หากคุณมีผลิตภัณฑ์ที่ไม่แตกต่างจากท้องตลาด เช่นคุณเป็นผู้จำหน่ายผงซักฟอก สบู่ ซึ่งในท้องตลาดก็มีขายแล้วใครที่จะมาซื้อสินค้าจากคุณ เพราะเขาสามารถซื้อได้จากร้านค้าทั่วไป แต่หากคุณมีสินค้าที่แตกต่างและไม่มีวางขายในท้องตลาด ไม่ว่าลูกค้าของคุณจะอยู่ที่ไหนจังหวัดใดก็ตาม เขาก็ต้องติดต่อคุณและจะเป็นลูกค้าของคุณไปตลอด เพราะสินค้าไม่สามารถหาซื้อได้ในท้องตลาด ดังนั้นคุณไม่ต้องกลัวที่จะต้องแข่งขันทางด้านราคา ไม่ต้องกลัวว่าจะขาดทุน และหากเป็นธุรกิจที่สามารถทำธุรกิจได้ทั่วโลก คือลูกค้าของคุณอยู่ที่ประเทศอะไรก็ตามที่บริษัทเปิดดำเนินการอยู่ คุณสามารถแจ้งทางบริษัทจัดส่งสินค้าให้แก่คุณได้ทันที

นอกจากผลิตภัณฑ์ต้องแตกต่างจากในท้องตลาดแล้ว จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วหมดไป เช่นหากคุณเป็นผู้จำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นรุ่นที่ล้ำหน้าที่สุดทันสมัยที่สุด เดือนแรกคุณมีลูกค้ามาสั่งซื้อสิบราย ในเดือนที่สองคุณจะต้องเหนื่อยในการหาลูกค้าใหม่เรื่อยๆ หากสินค้านั้นเป็นสินค้าที่ ใช้แล้วหมดไป ในเดือนแรกคุณมีลูกค้าสิบราย ในเดือนที่สอง คุณมีลูกค้าใหม่อีกสิบราย อีกทั้งลูกค้าเก่าสั่งซื้อซ้ำ เป็นยี่สิบราย และถ้าในเดือนที่สาม คุณมีลูกค้าใหม่เพียงสามราย แต่ลูกค้าเก่ายี่สิบรายมีการสั่งซื้อซ้ำ จะเห็นว่า ถึงแม้คุณไม่มีเวลาไม่สามารถหาลูกค้าใหม่ๆได้ คุณก็จะมีลูกค้าเก่าสั่งซื้อซ้ำเรื่อยๆ คุณแค่ติดตามผลและบริการหลังการขายให้ดีในช่วงแรกๆ คุณไม่ต้องเหนื่อยในการหาลูกค้าใหม่เรื่อยๆ แต่หากว่าคุณมีเป้าหมายที่จะหาลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกๆเดือน คุณก็จะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นทุกเดือนเช่นกัน

ดังนั้น ประการที่สองที่ต้องคำนึงถึงในการทำธุรกิจในอนาคต โดยใช้ระบบการทำงานจากที่บ้าน จะต้องเป็นสินค้าที่แตกต่าง ไม่มีการแข่งขันทางด้านราคา ไม่มีวางขายในท้องตลาด และจะต้องเป็นสินค้าที่ใช้แล้วหมดไป ทำให้มีการสั่งซื้อซ้ำเรื่อยๆของลูกค้าคนเดิม ไม่เหนื่อยในการหาลูกค้าใหม่ และหากเพิ่มลูกค้าเรื่อยๆ รายได้คุณก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย



ข้อ 3.ต้องมีศักยภาพในการขยายกิจการอย่างไม่มีขีดจำกัด

หากคุณมีสินค้าที่ติดตลาด มีการสั่งซื้อซ้ำมากมาย เมื่อคุณเพิ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รายได้ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณคงเคยเห็น ร้านค้าที่มีสินค้าที่จำหน่ายดีมาก เช่นร้านอาหาร หากว่าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารนั้น ซึ่งขายดีมาก จึงได้ขยายกิจการไปสาขาที่สอง และทำให้สาขาที่สองทำการค้าได้แบบสาขาแรก รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเมื่อคุณเปิดสาขาที่สาม และทำให้สาขาที่สามทำการค้าได้แบบสาขาแรก จะเห็นได้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นอีกเป็นสามเท่าตัว และหากว่าคุณขยายสาขาไปเรื่อยๆ จะสังเกตว่ารายได้คุณเพิ่มมากขึ้นจริง แต่ตัวคุณเองจะขาดอิสรภาพทางเวลา คุณก็จะเป็นข้าทาสของธุรกิจตนเอง จะเหนื่อยมากกว่าการเป็นลูกจ้างเสียอีก ไม่สามารถหยุดหรือพักได้ แต่หากคุณเปลี่ยนความคิดในการขยายกิจการในรูปแบบใหม่ คือหาผู้ร่วมธุรกิจ (ฟรานไซน์) คุณเป็นเพียงคนวางระบบคอยกำกับดูแลในเบื้องต้น และสอนผู้ที่สนใจร่วมธุรกิจกับคุณ ให้สามารถสร้างรายได้เป็น เมื่อคุณสอนตั้งแต่เริ่มต้น รวมถึงสอนเทคนิคต่างๆ ที่คุณรู้ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ร่วมธุรกิจของคุณมีรายได้อย่างมหาศาลเช่นเดียวกับคุณ คุณก็จะมีรายได้เช่นเดียวกัน เป็นรายได้จากค่าลิขสิทธิ์เพราะเขาซื้อลิขสิทธิ์จากคุณ

ธุรกิจแบบ ฟรานไซน์ ได้มีมานานกว่า 40 ปี เช่น McDonald’s, KFC, CALTEX, ESSO, AIA, IBM, SONY, 7-11, TOYOTA, FUJI, KODAK, MICROSOFT ฯลฯ รวมทั้งธุรกิจอื่นอีกมากมาย ที่ใช้ระบบการขยายกิจการแบบฟรานไซน์นี้ และทุกธุรกิจดังกล่าวได้ประสบผลสำเร็จในการทำธุรกิจ อีกทั้งขยายกิจการไปทั่วโลก

ดังนั้น ประการที่สาม ที่ต้องคำนึงถึงในการทำธุรกิจในอนาคต ก็คือต้องมีศักยภาพในการขยายกิจการอย่างไม่มีขีดจำกัด แบบธุรกิจฟรานไซน์ ซึ่งเรามีหน้าที่สอนให้ผู้ร่วมธุรกิจ สามารถสร้างรายได้เช่นเดียวกับเรา สามารถทำเงินได้มากมายแบบเดียวกับเรา ทำให้คนมากมายก็อยากเข้ามาร่วมทำธุรกิจกับเรา ถึงแม้สาขาของเราจะหยุดในวันใด แต่สาขาอื่นที่เราขยายกิจการไป ที่ขายลิขสิทธิ์ไป ก็สามารถสร้างรายได้ ทำให้เราประสบความสำเร็จได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่เรายอมสอนเทคนิค สอนการทำงานทุกอย่างที่เรารู้ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และยอมให้เขาใช้เครื่องหมายการค้าของเราในการทำธุรกิจ

โดย วิบูลย์ จุง : Wiboon Joong (wbj)


Create Date :20 กรกฎาคม 2548 Last Update :24 สิงหาคม 2551 13:37:04 น. Counter : Pageviews. Comments :16