การเดินทางของผมไปเชียงใหม่ในครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้วครับ ถึงแม้ผมจะมีโอกาสไปเยือนจังหวัดนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางไปยังอำเภอสันทราย ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆของจังหวัดเชียงใหม่ และสิ่งที่ทำให้ผมมาที่นี่คือรีสอร์ทอบอุ่น บรรยากาศดีๆ และวิวของนาข้าวซึ่งต่างจากรีสอร์ทอื่นๆที่ผมเคยไปมา จากทำเลที่ตั้งของรีสอร์ทที่อยู่กลางทุ่งนา ทำให้วิวช่วงต้นเดือนตุลาคม เป็นวิวทุ่งนาที่เขียวขจี ได้บรรยากาศชนบทที่เงียบสงบ ส่วนตัวรีสอร์ทได้รับการออกแบบเหมือนกับเป็นบ้านสไตล์ยุโรป สีเหลืองสดใส มีการตกแต่งแบบผสมผสาน ในรีสอร์ทยังมีสระว่ายน้ำที่ติดกับทุ่งนาและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่ง จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่นอกจากวิวของทุ่งนาที่สวย สบายตาแล้ว คือความอบอุ่นจากคุณลุง คุณป้าเจ้าของรีสอร์ท ที่ดูแลแขกที่มาพักด้วยความเป็นกันเองเหมือนลูกเหมือนหลาน มีครัวซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง สามารถซื้อของสดมาปรุงอาหารทานกันเองเหมือนกับอยู่บ้าน ส่วนจุดด้อยในมุมมองของผมของเป็นเรื่องของการจัดสวน ช่วงที่ผมไปรู้สึกว่าต้นไม้มันจะรกๆไปนิด แต่บรรยากาศโดยรวมยังถือว่าสวยงามและเงียบสงบ เหมาะกับวันพักผ่อนง่ายๆที่ปล่อยให้เวลาผ่านไปช้าๆไปกับวิวของทุ่งนา ลองมาชมภาพความประทับใจที่ผมมีต่อรีสอร์ทแห่งนี้ในมุมมองของผม

ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับเดือนกันยายน ซึ่งเป็นฉบับที่ 90 กับ แอท วิลลา สันทราย รีสอร์ทเล็กๆลางทุ่งนาแห่งอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่


ผมเริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ บรรยากาศในรีสอร์ท at villa sansai คำว่า at รู้สึกจะย่อมาจาก อ้ายแต้ม ซึ่งเป็นชื่อของคนออกแบบ (คุณ ราเชน อินทวงศ์) ลูกชายของคุณลุง คุณป้าผู้ใจดี


ภายในรีสอร์ทมีน้ำพุเล็กๆ ช่วยสร้างบรรยากาศ ให้ความรู้สึกเหมือนมีการเคลื่อนไหวของสายน้ำ


สระว่ายน้ำกลางรีสอร์ท


จากศาลาบริเวณสระว่ายน้ำ รีสอร์ทแห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างปราณีต สวยดีครับ


สระว่ายน้ำกับวันฟ้าใส


เห็นวิวทุ่งนาที่เขียวสบายตาจากบริเวณสระว่ายน้ำ


การตกแต่งที่ทำให้เห็นถึงความเอาใจใส่ ภายในรีสอร์ท


อาคารสีเหลืองสด ที่ดูแล้วสดชื่น


มีการนำงานไม้มาผสมผสานกับการออกแบบได้แปลกตา


บรรยากาศในรีสอร์ทที่เขียวสดชื่น ได้ทั้งวิวทุ่งนาและวิวภูเขา


การออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงความปราณีตกับวิวทุ่งนาสวยๆ


นอกจากจะมีน้ำพุแล้ว ยังมีน้ำหยดจากผนัง รายละเอียดการออกแบบกับบรรยากาศยามเย็นภายในรีสอร์ท


ที่นั่งเล่นชมวิวบริเวณสระว่ายน้ำ


บริเวณสระว่ายน้ำ มีจุดชมวิว ที่สามารถขึ้นบันไดวนไปชั้นสอง ชมวิวทุ่งนา วิวภูเขาที่สวยงาม


จากชั้นสองของจุดชมวิว มองมาที่ชั้นล่าง เห็นโต๊ะนั่งเล่นบรรยากาศดี


ลงมาที่ชั้นล่างต่อครับ ช่วงเย็นๆหรือเช้าๆ สามารถมานั่งเล่นชมบรรยากาศที่บริเวณนี้


จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของที่นี่คือมีการตกแต่งที่ปราณีต และสวยงาม


น้ำพุในรีสอร์ทเมื่อกระทบกับแสงสุดท้ายยามเย็น


สระว่ายน้ำกับศาลากลางรีสอร์ทหลังพระอาทิตย์ตก บรรยากาศดีมากๆ


ที่ศาลามีอ่าง Jacuzzi ด้วยครับ แต่ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเลยไม่เห็นแขกมาใช้


วิวภูเขากับฟ้าสีสวยๆหลังพระอาทิตย์ตกที่สระว่ายน้ำ


สามารถมานั่งเล่น ชมดาวไปทานอาหารเย็นไปที่ตรงนี้ โรแมนติกดีครับ


ระเบียงนั่งเล่นนับดาวอีกมุมหนึ่ง


อาคารนี้จะเป็นส่วนของ Lobby ที่โปร่งสบาย


มีน้ำพุเล็กๆอยู่กลาง lobby


ภายในอาคาร lobby ที่ออกแบบได้สวยงาม


ชิงช้าเล็กๆบริเวณจุดชมวิวทุ่งนาของรีสอร์ท


บรรยากาศที่สระว่ายน้ำช่วงแสงทไวไลท์อีกภาพ


มาชมห้องพักกันบ้างครับ ห้องพักที่นี่มีสองแบบคือห้องพักบนตัวตึก กับห้องแบบวิลลา ห้องที่ผมพักครั้งนี้เป็นห้องพักบนตัวตึกครับหมายเลข 105


ห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องบนตัวตึกห้องอื่นๆตรงที่ เป็นห้องริมชั้นล่างและเป็นห้องที่มีพื้นที่กว้าง


ห้องพิเศษนี้จะมีเพียงห้องเดียวและแตกต่างจากห้องอื่นๆทั้งหมด พื้นที่ในห้องแบ่งเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ


บริเวณหน้าห้องจะมีระเบียงเล็กๆไว้นั่งชมวิวทุ่งนา


เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องริมเลยมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าห้องชั้นล่างห้องอื่นๆ


มุมเล็กๆโรแมนติกที่ระเบียงห้อง


จากภายในห้องนั่งเล่นมองออกไปข้างนอก จะเห็นวิวทุ่งนา


มีโต๊ะทำงานซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าไปยังห้องนอน


ห้องนอนที่น่าอยู่และเป็นส่วนตัว สามารถชมวิวทุ่งนา


ภายในห้องนอน ออกแบบได้เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น น่าอยู่


ภาพนี้เป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มีที่นอนเล่นไว้ชมทีวี ฟังเพลง ในห้องมีเครื่องเสียงให้ด้วยครับ สามารถเปิดเพลงหรือเปิดหนังดูได้


ส่วนของห้องน้ำที่แยกเป็นสัดส่วน มีส่วนอ่างล้างหน้า ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และส่วนของอ่างอาบน้ำ


ห้องอาบน้ำสีขาว สะอาดตา น่าใช้


อ่างอาบน้ำเล็กๆที่บรรยากาศดี ถ้าเป็นอ่างแช่ได้สองคนคงจะดีไม่น้อย (สำหรับคนที่ไปเป็นคู่ ^^)


อ่างอาบน้ำอีกภาพครับ อ่างนี้อยู่ติดกับห้องอาบน้ำ แช่น้ำเสร็จก็อาบน้ำต่อได้เลย


มีระเบียงเล็กๆอีกแห่งหนึ่งอยู่หน้าห้องนอน ระเบียงนี้จะเป็นส่วนตัวมากกว่าระเบียงหน้าห้อง ผมชอบมานั่งเล่นอ่านหนังสือที่นี่


จากห้องนั่งเล่นมองไปยังห้องนอน ระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนจะไม่มีประตูกั้นครับ


มาดูอาหารบ้างครับ ถึงแม้จะเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แต่อาหารที่นี่อร่อยมากๆ เริ่มจากจานนี้ แกงฮังเล ข้าวเปล่า อร่อยเด็ด


อีกวันนึงลองเปลี่ยนเป็นอาหารฝรั่ง ก็อร่อยไม่แพ้กัน ชอบมากๆ


ของหวาน ตามเมนูเป็นไอศครีมกระท้อน รสชาติจะเหมือนหวานเย็น มากกว่า แต่ที่แน่ๆ อร่อยดีครับ ไม่หวานมาก


ลานนั่งเล่นส่วนกลางที่อยู่หน้าห้องพัก ไว้นั่งคุยเล่น ชมบรรยากาศทุ่งนา


ภาพมุมกว้างของส่วนห้องพักที่อยู่บนอาคารสีเหลืองสองชั้น และสระว่ายน้ำ


น้ำพุอีกมุมหนึ่ง ข้อดีของน้ำพุสำหรับผมคือ ทำให้ในรีสอร์ทดูเหมือนมีการเคลื่อนไหว ไม่เหงาจนเกินไป


อาคาร lobby ตอนกลางวัน และส่วนของห้องพัก


ผมโชคดีมากครับ วันที่ผมไปฟ้าเป็นใจ ใสมากๆ มุมมองของรีสอร์ทจากมุมสูง


สีหญ้าเขียวๆกับสีเหลืองสดของตัวอาคารตัดกับสีท้องฟ้าวันฟ้าใส


ภาพนี้ถ่ายจากห้องอาหาร ผ้าม่านใช้ผ้าขาว ดูง่ายๆ แต่อบอุ่น


ภาพนี้ป็นส่วนน้ำหยดภายในอาคาร lobby สวยดีครับ


พื้นบางส่วนภายใน lobby ออกแบบลายได้แปลกตา สวยดีครับ


ผมชอบสีของตัวอาคารและการตกแต่ง ดูสดใสดี


จากบริเวณสนามหญ้ามองเห็นทุ่งนาที่เขียวขจีของเดือนตุลาคม


จากซุ้มประตูบริเวณศาลาข้างสระว่ายน้ำ จะเห็นห้องพักแบบวิลลาอยู่อีกด้านหนึ่งของรีสอร์ท


ในส่วนของอาหารเช้าจะเป็นอาหารง่ายๆครับ มี ABF ข้าวต้มและขนมท้องถิ่น น่าทาน


น้ำพุจุดเดิมแต่อีกมุมหนึ่ง


น้ำพุอีกจุดหนึ่งกับอาคารห้องพักที่เป็นฉากหลัง ชอบฟ้าวันนั้นมากๆครับ ใสได้ใจจริงๆ


โค้งประตูบริเวณศาลาข้างสระว่ายน้ำ


ทุ่งนากับแสงสุดท้ายสวยๆของวัน ช่วงเวลาสั้นๆที่ แอ็ท วิลลา สันทรายของผม


ภาพสุดท้ายจากปกเช่นเคยครับ บรรยากาศที่สระว่ายน้ำ ที่มีอาคารต้อนรับอยู่ด้านหลัง


ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและวิวของทุ่งนาสุดสายตา ทำให้ช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ที่ แอท วิลลา สันทรายของผมเป็นช่วงเวลาที่ได้พักผ่อนเต็มที่ ได้ว่ายน้ำ อ่านหนังสือ ถ่ายภาพ ชมวิวนาข้าวเขียวๆ ถือเป็นรีสอร์ทบรรยากาศทุ่งนาแห่งแรกที่ผมมีโอกาสได้ไปเยือน นอกจากนี้ภายในรีสอร์ทยังมีครัวเล็กๆ ที่เราสามารถซื้อของสดมาทำครัวกันเองได้เลย ได้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านโดยมีคุณลุง คุณป้า ดูแลทุกอย่างเป็นอย่างดี หรือจะสั่งอาหารของทางรีสอร์ทก็ได้ครับ ใกล้ห้องครัวยังมีห้องสมุดที่สามารถยืมหนังสือหรือแผ่นหนัง DVD ไปที่ห้องได้ด้วย ช่วงที่ผมไปคุณลุงยังชวนให้อยู่ต่ออีกคืนเพื่ออยู่งานเลี้ยงเกษียณอายุของคุณลุง ซึ่งจะมีซุ้มอาหาร เหมือนเป็นตลาดเล็กๆ เสียดายที่ไม่สามารถอยู่ต่อได้ครับ ส่วนกิจกรรมในรีสอร์ท สามารถปั่นจักรยานชมวิวทุ่งนาและวิถีชีวิตชาวบ้านละแวกนั้น เนื่องจากตัวรีสอร์ทอยู่ห่างจากในเมือง ไม่มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงมากนัก ที่นี่น่าจะเหมาะสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวที่สามารถออกไปเที่ยวไกลๆได้หรือชอบความสงบ ได้พักผ่อน อ่านหนังสือไปกับวิวทุ่งนา ลองมาดูสรุปจุดเด่น จุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

จุดเด่น
-ทำเลของรีสอร์ทอยู่กลางทุ่งนาที่เงียบสงบ ในช่วงปลูกข้าว จะเห็นทุ่งนาที่เขียวขจี
-ตัวรีสอร์ทและห้องพักได้รับการออกแบบอย่างดี ปราณีต
-ในรีสอร์ทมีครัวเล็กๆ สามารถซื้อของสดมาปรุงอาหารเองได้
-บรรยากาศในรีสอร์ทอบอุ่น คุณลุง คุณป้า เจ้าของรีสอร์ท และพนักงานคนอื่นๆดูแลแขกทุกๆคนเป็นอย่างดี
-ในรีสอร์ทมีสระว่ายน้ำที่เห็นวิวทุ่งนา บรรยากาศดี
-อาหารที่นี่อาจจะมีให้เลือกไม่เยอะมากแต่อร่อยครับ

จุดด้อย
-รีสอร์ทอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่พอสมควร
-ภายในรีสอร์ทไม่มีกิจกรรมมากนัก และถ้าไม่ใช่ช่วงปลูกข้าว จะไม่เห็นวิวของทุ่งนาที่เขียว แต่ยังได้วิวภูเขาที่สวยงาม
-ช่วงที่ผมไป ต้นไม้ในรีสอร์ทดูรกๆไปนิดครับ

ห้องพักที่นี่มีทั้งส่วนที่อยู่ในอาคารสองชั้น และแบบวิลลา ถ้าผมจำไม่ผิดห้องพักที่อยู่บนอาคารสองชั้น ชั้นบนจะไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ แต่จะได้ความเป็นส่วนตัวที่ระเบียงห้องและเห็นวิวมุมสูงกว่า ส่วนวิลลาจะแยกไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของรีสอร์ท สำหรับการไปเยือน at Villa Sansai ในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณ คุณลุง คุณป้า และพนักงานทุกๆคนที่ดูแลช่วยเหลือทุกอย่างเป็นอย่างดี มีโอกาสคงได้กลับไปอีก ขอบคุณพี่อุ๊(หมูอ้วนจอมพลัง) ที่ช่วยซื้อ voucher ในงานท่องเที่ยวให้นะครับ และขอขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาทักทายจ่ายค่านิตยสาร พบกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้าซึ่งจะเป็นฉบับแรกของนิตยสารชานไม้ชายเขาครับที่ผมจะพาไปชมโรงแรมในกรุงเทพมหานคร