นิตยสาร online ชานไม้ชายเขาฉบับต้อนรับเดือนแห่งความรักปีนี้ ผมจะพาไปสัมผัสกับรีสอร์ทบรรยากาศโรแมนติกแห่งหนึ่งซึ่งถูกซ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ ริมแม่น้ำโขงของอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ที่จริงผมเคยพามาเที่ยวไร่แสงอรุณครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีที่แล้ว ด้วยความประทับใจครั้งนั้นทำให้ผมจองห้องพักที่นี่ในช่วงหยุดยาวปีใหม่ 4 คืนได้มาทั้งนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่และนับดาวเต็มท้องฟ้า นอกจากนี้ผมยังมีโอกาสได้มาถ่ายรายการ ชานไม้ชายเขาที่นี่ ทำให้จำนวนภาพถ่ายของไร่แสงอรุณจากการมาเยือนสองครั้งล่าสุดมีจำนวนมากจนต้องแบ่งออกเป็นสองตอน โดยในตอนแรกผมจะพาไปชมห้องพักบนเนินเขา ไปสัมผัสกับบรรยากาศโรแมนติกมากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิตการเดินทางของผมที่มีทั้ง ลมหนาว ทะเลดาว และสายหมอก ท่ามกลางธรรมชาติในฤดูหนาว

ส่วนจุดด้อยของที่นี่คงเป็นที่ระยะทางที่ไกลจากสนามบิน ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ก็มีข้อดีบนข้อด้อยคือ บางช่วงของเส้นทางไปยังไร่แสงอรุณเห็นวิวที่สวยมากครับ มีบางช่วงเป็นวิวภูเขาและบางช่วงเป็นเส้นทางเลียบไปตามแม่น้ำโขง ส่วนจุดด้อยที่สำคัญอีกข้อคือ ห้องพักที่อยู่บนเนินเขาอยู่ไกลจาก lobby ถึงแม้จะขอให้ทางรีสอร์ทนำรถขึ้นไปส่งได้ แต่เส้นทางรถขึ้นไปบนเขาไม่สามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี บางช่วงเวลายังคงต้องเดินขึ้นที่พักได้ทางเดียว

ลองมาชมภาพความประทับใจในความโรแมนติกของบรรยากาศหน้าหนาวในไร่แสงอรุณ รีสอร์ทเล็กๆ ขนาด 14 ห้องพักที่อบอุ่นไปด้วยการบริการอย่างเป็นกันเองและธรรมชาติที่สวยงามซึ่งหาได้ยากแห่งหนึ่ง

ผมของวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับเดือนแห่งความรัก ซึ่งเป็นฉบับที่ 78 กับ ลมหนาว ทะเลดาวสายหมอก บรรยากาศที่โรแมนติกของไร่แสงอรุณ แห่งอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย


ผมเริ่มต้นด้วยภาพนี้ครับ ถนนหน้ารีสอร์ท ศาลาริมถนนและป้ายชื่อ เวลาเห็นศาลานี้คือสัญลักษณ์ของการมาถึง ไร่แสงอรุณ ถนนเส้นนี้บางช่วงวิวสวยมากครับ เห็นวิวแม่น้ำโขง


ผมชอบสเกลของศาลาแห่งนี้เป็นพิเศษ น่ารักดี


บรรยากาศตอนเช้าที่มีหมอกทั่วทั้งบริเวณรีสอร์ท ในภาพเป็นบริเวณห้องสัมมนาริมแม่น้ำโขง


หมอกยามเช้าที่ระเบียงห้องสัมมนา วิวสวยมากครับ ถ้าสังเกตจะเห็นควันลอยมาจากสายน้ำ


อากาศช่วงที่ผมไปหนาวกำลังดี อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำคือฝั่งลาว


ช่วงที่เห็นหมอกของเช้าวันนั้น ตื่นเต้นมากครับ บางวันหมอกเยอะจนมองออกไปไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหมอกขาวๆ


แปลงผักและต้นสตรอเบอรี่ริมแม่น้ำโขงกลางสายหมอก


ภาพนี้ไว้เปรียบเทียบกับภาพที่แล้ว พอช่วงสายหมอกจางลงจะเห็นแม่น้ำโขงชัดเจน


ผักที่ทางรีสอร์ทปลูกเอง กับหมอกช่วงสายๆตามภูเขา


ดอกไม้สีสันสดใสที่ทำให้บรรยากาศในไร่ยิ่งสดชื่น


บริเวณบันไดลงไปยังห้องสัมมนา กับบรรยากาศดีๆริมแม่น้ำโขง


ดอกกล้วยไม้ที่เห็นอยู่ทั่วไปในรีสอร์ท กับแปลงผักและโต๊ะอาหารเป็นฉากหลัง


ต่อไปผมจะพาขึ้นไปชมห้องพักแบบแรกของรีวิวครั้งนี้ครับ เป็นห้องที่ผมไม่เคยมาพัก ชื่อว่า บ้านแสงอรุณ 2


บ้านหลังนี้อยู่บนเขา ต้องเดินไกลผ่านทุ่งนาและขึ้นเขา ช่วงที่ผมไปขอให้ทางรีสอร์ทนำรถกระบะขึ้นไปส่ง เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว ถนนแห้งสามารถนำรถกระบะขึ้นไปได้ ถนนเป็นถนนดินและลำบากพอสมควร อาจจะไม่เหมาะสำหรับรถเก๋ง


ช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่ฝนตก ถนนสำหรับรถเส้นนี้จะใช้ไม่ได้ ต้องใช้วิธีเดินอย่างเดียวครับ บ้านพักที่นี่เน้นการใช้ไม้และมุงหลังคาด้วยหญ้า ธรรมชาติดีครับ


วิวจากหน้าต่างห้องพัก เห็นวิวภูเขาที่สวยงาม


วิวจากระเบียงห้องพักที่เห็นแม่น้ำโขงอยู่ไกลๆ


ต่อไปผมจะพาเข้าไปชมรายละเอียดในห้องพักของ บ้างแสงอรุณ 2


บรรยากาศในห้องนอน เห็นวิวภูเขาจากมุมสูง


ห้องนี้จะกว้างกว่าห้องพักด้านล่างมากครับ (บ้านริมโขง และบ้านบึงบัว)


ประตูที่เข้าไปยังห้องน้ำ ขนม น้ำผลไม้ มาม่าคัพ และนมถั่วเหลืองในห้องทานได้ฟรี


ห้องอาบน้ำกลางแจ้ง น้ำแรงและระบบน้ำอุ่นดีมากๆ


สามารถชมวิวภูเขาที่สวยงามจากเตียงนอน ถ้าอากาศหนาวๆ ในตู้ยังมีผ้าห่มให้อีกครับ


จากระเบียงห้องพักมองเข้าไปยังห้องนอน


บรรยากาศของบ้านแสงอรุณ 2 ช่วงแสงทไวไลต์เย็น


ต่อไปผมจะพามาชมระเบียงห้อง ซึ่งบรรยากาศดีมากๆ


สายน้ำ และแสงดาวช่วงใกล้ค่ำ วิวจากระเบียงห้องพัก


ผมชอบมานั่งเล่นที่เก้าอี้ตัวนี้ ชมวิวภูเขารอบๆ


หรือมานั่งดูดาว ช่วงที่ผมไปอากาศหนาว และฟ้าเปิด เห็นดาวสวยมากครับ


พอยิ่งค่ำ ก็เห็นดาวยิ่งชัด สวยมากๆ บนนี้ไม่มีสัญญาณอินเตอเน็ตไร้สาย แต่ก็มีสัญญาณโทรศัพท์ และต่อ Edge ได้


ภาพนี้เปิดหน้ากล้องทิ้งไว้ 30 วินาที ภาพดาวจากชายคาของห้องพัก


คืนนั้นหลับไปด้วยความสบาย ตื่นมาตอนตีห้าครับ เพื่อมาเก็บภาพบรรยากาศตอนเช้า การตื่นเช้าบางครั้งก็เป็นการเสี่ยงดวงเหมือนกันครับ เพราะบางครั้งตื่นมารอถ่ายภาพแต่ ฟ้าปิด ถ่ายอะไรไม่ได้มาก แต่เช้าวันนั้นโชคดีมากๆ ที่ฟ้าเปิด เห็นทั้งเดือนและดาว


สายหมอกตามภูเขา แสงดาวและแสงเดือนที่ทำให้บรรยากาศที่ระเบียงห้องพักโรแมนติกมากๆ


นอกจากจะวิวสวยแล้ว ช่วงที่ถ่ายภาพ อากาศหนาวด้วยครับ ต้องใส่เสื้อหนาว


บรรยากาศที่ระเบียงห้องที่เหมือนอยู่ในฝัน


ออกมาถ่ายภาพบริเวณห้องพัก วิวสวยมากๆ


ฟ้าเริ่มสว่างขึ้นมาอีกนิด


ห้องพักที่อยู่ท่ามกลางสายหมอกยามเช้า


กลับมาที่ระเบียงห้องพัก แสงช่วงนี้ถ่ายภาพสนุกมากๆ


บรรยากาศที่เห็นหมอกอย่างนี้ คงหาชมได้ไม่ง่ายๆ


ภาพนี้เห็นทั้งห้องนอนและระเบียงห้องกับ บรรยากาศภายนอกของภูเขาและสายหมอกยามเช้า


ตื่นมาก็จัดที่นอนไว้ให้เรียบร้อยตามสูตร วิวสายหมอกจากเตียงนอนเช้าวันนั้นสวยมากๆ


ห้องนอนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่สวยงาม เห็นภาพแล้วก็คิดถึงบรรยากาศของเช้าวันนั้น


ภาพนี้ซูมเข้าไปเพื่อให้เป็นภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ บรรยากาศโรแมนติกที่ระเบียงห้องพัก


ตอนแรกเสียดายที่เมฆเยอะคงไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็อดทนรอจังหวะแสงจนได้ภาพนี้มา


ช่วงนี้ต้องรีบถ่ายครับ เพราะแสงลักษณะนี้มักจะอยู่ไม่นาน


วิวจากระเบียงห้องพักกับแสงสวยๆอีกภาพ


จากหน้าต่างห้องพัก ภาพนี้อาจจะดูเหงาไปนิด^^


ทิวเขากับบรรยากาศตอนเช้าหน้าห้องพัก


ชอบมากๆครับ ช่วงจังหวะที่แสงลอดช่องเมฆ ออกมาเป็นลำแสง


จากหน้าต่างห้องพักอีกภาพ


ต่อไปมาชมอาหารเช้าครับ ผมขอให้ทางรีสอร์ทนำอาหารเช้ามาส่งที่ห้อง ทางพนักงานบอกว่าถ้าช่วงที่แขกไม่เยอะสามารถมาส่งที่ห้องได้ครับ แต่ถ้าช่วงที่แขกเยอะอาจจะมาส่งไม่ทัน เพราะต้องให้พนักงานเดินเท้ามาจาก ห้องอาหารซึ่งไกลพอสมควร


เป็นการทานอาหารเช้าที่บรรยากาศดีอีกครั้งหนึ่งของผม


อาหารเช้าของที่นี่จะเลือกชุด ABF หรือข้าวต้มก็ได้ครับ ผมชอบชุด ABF เป็นพิเศษ เพราะชอบซุบและน้ำสลัดสีแดงๆ


บรรยากาศอาหารเช้าจากระเบียงห้องพัก ทำให้อาหารอร่อยขึ้นอีกเยอะเลยครับ


วิวจากบริเวณบนเขา มีเต้นท์ให้เลือกพัก


ต่อไปผมจะพาไปชมบ้านบนเขาอีกแบบที่ชื่อว่า บ้านเพียงออ บ้านหลังนี้ขอทางรีสอร์ทเข้าไปชม ไม่ได้เข้าพัก ระเบียงห้องจะเป็นป่าไผ่ ได้บรรยากาศธรรมชาติ


ลักษณะภายในห้องจะเหมือนกับบ้านแสงอรุณ บ้านประเภทนี้ราคาถูกกว่าบ้านประเภทอื่นๆ


ภายในห้องยังคงเน้นการใช้ไม้


เตียงนอนที่น่านอน


ทางเข้าไปยังห้องน้ำ


ห้องอาบน้ำที่หลังคาเปิดโล่งใกล้ชิดธรรมชาติ


จุดเด่นของห้องประเภทนี้คือเป็นบ้านที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ มีความเป็นส่วนตัวสูง


ลงมาด้านล่างต่อครับ สระเล็กๆบริเวณ lobby พอตกกลางคืนจะจุดเทียนสวยดี


บริเวณโต๊ะอาหารบรรยากาศดีตอนเย็นๆ เห็นวิวแม่น้ำโขงเต็มๆ


ทางเดินลงไปยังห้องสัมมนาและบ้านริมโขง


ทางเดินนี้พอกลางคืนจะมีการจุดตะเกียง


บริเวณห้องสัมมนาที่ใกล้ชิดติดแม่น้ำ


วิวแม่น้ำโขงช่วงพลบค่ำ


บรรยากาศที่ริมแม่น้ำโขงกับดาวบนฟ้า


ห้องสัมมนาริมน้ำโขงในคืนที่ดาวเต็มฟ้า


ช่วงท้ายของรีวิวผมจะพาไปชมห้องพักริมโขงนิดนึงครับ ผมจะพาไปชมบ้านริมโขงแบบเต็มๆในตอนหน้า


ห้องประเภทนี้ใกล้ชิดติดแม่น้ำ เห็นวิวสวยมากๆ


ภาพนี้คืนที่ดาวเต็มฟ้าจากระเบียงบ้านริมโขง 1 โรแมนติกมากๆ


เป็นวิวที่สวยกันคนละแบบกับบ้านบนเขา


ปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย บรรยากาศโรแมนติก จากระเบียงห้องของบ้านแสงอรุณ 2 ในเช้าที่มีลมหนาวและสายหมอก


ความประทับใจของบ้านแสงอรุณ 2 ที่อยู่บนเขาสำหรับผมคือวิวจากห้องพักซึ่งเป็นวิวภูเขาที่สวยงามและถ้าเป็นวันฟ้าเปิดสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงห้องพักได้เลย ช่วงกลางคืนสามารถเห็นดาวได้ชัดเจนเพราะตัวรีสอร์ทอยู่ไกลจากตัวเมือง ไม่มีแสงไฟจากในเมืองมารบกวน ส่วนบ้านเพียงออที่ผมได้เข้าไปชม วิวจากห้องพักจะเป็นวิวป่าไผ่ซึ่งอาจจะไม่สวยเหมือนบ้านแสงอรุณ แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวสูงและได้อยู่ท่ามกลางต้นไม้ ได้บรรยากาศธรรมชาติ

ความประทับใจของไร่แสงอรุณของผมไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ รอชมภาพในส่วนอื่นๆของรีสอร์ททั้งบ้านริมโขง บ้านบึงบัว และบรรยากาศทั่วไป รวมทั้งจุดเด่นจุดด้อยในตอนหน้า ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายนะครับ ซึ่งยังคงมีทั้ง ลมหนาว แสงดาวและสายหมอก

ในโอกาสเดือนแห่งความรักปีนี้ ขอให้ทุกๆคนประสบความสำเร็จในความรัก ใครที่มีความรักอยู่แล้ว ขอให้ความรักที่เกิดขึ้นเป็นรักแท้ที่มั่นคงตลอดไป ส่วนคนที่ยังเป็นโสด ขอให้พรหมลิขิตได้ชักนำให้เจอคนที่ใช่ มีความสุขมากๆ แล้วเจอกันใหม่ในนิตยสารฉบับหน้านะครับ Happy Valentine