bloggang.com mainmenu search



ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย  ไปเที่ยวด้วยกันนะคะ 
ทริปนี้เราขึ้นไปที่เชียงรายค่ะ ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวโซนภาคเหนือที่หลายคนคุ้นเคยกัน 
แต่สำหรับเรา แม้จะเคยใช้ชีวิตและเรียนที่เชียงรายมา 4 ปี กลับเพิ่งเคยได้มีโอกาสได้เห็นบางแห่ง บางสถานที่ในครั้งแรกในทริปนี้ด้วย 
คงเพราะเชียงรายได้มีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกหลายแห่งก็เป็นได้


ทริปเดินทางท่องเที่ยวเชียงรายในครั้งนี้ เราเดินทางระหว่างวันที่ 4 - 6 ธันวาคม ที่ผ่านมาค่ะ
 พร้อมทั้ง ถือโอกาสไปเช็คสัญญาณ TruemoveH 4G ด้วย เห็นว่าเป็นสัญญาณ 4G เจ้าแรกของไทย 
สถานที่ไหนบ้างที่เราไปเช็คสัญญาณ สถานที่ไหนบ้างที่เราได้แวะไปเที่ยวเชียงราย 
กับการเดินทางของเราพร้อมมิตรชาวต่างชาติที่เพิ่งเคยรู้จักกันเพียงชั่วโมงเดียว ^^






เราได้ยืมโทรศัพท์มือถือ Huawei Ascend Mate 7 แอนดรอยด์จอใหญ่ขอบบางเฉียบสเปคเต็ม มาใช้ด้วยค่ะ 
เพราะเป็นเครื่องที่รองรับสัญญาณ 4G ตรงนี้สำคัญมากๆ หากมือถือเครื่องไหนไม่รองรับ 4G เราก็ม่สามารถเช็คได้เลย 
ซึ่งปัจจุบันมือถือรุ่นใหม่ๆที่ผลิตออกมาก็จะรองรับ 4G ด้วยแล้วนะคะ 
แต่ทำไมมือถือ Oppo N1 mini ของเราที่เพิ่งถอยมาได้ไม่ถึงปี ไม่รองรับหว่า 555



ยังไงก็แล้วแต่ภาพในบล็อกนี้ จะเป็นภาพที่ถ่ายด้วยมือถือบ้าง กล้องใหญ่ของเราบ้างผสมกันไปนะคะ 
ว่าแล้วก็ตามไปเที่ยวเชียงรายกับเรากันดีกว่าค่าาาา





4 ธันวาคม 2557 เราบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังเชียงราย โดยใช้เวลาบิน 1.20 ชั่วโมงค่ะ 
และระหว่าง 1 ชั่วโมง บนเครื่องนี่แหละ ทำให้เราได้คุยกับฝรั่งสองคนบนเครื่องซึ่งนั่งติดกับเรา จนเป็นตุเป็นตะ 
ทั้งที่เราพูดภาษาอังกฤษได้แบบกระท่อนกระแท่นมากนะเออ 555  

เรื่องมันมีอยู่ว่า ฝรั่ง 2 คนมาคุยทักทายเราก่อน เราก็ได้แต่ยิ้มๆ ตอบไปว่าเราพูดภาษาอังฤษได้นิดหน่อยเองนะ 
เท่านั้นแหละ ฝรั่งเค้าไ่ม่ได้ละความพยายามเล้ย ที่จะคุยต่อ ในเมื่อฝรั่งเค้ามีความตั้งใจจะสื่อสารกับเรา 
เราก็เอาฟร่ะ เป็นไงเป็นกันล่ะทีนี้ ทั้งภาษามือ ทั้งเขียนคำศัพท์ สารพัดจะขุดมาใช้ 555 

จนรู้เรื่องได้ความว่า เค้าเพิ่งแบ็คแพ็คลงสุวรรณภูมิและต่อเครื่องจะมาลงเขียงรายจังหวัดแรก 
เค้าและเพื่อนอีกคนเป็นชาวฝรั่งเศสและอิตาเลียน ที่เรารู้ๆได้หลายตอนนี้ไม่ใช่ว่า คุยรู้เรื่องเต็มที่หรอกนะคะ 
เราเรียกแอร์มาช่วยแปลและเป็นล่ามให้อีกทีหรอก 



ก็ได้ความว่าฝรั่งต้องการให้เราเรียกแท็กซี่เมื่อถึงสนามบินเชียงราย พาไปตะเวณหาโรงแรมให้หน่อย เราก็อาสาเลยล่ะกันนะ 
ยูๆ ไม่ต้องไปหาไหนเวลานี้คงยากอยู่นะ มาช่วงเทศกาลหยุดยาว ไปพร้อมไอเลย ไอมีครอบครัวมารอรับและได้จองโรงแรมไว้แล้ว ไอจะพายูไปถามโรงแรมในเมืองที่ไอได้พักแล้วกัน  ท่ามกลางการคัดค้านของแอร์ ในด้านความปลอดภัยของเราว่าจะดีเหรอที่พาคนที่เพิ่งรู้จักกันไปส่ง 
เราก็บอกไม่เป็นไรค่า ไปด้วยกันได้เล้ยยยย






โรงแรมพิมานอินทร์ เชียงราย 
ที่เราได้จองจากเวปอโกด้ามาล่วงหน้าในราคาพิเศษคืนละ 500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้วด้วยนะ ถูกเวอร์อ่ะ 
และโรงแรมนี้เหลือห้องว่างอีก 2 ห้องเท่านั้น ฝรั่งสองคนก็ได้คนละห้องไปเลยไม่ต้องไปตะเวณหาที่พักไหนล่ะ
หลักๆ คือฝรั่งเค้าต้องการไปดูกะเหรี่ยงคอยาว เราก็ห๊ะ !! เชียงรายมีกะเหรี่ยงคอยาวด้วยเหรอเนี่ย
นั่นเป็นเหตุหนึ่งทำให้เรามีการเปลี่ยนแผนเดินทาง เดิมทีวันรุ่งขึ้นเราจะไปเที่ยวแม่สายนะเออ 

ด้วยความที่อยากเห็นกะเหรี่ยงคอยาวด้วยคน จึงต้องอาสาพาฝรั่งเค้าไปเที่ยวเองล่ะกันค่า เอิ๊กกกกก
และวันรุ่งขึ้นพวกเราก็ออกเดินทางกันเล้ย รถ 1 คัน กับอีก 5 ชีวิต อัดแน่นในรถนั่นแหละ 555  






วัดห้วยปลากั้ง 
คือพิกัดแรกที่ได้เราแวะค่ะ ตะลึงกับความงามของมหาเจดีย์ 9 ชั้น เราเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก 
ทั้งที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองนี่เองไม่ได้ไกลเล้ย แต่เราไม่รู้จัก เพิ่งมารู้จักก็ตอนเห็นภาพจากอินเตอร์เน็ตที่เพื่อนๆ แชร์มาให้ดูนี่แหละค่ะ
วันนี้เราได้มาเยือนสมใจแล้ว กับอากาศ หน้าหนาวต้นเดือนธันวาคม ใครบอกว่าหนาวฟร่ะ 

วันนั้นรู้สึกจะวัดได้ 30 องศาเลยนะคะ เป็นหน้าหนาวที่ร้อนโฮก 555
แต่ภายในเจดีย์ 9 ชั้น เย็นสบายเป็นที่สุดค่ะ ^^




ภายในวิหารฯ จะเห็นเจ้าแม่กวนอิมไม้แกะสลักขนาดใหญ่โดดเด่นเป็นสง่า ภายในโปรงโล่งสบายค่ะ 
ไม่แปลกใจเลยนะคะว่า ทำไมด้านในถึงเย็น ลมโกรกแล้วชอบมาก
ภาพเจ้าแม่กวนอิมนี้ เรายืมจากเน็ตมานะจ๊ะ เราตากแดดถ่ายคลิปอยู่ด้านนอกเข้ามาได้แป๊ปเดียวลืมถ่ายไว้ 555






วัดนี้มีความเชื่อคือ หากใครได้มาเยือนที่นี่เสมือนได้ขึ้นสวรรค์ 
 วัดห้วยปลากั้งแห่งนี้ นับถือและบูชาเจ้าแม่กวนอิมค่ะ
ด้านซ้ายของเจดีย์ 9 ชั้นจะเป็น วิหารทีอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่
ที่โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล






เราถ่ายคลิปและอัพภาพลง Facebook ที่วัดนี้ด้วยสัญญาณ TruemoveH 4G มีขีดขึ้นสลับกัน ระหว่าง 3G และ 4G ค่ะ 
อัพคลิปโหลดขึ้นใช้เวลาปุ๊ปปั๊ป  อ้อ..โทรศัพท์มือถือ Huawei Ascend Mate 7 เครื่องนี้แบตโคตรอืดเลยค่ะ เราชอบมาก 
พอมาค้นหาคุณสมบัติของโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ก็ระบุไว้ชัดเลยว่า แบตใช้ได้นาน คุ้มจริงๆ




จากที่เราพาฝรั่งแวะเข้าวัดห้วยปลากั้งเพราะว่า เป็นทางผ่าน เราจะไปดูชาวเขา ชาวกะเหรี่ยงบ้านรวมมิตรซึ่งต้องผ่านวัดนี้ด้วย เราก็เดินทางไปต่ออีกราวๆ  27 กิโลเมตร ที่ไหนได้ พอถึงหมู่บ้านรวมมิตร เราลงไปถามชาวบ้าน และขับรถเข้าไปซอยผู้ใหญ่บ้าน หวังถามว่า ชาวเขากะเหรี่ยงคอยาวอยู่ที่ไหนค่ะ ชาวบ้านที่นั่งเล่นหน้าบ้านใกล้ๆ ตอบมาว่า ที่นี่ไม่มีกะเหรี่ยงคอยาวหรอกคุณ มีแต่คอสั้นๆ นี่แหละพลางชี้ไปที่คอของเขาด้วยว่าสั้นแบบนี้นะ 555 สรุปว่า ที่นี่ไม่มีกะเหรี่ยงคอยาวให้ฝรั่งดูอ่ะ แป๊กเลย  เอ้า...หาข้อมูลกันต่อไป


ระหว่างนั้นเที่ยงแล้วด้วย เราเองบอกว่า หิวล่ะน้ากินไรดีๆ ถามฝรั่งก็บอกแล้วแต่เราๆ  
งั้นก็นี่เลย เราพาฝรั่งเข้าร้าน ขนมจีนน้ำเงี้ยว แถวห้าแยกพ่อขุนซะเลย เท่มะ 555







โฉมหน้าฝรั่ง 2 คนที่หลวมตัว มากับเราด้วยค่ะ ^^ กับเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยว กระดูกอ่อนอร่อยฝุดๆ 
แต่ฝรั่งได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก ถูกปากบ้างป่าวไม่รู้ เหมือนที่เราไปเที่ยวยุโรปแล้วไปชิมอาหารบ้านเขา มันจืดๆ อ่ะ
ความรู้สึกเดียวกันแน่เลย ไม่รู้ล่ะน้าา มาเที่ยวเมืองเหนือ ต้องลิ้มลองอาหารเหนือด้วยนะคะ อิอิ
และแล้ว พิกัดต่อไป หลังจากหาข้อมูลต่อว่า ที่ไหนแน่คือสถานที่ที่มีกะเหรี่ยงคอยาวให้ฝรั่งเค้าได้ชมกัน
ข้อมูลที่เราสอบถาม นั่นคือจิ้มๆ หาข้อมูลในมือถือ รวมทั้งถามคนพื้นที่เชียงรายด้วย คราวนี้พิกัดป้อนชัดแม่นยำ
ขับรถไปทางถนนพหลโยธิน เลยบ้านดู่ แถวๆนางแล พิกัด บ้านป่าอ้อ ถึงแล้ว

 ศูนย์รวมหมู่บ้าน 5 ชนเผ่า
ตั้งอยู่บ้านป่าอ้อ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงรายค่ะ

ค่าบัตรเข้าชม เด็กฟรี
ผู้ใหญ่ (ไทย) คนละ 200 บาท
ชาวต่างชาติ คนละ 300 บาท
ที่นี่ฝรั่งเค้าใจดี จ่ายค่าบัตรให้เราด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่า



โว้ๆ ไฮไลท์สุดเด็ดห่วงเหล็กที่อยู่บนตราชั่งนี่ 4.5 กิโลกรัม หนักขนาดนี้จะไปอยู่บนคอชาวกะเหรี่ยงได้อย่างไรกัน  
นี่แหละคือสิ่งที่ฝรั่งเค้าอยากเห็นมาเชียงราย ด้วยการนี้โดยเฉพาะนะเนี่ย เราเองก้ไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ด้วยว่า
 มีสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้ๆนางแลนี่เอง  จึงได้ทำการสอบถามคนในพื้นที่รวมทั้งชาวเขาที่ได้มาอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ได้ความว่า 
มีนายทุนให้เชิญมาอยู่ให้ที่ทำกิน หาของขาย สร้างบ้านให้อยู่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกันโดยไม่ต้องเดินทางไกลๆ ขึ้นดอยให้ลำบากค่ะ







ชาวเขา 5 เผ่าที่ว่านี่คือ อาข่า เย้า ลาหู่ ปะหล่อง กะเหรี่ยงคอยาว
บ้านป่าอ้อเคยถูก UNHCR ระบุว่ามีการลักลอบนำกะเหรี่ยงคอยาวมาจัดแสดงให้นักท่องเที่ยวชมเข้าข่าย “สวนสัตว์มนุษย์”
อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง แต่พบว่ากะเหรี่ยงคอยาวทั้งหมด มาจากดอยก่อ จ.ท่าขี้เหล็ก ใกล้เมืองเชียงตุง ประเทศพม่าไม่ใช่ถูกขนย้ายมาจากชายแดนด้าน จ.แม่ฮ่องสอนแต่อย่างใด

ทางด้านเจ้าของกิจการ กล่าวว่า ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและปะหล่องได้มีการขออนุญาตจากทางจัดหางานจังหวัดอย่างถูกต้อง
ทุกฝ่ายพึงพอใจที่จะอยู่ที่นี่ 5 ชนเผ่า ที่นำเข้ามาอยู่ล้วนแต่มีความสุขที่จะอยู่ที่นี่ ไม่อยากกลับไปประเทศแม่ เพราะมีความลำบากมากกว่า


ดังจะเห็นรอยยิ้มใจดีและเป็นกันเองของยายชาวเผ่าอาข่าที่มาต้อนรับคณะเรา
ร้านค้าของยายคนนี้สามารถดึงดูดเงินในกระเป๋าเราและชาวคณะได้มากที่สุด เราช่วยอุดหนุนของที่ระลึกแผงขายของยายเพียบ
ขายในราคามิตรภาพด้วยนะคะ ที่สำคัญ ยายชอบถ่ายรูปมากด้วยแหละ อิอิ










มาถึงร้านป้าคนนี้บ้าง เป็นชาวเย้าค่ะ เราจำได้แม่นเลย เพราะสีสันเสื้อผ้าโดดเด่น เราเคยใส่อยู่ตอนเด็กๆ แม่ซื้อให้ที่ตลาดนัด อิอิ 
ร้านนี้ขายหมวก ขายผ้า กระเป๋า ของที่ระลึกต่างๆ เป็นงานฝีมือล้วนๆ ค่ะ
ราคาขาย สอบถามมาให้แล้วน้า ผืนละ 100-200 บาทค่ะ





สอบถามจากชาวเขาที่ถูกชวนมาอยู่ที่นี่ เล่าว่า อยู่มา 8 ปีแล้วล่ะ ถึงว่าเราไม่รู้เอง ทั้งทีเราไปเที่ยวเชียงรายทุกปี 
ที่รู้ๆ มาจากหนังสือท่องเที่ยวที่ฝรั่งเค้าศึกษาเจาะจงที่นี่ให้เราได้เห็นด้วยนี่แหละค่ะ 
ทำให้เราอยากเห็นบ้าง จึงต้องยกเลิกแผนการเดินทางไปแม่สายเพราะเวลาไม่พอ 








ชาวลาหู่ค่ะ ไม่เห็นมีแผงขายของทั่วไปเหมือนชาวเขาเผ่าอื่น แต่เห็นมีเลี้ยงหมูป่า และวางขายแก้วน้ำไม้ไผ่ที่หน้าบ้าน 
ยิ้มต้อนรับทักทายนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไป-มา เราก็ช่วยอุดหนุนแก้วไปใช้ด้วยค่ะ ใบละ 5 บาท 10 บาท






และก็มาถึงเผ่าเป้าหมายของฝรั่ง ที่ร้องบอกว่า โอ้วววว อะเมซิ่งมากนะยู้วววว
ไอเจอเป้าหมายแล้วววววว ชาวเผ่ากะเหรี่ยงคอยาว  
ที่มองความงาม ยิ่งคอยาว ยิ่งสวย แชะกันหน่อย






มองเด็กๆ สาวน้อยยิ่งน่าร๊ากกกก เห็นด้วยกับเราไหมค้าาาา 






ชาวเขาเผ่านี้จะยิ้มต้อนรับทักทายเป็นกันเองมากๆ เลยค่ะ 
แต่ละวันก็จะนั่งทอผ้าให้นักท่องเที่ยวได้ชมที่หน้าบ้านตัวเองในแต่ละหลัง พร้อมทั้งขายของที่ระลึกต่างๆ ไปด้วยเป็นรายได้พิเศษ






ส่วนเด็กๆ ชาวเขาที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ เราทราบมาว่า จะมีครูมาสอนหนังสือให้กับเด็กๆ ถึงที่ค่ะ
พร้อมกันนี้เราได้อัพคลิปโขว์การทอผ้าของกะเหรี่ยงคอยาวด้วยสัญญาณ TruemoveH 4G โพสให้ชมในเพจด้วยค่ะ
เมื่อไม่ได้ไปแม่สาย และได้บรรลุวัตถุประสงค์ของนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คฝรั่งแล้ว เค้าขอให้เราพาไปส่งที่ บขส.เชียงราย
ในเมื่อเวลายังเหลือๆ อีกนิดนึง เราจึงอาสาพาฝรั่งไปเที่ยวกันต่อ ใกล้ๆ นางแลนิดเดียวเอง
พึ่งพา GPS นำทางด้วยสัญญาณ 3G-4G พาไปชมกัน




พิพิภัณฑ์บ้านดำ 
ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่ล่วงลับ







ถึงแม้เจ้าของบ้านดำจะสิ้นไปแล้ว แต่บ้านดำก็ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมอย่างเช่นเคย 
ที่เราสังเกตเห็นหลังจากเคยมาบ้านดำ 2 ครั้งแล้วนี่คือ ก่อนที่ อ.ถวัลย์ จะเสีย ยังมีการเปิดประตูให้เข้าชมภายในบ้านหลังต่างๆ ด้วยนะคะ
แต่พอเราพาฝรั่งไปเที่ยวชมครั้งนี้หลังจากที่อาจารย์เสียไป คือประตูและหน้าต่างบ้านจะปิดสนิทไม่ได้ให้เข้าชมภายใน 
ซึ่งตรงนี้เราก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวหรือเปล่า แต่ยังไงก็ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศึกษาอีกแห่งหนึ่งของเชียงราย
และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้มีโอกาสพาฝรั่งเข้ามาเที่ยวชมค่ะ












อีกจุดหนึ่งที่เราพามาแวะแบบแป๊ปๆ ให้ได้ชมกันคือ

ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค เชียงราย 
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเชียงราย ที่มาแรงที่สุด
ในด้านการพัฒนาเชิงเกษตรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่หลายคนอยากมาเที่ยวชมกัน
เราพาฝรั่งชมแค่ด้านนอกให้เห็นสัญลักษณ์สิงห์ปาร์คตัวใหญ่อย่างโดดเด่น
พร้อมกันนี้ก็เช็คสัญญาณ 4G ไปด้วย ที่นี่จะมีขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง 3G และ 4G ค่ะ





ถึงเวลาที่ต้องจาก ถึงเวลาที่ต้องลากันระหว่างเราและนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คชาวฝรั่งเศสและชาวอิตาเลียนแล้ว 
เห็นว่าเป้าหมายของเขาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ต่อ ก่อนจะข้ามไปลาว และวกกลับมาเที่ยวไทยตามจังหวัดต่างๆ 
ระหว่างที่เราได้โพสบล็อกนี้ คาดว่า นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คสองคนยังคงแบกเป้ท่องเที่ยวอยู่ในไทยนะคะ 
เพราะมีกำหนดท่องเที่ยว 1 เดือนก่อนกลับประเทศค่ะ
ส่วนเราเย็นแล้วมีเป้าหมายเช่นกันขับรถไปยังอำเภอเทิง


เพราะเป้าหมายต่อไปของเราคือ

ภูชี้ฟ้า เชียงราย 






กว่าจะขับรถมาถึงภูชี้ฟ้าฮิลล์รีสอร์ท ก็ปาไป 1 ทุ่มแล้วล่ะคะ มืดมาก ขับตะคุ่มๆ คลำทางมาแหละ 555
GPS ในมือถือ ก็พาไปไม่ถูก จนปัญญาโทรหาเจ้าของรีสอร์ทให้ออกมารับเพราะคลำทางเข้าไปในรีสอร์ทในช่วงมืดๆ ไม่ได้หรอก
เจ้าของรีสอร์ทก็ขับรถออกมารับพวกเราด้วยนะ เราจองที่พักไว้ล่วงหน้าที่นี่ ภูชี้ฟ้าฮิลล์ รีสอร์ท คิดราคาต่อหัวค่ะหัวละ 500 บาท ราคานี้รวมอาหารเย็น และอาหารเช้า แบบเต็มอิ่มจริงๆ บ้านพักเป็นหลังๆ มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊สให้นะคะ 
เวลาเปิดน้ำอุ่นอาบน้ำทีไร ไอคลุ้งเต็มห้องเลย 555



เราตั้งใจจะไปชมทะเลหมอกยามเช้าบนยอดภูชี้ฟ้าค่ะ 

แต่เช้าวันนั้นเราก็ผิดหวัง...


เช้านี้เราผิดหวังค่ะ แต่ไม่ใช่เราคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะบรรดามหาฝูงชนหลายร้อยหรือพันคนบนภูชี้ฟ้า ผิดหวังตามๆกัน  
เมื่อเช้าวันนั้น หมอกลงหนาเกิ้น หนาปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ กว่าจะตื่นตั้งแต่ตี 4 ฟ่าๆ 
และนั่งรถขึ้นมาที่นี่และใช้เวลาเดินตะคุ่มๆ มาที่นี่ได้ก็ใช้เวลาเยอะอยู่นะค่ะ แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเล้ยยยย แง

เมื่อไม่เห็นอะไร เอ้า อัพเฟสบุ๊คบนยอดดอยภูชี้ฟากันดีกว่าค่าาา สัญญาณมีแน่นอน H - 3G นะคะ







ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับคนเยอะๆ หรือเปล่านะคะ เพราะแต่ละคนเมื่อไม่ได้เห็นทะะลหมอก ก็พากันถ่ายรูปะล่น อัพ Facebook กัน อิอิ
รวมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบนป้ายภูชี้ฟ้ากันด้วย เย้!!








เมื่อรอนานแล้ว ทะเลหมอกไม่มาตามนัด ก็ลงมาดีกว่าเนอะ
 เส้นทางเดิมแต่คราวนี้สว่างขึ้นแล้วทำให้เราเห็นเส้นทางเดินได้ชัดเจนขึ้นบ้าง 
หลังจากตอนขาขึ้นมาเราต้องอาศัย ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือนั่นแหละค่ะส่องทางเอา 555
รายทางระหว่างทางเดิน  ดอกบัวตองสวยๆ
แม้ไม่ได้มากมายเป็นทุ่งดอกบัวตอง
แต่เราก็อยากเก็บภาพมาฝากเพิ่อนๆ ค่ะ ^^









หมอกหนาจิ้งงงง ดูสิๆ อย่าคิดว่าหนาวนะคะนั่น
วันนั้น 6 ธันวาคม เราเช็คอุณหภูมิบนดอยได้ราว 19-22 องศาhtmlentities(' >')"<</div>
กลับลงจากยอดภูชี้ฟ้ามาล่ะค่ะ อาหารเช้ามื้อนั้น ข้าวต้มหมูแบบเต็มอิ่มไปเลย
มานั่งมองทิวเขายอดดอยเล่นหลังห้องพักกัน ก่อนจะเช็คเอาท์กลับลงมา






555 น้องมังกรค่ะ เพลินของเค้าแหละน้า หลังจากลงดอยไปแล้ว
อยากให้เราพาไปที่แห่งหนึ่ง มาเชียงรายเมื่อไหร่ เราต้องแวะทุกครั้ง
นั่นคือที่ไหนคะ หุหุ






บ่อกุ้งลุงสุบรรณ์ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
ซึ่งเป็นที่ที่เราจะแวะเวียนมาเสมอเมื่อมาเชียงราย และได้ผ่านอำเภอเทิง
มาตอนสายๆ ยังไม่ค่อยมีคน เลือกซุ้มนั่งได้ก่อนเล้ยยย








ให้ตายเหอะ พวกเราเพิ่งทานข้าวต้มมาคนละ 2-3 ถ้วยนะคะ ยังมากินกุ้งเผาอีกแหน่ะ 555 เอาน่าาา ยังไหวยู้
ราคากุ้งเผาที่บ่อกุ้งลุงสุบรรณ์ ราคา ณ วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาค่ะ 
กุ้งเผารวม กิโลกรัมละ 380 บาท กุ้งเผาคัดเอาแต่ตัวใหญ่ๆ กิโลกรัมละ 480 บาทค่ะ 
สามารถสั่งให้แบ่งกุ้งก่อนเผาไปทำเมนูอื่นๆ ได้อีกนะคะ ครั้งนี้เราแบ่งทำกุ้งผัดผงกะหรี่และกุ้งอบวุ้นเส้นอร่อยมากก



กุ้งเผากิโลกรัมแรกผ่านไป น้ำจิ้มแซบอร่อย จนต้องสั่งกุ้งเผามาอีกในกิโลกรัมที่สอง ตามด้วย ซื้อฝากพ่อแม่อีก 2 กิโล
เป็นอีกหนึ่งร้านที่เราอยากแนะนำค่ะ กับบรรยากาศแบบลูกทุ่งๆ 
มีที่นั่งให้เลือกหลายซุ้ม ไม่ว่าจะเป็นริมบ่อกุ้ง ริมน้ำก็ใช่ด้วย กินกับบรรยากาศกันนะคะ
ส่วนที่บ่อกุ้งลุงสุบรรณ์ เช็คสัญญาณได้ TruemoveH 3G ค่ะ







อีกหนึ่งทริปของการเดินทางช่วงวันหยุดเก็บแต้มของเรา "จังหวัดเชียงราย"
แม้จะผิดหวังกับทะเลหมอกภูชี้ฟ้าบ้างก็ตาม แต่หากมีโอกาสเราจะไปชมอีกแน่นอนค่ะ
ที่สำคัญ เรายังมีโอกาสได้ชมได้เห็นชาวเขากะเหรี่ยงคอยาว ได้รู้จัก ได้พูดคุยกับฝรั่ง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
แม้เราจะคุยได้แบบกระท่อนกระแท่นบ้างก็ตามแต่เราก็เชื่อว่า จะทำให้เขาประทับใจแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย
ประทับใจในความมีน้ำใจของคนไทยกันบ้างนะคะ

และขอบคุณอีกครั้งสำหรับพื้นที่แห่งการแบ่งปันแห่งนี้
ขอบคุณที่ติดตามชมมาจนถึงบรรทัดนี้ค่าาา

RinSa YoyoLive
Create Date :20 ธันวาคม 2557 Last Update :20 ธันวาคม 2557 14:24:50 น. Counter : 7816 Pageviews. Comments :66