bloggang.com mainmenu search
คิมจียอง เกิดปี 82
  คิมจียอง เกิดปี 82 แปลจากหนังสือ: 82년생 김지영: Palsip Yi Neon Saeng Kim Jiyeong ผู้เขียน: Cho Nam-Joo ผู้แปล: ตรองสิริ ทองคำใส สำนักพิมพ์: เอิร์นเนสต์ (Earnest) จำนวนหน้า: 192 หน้า ปกอ่อน
เรื่องย่อหลังปก (ขอบคุณข้อมูลจาก readery)

"มีคนเรียกฉันว่าปลิงละ"

งานเขียนตีแผ่สภาพชีวิตจริงของผู้หญิงในสังคมเกาหลีใต้ ชีวิตที่ดำเนินท่ามกลางความกลัว อ่อนล้า สับสน ตื่นตระหนก ว้าวุ่น และท้อแท้

คิมจียอง เป็นตัวแทนของผู้หญิงทุกคน เธอแต่งงานแล้ว มีลูกสาวที่น่ารัก วันหนึ่งสามีของเธอกลับมาบ้านพบว่าคิมจียองไม่ใช่คิมจียองอีกต่อไป เธอกลายร่างเป็นคนอื่น เป็นแม่ยายของเขา เป็นเพื่อนสาวที่เขาเคยรู้จัก และเป็นคนอื่นไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งลักษณะคำพูดจาและท่าทาง การจะหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับคิมจียอง เราคงได้แต่มองไปในอดีตของเธอ

แปลกดีนะ ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ แต่อ่านแล้วฉันน้ำตาคลอเบ้า สารพัดสถิติกับข่าวที่ไม่อาจถอนสายตาได้นั้น แสดงรายงานอันเถรตรงและเศร้าสลด เกี่ยวกับตัวฉันเองและตัวตนของอีกหลายจียอง เราต่างเติบโตมาภายใต้ความรุนแรง และความไม่เท่าเทียมยิบย่อยที่มองตาเปล่าไม่เห็น อยา่งไรเสียแฮปปี้เอ็นดิ้งก็ไม่มาเยือน เราเพียงแต่โชคดี หรืออาจเพียงบังเอิญเป็นหนึ่งใน "เด็กหญิง" ผู้รอดที่มีโอกาสพูดถึงมันและฝากบันทึกไว้เช่นกัน

— ชเวจีอึน (นักเขียนข่าวเว็บแมกกาซีน IZE)

"ก่อนที่ฉันจะได้อ่าน คิมจียอง เกิดปี 82 ฉันไม่ได้คิดอะไรจริงจังเลย แต่หลังจากที่ฉันได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันโดนปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงเพราะฉันเป็นผู้หญิง และฉันไม่เคยรู้ตัวเลย"

— ชเวซูยอง สมาชิกวงเกิร์ลสเจเนอเรชั่น



คุยกันหลังอ่าน
เรื่องนี้เป็นหนังสือเล่มแรกในปี 2020 ของเราเลยล่ะค่ะ พออ่านจบแล้วก็คิดว่าดีแล้วที่เลือกเล่มนี้มา ตอนแรกเรากะว่าจะยืมมาแล้วให้แม่อ่านก่อน แต่แม่กลับอ่านไม่จบแล้วบอกว่า ชีวิตของคุณคิมจียองไม่ได้แย่สักหน่อย ชีวิตแม่ยังแย่กว่ามาก คำพูดของแม่ทำลายความกระตือรือร้นในการอ่านของเราไปไม่น้อยทีเดียวค่ะ แต่สุดท้ายก็ยังคงหยิบมันมาอ่านจนได้ (แล้วเราก็มีความเห็นว่า มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าชีวิตของคิมจียองลำบากน้อยหรือลำบากมาก แต่ไม่ว่าเธอจะอยู่ในชนชั้นไหน จบการศึกษาอะไร มีงานทำหรือไม่ เธอก็ยังจะถูกสังคมชายเป็นใหญ่กดทับเธออยู่ดี)

หนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเคยได้ยินมานาน ตั้งแต่สมัยที่มีไอดอลสาวคนหนึ่งอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วถูกกระแสแย่ๆตีกลับไปจากบรรดาแฟนคลับผู้ชายของเธอ ภาพยนตร์ที่ทำจากหนังสือเล่มนี้ก็ยังอยู่ในช่วงโปรโมตด้วย ดังนั้นช่วงนี้จึงมีคนพูดถึงหนังสือเล่มนี้กับเราเป็นพิเศษค่ะ

เมื่อได้อ่านแล้ว ก็รู้สึกว่า ในฐานะที่เราเป็นผู้หญิง เมื่อยังเป็นเด็กเราอาจจะยังไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่นัก (รวมๆเราไม่ได้มีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเพศตรงข้ามนักในวัยเรียน) 
แต่เมื่อโตขึ้นมามาใช้ชีวิตอยู่ในมหาลัยและทำงาน ก็รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมในสังคมของผู้หญิงและผู้ชายอย่างชัดเจน เรายิ่งรู้สึกซ้ำๆซากๆว่า ถ้าหากว่าเกิดเป็นผู้ชายก็คงจะดีกว่านี้ ก็คงจะขึ้นรถไฟฟ้าที่เบียดๆได้โดยที่ไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจหรือพยายามหลบเพศตรงข้าม อาจจะถูกเลือกเป็นคนที่ไปประจำที่ต่างจังหวัดที่ได้เงินดีกว่าได้

วิธีการเล่าเรื่องของคิมจียองเป็นไปอย่างเรียบง่ายมาก และเราคิดว่าความเรียบง่ายนั้นเองที่กระแทกใจของคนที่เคยมีประสบการณ์ร่วมได้ดีที่สุด (โดยเฉพาะผู้หญิงเกาหลีที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกับคิมจียอง) 

ส่วนตัวเราเองมีฉากที่ประทับใจไม่น้อย (จะเรียกว่าประทับใจได้รึเปล่านะ เรียกว่ากระทบใจดีกว่า) ก็คือ ฉากที่พ่อดุด่าคุณคิมจียองว่าทำไมไปเรียนพิเศษไกล ทำไมคุยกับคนแปลกหน้าง่ายๆ ทำไมใส่กระโปรงสั้น ทำไมไม่รู้จักหลับอันตราย เพราะไม่หลบนั่นแหละผิด - เรารู้สึกว่ามันเป็น mindset ที่เห็นได้บ่อยมากในสังคมทั่วไป ถูกข่มขืนก็เพราะว่าไปเมาหลับในที่แบบนั้นไงล่ะถึงโดน ทำไมการที่คนที่เป็นเหยื่อถึงผิด ทำไมคนถึงไม่พูดถึงคนที่เป็นคนกระทำกันบ้าง เอาแต่พูดว่าเพราะเป็นอย่างนี้ถึงโดนไงล่ะ ก็แปลกหรอก
- เป็นเพราะว่าไดอะลอกนี้มันเหมือนจริงมาก จนเราอ่านแล้วก็รู้สึกอยากร้องไห้ออกมาเลยล่ะค่ะ

อีกฉากคือฉากระหว่างคุณสามีกับคุณคิมจียอง ที่คุณคิมจียองโมโหเพราะคำว่า ช่วย 
ทั้งๆที่จริงๆแล้วสามีในสายตาของคนอื่น (รวมถึงในสายตาของคุณคิมจียองเอง) เขาคงจะเป็นคนที่ดีมากแน่ๆ แต่หลายๆครั้งการกระทำของเขาก็กระทบใจเราอะ เค้าใจดี เค้าอ่อนโยน แต่เค้าเกิดมาในโลกที่มันเป็นแบบนี้ละมั้ง ทำให้บางทีการกระทำที่ดูธรรมดาๆแต่ก็สร้างรอยแผลจางๆได้

ฉากอีกฉากที่เราชอบมาก คือ ตอนที่คนที่ทำงานเล่าเรื่องการแอบถ่ายให้ห้องน้ำสาธารณะ เพราะว่าเมื่อเร็วๆนี้เราเพิ่งจะได้ยินคำพูดที่คล้ายๆกันนี้ในโลกชีวิตจริง ถึงมันจะไม่ได้เกิดกับเรา แต่ก็เป็นคำพูดที่ติดใจน่าดู คำพูดที่บอกว่า พนักงานผู้ชายพวกนี้ก็มีพ่อมีแม่ ให้เห็นแก่หน้าตาแล้วก็อนาคตของพวกเขา

แต่ไม่มีใครเห็นแก่หน้า เห็นแก่จิตใจของพวกเราสักคน 

สรุปแล้ว เป็นเรื่องที่อยากให้ทุกคนอ่าน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม เมื่ออ่านแล้วคุณจะต้องรู้สึกอะไรบ้างนั่นแหละ ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่คุณจะต้องมีความเห็นอะไรบางอย่างต่อหนังสือเล่มนี้แน่นอนค่ะ

สุดท้ายนี้เราประทับใจในส่วนของ จากผู้เขียน ที่คุณโชนัมจูเขียนเอาไว้ในท้ายเล่ม

"โลกที่ลูกจะใช้ชีวิตต่อในวันหน้าจะต้องดีกว่าโลกใบเดิมที่ฉันอยู่มา ฉันเชื่อเช่นนั้นและเพียรพยายามจะสร้างโลกใบนั้นอยู่ค่ะ ขอให้เหล่าลูกสาวทุกคนบนโลกมีความฝันที่ใหญ่ยิ่งกว่า สูงยิ่งกว่า และมหาศาลยิ่งกว่านะคะ" 

ตอนที่อ่านประโยคนี้มันเหมือนจะร้องไห้เลยค่ะ 5555 คือส่วนตัวเราไม่รู้เลยว่าเราจะสามารถหวังโลกที่ดีกว่านี้ได้จริงหรือเปล่า เพราะว่ารู้สึกว่ายิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งโลกใบเดิมของเรากว้างขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังมากขึ้น
แต่อยากที่จะหวังให้มันดีขึ้นในอนาคตค่ะ หวังว่าคนรุ่นต่อไปจะไม่ต้องมารู้สึกอึดอัดใจเวลาที่เบียดเสียดอยู่ในขนส่งสาธารณะแบบเรา ไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องการแต่งกายที่ใครจะมอง และไม่มีคำว่าผู้หญิงมาขัดขวางอะไรก็ตามที่จะทำนะคะ
Create Date :02 มกราคม 2563 Last Update :4 มกราคม 2563 0:52:07 น. Counter : 1550 Pageviews. Comments :3