bloggang.com mainmenu search
แคคตัส สกุลโลบิเวีย Lobivia 
 
ชื่อสกุลมาจากการสับเปลี่ยนคำของชื่อประเทศโบลิเวีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่พบแคคตัสสกุลนี้เป็นครั้งแรก บางตำราจัดให้อยู่ในสกุล Echinopsis มีอยู่มากกว่า 30 ชนิด และอยู่ตามทุ่งหญ้าหรือซอกหินในโบลิเวีย ชิลี อาร์เจนตินา และเปรู ที่ความสูง 1,000 - 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศในเมืองไทยได้ดี นิยมขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและปักชำหน่อ
 
ลักษณะทั่วไป ลำต้นเป็นหัวเดี่ยวทรงกลมแป้น หนามแผ่โค้งหรือชี้ออก แตกกอเมื่อมีอายุมากขึ้นโดยมีต้นใหญ่อยู่กึ่งกลาง ล้อมไปด้วยหน่อเล็ก ๆ ที่ลดหลั่นกัน ดอกออกจากตุ่มหนาม ดอกรูปกรวย บานตอนกลางวัน 1-2 วัน ผลรูปกลมหรือรีขนาดเล็ก เมื่อแก่จะปริออกให้เห็นเมล็ดสีดำเล็ก ๆ ภายใน
 


จะบอกว่าเป็น โลบิเวีย ซันไรส์ ก็พูดไม่เต็มปาก เพราะไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ตอนซื้อก็ไม่รู้ ส่วนมากจะเอาลุ้นสีดอกมากกว่า 



ชอบโลบิเวีย ตรงที่มีดอกหลายสี บางทีถ่ายรูปเก็บไม่ทัน อีกวันคอหัก เหี่ยวไปแล้วค่ะ





ออกมาทีละดอก ก็อลังวังเวอร์ดีเนอะ



ดอกนี้ถ่ายตอน ตี 5 กว่า ๆ ค่ะ ฟ้ายังมืดอยู่เลย กลัวสายมาดอกหุบ 555





โลบิเวียลูกผสม (Lobivia hybrid)

 
ปัจจุบันมีการนำโลบิเวียมาผสมข้ามพันธุ์เกิดลูกผสมที่หลากหลายทั้งสีสันและรูปทรง บางครั้งก็ผสมข้ามกับสกุล Echinopsis เกิดลูกไม้ที่แตกต่างกันไปทั้งในเรื่องสี และรูปทรงดอก บางครั้งการต่อยอดก็ส่งผลให้สีดอกผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้เช่นกัน ดังนั้นหากต้องการได้ต้นใหม่ที่มีลักษณะเหมือนต้นแม่ต้องใช้วิธีแยกหน่อเท่านั้น



ต้นนี้ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ว่าลูกผสมหรือเปล่า



แคคตัส สกุลอิชินอปซิส Echinopsis
 
ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก 2 คำ คือ echinos แปลว่า เม่น และ opsis แปลว่า คล้าย รวมหมายถึง คล้ายเม่น มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ แถบโบลิเวีย เปรู อาร์เจนตินา บราซิล พบขึ้นตามซอกหิน หรือบริเวณที่เป็นดินปนทราย ระบายน้ำได้ดี เป็นแคคตัสที่สามารถผสมข้ามได้หลายสกุล เช่น สกุล Chamaecereus, Echinocereus, Lobivia, Matuca และ Trichocereus
 
ลักษณะทั่วไป ต้นทรงกลมแป้น เมื่ออายุมากขึ้นอาจเป็นทรงกระบอก บางชนิดเป็นไม้ลำสูง พบทั้งเป็นต้นเดี่ยวและแตกกอ ลำต้นเป็นสัน ดอกรูปแตร ก้านยาว บานเพียงวันเดียว มีหลายสี ส่วนใหญ่ชนิดที่มีสีขาวหรือชมพูอ่อนจะบานตอนกลางคืนและโรยตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ส่วนชนิดที่มีสีสดจะบานตอนกลางวัน
 


แตกหน่อเร็วมาก แยกหน่อจนขี้เกียจแยกแล้วค่ะ









จับรวมกันหลายชนิดเลยค่ะ เหมือนจะไม่รอด กะว่าฝากเลี้ยง อ้าว อยู่กันได้นี่นา เลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ



แคคตัส สกุลมาตูคานา Matucana
 
ชื่อสกุลมาจากชื่อเมือง Matucana ในเปรู ซึ่งเป้นแห่งแรกที่พบแคคตัสสกุลนี้ และพบเฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้น สกุลนี้มีอยู่ราว 19 ชนิด ส่วนใหญ่พบขึ้นกลางแจ้งปนกับพันธุ์ไม้ในกลุ่มสับปะรดสี หญ้า ไลเคน ที่ความสูง 280 - 4,200 เมตรเหนือระดับทะเล ดอกสีสดใสเพื่อล่อให้นกเข้ามาผสมเกสร โดยมากนำมาปลูกเลี้ยงบนพื้นราบได้ดี และสามารถผสมข้ามสกุลได้หลายสกุล เช่น Cleistocactus, Echinopsis, Lobivia, Oroya, Oreocereus เป็นต้น

ลักษณะทั่วไป มีทั้งที่เป็นหัวเดี่ยวและแตกกอ ใบเป็นหัวกลม หนามมีหลายแบบทั้งสั้นยาวตรง และโค้งไปตามลำต้น ดอกสีสดออกจากบริเวณกลางยอด มีหลายสี เช่น แดงส้ม ชมพู เหลือง โคนดอกยกขึ้นสูงดูคล้ายก้าน บานได้ 2 - 3 วันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

 



สีสันสดใส ออกดอกให้ชื่นใจบ่อยเลยค่ะ



ซื้อมาไม่แพงด้วยค่ะ ออกดอกบ่อยมาก บานทีละดอก แต่มาคู่เรื่อย ๆ 


ข้อมูลจาก หนังสือแคคตัส ของ ภวพล ศุภนันทนานนท์
สำนักพิมพ์บ้านและสวน
Create Date :24 กันยายน 2564 Last Update :24 กันยายน 2564 17:12:03 น. Counter : 1934 Pageviews. Comments :0