bloggang.com mainmenu search

รู้ไปโม้ด
nachart@yahoo.com



 

 

 

 

 

 

 

 

 

จากนิตยสารหมอชาวบ้าน โดย ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เขียนไว้ว่า ขิง (ginger) คือมหาโอสถที่เอเชียรู้จักดี เป็นสมุนไพรและเครื่องเทศสำคัญและเก่าแก่ชนิดหนึ่งของโลก มีหลักฐานการใช้ยาวนานกว่า 5,000 ปี โดยเฉพาะในอินเดียและจีนโบราณ

ทั้งนี้ มีบันทึกของหมอยาจีนชื่อ เฉินหนง ประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยกล่าวกันว่าเฉินหนงเป็นนักชิมผู้แยกรสของพืชสมุนไพรไว้หลายร้อยชนิด ตำราของเขาระบุว่า ขิงใช้แก้หวัด แก้ไข้ แก้หนาวสั่น แก้บาดทะยัก แก้โรคเรื้อน

แพทย์จีนโบราณจัดขิงเป็นพืชรสเผ็ดอุ่น มีฤทธิ์แก้หวัดเย็น ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้ปวดข้อ แก้ปัญหาไต แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ลดคอเลสเตอรอลที่สะสมในตับและหลอดเลือด

ชาวจีนรู้ดีว่าถ้าต้มขิงกับน้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลทรายแดง จะช่วยแก้หวัด หรือถ้าใช้ขิงสดปิดที่ขมับทั้ง 2 ข้างจะช่วยแก้ปวดหัว และถ้าเอาขิงสดมาอมไว้ใต้ลิ้นจะช่วยแก้อาการกระวนกระวาย แก้คลื่นไส้ อาเจียน กะลาสีเรือจีนโบราณจึงมักเคี้ยวรากขิงเมื่อออกทะเลเวลาเมาคลื่นลม

ตำรับเภสัชของสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ.2528 บรรจุขิงเป็นยาสมุนไพรแห่งชาติตัวหนึ่ง โดยการใช้ประโยชน์จากขิงสดและขิงแห้งในแง่มุมที่ต่างกัน โดยใช้ขิงแห้งในภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็น หนาวง่าย การย่อยอาหารไม่ดี ใช้ขิงแก่ในคนไข้ปวดข้อรูมาติก

ส่วนขิงสดใช้เมื่อต้องการกำจัดพิษที่เกิดจากการติดเชื้อภายในร่างกาย โดยการขับพิษออกมาทางเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพในภาวะที่มีอาการเย็นได้เช่นเดียวกับขิงแห้ง

การใช้ขิงลดการคลื่นไส้อาเจียน ใช้ขิงสด 30 กรัม สับให้ละเอียด ต้มดื่มแต่น้ำในขณะท้องว่างขิงยังช่วยขับเสมหะ โดยใช้ขิงสดคั้นเอาแต่น้ำประมาณครึ่งถ้วย ผสมน้ำผึ้ง 6 ช้อน อุ่นให้ร้อนก่อนดื่ม

 






 

 

 

 

 

 

 

 

ชาวจีนยังเชื่อว่าขิงช่วยแก้พิษจากหอยพิษ ดังนั้นอาหารจีนจำพวกปลาและอาหารทะเลจึงมักใส่ขิงลงไปด้วยเสมอ

จีนยังมีการศึกษาวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์ที่พบว่า ขิงแห้งช่วยให้กระเพาะอาหารแข็งแรง และการศึกษาในห้องทดลองพบว่า ขิงมีฤทธิ์แก้ปวดและต้านการอักเสบด้วย


ด้านอินเดีย ใช้ขิงทาถูนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดการอักเสบ แก้ปวด ลดอาการบวมน้ำ ใช้เป็นยากระตุ้นความอยากอาหาร เป็นยาช่วยย่อย ช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยทำความสะอาดปากและคอ ช่วยระงับการคลื่นไส้อาเจียน ช่วยกระตุ้นความกำหนัด ทั้งยังใช้ขิงลดการบวมและการอักเสบของตับ

คนพื้นเมืองอินเดียนิยมใช้น้ำคั้นจากขิง ผสมน้ำผึ้ง และน้ำคั้นจากกระเทียม รักษาอาการหอบหืด ทั้งยังใช้ขิงผงแห้งละลายน้ำอุ่นทาที่หน้าผากรักษาอาการปวดหัว


สำหรับ ญี่ปุ่น ใช้ประโยชน์จากขิงมาตั้งแต่ประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 8 และมีการศึกษาวิจัยในญี่ปุ่นที่พบว่า ขิงมีฤทธิ์บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด ลดคอเลสเตอรอล


ส่วนประเทศไทย ใช้ขิงอย่างกว้างขวางไม่แพ้ชาติอื่น โดยใช้เป็นยาแก้ลม บำรุงธาตุ แก้ไอ บำรุงน้ำนม

ขณะที่ประเทศตะวันตกพบว่านำขิงไปใช้ประโยชน์ตั้งแต่มีการติดต่อค้าขายจากทะเลแดงถึงอเล็กซานเดรีย เมืองหลวงของอียิปต์โบราณ ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 หมอชาวกรีกใช้ขิงช่วยย่อยอาหาร แก้คลื่นไส้อาเจียน และช่วยแก้พิษ ทั้งนำขิงไปใช้รักษาอัมพาต โรคปวดปลายประสาทและโรคเกาต์

แพทย์อาหรับก็ใช้ประโยชน์จากขิง รวมถึงใช้กระตุ้นความกำหนัด ส่วนชาวยุโรปใช้ชาขิงช่วยย่อย รักษาอาการท้องอืด ขับลม รักษาโรคเกาต์ และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด นักสมุนไพรรุ่นใหม่ของตะวันตกมักแนะนำให้ใช้ขิงช่วยย่อยอาหาร ช่วยการไหลเวียนของเลือด แก้หวัดและลดอาการคลื่นไส้อาเจียน

หน้า 21

ขอบคุณ
ข่าวสดออนไลน์
รู้ไปโม้ด
nachart

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ

Create Date :20 กุมภาพันธ์ 2556 Last Update :20 กุมภาพันธ์ 2556 19:54:14 น. Counter : 1639 Pageviews. Comments :0