bloggang.com mainmenu search


จากตอนที่ 1 ของการไปเยือนไร่แสงอรุณ(คลิ๊กที่นี่เพื่อชมตอนที่ 1) ผมได้พาไปชมห้องพักบนเขาทั้งบ้านแสงอรุณ และบ้านเพียงออ ในตอนที่ 2 ฉบับนี้จะเป็นบรรยากาศห้องพักด้านล่างซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก lobby และบรรยากาศทั่วๆไปของรีสอร์ท ชมธรรมชาติของลำน้ำโขงที่สวยงามมากที่สุดช่วงหนึ่งของแม่น้ำสายนี้ เนื่องจากช่วงที่ผมไป เป็นฤดูหนาวปลายปี ทำให้ตอนเช้าๆจะเห็นหมอกบริเวณแม่น้ำและภูเขา บางวันหมอกจะลงหนาจนมองออกไปทางไหนก็เห็นแต่สีขาวๆ ได้บรรยากาศธรรมชาติมากๆ นอกจากนี้สิ่งที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของไร่แสงอรุณคือ อาหาร ที่อร่อยและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเนื่องจากทางรีสอร์ทปลูกผักปลอดสารพิษขึ้นเอง ช่วงหน้าหนาวจะมีการปลูกสตรอเบอรี่ ทำให้แขกที่เข้ามาเยือนมีโอกาสได้ทานสตรอเบอรี่สดๆ อีกทั้งบรรยากาศของห้องอาหารที่เปิดโล่งกลางแจ้ง เห็นวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม จากที่รีสอร์ทแห่งนี้เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีจำนวนห้องพักเพียง 14 หลัง และจากการบริการที่ดีจากพนักงานทุกๆคน ซึ่งส่วนมากเป็นคนในพื้นที่ ทำให้ไร่แสงอรุณเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่อบอุ่น บรรยากาศดี และใกล้ชิดธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งสำหรับผม

ลองมาชมภาพความประทับใจที่ผมมีต่อไร่แสงอรุณในตอนที่ 2 ซึ่งเป็นตอนสุดท้าย ชมธรรมชาติที่สวยงาม ห้องพักที่น่าอยู่ของรีสอร์ทเล็กๆแห่งนี้ ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 79 ซึ่งเป็นฉบับที่สองของเดือนแห่งความรัก กับรีสอร์ทที่ถูกซ่อนไว้ในบรรยากาศธรรมชาติทั้งบนภูเขาและริมแม่น้ำโขง ของไร่แสงอรุณ แห่งบ้านผากุบ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย


ผมเริ่มจากภาพนี้ครับ บรรยากาศบริเวณแปลงผักกลางสายหมอกตอนเช้าๆ โต๊ะอาหารที่เห็นเป็นโต๊ะอาหารเช้าของรีสอร์ท บรรยากาศดีมากๆ


ลำน้ำโขงที่มีควันลอยมาจากสายน้ำ สวยมากๆครับ


สายๆหน่อยก็ยังมีหมอกบริเวณภูเขาของฝั่งลาว


แปลงผักที่อยู่ริมแม่น้ำโขงช่วงเช้า อากาศดีมากๆ


ต้นไม้สวยๆในรีสอร์ทกับวิวแม่น้ำโขง


และที่พลาดไม่ได้ของการมาเยือนไร่แสงอรุณช่วงหน้าหนาว คือการไปเดินเล่นถ่ายภาพต้นสตรอเบอรี่


ดอกไม้สวยๆในรีสอร์ท ความรู้สึกอย่างหนึ่งของการมาเยือนไร่แสงอรุณคือ ความเอาใจใส่ในการปลูกดอกไม้ กล้วยไม้ เพื่อทำให้บรรยากาศในรีสอร์ทดูอบอุ่น สดชื่น ชอบมากๆ


แปลงผักที่สามารถนำมาปรุงอาหารและเพื่อความสวยงาม


โต๊ะอาหารที่บรรยากาศดีมากๆครับ เห็นทั้งวิวภูเขา วิวแม่น้ำ และอยู่ข้างๆแปลงสตรอเบอรี่


ดอกไม้สวยๆที่พบได้ทั่วไปในรีสอร์ท


ร่มสีแดงสดตัวกับสีท้องฟ้าและสีเขียวๆของต้นไม้ สวยงามมาก


ลองมาชมภาพอาหารบ้างครับ อาหารที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความสดของผักที่นำมาปรุง


อาหารน่าทานกับบรรยากาศธรรมชาติ


ผมชอบสีของร่มเป็นพิเศษ ตอนมาครั้งแรกยังเป็นร่มสีเขียว พอเปลี่ยนเป็นสีแดง ดูสดใส วิวจากโต๊ะอาหารสวยจริงๆครับ


อาหารขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของที่นี่คือน้ำพริกครับ ในภาพน่าจะเป็นน้ำพริกหนุ่ม อร่อยมากๆ


ซูมเข้าไปให้เห็นความน่าทาน


ภาพบรรยากาศระหว่างทางมาที่ไร่แสงอรุณ บางช่วงวิวสวยมาก


เป็นวิวภูเขาที่สวยงามและเห็นวิวแม่น้ำอยู่ไกลๆ


บริเวณนี้ยังมีความเป็นธรรมชาติสูง อากาศบริสุทธิ์ ยิ่งได้ลมเย็นๆของหน้าหนาว ทำให้ประทับใจมากๆ


ดอกหญ้าเล็กๆที่อยู่ข้างทาง


กลับมาที่ไร่ครับ ผมจะพาไปชมห้องพักที่อยู่ริมโขงซึ่งผมเคยมาพักแล้วจากการมาเยือนครั้งแรก ในภาพเป็นทางเดินเพื่อไปยังบ้านริมโขง


บ้านริมโขง 1 ซึ่งเป็นห้องพักหนึ่งในสามหลังของบ้านพักที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ห้องนี้จะเห็นวิวกว้างที่สุด


วิวจากภายในห้องพัก เป็นวิวที่สวยมากๆครับ


บรรยากาศที่ระเบียงห้องพักช่วงเย็นๆ


ที่นอนเล่นนี้เป็นมุมโปรดของผม และเป็นมุมที่บรรยากาศดีที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ใกล้ชิดกับแม่น้ำโขงสามารถนอนฟังเสียงน้ำไหลได้เลย


ส่วนมากผมจะใช้เวลานอนเล่นที่ระเบียงแห่งนี้ วิวสวยมากๆ


ภายในห้องพักซึ่งค่อนข้างเล็ก มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก ไม่เหมือนห้องพักบนเขาที่ห้องกว้างกว่า


โต๊ะทำงานวิวดีอยู่ข้างๆเตียงนอน


บรรยากาศที่ระเบียงห้อง ทางรีสอร์ทเลือกสีของเบาะนอนได้สวยมากครับ สีสดใสดี


ภาพนี้ให้เห็นความใกล้ชิดของที่นอนเล่นบนระเบียงกับสายน้ำโขง


พอเริ่มค่ำก็จะเริ่มเห็นดาว บรรยากาศดีมากๆ


ห้องด้านหน้าที่เห็นเป็น บ้านริมโขง 2 ซึ่งวิวสวยเหมือนกัน แต่วิวที่ระเบียงไม่กว้างเท่าบ้านริมโขง 1


จากภายในห้องพักมองไปยังระเบียงห้อง ในห้องมีวิทยุเครื่องเล็กๆ ไว้ฟังเล่น


ภายในห้องน้ำที่เรียบง่าย


ชอบบรรยากาศที่ระเบียงนี้มากๆครับ ช่วงแสงทไวไลต์ ถ่ายภาพสนุกมากๆ


เห็นภาพแล้วทำให้อยากกลับไปอีก


วิวจากระเบียงห้อง ถ้าเป็นบ้านริมโขงห้องอื่นๆ จะไม่เห็นวิวชัดๆของมุมนี้


ช่วงที่ผมไปฟ้าใส เห็นดาวชัดมากๆครับ


เป็นค่ำคืนที่มีดาวเต็มฟ้า บรรยากาศโรแมนติก(ตามลำพัง)ของผม ^^


ถ่ายดาวช่วงที่ฟ้าใสอย่างนี้สนุกมากๆ เนื่องจากบริเวณนี้ห่างจากตัวเมือง จึงไม่มีแสงไฟมารบกวน


ในห้องมีผ้าห่มหนานุ่มอีกสองผืน ไว้มาห่มนอนช่วงหนาวๆ นอนดูดาวโดยซุกในผ้าห่มมีความสุขมากๆ จริงๆแล้วเวลามองด้วยตาเปล่าจะไม่เห็นดาวเยอะอย่างนี้ แต่การเปิดหน้ากล้องนานๆและนำภาพมาปรับความสว่างอีกนิด จะเห็นดาวมากกว่าที่ตาเห็น


กลางวันชมวิวแม่น้ำ ภูเขา พอตกกลางคืนชมวิวทะเลดาว โรแมนติกมากๆ


มาชมบรรยากาศยามเช้าที่ระเบียงห้องบ้างครับ


ที่นอนบรรยากาศดีๆใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สวยงาม อยู่ที่นี่ตื่นเช้าทุกวันครับเพื่อมารอเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ


วิวจากรีสอร์ทมองไปยังฝั่งลาว เห็นหมอกสวยๆ


ยามเช้า จากระเบียงห้องสัมมนาที่อยู่ติดแม่น้ำโขง


หมอกสวยๆที่ทำให้แม่น้ำโขงยิ่งสวยงามมากขึ้นกว่าเดิม


บรรยากาศจากระเบียงห้องสัมมนาอีกภาพครับ


วิวสวยๆอย่างนี้ เวลาเห็นของจริง มองยังไงก็ไม่เบื่อ


ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักอีกแบบหนึ่งซึ่งอยู่อีกฟากถนน แต่ก็ไม่ต้องเดินขึ้นเขา เป็นห้องพักที่อยู่ริมสระบัว


ผมมีโอกาสได้มาพักหลังนี้เลยครับ บ้านบึงบัว 1


ภายในห้องพักจะเห็นวิวสระบัว เป็นธรรมชาติอีกแบบ


ห้องประเภทนี้ลักษณะห้องเหมือนบ้านริมโขงแทบทุกอย่าง


มุมเล็กๆภายในห้องนอน


จากห้องพัก 14 ห้องในไร่ มีห้องนี้เพียงห้องเดียวครับ ที่มีอ่างอาบน้ำ


ในห้องจะเหมือนกับบ้านริมโขง


ในห้องมี ทีวี ตู้เย็น ไม่มีเครื่องเล่น DVD ส่วนขนม มาม่า กาแฟและเครื่องดื่มในตู้เย็น ทานได้ฟรีทุกอย่าง


ห้องนอนที่ใกล้ชิดกับสระบัว ที่ระเบียงยังมีท่าน้ำส่วนตัว เหมาะกับช่วงลอยกระทง



ห้องนี้วิวด้านนอกจะเป็นต้นไม้ บรรยากาศส่วนตัว


วิวบริเวณทางเดินมายังบ้านบึงบัว


ทางเดินมาบ้านบึงบัวเป็นทางเดินเดียวกับบ้านที่อยู่บนเขา ผ่านทุ่งนา แต่เดินไม่ไกลมากเหมือนกับบ้านที่อยู่บนเขา บ้านริมโขงจะใกล้ lobby ที่สุด รองลงมาก็บ้านบึงบัวครับ


เดินมาเหนื่อยๆ พักทานขนมอร่อยๆกับน้ำสตรอเบอรี่ปั่น อร่อยมากๆ ในภาพเป็นบลูเบอรี่เค็ก


บรรยากาศที่ห้องอาหารช่วงเย็นๆ วิวสวยมาก


อีกมุมหนึ่งของบริเวณที่ทานมื้อเย็น ถ้าช่วงฝนตกจะทานที่นี่ไม่ได้ครับ เพราะไม่มีหลังคา ต้องไปทานที่ห้องอาหารด้านหน้ารีสอร์ท


เห็นวิวแม่น้ำโขงเต็มๆ จากมุมสูง บรรยากาศธรรมชาติมากๆ


มุมจากด้านล่างมองมาที่ห้องอาหาร จะเห็นแปลงสตรอเบอรี่


วิวที่สวยงามจากบริเวณโต๊ะอาหาร มีแปลงผักอยู่ข้างๆ


บรรยากาศโรแมนติกช่วงเย็นๆ บริเวณโต๊ะอาหาร ผมแนะนำว่าถ้ามาทานมื้อเย็นควรมาทานก่อนมืดครับ พอมืดแล้วจะไม่เห็นวิวสวยๆของภูเขาและแม่น้ำ


ห้องอาหารที่อยู่ด้านหน้าติดถนน ถ้าฝนตกก็ต้องมาทานที่นี่


วิวแม่น้ำโขงอีกซักภาพ เป็นวิวจากระเบียงห้องสัมมนาช่วงเย็นๆ


เวลาแห่งความสุขและความสงบก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงวันกลับไม่อยากจะกลับเลยครับ เป็นทริปที่สนุกกับการถ่ายภาพมากๆอีกทริปหนึ่ง


ปิดท้ายด้วยภาพจากปก บรรยากาศมุมเล็กๆมุมหนึ่งที่โรแมนติก ใกล้ชิดธรรมชาติที่เงียบสงบ ได้ยินแต่เพียงเสียงน้ำไหลของไร่แสงอรุณ



ถึงแม้ผมจะได้มีโอกาสมาเยือนไร่แสงอรุณสามครั้งในช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่ผ่านมา แต่ก็มีความรู้สึกอยากกลับไปที่นี่อยู่เสมอ คงเป็นเพราะความเป็นธรรมชาติ บรรยากาศที่อบอุ่น ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายอีกแห่งหนึ่งของคนที่ชื่นชอบวิวที่สวยงามของภูเขาและแม่น้ำ นอกจากนี้ผมยังประทับใจกับอาหารที่ทั้งรสชาติอร่อย และยังใช้ผักผลไม้ที่ทางรีสอร์ทปลูกขึ้นเอง ในส่วนของห้องพัก ผมประทับใจทั้งห้องพักบนเขา ห้องพักข้างบึงบัว และห้องพักริมโขง ห้องพักแต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในบรรยากาศที่ต่างๆกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันของห้องพักทุกแบบคือความเงียบสงบและใกล้ชิดธรรมชาติ

ส่วนของอาหารเช้าที่นี่จะเป็นเซ็ตครับ มีทั้งเซ็ตที่เป็น ABF และ ข้าวต้ม ผมจะชอบทานชุด ABF ของที่นี่เป็นพิเศษเพราะชอบซุบมากๆ อีกทั้งน้ำสลัดสีแดงๆที่ทำจากบีตรูตก็อร่อย และถ้าไปช่วงหน้าหนาว สามารถสั่งสตรอเบอรี่สดมาทานได้ด้วยครับ นอกจากนี้ในหน้าร้อนช่วงที่ลิ้นจี่ออกผลสามารถทานลิ้นจี่ของทางรีสอร์ท ผมเองยังไม่เคยไปช่วงที่ลิ้นจี่ มีโอกาสจะลองไปช่วงนั้นบ้างครับ ลองมาชมสรุปจุดเด่นจุดด้อยในมุมมองของผม

จุดเด่น
- วิวจากบ้านริมโขงเห็นวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม มีที่นอนเล่นที่ระเบียง ส่วนวิวจากบ้านแสงอรุณเป็นวิวภูเขาจากมุมสูง ใกล้ชิดธรรมชาติ บ้านบึงบัวจะเป็นวิวของสระบัว และบ้านเพียงออเป็นวิวของป่าไผ่ มีความเป็นส่วนตัว
- เป็นรีสอร์ทเล็กๆที่สร้างด้วยช่างที่ฝีมือปราณีตมากครับ ทั้งงานปูน งานไม้ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก ห้องอาหาร ทางเดิน
- ช่วงหน้าหนาว บริเวณรีสอร์ทปลูกสตรอเบอรี่ ผักและผลไม้ ทำให้ได้ทานผักผลไม้สดๆ ส่วนช่วงหน้าร้อนจะมีลิ้นจี่
- บริเวณที่ทานอาหารบรรยากาศดี เห็นวิวแม่น้ำโขงและอาหารรสชาติดี
- การบริการจากพนักงานดีมาก ถึงแม้พนักงานส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ซึ่งมีประสบการณ์บริการไม่มากนักแต่ก็บริการด้วยความเต็มใจและเป็นกันเอง

จุดด้อย
- รีสอร์ทแห่งนี้ไม่มีสระว่ายน้ำ
- ระยะทางที่ไกลจากเมืองเชียงรายและสนามบินใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง
- ห้องพักแบบบนเขาจะอยู่อีกฟากของถนนต้องเดินไกล ส่วนถนนไปยังบ้านบนเขาเป็นถนนดิน ไม่เหมาะสำหรับรถเก๋ง และไม่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี

ถ้าต้องการพักบ้านบนเขา (บ้านแสงอรุณ บ้านเพียงออ บ้านเดือนแจ่ม) และให้ทางรีสอร์ทนำรถไปส่งควรแจ้งไว้ตั้งแต่ตอนจองนะครับ เพราะบางช่วงของปี ทางรถขึ้นไม่สามารถใช้งานได้ อาจจะต้องเผื่อการเดินเท้าไว้ด้วย ซึ่งระยะทางไกลพอสมควรและต้องขึ้นบันไดหลายขั้น

จากความประทับใจในการไปเยือนไร่แสงอรุณในครั้งนี้ต้องขอบคุณ คุณพัท ป้าพร คุณก้อง น้องฉ่าง และพนักงานของของไร่แสงอรุณทุกๆคนที่ให้บริการเป็นอย่างดี มีโอกาสคงได้กลับไปอีกครับ และขอขอบคุณทุกๆคนที่แวะเข้ามาทักทาย จ่ายค่านิตยสาร และอย่าลืมติดตามชานไม้ชายเขาทั้งใน blog และรายการทีวีทาง Travel Channel Thailand (True Visions 73) นะครับ ขอให้ทุกๆคนมีความสุขในเดือนแห่งความรักปีนี้
Create Date :20 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update :20 กุมภาพันธ์ 2554 20:01:09 น. Counter : Pageviews. Comments :97