ชนิดา เลิศสิสุทธินันท์ และ ชัยพร ปั้นงามวงศ์ เจ้าของธุรกิจกาแฟยกนิ้ว ใครว่าธุรกิจกาแฟถุงอยู่ในช่วงขาลง กลับกันช่วงหน้าร้อนยอดขายยิ่งพุ่งกระฉุด วัดได้จากจำนวนสาขาของ “กาแฟยกนิ้ว” กว่า 1,140 สาขา ทั้งไทยและต่างประเทศ แถมยังได้รับความสนใจจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งผู้บริโภคและคนต้องการมีอาชีพ ด้วยเงินทุนเริ่มต้นเพียง 14,900 บาทเท่านั้น ล่าสุดส่งแก้วกาแฟยักษ์เสิร์ฟรสชาติเย็นฉ่ำจุใจ

หน้าร้านแฟรนไชส์กาแฟยกนิ้ว        นับเป็นธุรกิจกาแฟอีกแบรนด์หนึ่ง ที่มีอัตราการขยายสาขาในเวลาอันรวดเร็ว “ยกนิ้ว กาแฟถุงกระดาษ” แบรนด์เล็กๆ ที่เติบโตด้วยคุณภาพเป็นที่กล่าวขานในวงกว้าง กระทั่งขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์จากสูตร และวัตถุดิบเปี่ยมคุณภาพราคาสบายกระเป๋า โดยเจ้าของธุรกิจ “ชนิดา เลิศสิสุทธินันท์” และ “ชัยพร ปั้นงามวงศ์” หุ้นส่วนร่วมปลุกปั้นธุรกิจดังกล่าว

แก้วใหญ่ ยาว จุใจ        เขาและเธอ ฉายภาพที่มายกนิ้ว กาแฟถุงกระดาษให้ฟังว่า เริ่มจากร้านกาแฟโบราณเล็กๆ ในรูปแบบคีออส ย่านคลองสาน ที่มีชนิดา เป็นเจ้าของร้านและมือชงเครื่องดื่มให้ลูกค้า ด้วยความที่เป็นคนไม่หวงวัตถุดิบ ทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม หวาน มัน ลูกค้าหลายรายติดใจในรสชาติ พร้อมต้องการเรียนรู้สูตรจำนวนมาก กระทั่งมีคนสนใจเพิ่มมากขึ้น จึงเปิดสอนการทำกาแฟอย่างจริงจังกระทั่งทำไปได้ประมาณ 2 ปี จึงคิดว่าน่าจะสร้างแบรนด์ร้านกาแฟของตัวเอง สุดท้ายมาลงตัวที่ชื่อ 'ยกนิ้ว' จากพฤติกรรมของลูกค้าเมื่อได้ลิ้มลองกาแฟของร้าน

แก้วกระดาษนี้เก็บความเย็นได้นาน 4 ชั่วโมง        ความสำเร็จของกาแฟยกนิ้วไม่ได้อยู่ที่สูตรและการเปิดร้านเพียงอย่างเดียว เพราะเธอตัดสินใจขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ เป็นการก้าวไปอีกขั้นของธุรกิจ ที่ปัจจุบันมี 1,140 สาขาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่มายืนอยู่นี้ได้ แต่ต้องอาศัยความอดทน และมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจอย่างสม่ำเสมอเพื่อครองใจลูกค้าได้นานที่สุด

และเคล็ดลับอยู่ที่อะไร ลองมาค้นหาคำตอบกัน...

แก้วกระดาษนี้เก็บความเย็นได้นาน 4 ชั่วโมง        สิ่งแรกที่ชนิดา และชัยพร ให้ความสำคัญ นั่นคือ 'วัตถุดิบ' เมื่อต้องจำหน่ายวัตถุดิบให้แฟรนไชซีกว่าพันสาขาทั่วประเทศ เขาและเธอเลือกตั้งโรงงานเพื่อผลิตกาแฟ โกโก้ ชาแดง ชาเขียว ขึ้นเองตามสูตรเฉพาะ ทำให้รสชาติของกาแฟยกนิ้วมีความแตกต่างในเรื่องรสชาติ และกลิ่นหอมเฉพาะตัว ส่งผลให้กาแฟโบราณยกนิ้ว รสชาติและความหอมกรุ่นไม่แพ้กาแฟสดที่ชงจากเครื่อง

ล่าสุดนำแก้วยักษ์เก็บความเย็น เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า ในราคาเพียง 25 บาท/แก้ว เก็บความเย็นได้นาน 4 ชั่วโมง ขณะที่ถุงกระดาษเก็บความเย็นได้ 6 ชั่วโมง ซึ่งแก้วยักษ์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จากความสะดวกในการนำไปตั้งวางในรถยนต์ หรือโต๊ะทำงาน โดยคุณสมบัติของแก้วใหญ่นั้น คือ ตัวแก้วด้านนอกจะมีตัวเก็บความเย็นโดยจะต้องใส่ถุงหิ้วเฉพาะของกาแฟยกนิ้ว ถ้าไม่ใส่ถุงหิ้วจะไม่สามารถเก็บความเย็นได้ เพราะตัวเคลือบความเย็นของแก้วจะต้องทำงานร่วมกับตัวเคลือบความเย็นที่อยู่ในถุงหิ้ว และเป็นแก้วเก็บความเย็น เจ้าแรกของประเทศไทย ซึ่งของแท้จะมีลายยกนิ้วที่ตัวแก้ว ฝา และถุงหิ้ว ขณะที่สูตรเครื่องดื่มมีประมาณ 50-60 รายการให้เลือกสรร

เมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย        ส่วนการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ชุดประหยัด (อุปกรณ์ 18 รายการ) ราคา 14,900 บาท 2.ชุดเริ่มต้น (อุปกรณ์ 54 รายการ) ราคา 18,900 บาท 3.ชุดคีออส (อุปกรณ์ 57 รายการ) ราคา 28,900 บาท และ 4.ชุดรถเข็น (อุปกรณ์ 58 รายการ) ราคา33,900 บาท โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าการตลาด เพราะกาแฟยกนิ้วทำการตลาดให้ฟรีตลอดชีพ ไม่เสียค่าส่วนแบ่งจากรายได้ พร้อมฟรีอบรมและสอนเทคนิคต่างๆ จากเจ้าของสูตรโดยตรง สามารถเปิดร้านขายได้แม้ไม่มีประสบการณ์ และเมื่อมีสูตรเครื่องดื่มใหม่ๆ เพิ่มเติมจะสอนให้ฟรี เพื่อเพิ่มยอดขาย

       ที่ผ่านมาคนสนใจลงทุนเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบการทำธุรกิจกาแฟ คนอยากมีอาชีพ แม่บ้าน คนระดับกลาง โดยทำเลน่าสนใจเป็นแหล่งตลาด ชุมชน ปัจจุบันมีกว่า 1,140 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ อย่าง พม่า ลาว และกัมพูชา ที่เปิดขายแฟรนไชส์ไปแล้วประมาณ 20-30 สาขา ก็ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้ในไทย

       ***สนใจติดต่อ 08-1459-3450, 08-9788-5272 หรือที่ //www.yoknew.com, Facebook.com/yoknew และ LINE ID: yoknew.com***

ที่มา  //manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046572