bloggang.com mainmenu search
ช่วงปลายปีนี้ ผมมีโอกาสได้เดินทางไปยังเชียงราย สองครั้งในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันทั้งเรื่องงานและเพื่อไปพักผ่อน หลังจากที่หาข้อมูลมาพอสมควร ผมเลือกพักในสามรีสอร์ท รีสอร์ทแรกที่ผมจะพาเยี่ยมชมในฉบับนี้เป็นรีสอร์ทที่อยู่ในอำเภอแม่สรวยซึ่งอยู่ระหว่างเส้นทาง เชียงราย-เชียงใหม่ ผมรู้จักสวนทิพย์วนา รีสอร์ทครั้งแรกจากอีเมลล์ฉบับสั้นๆของเพื่อนที่อ่านนิตยสารท่านหนึ่งที่เล่าความประทับใจจากการไปพักที่รีสอร์ทแห่งนี้ หลังจากนั้นผมได้เห็นรีวิวของป้าแสนศิริ จากการไปพักที่นี่เมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา ทำให้ผมตัดสินใจเลือกสวนทิพย์วนาในการมารับลมหนาวที่เชียงรายครั้งนี้

หลังจากพักที่นี่มาสองคืนในห้องแบบ วิลลา (ปกาเกอญอ) ผมประทับใจกับที่นี่มากครับ ทั้งห้องพักที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ร่มรื่น บรรยากาศที่เงียบสงบ วิวจากห้องพักที่เป็นวิวจากมุมสูงมองเห็นทุ่งหญ้า แม่น้ำสายเล็กๆเบื้องล่าง ห้องพักที่มีมุมนั่งเล่นทั้งในห้องพักนอกห้องพัก ถึงแม้รีสอร์ทจะเปิดดำเนินการมากว่า 10ปี แต่การดูแลรักษาห้องพัก และบริเวณรีสอร์ทดีมาก มีการดูแลต้นไม้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการพักผ่อน ชาร์ตแบต เงียบๆปล่อยเวลาไปช้าๆกับธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงที่ผมพักเจอหมอกช่วงเช้าทั้งสองวัน ที่ทำให้ยิ่งได้บรรยากาศหน้าหนาว ลองมาชมภาพแห่งความประทับใจจากการไปเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ในมุมมองของผมครับ

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7326563/E7326563.html

ผมของวางแผนนิตยสาร online ชานไม้ชายเขาฉบับเดือน ธันวาคม ซึ่งเป็นฉบับที่ 38 กับ สวนทิพย์วนารีสอร์ท รีสอร์ทบรรยากาศธรรมชาติในสายหมอกของฤดูหนาวที่เหมาะสำหรับการเติมพลัง หันหลังให้กับความวุ่นวายในเมือง


การเดินทางมาเชียงรายครั้งนี้ผมใช้บริการรถทัวร์ สาย ราชสีมา-แม่สายครับ มาถึง บขสเชียงรายเช้าพอดี ผมได้ติดต่อให้ทางรีสอร์ทส่งรถมารับ และความประทับใจอย่างแรกในเชียงรายคืออาหารเช้าริมถนนที่ทางรีสอร์ทแวะให้ผม พี่คนนี้ตอนผมมาถึงพี่แกก็ทำไข่กะทะอยู่ดีๆ พอแขกมาเยอะขึ้น พี่เขาก็ทำไม่ทัน คงเริ่มเครียด เลยคว้ากีต้าร์มาเล่นให้แขกฟังเลย พี่เขาร้องเพลงเพราะดี อากาศหนาวๆ ทานอาหารเช้าร้อนๆ มีเสียงเพลงสดฟัง เป็นการเริ่มต้นทริปเชียงรายที่ประทับใจจริงๆ


หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสไปที่วัดร่องขุ่น ผมประทับใจที่นี่มากครับ เดินวนอยู่สองสามรอบไม่มีเบื่อ


จากการไปเชียงรายสองครั้ง ผมแวะไปที่วัดร่องขุ่นทั้งสองครั้ง ผมขอนำภาพของวัดร่องขุ่นแบบเต็มๆไว้ในนิตยสารฉบับพิเศษต่อไปนะครับ


หลังจากชมความงดงามของวัดร่องขุ่น ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังรีสอร์ทซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจากเมืองเชียงราย ภาพนี้เป็นภาพทางขึ้นไปยัง lobby


Lobby ใกล้เข้ามาอีกภาพ lobby ที่นี่ดูอลังการกับงานไม้มากครับ ถึงแม้เวลาจะผ่านมากว่า 10 ปี แต่โครงสร้างไม้สักของที่นี่ยังทำให้ตัว lobby ดูดีอยู่เสมอ


วิวจากบริเวณ lobby มองออกไปครับ เห็นวิวภูเขา


เสาของตัวอาคาร lobby ใช้ไม้สักเป็นต้นๆเลยครับ การออกแบบโชว์โครงสร้างไม้ทำให้ยิ่งดูดี


ช่วงที่ผมไปฟ้าใสตลอดครับ นั่งดูดาวอยู่ที่ lobby


ถัดมาจากอาคาร lobby จะเป็นสระว่ายน้ำ อยู่กลางรีสอร์ท


สระว่ายน้ำที่นี่บรรยากาศดี แวดล้อมไปด้วยต้นไม้


ห้องพักแบบ deluxe ก็อยู่บริเวณรอบๆสระว่ายน้ำครับ ที่รีสอร์ทมีห้องพักทั้งหมด 36 ห้องพักแบ่งเป็นห้อง Deluxe 30 ห้อง ซึ่งอยู่ใน 5 อาคาร รอบๆสระว่ายน้ำ บ้านปกาเกอญออีก 6 ห้องพัก แยกโซนออกไป เท่าที่ผมสังเกตห้อง deluxe อาจจะไม่เห็นวิวภูเขามากครับ แต่จะได้วิวสวน วิวต้นไม้แทน


ที่นอนเล่นอาบแดด ช่วงที่ผมไปอากาศหนาว เลยไม่มีใครมาเล่นน้ำในสระ


ฟ้าใสๆ ดีที่มีแดดทำให้อากาศอุ่นขึ้นมาบ้าง


ต้นกกที่อยู่ข้างสระว่ายน้ำ เท่าที่ผมสังเกตเนื่องจากรีสอร์ทเปิดบริการมานาน ทำให้ต้นไม้มีอยู่เยอะครับ แต่ก็ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี


ริมทางเดินไปห้องพักจะเจอการตกแต่งอย่างนี้แสดงถึงการเอาใจใส่ในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ


มาดูห้องพักบ้างครับ ห้องที่ผมพักเป็นบ้านปกาเกอญอ ซึ่งเป็นห้องแบบวิลลา อยู่แยกโซนออกไปจาก บริเวณ lobby และสระว่ายน้ำ


ระเบียงห้องที่สามารถนั่งชมวิวภูเขาบรรยากาศดีมากครับ ระเบียงห้องของห้องแบบปกาเกอญอแต่ละห้องจะไม่เหมือนกันนะครับ ห้องที่ผมพักเป็นอย่างที่เห็น บางห้องเป็นเหมือนเก้าอี้ชายหาด บางห้องเป็นเหมือนโต๊ะญี่ปุ่น


บันใดขึ้นไปยังห้องพัก


ห้องพักที่นี่จะเล่นระดับ จากระเบียงด้านบนมองมายังด้านล่าง


พอเข้าพักก็จะเจอภาพนี้ครับ เตียงนอนนุ่มๆ


ชานไม้มุมโปรดอีกมุมหนึ่ง ช่วงอากาศหนาวจะมานั่งดูวิวที่จุดนี้ นำผ้าคลุมเตียงซึ่งเป็นผ้านวมมาห่มตรงนี้ อุ่นดีครับ


จากบริเวณอ่างล้างหน้ามองออกมาที่เตียงนอนครับ


อ่างล้างหน้าจากดินเผา ประตูที่เห็นเป็นทางเข้าห้องน้ำ แบบ open air ด้านหลัง


ห้องน้ำหลังห้องครับ มีฝักบัวฝนตก น้ำแรงดีมากๆ


รอบห้องน้ำเป็นต้นไม้เขียวๆ บรรยากาศธรรมชาติ


บรรยากาศในห้องน้ำอีกภาพครับ


ห้องนอนอีกภาพ


ที่ห้องน้ำด้านหลังใกล้ๆกับฝักบัวฝนตกมีอ่างไม้แช่น้ำ


ภาพนี้เป็นบรรยากาศตอนเช้า มีหมอกหนามาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่หมอก


คนแถวนี้คงเคยชินกับบรรยากาศอย่างนี้แต่สำหรับผม นี่คือบรรยากาศที่หามานาน ชอบมากครับ อากาศหนาวแบบชื้นๆ ตื่นตีห้าทั้งสองวัน


บรรยากาศในห้องนอนอีกภาพ ทางรีสอร์ทมี welcome fruit ให้ด้วย


ที่ระเบียงด้านบน นั่งชมหมอกยามเช้า


ผมชอบบรรยากาศตอนเช้าของที่นี่มากที่สุด อากาศหนาวๆกับหมอกยามเช้า ช่วงที่ผมไปไม่ต้องลุ้นว่าตอนเช้าจะมีหมอกหรือเปล่า ถามจากพนักงานที่รีสอร์ทเขาบอกว่า มีหมอกอย่างนี้มาหลายวันแล้ว


ห้องน้ำด้านหลังอีกภาพครับ มีทั้งฝักบัวฝนตกและอ่างแช่น้ำ


ทางเดินใกล้ห้องพักเพื่อลงไปยังแปลงผักด้านล่าง กลางสายหมอก


พอสายๆหน่อย หมอกจะเริ่มจาง ทางเดินรูปข้างบนก็จะเป็นภาพนี้ครับ บรรยากาศดีมากๆจนไม่อยากออกไปไหน


ดอกไม้ลอยน้ำริมทางเดิน ทำให้บรรยากาศยามเช้ายิ่งสดชื่น


ภาพนี้เป็นบริเวณทางเข้าไปยัง lobby จากสระว่ายน้ำ


กลับมาดู lobby ยามเย็นต่อซักหน่อยครับ


บันใดนี้ขึ้นมายังห้องอาหารของรีสอร์ท มองจากชั้นบนลงไปยัง lobby


บรรยากาศที่ lobby อีกภาพ ถ้าหันหน้าเข้าหา counter ด้านขวาชั้นล่างจะเป็นห้องสมุด และ สปา ส่วนด้านซ้ายจะเป็นบาร์ครับ เปิดบริการตอนกลางคืน


ม้านั่งบริเวณ lobby บริเวณนี้มีมุมหลายๆมุมให้นั่งเล่นครับ


ทางเดินนี้อยู่ด้านหลัง lobby เพื่อเดินไปยังสระว่ายน้ำจะเห็นว่ามีจักรยานบริการฟรี


บันไดขึ้นไปยังห้องอาหาร ห้องอาหารของที่นี่จะดูเก่าๆหน่อย แต่รสชาติอาหารใช้ได้ทีเดียว


สระว่ายน้ำตอนกลางคืน ถ้าเป็นฤดูอื่นคงไม่ได้เห็นสระโล่งๆอย่างนี้ครับ


สระว่ายน้ำวันฟ้าใสอีกภาพ


บรรยากาศหมอกลงยามเช้าที่ระเบียงห้อง นึกแล้วอยากไปนั่งเล่น จิบน้ำชาร้อนๆกลางสายหมอกช่วงอากาศหนาวๆ เป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายมากครับ


ผมปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย ผมชอบตัวโคมฟ้าอันใหญ่ที่ lobby เข้ากับตัว Lobby และได้บรรยากาศเมืองเหนือ



หลังจากที่พักที่นี่มาสองคืน ผมประทับใจสวนทิพย์วนามากครับ ทั้งห้องพัก การบริการและบรรยากาศ ช่วงที่ผมไป (ต้นธันวา) อากาศก็หนาวกำลังดี ไม่ต้องเปิดแอร์ในห้องเลย ช่วงเช้าๆจะหนาวเป็นพิเศษ ในส่วนของบ้านปกาเกอญอจะมีความเป็นส่วนตัว แยกออกจากส่วนที่เป็นห้อง deluxe บ้านปกาเกอญอ จะมีเพียง 6 ห้องพักแต่ก็ต้องเดินลงเนิน ผู้สูงอายุอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่เพราะที่นี่ทางเข้าวิลลาไม่ได้ออกแบบให้รถเข้าถึง ต้องเดินอย่างเดียวครับ ตอนที่ผมเดินเข้าที่พักครั้งแรกก็รู้สึกว่ามันไกลเหมือนกันแต่พอเห็นห้องพักและวิวจากห้องพักก็หายเหนื่อย ส่วนห้อง Deluxe จะมีบางตึกที่ลงจากรถก็เข้าที่พักได้เลย ช่วงที่อยู่ที่รีสอร์ทผมมีโอกาสได้ลองนวดอายุรเวช คล้ายๆกับนวดไทย ดีมากครับ สบายตัวดี แล้วก็ที่ lobby มี คอมพิวเตอร์เข้า เน็ตได้ฟรี 1 เครื่อง มีบาร์ โต๊ะสนุกเกอร์ ส่วนอาหารเช้าช่วงที่ผมไปเป็นบุฟเฟมีไม่เยอะและไม่น้อย จะมี ABF ข้าวต้ม ผลไม้ ลองมาดูจุดเด่นจุดด้อยของรีสอร์ทแห่งนี้ในมุมมองของผมครับ

จุดเด่น
- บรรยากาศในรีสอร์ทร่มรื่น ธรรมชาติ เหมาะแก่การพักผ่อน
- ห้องพักของบ้านปกาเกอญอ น่าพักมากครับ แยกโซนออกไป เงียบสงบ เห็นวิวภูเขาและแม่น้ำ
- อาหารที่นี่ถูกปากทีเดียว ทั้งอาหารเหนือและอาหารไทย
- พนักงานบริการดีมากครับ ยิ้มแย้มทักทายให้ความช่วยเหลือเป็นอยางดี
- การเดินทางมารีสอร์ทสามารถมาทางเชียงรายหรือเชียงใหม่ก็ได้ครับ เพราะรีสอร์ทอยู่ระหว่างสองจังหวัดนี้

จุดด้อย
- ห้องอาหารบรรยากาศเก่าไปนิดครับ ตัว lobby และห้องอาหารยังอยู่ใกล้ถนนหลัก จะได้ยินเสียงรถสัญจรไปมาครับ
- บ้านปกาเกอญอต้องเดินลงเนินไปพอสมควร รถจะเข้าไปไม่ถึง ถ้ามีผู้สูงอายุเข้าพักผมแนะนำว่าควรแจ้งทางรีสอร์ท เพราะจะมีห้อง deluxe บางตึกที่สามารถจอดรถใกล้ๆกับห้องพักได้เลย ไม่ต้องเดินไกล

จากบรรยากาศธรรมชาติของรีสอร์ท ห้องพักที่น่าพัก การบริการที่ดีจากพนักงานทุกๆคน ทำให้มั่นใจว่า ผมต้องหาโอกาสกลับมาเยือนที่นี่อีกแน่นอน ผมต้องขอบคุณ คุณธนภัทร และพนักงานทุกๆคนที่ดูแลช่วยเหลือทุกๆอย่างเป็นอย่างดี ขอบคุณ คุณไก่ สำหรับอีเมลล์ที่แนะนำรีสอร์ทแห่งนี้ให้ผม ป้าแสน สำหรับรีวิวที่ทำให้อยากไปที่นี่และคำแนะนำหลังไมค์ คุณอาข่าน้อยสำหรับรีวิวที่ทำให้ยิ่งอยากไป และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ไว้เจอกันฉบับหน้าที่ดอยห่มฟ้ารีสอร์ทครับ

เวปของรีสอร์ทและราคาห้องพัก
Resort Website: //www.suanthipresort.com
ตรวจสอบราคาห้องพัก ณ ปัจจุบันได้ที่
//www.suanthipresort.com/rates.html
Create Date :16 ธันวาคม 2551 Last Update :24 ธันวาคม 2551 18:54:02 น. Counter : Pageviews. Comments :71