bloggang.com mainmenu search


จากที่ผมเก็บข้อมูล ดูรีวิวของโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่มาพอสมควร ประกอบกับความประทับใจที่มีต่อ Le MERIDIEN Chiang Rai Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทในเครือ Starwood ครั้งแรกของผม ทำให้ผมตัดสินใจเข้าไปพักผ่อนที่โรงแรม Le MERIDIEN Chiang Mai ช่วงหน้าหนาวปลายปีที่ผ่านมาโดยได้รับการเอื้อเฟื้อห้องพักจากทางโรงแรม หลังจากที่เข้าพักที่นี่ ผมพบว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นซิตี้โฮเทลที่รวมจุดเด่นหลายๆอย่างไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการเดินทางเพราะอยู่ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งช๊อปปิ้งอย่างไนท์บาซาร์ นอกจากนี้สิ่งที่ผมประทับใจมากของที่นี่คือการออกแบบ การตกแต่งที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมและภายในห้องพักน่าอยู่ น่าพักผ่อน และจุดเด่นที่ต่างจากโรงแรมกลางเมืองส่วนใหญ่คือวิวจากห้องพักที่สวยงาม เห็นวิวภูเขา ดอยสุเทพจากมุมสูง ส่วนจุดด้อยในมุมมองของผมคือ ห้องพักที่นี่ไม่มีระเบียงห้องให้ออกมาสูดอากาศภายนอก

ลองมาชมภาพความประทับใจที่ผมมีต่อโรงแรมแห่งนี้ ชมบรรยากาศห้องพัก 2 แบบ ( ห้อง Deluxe และ Junior Suite) ของ Le MERIDIEN Chiang Mai ผ่านทางมุมมองของผม

ผมขอวางแผงนิตยสารฉบับต้อนรับปีใหม่ 2554 ประจำเดือนมกราคม ซึ่งเป็นฉบับที่ 76 กับโรงแรมที่ผมชอบมากอีกแห่งหนึ่งซึ่งรวมความเป็นโรงแรมออกแบบ โรงแรมกลางเมือง และโรงแรมวิวดีเข้าไว้ด้วยกัน



โรงแรมเลอเมอริเดียน เชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่กลางเมือง บริเวณไนท์บาซาร์


ตัวตึกสีเหลือง ที่เห็นเด่นชัดแต่ไกล


เป็นโรงแรมที่รวมความเป็นโรงแรมกลางเมืองและโรงแรมวิวดีเข้าไว้ด้วยกัน สามารถชมพระอาทิตย์ตก ชมวิวจากหน้าต่างของห้องพักฝั่งตะวันตก


บริเวณด้านหน้าโรงแรม มีการออกแบบ ใส่ใจในทุกรายละเอียด


อาคารสีเหลืองสดตัดกับสีท้องฟ้าวันฟ้าใส


เข้ามาในตัวโรงแรม บริเวณส่วนต้อนรับเน้นการใช้สีดำ


บรรยากาศบริเวณห้องโถงของ Lobby


บาร์ของโรงแรมที่ชื่อว่า Latitude 18 (ที่ Le MERIDIEN Chiang Rai จะมีบาร์ที่ชื่อว่า Latitude 19) คงตั้งชื่อตามตำแหน่งของ เส้น latitude จริงๆ


ภายในบาร์ตกแต่งได้สวยงาม


บริเวณส่วนต้อนรับอีกภาพ


ทางเดินไปยังลิฟต์ของโรงแรม มีการตกแต่งที่สวยงาม ลิฟต์ที่นี่ต้องใช้ keycard ก่อนกดชั้นที่ต้องการนะครับ และกดชั้นได้เฉพาะชั้นที่เราพักและชั้นส่วนกลาง


ลองมาชมห้องพักในคืนแรกของผม เป็นห้อง Deluxe บนชั้น 9


ทางขวามือจะเป็นส่วนของห้องเล็กๆไว้เก็บของ เสื้อผ้า ซึ่งจะมีเตารีดและที่รองรีดเหมือนกับที่ Le MERIDIEN Chiang Rai ถัดจากห้องนี้ก็จะเป็นห้องน้ำ


บรรยากาศในห้องนอน ในห้องพักมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบมีสายบริการโดยมีค่าใช้จ่ายครับ


จากห้องน้ำมองทะลุผ่านกระจกไปยังห้องนอนและวิวภายนอก ถ้ามากับเพื่อนสามารถดึงม่านลงมาปิดได้ครับ


เตียงนอนและหมอนที่นุ่มน่านอนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมในเครือเลอเมอริเดียน


มีการให้แสง ตกแต่งที่ดี ทำให้ภายในห้องพักน่าอยู่


ภาพมุมกว้าง ถึงแม้ในห้องพักจะไม่กว้างมากนัก ไม่มีระเบียง แต่มีการวางแปลนห้องที่ดี และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างได้อย่างลงตัว น่าอยู่


ผลไม้ต้อนรับ


วิวจากห้องพัก ห้องพักที่นี่มีสองฝั่งครับ คือฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก วิวจากในภาพเป็นวิวจากห้องพักฝั่งตะวันตก สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกจากห้องพักได้เลย โรแมนติกดีครับ


วิวฝั่งนี้จะสวยกว่าวิวจากห้องฝั่งตะวันออก เพราะจะเห็นวิวภูเขาของดอยสุเทพ ถ้าเขาพักที่นี่ เวลาจองห้อง อย่าลืมลองขอห้องฝั่งที่เห็นวิวดอยสุเทพนะครับ


สามารถนั่งชมวิว ชมพระอาทิตย์ตกจากโซฟาในห้องได้เลย


ในห้องน้ำ มีห้องอาบน้ำ ฝักบัวฝนตกทางด้านซ้าย


มีอ่างอาบน้ำ อ่างนี้จะไม่ยาวเหมือนอ่างทั่วไป คนตัวสูงอาจจะแช่ไม่สะดวก


มองผ่านกระจกจากห้องนอนเข้าไปยังห้องน้ำ ผมชอบการวางแปลนห้องของที่นี่มากครับ


สามารถนอนชมวิวจากบนเตียงนอน


มุมโปรดของผมเวลาอยู่ในห้องที่มักจะมานอนเล่นนั่งเล่น ชมวิวที่ตรงนี้


มีกาต้มน้ำ ชา กาแฟบริการในห้องฟรี ห้องแบบ Deluxe ไม่มีเครื่องเล่น DVD


มาชมส่วนอื่นๆของโรงแรมกันต่อครับ แสงและเงาที่ป้ายชื่อโรงแรมด้านหน้า


รูปปั้นนี้ไม่ได้อยู่ในโรงแรม แต่อยู่ที่สะพานใกล้ๆโรงแรม


ต่อไปผมจะพาไปชมอาหารเช้าของที่นี่ ห้องอาหารเช้าอยู่ที่ชั้น 1 ใกล้ๆ lobby ชื่อว่าห้องอาหาร Latest Recipe


อาหารเช้าของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ มีอาหารให้เลือกเยอะพอสมควร ภาพนี้เป็นส่วนของเบเกอรี่


ส่วนของสลัดที่น่าทาน


ตามมาด้วยโคลด์คัท


และที่เป็นเอกลักษณ์ของอาหารเช้าที่ Le MERIDIEN คือ เครื่องดื่มในแก้วช๊อตที่เรียกว่า Eye Opener สามารถหยิบจากด้านหน้าทางเข้าห้องอาหารได้เลยครับ บางแก้วออกเปรี้ยว บางแก้วเผ็ดนิดๆ ช่วยกระตุ้นให้ตาสว่างช่วงเช้าๆ


แต่ละวันจะมีเมนูบางอย่างไม่ซ้ำกัน อาหารเช้าที่นี่อร่อยและคุณภาพดี น่าทาน


จานเดิมครับ มีทั้งขนมจีบ อาหารไทย และอาหารฝรั่ง


จานเบเกอรี่ของผม


อาหารพิเศษประจำวัน แปลกและน่าทาน


การตกแต่งบริเวณ lobby ใกล้ๆห้องอาหาร


ที่นั่งเล่นบริเวณ lobby


ที่นั่งเล่นอีกมุมหนึ่ง งานศิลปะบนฝาผนังสวยดีครับ


ต่อไปมาชมอาคารโรงแรมจากภายนอกต่ออีกนิด


ป้ายทางออก


ตัวโรงแรมอยู่กลางเมือง การเดินทางสะดวกครับ มีร้าน Star Bucks อยู่ใกล้ๆ


ขึ้นมาชมสระว่ายน้ำส่วนกลางบนชั้น 4 ช่วงพระอาทิตย์ตก


สระว่ายน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่บรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ตกดีมากๆครับ ที่ชั้น 4 ยังมีส่วนของห้อง ฟิตเนสและสปา ช่วงที่ผมไปอากาศเย็นๆ มาว่ายน้ำที่นี่ทุกเช้าและว่ายอยู่คนเดียวทุกวัน


ต่อไปผมจะพาไปชมห้องพักอีกแบบหนึ่งที่ผมเข้าพัก เป็นห้องแบบ Junior Suite ห้องชนิดนี้จะเป็นห้องมุมตึก มีพื้นที่ภายในห้องกว้างสบาย แยกเป็นส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอน


บรรยากาศห้องนอนของห้อง Junior Suite หมายเลข 1234 ซึ่งอยู่บนชั้น 12 ฝั่งดอยสุเทพ เห็นวิวที่สวยงาม


ดอกไม้ตกแต่งในห้องพัก ผมชอบการจัดดอกไม้แจกันของที่นี่เป็นพิเศษ


นอกจากส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอน ยังมีส่วนของห้องน้ำที่กว้าง


บรรยากาศในห้องนอนกับวิวด้านนอก ผมประทับใจทั้งการออกแบบ การตกแต่ง และวิวจากห้องพัก


บรรยากาศที่ห้องนั่งเล่น มีทั้งโต๊ะทำงานและโต๊ะทานข้าว


ยังคงมีที่นั่งเล่น นอนเล่นข้างๆเตียงติดกับผนังกระจกเหมือนห้อง Deluxe ไว้ชมวิวสวยๆ


บรรยากาศที่โต๊ะทานอาหารในห้องนั่งเล่น สามารถชมพระอาทิตย์ตกจากห้องพัก โรแมนติกและเป็นส่วนตัวมากครับ


หรือจะมานอนชมพระอาทิตย์ตกจากที่นั่งเล่นข้างเตียงในห้องนอน


บริเวณห้องน้ำ ทางด้านซ้ายจะเป็นห้องเก็บของและห้องแต่งตัวซึ่งเป็นแบบ walk-in closet


ห้องประเภทนี้มี LCD TV 2 เครื่องทั้งในห้องนั่งเล่นและในห้องนอน แต่ในห้องนั่งเล่นจะมีเครื่องเล่น DVD ให้ด้วยครับ


ห้องน้ำที่อยู่ข้างๆเตียง


บรรยากาศโรแมนติกที่โต๊ะอาหารในห้องนั่งเล่น


จุดเด่นที่สำคัญของห้องนี้อีกอย่างหนึ่งคือ อ่างอาบน้ำมุมตึก มองเห็นวิวภูเขา และเมืองเชียงใหม่


เป็นอ่างอาบน้ำบรรยากาศดี โรแมนติกมากๆ (อย่าลืมเตรียมเทียนกับไม้ขีดไปด้วยนะครับ)


เนื่องจากเป็นห้องมุมตึก เห็นวิวทั้งสองด้าน ชอบมากๆ


บรรยากาศห้องนั่งเล่น


วิวภูเขาที่สวยงามจากผนังกระจกในห้องพัก


ผมประทับใจที่นี่เป็นพิเศษจากการตกแต่ง ออกแบบห้องพักที่สวยงาม น่าอยู่มากครับ ทั้งห้อง Junior Suite และห้อง Deluxe


ในห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่าง ออกแบบได้สวยงาม น่าใช้


บรรยากาศสบายๆในห้องนั่งเล่นอีกภาพ


วิวเมืองเชียงใหม่และวิวภูเขาของดอยสุเทพจากห้องพักช่วงเช้าๆ


เป็นโรงแรมกลางเมืองที่วิวจากห้องพักสวยงามมาก


ในกรณีที่พักห้อง Suite ทุกแบบ หรือห้อง Le Royal Club Room
สามารถเข้าใช้ Club Lounge ชั้น 21 ได้ครับ


ใน เล้าจ์ มีบริการหลายๆอย่าง เช่นช่วงบ่ายจะบริการชา ขนม ช่วงค่ำจะบริการเครื่องดื่ม คานาเป้


เล้าจ์ที่นี่จะมีสองชั้นรับ ชั้นบนเป็นเหมือนชั้นลอย ไว้นั่งเล่นชมวิว


บรรยากาศที่ lounge สามารถชมวิวเมืองเชียงใหม่และภูเขาจากมุมสูง


สามารถมาทานอาหารเช้าที่นี่ก็ได้ บรรยากาศอาหารเช้าที่นี่จะสงบ แขกไม่เยอะเหมือนที่ชั้นหนึ่ง แต่อาหารจะไม่หลากหลายเท่า (ถ้าเน้นความหลายหลายผมแนะนำว่าลงไปทานที่ชั้นหนึ่งจะดีกว่าครับ)


มุมมองจากชั้นลอยมองลงมาชั้นล่าง


ที่เล้าจ์ยังมีเครื่องคอมพิวเตอร์สองเครื่องที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต บริการฟรี (สำหรับแขกที่ห้องพักไม่รวมการใช้ club lounge สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ฟรี 15 นาที ที่ business center ชั้นสามครับ)


วิวจากที่นั่งเล่นในเล้าจ์


บรรยากาศที่ชั้นลอย Lounge ของที่นี่ออกแบบได้สวยงามและวิวสวยมากครับเพราะอยู่ชั้นสูงสุดของโรงแรม


ภาพนี้ถ่ายจากผนังกระจกใกล้ๆลิฟต์บนชั้น 22 ฝั่งตะวันออก ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ห้องพักที่อยู่ฝั่งตะวันออกจะเห็นวิวฝั่งนี้


ตัวโรงแรมที่โดดเด่นกลางเมืองเชียงใหม่ บริเวณใกล้เคียงจะเห็นทั้ง Star Bucks, Burger King และ Mc Donald แค่เดินมาข้างๆโรงแรม นอกจากนี้ช่วงกลางคืนยังอยู่ใกล้กับไนท์บาซาร์ สามารถเดินเล่น shopping ได้สะดวก


ตัวตึกสีเหลืองสวยงามของ Le MERIDIEN Chiang Mai


ผมปิดท้ายด้วยภาพจากปก ห้องน้ำที่ออกแบบได้สวยงามและเห็นวิวของเมืองเชียงใหม่จากบริเวณอ่างอาบน้ำ ของห้อง Junior Suite แช่น้ำไป ดูวิวไป โรแมนติกมากๆครับ


หลังจากที่เข้าพักที่นี่ ผมมีความประทับใจโรงแรม เลอเมอริเดียน เชียงใหม่หลายๆอย่าง โดยเฉพาะการออกแบบและวิวจากห้องพัก การเดินทางก็สะดวกครับเพราะอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสนามบิน ใกล้ๆบริเวณโรงแรมอาจจะดูคึกคักทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน เพราะตัวโรงแรมอยู่กลางเมืองและใกล้กับไนท์บาซาร์ แต่พอเข้าไปในโรงแรมและในห้องพัก เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนนอนเล่น ชมวิว ในห้องพักมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบมีสายบริการโดยมีค่าใช้จ่ายซึ่งราคาสูงทีเดียว ถ้าได้พักห้องที่รวมการใช้ club lounge สามารถขึ้นไปใช้อินเตอร์เน็ตได้ฟรีที่ lounge ชั้น 21 ซึ่งมีบริการเพิ่มเติมอีกหลายๆอย่าง แต่ถ้าห้องพักไม่รวมการใช้ lounge สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้ฟรี 15 นาทีที่ business center ชั้นสาม ส่วนอาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกเยอะพอสมควรและหลากหลาย อย่าลืมลองชิม เครื่องดื่ม eye opener ของเลอเมอริเดียนดูนะครับ รสชาติแปลกดี และการใช้ลิพต์ที่นี่ต้องใช้ key card ก่อนกดชั้นที่ต้องการ เพราะสามารถกดชั้นเฉพาะชั้นที่เราพักและชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง เช่นชั้น 2- 4 หรือชั้น 21ในกรณีที่ห้องพักรวมการใช้ club lounge ส่วนตอนที่จองห้องพัก อย่าลืมลองขอห้องฝั่งตะวันตกนะครับ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกและเห็นวิวดอยสุเทพ ส่วนห้องพักด้านตะวันออกจะเห็นวิวเมืองเชียงใหม่จากมุมสูงและอาจจะไม่เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นเพราะมีตึกข้างๆบังอยู่ ลองมาดูสรุปจุดเด่น จุดด้อยในมุมมองของผม

จุดเด่น
- การออกแบบและการตกแต่งที่สวยงามทั้งในห้องพักและส่วนอื่นๆของโรงแรม
- วิวจากห้องพักจากมุมสูงที่สวยงามโดยเฉพาะห้องพักฝั่งตะวันตก สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินและวิวภูเขาของดอยสุเทพจากห้องพัก
- ที่ตั้งของรีสอร์ทอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก มีร้านค้า (7-11) ร้านอาหาร อยู่บริเวณโรงแรม และใกล้กับไนท์บาซาร์แหล่งช็อปปิ้งช่วงกลางคืน
- พนักงานของโรงแรมมีใจบริการที่ดี ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างเป็นอย่างดี
- ทางโรงแรมมี Club Lounge บนชั้น 21 บรรยากาศดี และตกแต่งได้สวยงาม
- อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะพอสมควร อาหารอร่อยและคุณภาพดี

จุดด้อย
- ภายในห้องพักไม่มีระเบียงห้องสำหรับออกมาสูดอากาศภายนอก
- ภายในห้องพักประเภท deluxe ห้องไม่กว้างมากนัก และถ้ามีเครื่องเล่น DVD ด้วยจะดีมากเลยครับ

จากการไปเยือนโรงแรม Le MERIDIEN เชียงใหม่ครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ พนักงานโรงแรมทุกๆคนที่ให้บริการเป็นอย่างดี ขอบคุณคุณนิกและพนักงานบน club lounge ขอบคุณ คุณอาร์ต คุณบี๋ ที่ประสานเรื่องที่พักในการเข้าไปพักผ่อนครั้งนี้ ผมถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่และขอบคุณที่แวะมาทักทายให้กำลังใจกันเสมอมา ปีที่แล้วอาจจะเป็นปีที่สุขและทุกข์ สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้างสำหรับใครหลายๆคน ไม่ว่าปีที่แล้วจะเป็นอย่างไร ขอให้ปีใหม่นี้เป็นปีแห่งความสุขและความสำเร็จ คิดสิ่งใดขอให้ได้ดั่งใจหวัง สวัสดีปีใหม่ 2554 ครับ

เวปไซต์ของโรงแรม
Resort Website: //www.starwoodhotels.com/lemeridien/property/overview/index.html?propertyID=1950
Create Date :09 มกราคม 2554 Last Update :9 มกราคม 2554 19:31:12 น. Counter : Pageviews. Comments :84