bloggang.com mainmenu search









รื้อๆ ค้นๆ เสบียงที่มีหลงเหลืออยู่บ้างค่า
หลังจากอัพบล็อกรีวิว รีสอร์ทติดๆ กันไป
ยังไงก็แล้วแต่ บล็อกลุยๆ เที่ยวๆ ของเราก็ยังตามมาติดๆ เช่นกันน้า

วันนี้เราพาไปเที่ยวกัน 2 คืน 3 วัน กาญจนบุรีทริปค่ะ
อะแหม พาเที่ยวน้ำตกด้วยนะเออ น้ำตกเอราวัณ และ เขื่อนศรีนรินทร์
หลังจากเคยอ่านรีวิวจากเพื่อนบล็อกมาหลายคนก็อยากไปมั่ง ๆ

ซึ่งตอนนี้ อยู่ในช่วงฤดูฝนน้ำเยอะแล้ว
แต่ ช่วงเวลาที่เราไปเที่ยวน้ำตกนั้น
กลางเมษาร้อนตับแลบเลยค่ะ อิอิ
ไปดูกันว่า เที่ยวน้ำตกหน้าร้อนนั้น จะเป็นอย่างไร













โชว์บัตรเข้าน้ำตกช่วงเทศกาลสงกรานต์กันเล้ย
13 เมษายน 2556 นับถอยหลังไปอีก 3 เดือนเอง
และเป็นช่วงวันหยุดยาวด้วยแล้ว กองทัพมหาชนทั่วสารทิศหลั่งไหลไปเที่ยวกันเยอะมากกกกก ดูจากที่จอดรถต้องจอดซ้อนคันกันเลยทีเดียว



ส่วนน้ำตกเอราวัณ เราเพิ่งได้มีโอกาสไปเที่ยวเป็นครั้งแรกค่ะ อาศัยป้ายข้างทางอ่านตลอด ก็คลาน เอ้ยขับรถมาถึงจนได้ แต่กว่าจะมาถึงที่นี่ ปาไปเกือบบ่ายสามแล้วววววว จำได้ว่าเราน่ะ แวะหาของกินตลอดทางค่ะ อิอิ












พอหาที่จอดได้ ก็ต้องเดินตามเส้นทางไป
น้ำตกแต่ละชั้นเค้าไปอีกไกลพอสมควรนะนั่น
เราก็เดินตามนักท่องเที่ยวอื่นต้อยๆ
เดี๋ยวก็เจอน้ำตกแต่ละชั้นซึ่งมีป้ายบอกระยะทางไว้ด้วย


ชะแว้ป..เจอป้ายโชว์ใหญ่หรา เราสองคนทำท่าทาง
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันก่อนว่ามาถึงจริงๆนะเออ
ส่วนจะถึงกี่ชั้นนั้น ตามติดๆ มาเลยค่า










ชั้นที่ 1 ขื่อบอกว่าไหลคืนรัง เป็นน้ำตกด่านแรกเลยที่มีกระจายขั้นเป็นจุด ๆ และก็มีคนนั่งปูเสื่อจกส้มตำกระจายตามร่มเงาไม้แต่ละจุดด้วย
เช่นกัน เทศกาลที่ไปนั้นสวนกระแส ระหว่างน้ำน้อยๆ แต่คนที่ไปเที่ยวนั่นเพียบเลยล่ะ







เดินกันไปต่อจากชั้นที่ 1 มาชั้นที่ 2 แค่ 100 เมตรค่ะ วังมัจฉา คือชื่อของน้ำตกชั้นที่ 2 ตรงนี้เห็นคนเล่นน้ำกันเยอะเช่นกัน


ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โน่น เราเห็นนั่งคุยกันอยู่ตรงกองประชาสัมพันธ์กัน เพียบเลย










เคล็ดลับในการถ่ายรูปน้ำตกให้สายน้ำดูนุ่มสลวยสวยเก๋นั้น มีบอกไว้ว่า ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วยด้วย เหมือนที่เทพหลายคนเค้าทำกัน
แต่เรามาเที่ยวแบบชิว ชิวนะคะ ขาตั้งไม่ได้คำนึงถึงก็ขาตัวเองนี่แหละคะ ได้มาแค่นี้เอง
พอกลับมาไปเปิดดูรูปที่เทพๆถ่ายกันทำให้เห็นความแตกต่างเลยว่า
ระหว่างภาพถ่ายของเทพกับทากอย่างเรานั้นเป็นอย่างไร ฮรี่ๆ



ทางเดินตรงที่คนเล่นน้ำจะลื่นๆ หน่อยนะคะ
ทำให้เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
แต่ก็มีป้ายบอกไปอีก ชั้นที่ 3 เพียง 150 เมตร พอเดินขึ้นไปเจอป้ายและเจ้าหน้าที่ยืนจังก้าอยู่

ห้ามเข้าเวลา 16.00 น.




อ๊ากกกก อดหมดสิทธิ์ ไม่มีทางบิดพลิ้วแล้วนะคะ เวลานั้นก็สี่โมงเย็นพอดี สำหรับน้ำตกชั้นที่ 3-7 หมดกันเรามาช้าเอง ได้แต่เตร็ดเตร่ เดินกลับและถ่ายรูปริมทางกันไว้เป็นที่ระลึกตามเคย













ส่วนชายหนุ่มของเราคนนี้
ขากลับจากน้ำตกเราให้นั่งรถกอล์ฟออกมารอที่ป้ายทางเข้าค่ะ
แบบว่ากลัวเมื่อย ไม่งั้นคงได้ขี่คอเดินกลับแน่htmlentities(' >')"htmlentities('< ')
ส่วนเรา เดินกลับคนเดียวหาถ่ายรูปเล่นตามไป ทำมิวสิคไปด้วย













มาจ๊ะเอ๋กันตรงปากทางเข้าป้ายน้ำตก
หนุ่มน้อยคนนี้เล่นรออยู่ที่ช้างไม้ตัวใหญ่แล้วค่า
ส่วนเราเดินมาถึงหน้ามันพร้อมเหงื่อเต็มหลังแระ










ในเมื่อหมดเวลาของน้ำตกเอราวัณ แต่อีกที่หนึ่งใกล้ๆ กันนั่นคือ เขื่อนศรีนครินทร์ ขอบอกว่าสองข้างทางวิวริมเขื่อนสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่า เราชมด้วยสายตาเพียงเท่านั้น แต่ไม่สามารถจอดรถเก็บภาพมาได้ เพราะดูๆ เส้นทางค่อนข้างอันตรายด้วย

พอขับรถมาถึงทางขึ้นเขื่อนก็แลกบัตรผ่านไปด้วยนะคะ จากนั้น ก็ขับเข้าไปเลย ชิว ชิว ฟิ้ว ฟิ้ว














จอดรถในริมทาง ฝั่งซ้ายเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ของเขื่อนศรีนครินทร์ ฝั่งขวาเป็นแนวสันเขื่อน
พร้อมลมเย็นๆ มาพร้อมกับบรรยากาศและพระอาทิตย์
โน้มต่ำลงมาเรื่อยๆ

ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึกอีกแล้ว เรากับเด็กชายหน้าตาดีคนนี้
ถือว่าเป็นควันหลงวันแม่ได้เหมือนกันนะคะ อิอิ














นั่นคือวันแรกของเราสำหรับทริปกาญจบุรี
หลังจากลงมาจากเขื่อนแล้วก็ต้องขับรถ
ไปยังรีสอร์ทที่จองไว้(ปิงปาลีย์ รีสอร์ท)
ที่ได้รีวิวไปก่อนหน้าเป็นคืนแรก


วันที่สองเราจะพาน้องมังกรไปเที่ยวไหน
กันต่อนั้น ติดตามชมกันที่นี่ค่า...









Create Date :13 สิงหาคม 2556 Last Update :13 สิงหาคม 2556 21:44:46 น. Counter : 6116 Pageviews. Comments :95