bloggang.com mainmenu search






นครศรีธรรมราช เมืองต้องห้ามพลาด ตอนจบมาแล้วจ้าาาา 
หลังจากที่ทิ้งระยะห่างตอน 1 ได้ที่ เอ้ยไม่ใช่ๆ เรียกว่าเป็นการดองจนะค็มดีกว่า  อิอิ  หากใครอยากทวนความเดิมจากตอน 1 คลิกที่นี่เลยค่า

Let's Go South นครศรีธรรมราช : เมืองสองธรรม

นครศรีธรรมราชเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เราประทับใจอะไร ถึงกับได้เอาไปพูดถึงในหนังสือสัมภาษณ์ Lisa ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยนะคะ นั่นสิ ต้องมีอะไรที่เราประทับใจแน่ๆ 

อยากรู้กันแล้วใช่ไหมค่ะ นี่เล้ยยยย








ว่าแล้วก็มาตะลุยกันต่อหนึ่งในเมืองต้องห้ามพลาด นครศรีธรรมราชกันค่ะ วันที่ 3-4 ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เท่าไหร่นัก 
เพราะว่า ฝนเทกระหน้ำกันตลอดทริป อิอิ

จริงๆ วันนี้เรามีทริปจะไป "น้ำตกพรหมโลก" ค่ะ แต่ดูท่าฝนตกกระหน่ำกันตลอดทาง คงไม่ปลอดภัยกันแน่ๆ 
จึงเปลี่ยนแผนไปเที่ยวกันในที่ร่มๆดีกว่านั้น คือ "พิพิธภัณฑ์เมือง"






พิพิธภัณฑ์เมือง เป็นแหล่งรวมรวมเรื่องราวประวัติและเรื่องราวของเมืองนครศรีธรรมราชในอดีต ที่นี่นำสื่อทันสมัยมาประกอบในการบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองนครศรีธรรมราช วิถีชีวิต ศาสนา การค้าขาย ทำให้มีเรื่องราวน่าสนใจ และน่าตื่นเต้นในทุกช่วงเหตุการณ์

ทั้งรูปปั้นจำลอง ทั้งสร้างเหตุการณ์ต่าง ที่เราๆ จะหาดูได้ยากมากหากไม่ได้มาในช่วงเทศกาล นั่นคือการแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาของชาวนครศรี ซึ่งวันแรกที่เราได้มาเยือนที่นี่ก็ได้เห็นเดินกันเป็นแถวตามถนนสายยาว เราเก็บภาพไม่ทัน แต่ฉากต่างๆ นั้นได้ถูกบรรจุในความทรงจำเราไว้เรียบร้อยแล้ว


เหตุการณ์จำลองการแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ ที่เชื่อว่าการทำบุญและการกราบไหว้บูชาที่ให้ได้กุศลจริง จะต้องปฏิบัติต่อพระพักตร์และให้ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้าให้มากที่สุดการนำผ้าไปบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ด้วยการโอบรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ถือเป็นการบูชาที่ใกล้ชิดกับพระพุทธองค์ พุทธศาสนิกชนจากทุกสารทิศจึงมุ่งหมายมาสักการะเมื่อถึงวันดังกล่าว




และอีกหลายเหตุการณ์ ทั้งการค้าขาย เรื่องราวต่างๆ ถูกจำลองเป็นเรื่องราว เรื่องเล่าสำคัญแห่งเมืองนครฯ แห่งนี้สำหรับคนรักประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด "พิพิธภัณฑ์เมือง" ที่นี่ค่ะ








สิ่งที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษของ "พิพิธภัณฑ์เมือง" ในวันนี้คือ ภาพถ่ายจริงของ วาตภัยที่แหลมตะลุมพุก 
ซึ่งเกิดลมพายุโซนร้อนเป็นพายุหมุนพัดเข้าเต็มพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีความเร็วประมาณ 90 กม.ต่อชั่วโมง ทั้งแรงลมที่พัดใส่อาคารบ้านเรือนโยกคลอน หลังคาหลุดปลิวและลอยทั่วไปทั้งจังหวัด แล้วแรงคลื่นยักษ์ ซึ่งสูงกว่า 2-3 เมตร ยังโถมพัดเข้าใส่แหลมตะลุมพุกจนหมู่บ้านขนาดประชากร 4,000 คนราบเรียบเหลืออยู่เพียง 5 หลังเท่านั้น 


มหาวาตภัยที่แหลมตะลุมพุกคราวนั้น มีคนตายและสูญหายถึง 1,030 คน บาดเจ็บสาหัส 422 คน ไร้ที่อยู่อาศัย 16,170 คน 
อาคารบ้านเรือนทั่วทั้งจังหวัดพังทั้งหลัง 22,296 หลัง ชำรุด 50,775 หลัง 
ซึ่งนับเป็นวาตภัยที่โหดร้ายที่สุดในนครศรีธรรมราชที่เจอมา และ "พิพิธภัณฑ์เมือง" แห่งนี้ได้บรรจุเรื่องราวเหล่านี้ให้คนรุ่นหลังได้รู้เรื่องราวกันค่ะ




พิพิธภัณฑ์เมืองตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะสมเด็จฯ พระศรีนครินทร์ทุ่งท่าลาด อ.เมือง เปิดทุกวัน 9.00-17.00 น. ไม่เก็บค่าเข้าชมค่ะ
ซึ่งในแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ด้วย









 “พิพิธภัณฑ์หนังตะลุงสุชาติทรัพย์สิน”
คือสถานที่ต่อมาที่พวกเราได้มาเยือนค่ะ 
หากถามว่า เราเคยเห็นหนังตะลุงไหม เคยค่ะ เห็นแต่ในทีวีไง 555

หากถามว่าเราเคยได้สัมผัสหนังตะลุุง อย่างใกล้ชิดไหม อันนี้ไม่เคยค่ะ และเวลานี้แหละที่เราได้มีโอกาสมาเยือนถิ่นหนังตะลุง 

เจ้าของบ้านคือ “ลุงสุชาติ ทรัพย์สิน” ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินท้องถิ่นผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (ไทยแลนด์ทัวริสซึ่มอวอร์ด) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภทวัฒนธรรมและโบราณสถาน 



พิพิธภัณฑ์ของลุงสุชาติ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน เริ่มจากส่วนแรก คือ พิพิธภัณฑ์หนังตะลุง จัดแสดงเครื่องมือเครื่องใช้พื้นบ้าน 
และหนังตะลุงนานาชาติ ส่วนที่สองเป็นโซนร้านขายของที่ระลึก ส่วนที่สามเป็นส่วนการสาธิตการทำหนังตะลุง 
และสุดท้ายเป็นส่วนการจัดแสดงหนังตะลุง

“รูปหนังตะลุง” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องหนังที่มีเอกลักษณ์พิเศษของคนไทย







ได้มีการแนะนำตัวละคร และเล่นหนังตะลุงให้คณะเราชมกันด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน 
เพราะมีการเล่นกันสดๆ พากย์กันสดๆ 
อย่างที่คณะหนังตะลุงได้มีการฝึกฝนมาอย่างดี พร้อมที่จะเล่นให้ชมได้ทุกเวลา
















หิวๆ งานกินก็ต้องมาและเราก็มากันต่อที่นี่ร้านขนมจีนที่ขึ้นชื่อที่สุดในเมืองคอน
"ขนมจีนเมืองคอน"  คนเยอะมากกกกกกก เรายังงงว่า มารับแจกฟรีหรืออย่างไรนะ  555 กว่าจะได้โต๊ะนั่งกินนี่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีเชียวนะคะ ก็การันตีไปเลยว่าร้านนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ  คนถึงเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย นั่นสิๆๆๆ

ต้องได้ชิมถึงจะรู้  ชิมแล้วเป็นอย่างไร เราจะบอก  ไปดูหน้าตาขนมจีนกันเลยค่าาาา







ขนมจีนเมืองคอน ร้านชื่อดังของเมืองนี้ที่เปิดนานมากว่า 30 ปี ร้านนี้หาไม่ยากค่ะ ตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน เส้นทางที่มุ่งหน้าไปวัดมหาธาตุวรมหาวิหาร

ที่นี่มีน้ำยาให้เลือกถึง 4 ชนิด คือ น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำพริกและแกงไตปลา

เราน่ะจัดน้ำยากะทิอย่างเดียวไปหลายชามเลยนะ 555

ทีเด็ดสุดๆ ของขนมจีนเมืองคอนที่นี่ก็คือ เส้นขนมจีนที่ทางร้านเขาทำกันสดใหม่วันต่อวัน สีขาว เนียนนุ่ม เส้นเล็กอร่อยค่ะ เราชอบบบบ

มาพร้อมกับถาดผักเครื่องเคียงถาดใหญ่ หมูสะเต๊ะที่นี่ปิ้งกันไม่หวาดไม่ไหวกันเลย เห็นแม่ค้าปิ้งหน้ามันอยู่บนเตาอ่ะนะ อิอิ  
และทีเด็ดสุดๆ อีกก็คือ ขนมกวนขาวค่ะ ซึ่งเป็น เป็นขนมที่ได้รับความนิยมประจำถิ่นที่มีรสชาติที่หอมหวานมันอร่อย 
เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องห้ามพลาด !!









และเวลานั้น ฝนตก หนักเข้าไปอีกแล้ววว งานเย็นนี้สำคัญด้วยสิ งานจะเป็นอย่างไรกันน้าาา พวกเราชาวคณะมานั่งหลบฝน เราได้งีบด้วยแหละ 555 ที่ ททท.นครศรีค่ะ ใกล้ๆ จะมี ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างขึ้นตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสร้างสิ่งที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ค่ะ เก็บภาพมาให้ชมกันหน่อยๆ



จำได้ว่าฝนไม่มีทีท่าจะหยุดเล้ย งั้นเรากลับไปเตรียมตัวกันต่อที่โรงแรม เตรียมพร้อมสำหรับเย็นนี้ ในงานประเพณีสำคัญของขาวนครศรีฯ

"ประเพณีแห่นางดาน"



เอิ่มมม น้องคนนี้เค้าเป็นคนถือป้ายค่ะ ไมใช่นางดานอะไรนะคะ อิอิ  ใครๆ ก็ถามว่า ประเพณีแห่นางดานคืออะไร 












ประเพณีแห่นางดาน เป็นประเพณีสำคัญของชาวนคร  เป็นส่วนหนึ่งของประเพณี "ตรียัมปวาย" หรือ ประเพณี "โล้ชิงช้า" ที่พราหมณ์ในเมืองนครสมัยโบราณนับถือพระอิศวร ยึดถือปฏิบัติกัน  จัดเป็นประจำทุกวันที่ 14 เมษายนของทุกปีค่ะ


นางดานหรือนางกระดาน หมายถึง แผ่นไม้ที่แกะสลักเป็นรูปเทพ 3 องค์ตามความเชื่อของพราหมณ์ ได้แก่ พระอาทิตย์&พระจันทร์ พระแม่ธรณี และพระแม่คงคา 





เมื่อทุกคนพร้อม คณะเราก็พร้อมค่ะ กล้องเอย เสื้อกันฝนเอย ลุ้นกันเต็มที่ อิอิ

สำหรับพิธีจะเริ่มจากการบวงสรวงพระอิศวร ณ ฐานพระสยม บริเวณตลาดท่าชี
จากนั้นจะตั้งขบวนแห่นางดาน ณ ฐานพระสยมเคลื่อนที่ไปยังสวนศรีธรรมาโศกราช ตามด้วยการแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการอีกมากมาย

ว่าแล้วก็ติดตามรถขบวนดูแห่นางดานกันค่าาาาา












ปัจจุบัน ประเพณีแห่นางดาน จัดขึ้นในวันที่ 14 เมษายน ของทุกปีค่ะ 
เป็นอีกหนึ่งงานประเพณีที่ต้องห้ามพลาด
เราเข้าไปงานดูแสง สีเสียงกันว่าจะอลังการงานสร้างขนาดไหน


















แสง สี เสียง ฉากต่อฉากบนเวที การแสดงจะเริ่มจาก พราหมณ์จะอัญเชิญนางดานทั้งสามมายังเสาชิงช้าในหอพระอิศวร  เพื่อรอรับพระอิศวรที่จะเสด็จมาเยี่ยมโลก ณ เสาชิงช้า 

เมื่อพระอิศวรเสด็จลงมา จะมี "นาลิวัน" ซึ่งเป็นชายหนุ่มมาโล้ชิงช้าเพื่อทดสอบความมั่นคง แข็งแรงของโลก 

ถ้าชิงช้าไม่ขาดแปลวาโลกจะมั่นคงแข็งแรงเหล่าหนุ่มๆนาลิวันจะออกมา "รำเสนง" หรือรำเขาสัตว์ไปรอบๆขันสาครขนาดใหญ่ 





และปิดท้ายด้วยการใช้เขาสัตว์วักน้ำจากขันสาคร ซึ่งถือเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นอันจบพิธีค่ะ



งานจบแต่พวกเราไม่จบนะคะ เพราะท้องร้องกันแล้วว มื้อดึกคืนนั้นที่ร้านอาหารชาวเรือค่ะ อาหารพร้อมแล้วเต็มโต๊ะ
มีเมนูผักเหลียงผัดไข่ หนึ่งในเมนูที่เราชื่นชอบถึงกับต้องไปกล่าวถึงลงในหนังสือสัมภาษณ์นั้นด้วย ^^



พักผ่อนกันต่อสำหรับคืนสุดท้ายที่ โรงแรมทวินโลตัส พร้อมที่จะออกเที่ยววันที่ 4 วันสุดท้าย ณ เมืองคอน นครศรีธรรมราช








เช้าวันที่ 4 วันสุดท้ายแล้วที่เราจะได้อยู่เมืองนครฯแห่งนี้ แต่ทว่า ฝนยังตกปรอยๆ ไม่ขาดสาย  ยังสงสัยว่ามาหน้าร้อน หรือหน้าฝนกันแน่เนี่ย 555  แต่ก็ดีไปอย่่างหนึ่งนะคะ คือ อากาศเย็นสบายมาก ชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝน 

เช้าวันนั้นคณะเรานั่งรถตู้มาไกลต่างอำเภอ มายังลานสกา มาหยุดกันที่ 
"กลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติหมู่บ้านคีรีวง"
ที่นี่ผ้ามัดย้อมที่ทำจากเปลือกไม้ธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมค่ะ มีผลิตภัณฑ์ที่มัดย้อมสีจากธรรมชาติ ทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า นับเป็นสินค้าโอทอปที่สำคัญอย่างหนึ่งของเมืองนคร 




และรู้มาว่าลูกค้ารายใหญ่ที่สำคัญของกลุ่มมัดย้อมฯ คือส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นค่ะ เพราะคนญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นิยมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างแท้จริง ว่าแต่พี่ไทยเราควรเอาเยี่ยงอย่างบ้างนะคะ มีของดีอยู่กับตัวแท้ๆ พากันไปช็อปแบรนด์ๆ ไกลถึงญี่ปุ่นนู้น อิอิ











มาชมกันต่อสินค้า OTOP ต่อไปของชาวคีรีวง คือ "กลุ่มสมุนไพรมังคุด"

คุณสนธยา ชำนะเป็นผู้บุกเบิก ของการทำสมุนไพรมังคุดค่ะ ภายใต้ชื่อแบรนด์ มิสเตอร์มังคุดเป็นรูปคุณสนธยาด้วย บุกเบิกผลิตภัณฑ์นี้นาน สีผิวเหมือนสีมังคุดไปด้วยเลยนะคะ อิอิ


คุณสมบัติเด่นๆ ของสบู่สมุนไพรมังคุด คือ ช่วยให้สิวอักเสบหาย หัวสิวแห้ง ใช้แล้วผิวไม่แห้ง  เราก็ซื้อมาลองใช้ด้วยเช่นกันค่ะ และขอเป็นอีกหนึ่งเสียงป่าวประกาศว่า สบู่มังคุดที่นี่ ใช้แล้วผิวนุ่มเนียนจริงๆ ไม่แห้งจริงๆ ค่า เราได้ใช้มาหมดแล้วทั้ง 4 ก้อนที่ืซื้อมา  และถือว่าเป็นสินค้า OTOP ที่น่าภูมิใจที่ส่งไปขายถึงประเทศญี่ปุ่น ด้วยเช่นกันค่ะ










และเรา ขอยกให้เป็นอีกหนึ่งจุดที่อากาศดีที่สุดของประเทศไทย ณ สะพานบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช


โดยตามเกณฑ์มาตรฐานอากาศ ที่ดีต้องมีสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 300 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร 

แต่คุณภาพอากาศที่ลานสกาสร้างความฮือฮาอย่างมาก เมื่อพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเพียง 3 ไมครอนต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร หรือมีอากาศที่บริสุทธื์กว่ามาตรฐานถึง 100 เท่า!!!
















Naturopathy
.
Naturopathy
















อู้ววววววววว ปลาตัวโตๆ 



มือสุดท้ายของคณะเราที่ "เรือนผักกูด" ค่ะ ที่ๆ จะเป็นทั้งร้านอาหารและรีสอร์ท ในทำเลที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุดขีด
ที่นี่จะเน้นอาหารผักพื้นบ้าน และรีสอร์ทแนวเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งได้น้อมนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ






อร่อยสุดๆ ยำผักกูด ผักเหลียงผัดไข่ อันนี้มันแน่อยู่แล้วววววววววว ร้านนี้เค้าดังค่ะมีจุดขายหลายอย่างเลย ได้ลงหนังสือต่างๆ อีกเพียบ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้าน ที่ต้องห้ามพลาด!! แห่งเมืองนครฯ นะคะ







สถานีต่อไป "วัดธาตุน้อย"
ได้มากันในสภาพฟ้าขาวโพลนเลยค่ะ 555

วัดธาตุน้อย เป็นที่ตั้งของเจดีย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูงยิ่งรูปหนึ่ง

ปัจจุบันสรีระพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ประดิษฐ์ฐานอยู่ในองค์พระเจดีย์ ณ สถานที่นี้ จึงเป็นเจดีย์อนุสรณ์สถานพ่อท่านคล้ายอีกด้วย 

สังขารพ่อท่านคล้ายแข็งเป็นหิน ที่ชาวบ้านนับถือและศรัทธา ทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาสักการบูชากันเป็นจำนวนมาก







คณะผู้ร่วมเดินทางทุกคนในทริป ไปนั่งชิลๆ กันต่อที่  "จุดชมวิวที่เขาเหมนรีสอร์ท" 
 ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศเย็นสบาย ยอดเขามีเมฆปกคลุม อากาศดีตลอดทั้งวันค่ะ
ด้านหลังเป็นเทือกเขาฟูจิซัง เอ้ยไม่ใช่ๆ เทือกเขาหลวง แห่งนครศรี
ที่นักเดินป่านิยมเดินขึ้นเขาไปชมความงามกัน ส่วนเราชมความงามอยู่เบื้องล่างก็เพียงพอแล้ว ^^










เมื่อเห็นเธอยิ้ม เมื่อเห็นเธอสุข เราก็สุขไปด้วย  ปิดเทอมใหญ่ของเด็กผู้ชายคนนี้ ที่ได้ร่วมเดินทางลงมาเที่ยวภาคใต้เป็นครั้งแรก ย่อมเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับเขา ที่กลับไปพร้อมกับเรื่องราว และเรื่องเล่าให้เพื่อนๆ และคนใกล้เคียงได้ฟัง

ถือเป็นอีกทริปหนึ่ง ทีทำให้เราได้รู้จักหลากหลายสถานที ได้เปลี่ยนมุมมองความคิด ได้ลิ้มรสอาหารอร่อยๆ
และมีความสุขมากยิ่งขึ้นที่ได้นำเรื่องราวการเดินทางเหล่านี้ มาแบ่งปัน
ณ พื้นที่แห่งนี้...




ชักภาพเป็นที่ระลึกกันหน่อยค่าาา ระหว่าง ททท.นครศรี พร้อมด้วยเหล่าบล็อกเกอร์ และนักเดินทางทุกคน ก่อนปิดทริปในครั้งนี้
นครศรีธรรมราช หนึ่งในเมืองต้องห้ามพลาด!!











และแล้วก็ถึงเวลากลับ อำลาทริป นครศรีฯ ในครั้งนี้ เดินทางกลับด้วยสายการบิน นกแอร์เช่นเดิมค่ะ สายการบินนกแอร์มีบินตรงถึงนครศรีฯ วันละ 6 ไฟท์ซึ่งสร้างความสะดวกสบายต่อการเลือกเวลาที่เราสะดวกในการเดินทางได้


แม้ทริปนี้อากาศจะไม่เป็นใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางของเราหมดสนุกแต่อย่างใด กลับทำให้เราได้ทำความรู้จัก
นครศรีธรรมราช หนึ่งในเมืองต้องห้ามพลาด!!! เป็นอย่างดี



ขอขอบคุณ ททท.นครศรีธรรมราช และสายการบินนกแอร์ สปอนเซอร์หลักในการเดินทางในครั้งนี้ และ ขอบคุณทุุกๆ คนที่เข้ามาชมค่า
 แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าค่ะ

RinSa YoyoLive
Create Date :10 มิถุนายน 2558 Last Update :10 มิถุนายน 2558 17:20:56 น. Counter : 8253 Pageviews. Comments :54