BlogGang.com : : karnoi : ของใช้ในบ้านที่ซ่อนโรคได้/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

ของใช้ในบ้านที่ซ่อนโรคได้/นพ.กฤษดา ศิรามพุช

   โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช

       ฝรั่งมีคำเรียกสิ่งไม่เรียบร้อยที่อยากซ่อนไว้จากสายตาว่ “ซุกไว้ใต้พรม(Sweep under the carpet)” ซึ่งคำนี้ก็ใกล้เคียงกับบุคคลในสาแหรกตระกูลที่ไม่ปรารถนาจะพูดถึงว่า “โครงกระดูกในตู้(Skeleton in the closet)”

       ที่ถูกซุกปิดตายทิ้งให้ลืมสิ้นซากไปเอง

       คนเราทุกคนมีส่วนของสิ่งที่ซุกอยู่โดยไม่รู้ตัวทั้งสิ้นครับ โดยเฉพาะกับโรคภัยไข้เจ็บหลายสายพันธุ์ที่มองไม่เห็น ซึ่งโรคล่องหนเหล่านี้หลายโรคมาจากของที่ซุกอยู่รอบตัวเรานั่นเอง

       ใน “บ้าน” ของเราไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, คอนโด, ทาวน์โฮม, ตึกแถว, อาคารพาณิชย์, โรงพยาบาลหรือที่ใดก็ตามที่เราใช้ชีวิตพักพิงอยู่นานๆ จะมีสิ่งที่เสี่ยงอันเกิดจากกิจกรรมของเราเองด้วยส่วนหนึ่งอยู่ มันจะซุกตัวอย่างเงียบๆ อยู่เป็นเพื่อนที่ไม่พึงปรารถนาของเรา แล้ววันดีคืนดีก็ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้นมา

       ส่วนของบ้านที่ควรต้องจับตาให้ดีมีอยู่หลายจุดดังต่อไปนี้ครับ

       - ห้องนอน

       - ห้องน้ำ

       - ห้องครัว

       นี่คือ 3 ห้องหลักที่มักมีเพื่อนร้ายซุกอยู่ แต่ในบางบ้านที่มีคนอยู่กันหนาแน่นอบอุ่นก็อาจมีความเสี่ยงรวมไปถึงห้องอื่นๆ ก็ได้ ดังที่บอกไปว่าที่ไหนมีมนุษย์ที่นั่นย่อมมีเชื้อไปชุมนุม เพราะมนุษย์มีกิจกรรมที่ปนเปื้อนเชื้อได้มากเกินคาดแม้จะสะอาดอย่างไรก็ตาม ดังที่สมาคมโรคปอดแห่งสหรัฐอเมริกา (American Lung Association) ได้ชี้ว่าบ้านที่ซุกไรฝุ่นไว้มากทำให้สมาชิกในบ้านป่วยด้วยโรคหอบกำเริบได้

       แต่ความเสี่ยงนั้นจะน้อยลงถ้าเราแก้ได้ถูกจุด

       ดังจะพาท่านที่รักมารู้ทันเพื่อนร้ายใกล้ตัวที่อาจร่วมบ้านเราอยู่อย่างเงียบๆ มานานแล้ว โดยเฉพาะกับข้าวของประจำบ้านดังต่อไปนี้ครับ

       8 ข้าวของที่ซ่อนโรคได้

       1) ม่านและพรม

       เป็นส่วนผสมที่สำคัญของบ้านเมืองหนาว เพราะให้ความอบอุ่นกันความหนาวได้ดี แต่เมื่อมีเครื่องตกแต่งที่ฟรุ้งฟริ้งมากในเมืองไทยก็จะพาให้ “ร้อนอับ” กับ “เก็บฝุ่น” ซึ่งทำให้ท่านได้รังฝุ่น และหยากไย่อย่างดีตามจุดต่างๆ ของห้อง ต้องระวัง “ภูมิแพ้กำเริบ” ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งนี้ไม่ได้ห้ามใช้แต่ขอให้คอยดูแลอย่าให้เป็นที่อมฝุ่นซุกไรฝุ่น

       มีเทคนิกง่ายๆ นอกจากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีไส้กรองดีแล้ว ก็ขอให้ใช้ม็อบชุบน้ำหมาดๆ เช็ดพื้นเพื่อซับฝุ่นที่เหลือด้วย

       2) เครื่องปรับอากาศ

       เป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของบ้านเมืองร้อนถึงร้อนที่สุด แม้ค่าเอฟทีจะเขย่าใจแต่ในยามร้อนก็ต้องทำลืมไป โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเห็นใจ เพราะผู้ใหญ่ไม่อาจเห็นบ้านเป็นเตาอบเด็กตำตาได้

       ให้คอยล้างทำความสะอาดทั้งแผ่นกรองและตัวเครื่องไม่ให้เป็นตู้เก็บฝุ่นประจำบ้าน เพราะความชื้นเป็นตัวการให้มีไรฝุ่นด้วยครับ

       3) ตู้เย็น

       เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมี “เชื้อโรค” โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ขอท่านที่รักอย่าเพิ่งตกใจ โดยเฉพาะกับในตู้เย็นที่ใส่ของสดอย่างไข่ไก่และเนื้อสัตว์ไว้รวมถึงผักผลไม้ต่างๆ เพราะของสดมีเชื้อที่ว่ามาได้ ยิ่งถ้าตู้เย็นนั้นเปิดปิดกันวันละหลายหนผลก็คือ “เชื้อโรคร่าเริง” ครับ

       4) เครื่องนอน

       อันได้แก่หมอน, เตียงและผ้าห่ม ซึ่งเครื่องนอนเหล่านี้มีสิทธิ์เป็นที่เก็บ “เชื้อโรคตากุ้งยิง”, “เชื้อตาแดง” และสมาชิกที่มองไม่เห็นอย่าง “ไรฝุ่น” ก็จะทำให้สุขภาพของผู้นอนนั้นตกอยู่ในความเสี่ยงที่ไม่ต่างกับนอนในสมรภูมิรบที่ท่านอาจพบเอากับระเบิดเชื้อโรคเข้าเมื่อไรก็ได้

       ให้ลองสังเกตดูว่าตากุ้งยิงหรือตาแดงมักเป็นตอนตื่นนอนมา ส่วน ไรฝุ่นก่อแพ้ (Dust mite allergens) ก็ชอบเกาะอยู่กับพื้นผิวเครื่องนอนมากกว่าลอยในอากาศครับ

       5) ผ้าเช็ดสิ่งสกปรกต่างๆ

       อย่างผ้าเช็ดมือ, เช็ดโต๊ะ และพื้นผิวสารพัดภายในบ้าน การมีผ้าเหล่านี้ไว้ช่วยให้บ้านสะอาดแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นแหล่งรวมเชื้อไว้ให้เราได้ เพราะจากศึกษาหลายชิ้นชี้ว่าข้าวของใกล้ตัวที่สกปรกเกิดคาดคือ ของที่เราสัมผัสอยู่ประจำอาทิ แป้นพิมพ์และ “ผ้าขี้ริ้ว” ซึ่งเป็นผ้าอเนกประสงค์ของหลายบ้าน

       ซึ่งผู้เชี่ยวชาญสุขภาพอย่างศาสตราจารย์แซลลี่ บลูมฟิลด์เผยว่าผ้าที่ชื้นจะเพิ่ม “เชื้อ”ได้มากจากแบคทีเรีย 1 ตัวจะงอกเพิ่มได้ถึง 6 ล้านตัวในเวลาแค่ 8 ชั่วโมง จำง่ายๆ ว่าที่ไหนมี “ชื้น” ที่นั่นเสี่ยง “เชื้อ” ครับ

       6) ลูกบิดประตู

       และอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสร่วมกันในบ้าน มีองคาพยพของบ้านที่เป็นจุดรวมเชื้อที่มาจากการสัมผัสอยู่หลายแห่งเช่นลูกบิด, ราวบันได, ปุ่มกดและอีกมาก หากยังคงแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างกันอยู่อย่างนี้ถ้าใครสักคนมีเชื้อไข้หวัดใหญ่, ตาแดง หรือแม้แต่ท้องเสียก็อาจติดกันได้ง่ายๆ

       ดังนั้นขอให้เน้นทำความสะอาดจุดร่วมนี้ไว้กับช่วยเตือนกันให้ล้างมือบ่อยครับ

       7) ห้องครัว

       เป็นห้องที่เป็นดั่งตู้เสบียงของบ้าน ซึ่งกิจกรรมการกินที่เกิดเพราะห้องครัวนั้นอาจได้รับเชื้อปนเปื้อนได้ถ้าไม่ดูแลครัวของบ้านไว้ให้ดี ท่านที่มีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนถือว่าดีครับ

       แต่กับบ้านยุคใหม่ที่เป็นห้องเดี่ยวหรือเนื้อที่จำกัด ก็ขอให้จัดเรื่องการระบายอากาศและการทิ้งเศษอาหารต่างๆ ไว้ให้ดี

       8) โถส้วม

       เป็นห้องที่ทุกบ้านต้องมีแค่ต่างสีต่างสไตล์ แต่ถึงอย่างไรต้องรู้ว่าโถส้วมและห้องน้ำอาจนำเชื้อปนเปื้อนจากทางเดินอาหารไปเพ่นพ่านได้อย่างไม่รู้ตัว ทั้งเชื้อน่ากลัวอย่างไวรัสตับอักเสบบี เชื้อท้องเสียอย่างอีโคไล และเชื้อที่ว่านี้ยังพาให้ท่อปัสสาวะอักเสบได้ด้วย

       เทคนิกช่วยคือ ขอให้ระวังความชื้นแฉะ และอย่าลืม “ปิดฝาก่อนกดน้ำ” ทุกครั้งแล้วจะดีครับ

       ทั้ง 8 จุดนี้ถ้าดูแลให้ดีก็จะไม่กลายเป็นโซนอันตรายของบ้านครับ เพราะโรคภัยไข้เจ็บที่ว่ามาทั้งหลายส่วนใหญ่เกิดจากผู้ร้ายที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง ซึ่งสิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ประมาทและคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ ดังที่ผู้เชี่ยวชาญจาก London School of Hygiene and Tropical Medicine ซึ่งเป็นสถาบันเวชศาสตร์สุขภาพชื่อดังของโลกก็ช่วยย้ำข้อนี้เช่นกัน

       สุดท้ายนี้ขอย้ำว่าการทำความสะอาดบ้านที่ดีไม่ใช่แค่บิ๊กคลีนนิ่งกันวันใดวันหนึ่งแล้วลืมกัน แต่เป็นการช่วยกันรักษาความสะอาดอยู่เสมอทุกขณะแม้ในชีวิตประจำวัน เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงความสวยงาม

       แต่เป็นสุขภาพของเราที่แขวนอยู่กับมัน

Create Date : 02 ธันวาคม 2557

Last Update : 2 ธันวาคม 2557 7:36:49 น.

0 comments

Counter : 1094 Pageviews.