รีสอร์ทที่สองที่ผมจะพาไปชมจากทริปเชียงรายของผมปลายปีที่แล้ว เป็นรีสอร์ทในอำเภอแม่จัน ที่ชื่อว่า ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท ผมได้มีโอกาสไปพักที่รีสอร์ทแห่งนี้สองครั้งในช่วงเวลาที่ไม่ห่างกันซึ่งได้พบทั้งสิ่งที่ประทับใจ บรรยากาศธรรมชาติที่สวยงามและสิ่งที่ไม่น่าประทับใจ จุดเด่นที่สำคัญของรีสอร์ทแห่งนี้คือ วิวทิวทัศน์ครับ เนื่องจากตัวรีสอร์ทอยู่บนยอดภูเขาซึ่งตั้งอยู่กลางเทือกเขาน้อยใหญ่ ทำให้วิวจากรีสอร์ทแห่งนี้สวยงามมากครับ มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน นับเป็นรีสอร์ทที่มีวิวภูเขาสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปมา ส่วนสิ่งที่ไม่น่าประทับใจซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในการไปเยือนที่นี่ครั้งที่สอง คือ ห้องพัก ห้องพักที่นี่แต่ละห้องวิวจะต่างกันค่อนข้างมาก และที่สำคัญคือ ห้องชนิดสูงกว่า ราคาแพงกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า วิวจะสวยกว่าและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า ผมมีโอกาสไปพักที่นี่สามคืนในห้องพักสามแบบคือ Lake view deluxe, Moonlight deluxe และคืนสุดท้ายที่จริงผมจอง Honeymoon suite ไว้ แต่หลังจากขอเข้าไปดูห้องพักในการไปเยือนครั้งแรก ผมก็ขอทางรีสอร์ท downgrade เป็น Lanna Suite ซึ่งทางรีสอร์ทรับปากว่าจะหาห้องที่วิวดีๆให้ผม แต่หลังจากที่ check in เข้าห้องพักแบบ Lanna Suite ที่ทางรีสอร์ทจัดให้ผมในการไปเยือนครั้งที่สอง ผมถึงกับต้องโทรไปที่ front เพื่อยอม downgrade อีกครั้งเป็นห้อง deluxe แต่ก็โชคไม่ดีที่ไม่มีห้องว่าง

ภาพที่ผมจะนำมาให้ชมนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพจากการไปเยือนครั้งแรกครับ เพราะหลังจากเข้าไปยังห้องพักที่ทางรีสอร์ทจัดให้ในการไปพักครั้งที่สองซึ่งเป็นห้องพักที่อยู่ต่ำสุด ไม่เห็นวิวอะไรมาก ระเบียงห้องเก่าๆ ซ้ำสภาพห้องก็ดูมืดๆ ไม่คุ้มค่าเทียบกับราคาห้องพัก ผมถึงกับเคืองทางรีสอร์ทที่เคยรับปากผมจะเลือกห้องวิวสวยๆให้ ไว้ช่วงท้ายผมจะมาสรุปห้องพักที่ควรระบุตอนจองไว้ให้นะครับ

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7391819/E7391819.html

ผมขอวางแผงนิตยสาร ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 40 ประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นฉบับต้อนรับปีใหม่ 2552 กับรีสอร์ทบนยอดเขากลางสายลมหนาวของจังหวัดเชียงรายที่ชื่อว่า ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท


ในการเดินทางไปยังรีสอร์ท จะต้องนั่งรถเข้ามาลึกพอสมควรครับ บางช่วงเป็นถนนดิน และจะต้องนั่งแพข้ามอ่างเก็บน้ำเล็กๆ ใช้เวลานั่งแพไม่นาน


พอไปถึงอีกฝั่งของอ่างเก็บน้ำจะมีรถกอล์ฟมารับครับ พาไปยังยอดเขาซึ่งเป็นส่วนของ lobby ภาพนี้เป็นวิวจากบริเวณ lobby เห็นวิวอย่างนี้ก็หายเหนื่อยที่อุตสาห์เดินทางมาไกล


บรรยากาศที่สระว่ายน้ำของรีสอร์ท ที่เห็นสระโล่งๆอย่างนี้เพราะอากาศหนาวมากครับ


สระว่ายน้ำวันฟ้าใส อาคารที่เห็นเป็นส่วนของสปา


ที่นั่งเล่นชมภูเขาบริเวณสระว่ายน้ำ วิวสวยมากครับ


มีอยู่วันนึงที่อากาศไม่หนาวมาก เลยมาว่ายน้ำเล่น แต่เจ้าฝักบัวข้างสระไม่มีน้ำไหล


ความรู้สึกช่วงที่อยู่ที่รีสอร์ทคือ วิวที่รีสอร์ทสวยมาก แต่ถ้าเขาดูแลสภาพรีสอร์ทให้ดีกว่านี้ จะทำให้น่าพักกว่านี้มากทีเดียว


มาดูห้องพักแบบแรกที่ผมเข้าพัก ห้องนี้เป็นห้องแบบ lake view deluxe ห้อง 308 เป็นห้องขนาดพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่


มีระเบียงห้องชมวิวภูเขา มีต้นไม้บังวิวนิดหน่อย


วิวจากระเบียงห้องตอนเช้าๆ


มองไปอีกด้านของระเบียงจะเห็นวิวของอ่างเก็บน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อห้องชนิดนี้


มาดูส่วนของ lobby ซึ่งมีเพดานสูงโปร่ง


วิวจากบริเวณทางเข้า lobby บริเวณ lobby จะเห็นวิวเกือบ 360 องศา วิวสวยมากๆ


จากด้านข้างของ lobby จะเห็นแสงไฟระยิบระยับด้านล่าง


จากบริเวณห้องอาหารซึ่งอยู่ติดกับ lobby บรรยากาศดีมาก เป็นห้องอาหารที่วิวดีมากที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยเจอมา


ห้องอาหารอีกมุม ใครได้ไปทานมื้อเย็นที่นี่ ผมแนะนำให้ไปก่อนค่ำนะครับ เพราะถ้ามืดแล้วจะมองไม่เห็นวิวอะไรมาก


มาดูบรรยากาศตอนเช้าบ้าง ซึ่งเป็น ไฮไลท์ของที่นี่สำหรับผม ตื่นมาตีห้าเพื่อรอแสงแรกของวัน


บริเวณห้องอาหารตอนเช้า


โชคดีมากครับวันที่ผมไปรอ ฟ้าใส เห็นพระอาทิตย์ตั้งแต่พ้นยอดเขา


แสงแรกของวันกับสายหมอกบางๆยามเช้า เป็นบรรยากาศที่สดชื่นมาก


วิวอีกมุมหนึ่งช่วงเช้าจากบริเวณรีสอร์ท


ไม่ว่าจะมองไปมุมไหน ก็จะเห็นแต่ทิวเขา สำหรับทำเลของรีสอร์ทต้องยกให้ที่นี่เลยครับ


โต๊ะทานอาหารตำแหน่งนี้เป็นโต๊ะยอดนิยมของที่นี่


วิวอีกด้านหนึ่งของโต๊ะตัวเดิม อาคารที่เห็นด้านล่างเป็นโรงงานทำชา


บรรยากาศที่โต๊ะอาหารเช้าของผม อากาศเย็นๆ แดดอ่อนๆ กับวิวทิวทัศน์อย่างนี้ อยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ไปซักพัก


บรรยากาศที่ห้องอาหารตอนเช้าๆ


ดอกหญ้ากับทิวเขา วิวจากบริเวณรีสอร์ท


อ่างเก็บน้ำที่เห็นคืออ่างเก็บน้ำที่ต้องนั่งแพข้ามมาตอนที่เข้ามายังรีสอร์ท


จากห้องอาหารมองไปยัง ทางเข้า lobby วิวด้านล่างก็ยังสวย


ศาลานั่งเล่นที่เห็นเป็นของห้อง pool villa วิวสวยมากครับ แต่ไม่ค่อยส่วนตัวเท่าไหร่


มาดูห้องพักแบบที่สองที่ผมพัก ห้องนี้เป็นแบบ moonlight deluxe ห้อง 102 ห้องนี้วิวดี สามารถนอนชมวิวจากเตียงนอนได้เลย


วิวจากห้องพักตอนกลางวัน ห้องนี้อยู่ค่อนข้างสูง เดินจาก lobby ไม่ไกล


วิวจากหน้าต่างห้องพักช่วงไกล้ค่ำ โรแมนติกดี


ห้องพักหลังพระอาทิตย์ตกดิน เสียดายที่ห้องประเภทนี้ ไม่มีระเบียงห้อง


ห้องพักตอนกลางวัน ที่จริงพื้นที่โล่งที่เห็น จากภาพห้องพักที่ผมเคยดู จะมีชุดโซฟาอยู่ที่บริเวณนี้ แต่ห้องที่ผมไปไม่มี ทำให้ห้องโล่งมากเหมือนขาดอะไรไป ซึ่งถ้าห้องพักได้รับการดูแลเอาใจใส่มากกว่า จะทำให้ที่นี่น่าพักมากขึ้น


ภาพนี้เป็นส่วนของห้องอาหารที่มีหลังคา


ก็ยังคงเห็นวิวสวยๆ


จากด้านข้าง lobby ถ้าในโอ่งมีน้ำล้นออกมาเหมือนที่เคยเป็น ก็คงจะดี


อีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำ เห็นวิวภูเขา บรรยากาศดีมากครับ


บรรยากาศที่สระหลังพระอาทิตย์ตกดิน


อีกภาพครับ ถ้าช่วงหน้าร้อนสระคงไม่โล่งอย่างนี้


ผมมีโอกาสได้ไปทัวร์ชมโรงงานผลิตไวน์ และผลิตชาของรีสอร์ท ทัวร์นี้ใช้เวลาชั่งโมงเศษ ภาพที่เห็นเป็นโรงบ่มไวน์


บรรยากาศบริเวณสระว่ายน้ำของรีสอร์ท นั่งเล่นชมวิวทิวเขา


ภาพสุดท้ายจากปกเช่นเคย ทุ่งดอกหญ้าบริเวณห้องอาหารของรีสอร์ท


ถ้าพิจารณาเฉพาะเรื่องทำเลที่ตั้ง และวิวทิวทัศน์รอบๆรีสอร์ท ต้องถือว่า ดอยห่มฟ้ารีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทที่มีวิวภูเขาที่สวยมากแห่งหนึ่งที่ผมเคยไปมา แต่ความรู้สึกช่วงที่ผมอยู่ที่รีสอร์ทคือ สภาพรีสอร์ทยังขาดการดูแลเอาใจใส่เท่าที่ควร ห้องพักบางห้องอยู่ในทำเลที่ดีแต่มีต้นไม้มาบังวิวจนแทบไม่เห็นอะไร สภาพในห้องพักก็ค่อนข้างเก่า ห้องที่ผมพักบางห้องไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเล่นอย่างที่ควรจะมี (จากภาพในเวปของรีสอร์ท)
ลองมาดูห้องที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องที่วิวดี บางห้องเป็นการพิจารณาจากภายนอกไม่ได้เข้าไปชมจริงๆ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ
ห้อง Mountain view deluxe 105,106
ห้อง Lake view deluxe 303, 305 (ส่วนห้อง 308 ก็โอเคครับ มีต้นไม้มาบังวิวที่ระเบียงนิดหน่อย)
ห้อง moonlight deluxe 102 (ห้องประเภทนี้ไม่มีระเบียงครับ)
ห้อง Lanna suite 204
ห้อง deluxe บางห้องเป็นเตียงใหญ่ บางห้องเป็นเตียงเล็กสองเตียงนะครับ คงต้องตรวจสอบกับทางรีสอร์ทอีกที ห้องพักที่นี่ไม่มีผลไม้ ชากาแฟ กาต้มน้ำให้นะครับ

ส่วนห้องที่ผมเข้าไปชมแล้วไม่ประทับใจคือ lanna suite 205 ผมพักห้องนี้ในคืนที่สามครับ ห้องนี้จะอยู่ต่ำ ไกลจาก lobby ระเบียงห้องเก่า มีต้นไม้ใหญ่บังวิวที่ระเบียง ที่ผมผิดหวังกับทางรีสอร์ทเพราะว่าคืนที่ผมพักห้องนี้ผมจ่ายค่าห้องเป็นห้อง honeymoon ถึงแม้ผมจะขอ downgrade เป็นห้อง lanna suite แต่ห้องที่รีสอร์ทจัดให้ สภาพห้อง วิวจากระเบียงห้องยังสู้ห้อง deluxe ที่พักก่อนหน้านี้ยังไม่ได้, ห้อง Honeymoon suite 302 (ห้องประเภทนี้มีห้องเดียวครับจุดเด่นของห้องนี้คืออ่างอาบน้ำที่เห็นวิวสวย แต่ภายในห้องพักค่อนข้างทึบไม่เห็นวิว)

ส่วนห้อง pool villa 301 ห้องนี้วิวสวยมากครับ แต่ข้อเสียคือเป็นห้องที่ไม่ค่อยส่วนตัว ทางเข้า villa ไม่มีประตูปิด แขกที่ไม่ได้พักห้องนี้เดินเข้าไปชมสระว่ายน้ำของห้องประเภทนี้ได้เลย เพราะทางเข้าไม่มีประตูกั้นไว้ ที่จริงน่าจะมีประตูตรงทางเข้าวิลลาไว้นะครับเพื่อความเป็นส่วนตัว ลองมาดูสรุปจุดเด่นและจุดด้อยของรีสอร์ทแห่งนี้ในมุมมองของผม

จุดเด่น
-ทำเลของรีสอร์ทอยู่บนยอดเขา ทำให้วิวทิวทัศน์จากรีสอร์ทสวยมากครับ บรรยากาศธรรมชาติ เห็นวิวทิวเขาโดยรอบ
- ห้องอาหารบรรยากาศดี เห็นวิวจากมุมสูง อาหารที่นี่รสชาติดีครับ
-ห้องพักบางห้องเห็นวิวสวยๆจากห้องพัก

จุดด้อย
- ห้องพักบางส่วนไม่เห็นวิวอะไรมาก บางห้องค่อนข้างเก่า ทึบ ห้องที่วิวดีมีน้อยกว่าห้องที่ไม่เห็นวิวสวยๆ
- ห้องราคาแพงกว่าก็ไม่ได้หมายความว่า จะเห็นวิวสวยกว่าหรือมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า
- สภาพรีสอร์ทบางจุด การดูแลยังไม่ดีเท่าที่ควร
- อาหารเช้ามีน้อยเทียบกับราคาห้องพัก บางวันที่ผมไปมีผลไม้ บางวันก็ไม่มี
-ห้องพักอยู่บนเนินเขา ห้องที่อยู่ต่ำจะเดินไกลกว่า ไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ
-ตอนที่ผมไปเป็นหน้าหนาว น้ำร้อนในห้องน้ำไหลเบามากครับ ตอนแรกผมพยายามจะลองแช่น้ำอุ่นในอ่าง แต่รอไม่ไหว
-การเดินทางค่อนข้างไกล บางช่วงเป็นถนนดิน

สำหรับรีสอร์ทแห่งนี้ในความคิดของผม ถ้าได้ห้องพักที่วิวสวยทำเลดี จุดด้อยอื่นๆก็พอที่จะมองข้ามไปได้เพราะวิวจากที่นี่สวยจริงๆครับ เนื่องจากเวลาผมเข้าพักที่รีสอร์ท จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องพัก ถ้าผมมีโอกาสได้ไปพักที่นี่อีกคงต้องเป็นการจองห้องพักแบบระบุหมายเลขห้องเพราะห้องพักที่วิวดีมีจำนวนน้อยเทียบกับห้องพักทั้งหมดที่มียี่สิบกว่าห้องของรีสอร์ท

ผมขอถือโอกาสนี้ สวัสดีปีใหม่ชาว ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน และ ชาว bloggang ทุกๆคนนะครับ

เวปของรีสอร์ทและราคาห้องพัก
Resort Website: //www.doihomfharesort.com
ตรวจสอบราคาห้องพัก ณ ปัจจุบันได้ที่
//www.doihomfharesort.com/room_rates.html
สิ่งที่ผมประทับอีกอย่างหนึ่งจากการไปพักที่นี่คือ agency ที่ผมจองห้องพักในการไปพักครั้งแรกครับ เพราะช่วงที่ผมไปตรงวันช่วงแรกๆที่ปิดสนามบิน ทาง agency ก็จะโทรมาถามตลอดว่าไปได้ไหม ให้ช่วยอะไรได้บ้าง ส่วนช่วงวันกลับ ตอนนั้นผมกังวลมากว่าจะกลับยังไง เพราะสนามบินยังปิดอยู่ ก็อาศัย agency จองตั๋วรถทัวร์ให้ ราคา package ที่ได้ก็ไม่ต่างกับถ้าซื้อในงานท่องเที่ยวมากนัก แถมยังต่อรองเพิ่มหรือลด รายการต่างๆได้เช่น ตอนผมไปรวมอาหารเป็นเซ็ตที่รีสอร์ททุกมื้อ รถรับส่งสนามบิน รถพาไปชมวัดร่องขุ่น ถ้าใครกำลังหาราคาของดอยห่มฟ้า ลองติดต่อ คุณ ริ้ง แห่ง California tour ดูครับ ไว้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเปรียบเทียบราคากับ ทางรีสอร์ทโดยตรงหรือ agency อื่นๆ เบอร์โทร คุณริ้ง 0863099581