<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 กันยายน 2558
 
 
Vegetarian runners: ตามรอย Eiger Ultratrail 2015 ...SWISS

profile   :Vegetarian /Mountain Trail -Sweet couple Ultra runners

รีวิวนี้ต่อมาจาก
Vegetarian runners: Aletsch Half Marathon 2015(Half Marathon 21km)...SWISS
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=02-09-2015&group=11&gblog=27


......Grindelwald วันจันทร์ที่ 29 June

หลังจากวิ่ง Aletsch Half Marathon เราทั้งคู่มีเวลาอีก 6 วันก่อนถึงวันวิ่ง Gornergrat Zermatt Marathon ระหว่างนี้เราก็เดิน hiking เที่ยวชมวิว ถือว่าเป็นช่วงrecovery ของเราทั้งคู่ แต่เป้าของเรายังต้องเดิน ต้อง hiking ตามเส้นทางที่เป็นเทรลที่มีความชัน และต้องอยู่ในระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเลด้วย เพื่อให้ร่างกายปรับตัวและเคยชินกับที่สูงๆ อากาศบางๆ

หลังวิ่งเสร็จ เราก็ย้ายที่พัก มาอยู่ที่เมือง Grindelwald (ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 1034m)
เมื่อ 5ปีที่แล้ว ปี 2010 หญิงได้มาเมืองนี้แล้วครั้งหนึ่ง แต่สภาพอากาศไม่ค่อยดี หมอกลง ทำให้เห็นวิวไม่สวยจับใจ ไม่ได้รูปวิวอย่างที่ตั้งใจ ปีนี้2015 กลับมาเก็บตกค่ะ

ทริปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ดูได้ที่
Trip......France & Monaco & Switzerland 2010( ตอน 3 Switzerland )
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=22-09-2010&group=10&gblog=6

เมืองนี้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาพักนั้นจะมาเพื่อ hiking เพราะมีเส้นทางสวยๆให้เดินมากมาย วิวสวยมากด้วย เช่นเคย อุปกรณ์ประจำกายของนักท่องเที่ยวที่เกือบทุกคนต้องมีก็คือ Trekking poles
มีทั้งอายุน้อย อายุเยอะ ต่างก็มาhiking เดินกันฉับๆๆ เด็กๆวัยรุ่นก็มีมาปั่นจักรยานลงเขา

ส่วนนักท่องเที่ยวเอเชียที่มาพักเมืองนี้ แทบจะส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น แล้วน่าจะเป็นทัวร์ที่พามา hiking โดยเฉพาะ คนญี่ปุ่นสูงวัยมาhiking แบกเป้หลังใบโต ถือ Trekking poles มีไกด์ทัวร์นำทางและทุกคนเดินกันเก่งมาก
ที่ไปครั้งนี้ไม่เห็นนักท่องเที่ยวไทยนะคะ คาดว่า คงไม่มีทัวร์ไทยพามาเดิน hiking เพราะคงขายทัวร์แนวนี้ให้กับคนไทยไม่ได้ 555 คงได้แค่ ทัวร์พาขึ้นกระเช้า เดินลงไปถ่ายรูปนิดๆหน่อยๆ พากินและ พาshopping  ก็พอแล้วสำหรับนักท่องเที่ยวแนวสบายๆตามสไตล์ไทยๆ

และที่สำคัญ เราทั้งคู่จะมาเดินhiking ตามรอยเส้นทางเทรลงานวิ่งแสนสวย Eiger Ultratrail ด้วย
เมืองGrindelwald  เป็นเมืองที่เห็นเทือกเขา Eiger ชัดเจนมาก และงาน Eiger Ultratrail 2015 ก็มีจุดปล่อยตัวที่เมือง Grindelwald
 ช่วงที่เรามาก็จะเห็นป้ายโฆษณางานวิ่งติดประกาศเยอะแยะไปหมด เพราะอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ก็จะมีจัดงานวิ่งแล้ว จะจัดกันในวันที่ 18-19 July ดังนั้น เมืองก็จะคึกคัก เห็นมีนักวิ่งมาซ้อมวิ่งตามเส้นทางเหมือนกัน  เส้นทางงานวิ่งเปิดเผยชัดเจนไม่มีหวงนะคะ มีป้ายโลโก้งานติดชัดเจนตามเส้นทางเทรล ว่าเป็นเส้นวิ่งของงาน Eiger Ultratrail ใครอยากจะมาซ้อมวิ่งกันก่อนก็ได้ ก็วิ่งตามป้ายบอกทาง ดี๊ดี เทรลยุโรป อำนวยความสะดวกดีมากมาย และเราก็จะไปเดิน ไป hiking ตามเส้นทาง Eiger Ultratrail กันค่ะ แต่เราก็จะเลือกเดินบางช่วงที่เวลาจะอำนวย  และเส้นทางที่สอดคล้องกับแผนการเที่ยวของเราด้วย

หญิงได้ดูคลิปงาน Eiger Ultratrail ที่พี่จุ่นเปิดให้ดู เห็นแล้วตาลุกวาวอีกเช่นเคย กลายเป็นเป้าอันใหม่ในการพิชิต ...ขอหวังไปก่อน ได้หรือไม่ค่อยว่ากัน 555
เส้นทางสวยมาก จนเราต้องมาGrindelwald เพื่อขอตามรอยเส้นทางวิ่ง Eiger Ultratrail กันเลย จนเป็นที่มาของทริป hiking for recovery ก่อนไปวิ่งZermatt

สวยไม่สวยพิสูจน์กันเล้ย!







 เมื่อถึงโรงแรมแล้ว จุดแรกที่เราจะไปเดิน hiking ก็คือ First เราขึ้นกระเช้าได้เลยที่ Grindelwald

First (สูงจากระดับน้ำทะเล 2168m)เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวไปเดิน hikingกันเยอะ เส้นทางไม่ยาก แต่สวยมาก เส้นทางวิ่งของEiger Ultratrail วิ่งผ่านที่ First ด้วย เป็นจุดที่ตากล้องจะตั้งกล้องถ่ายรูปนักวิ่งกับวิวทะเลสาบ Lake Bachalp มีเงาสะท้อนของยอดเขาแสนสวย
ที่ First มีทะเลสาบที่สวยมาก เดินจากจุดที่ลงจากกระเช้าไปประมาณ 4 km มีม้านั่งให้ชมวิวทะเลสาบ และ ม้านั่งมักจะเต็ม เพราะมีนักท่องเที่ยวไปจับจองนั่งกันไม่เคยว่าง
เมื่อปี 2010 หญิงก็มาที่ First แล้ว แต่โชคไม่ดี หมอกลงจัด ไม่เห็นวิว แถมหมอกบังยอดเขา ไม่มีเงาตกสะท้อนที่ทะเลสาบ ภาพที่ได้เลยไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ ปีนี้จะมาแก้มือ เพราะอากาศเป็นใจ

วิวจากกระเช้า









ถึงแล้ว First
กลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาเดิน hiking กันเยอะมาก
นักท่องเที่ยวจีนก็มี แต่มาแนวเดินเล่นชมวิวเฉยๆ

เตรียมเดินลุยกันเลย


เห็นเส้นทางเดิน hiking ไหมเอ่ย
สวยมากๆๆๆๆ อยากเดินแบบง่ายๆหรือยากๆ เลือกได้ตามใจชอบ



เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โชคไม่ดี มีแต่หมอก หมอกลงจัดไม่เห็นวิวภูเขาเลย  มองไปมีแต่ทางเดินด้านหน้า ส่วนข้างๆทางก็เป็นหมอกขาวๆหมด ไม่รู้ว่าข้างๆทางที่หมอกบังมันเป็นเหวหรือเป็นทางลาด เพราะมองไม่เห็นเลย เห็นแต่หมอกขาวๆ
ปีนี้โชคดี เห็นวิวเต็มๆตา วิวสวยมาก คราวที่แล้วมาไม่ได้เห็นแบบนี้


ดอกไม้เล็กๆสีเหลืองเต็มไปหมด สวยจริงๆ



เส้นทางคดเคี้ยวเบื้องล่าง เป็นเส้นทางเดินนะคะ ใครอยากhikingไกลๆ ไปเขาลูกอื่นๆ ก็เดินได้ตามสบายเลย มีป้ายบอกทางชัดเจน ไม่ต้องกลัวหลง








แถมมีพื้นผิวถนนให้เลือกเดินได้ด้วย ใครอยากเดินหินกรวดก็เชิญถนนข้างล่าง ใครอยากลุยๆปีนๆถนนดินก็เชิญเส้นบน เทรลยุโรปดี๊ดี



ถึงแล้วทะเลสาบแสนสวย Lake Bachalp แถมมีม้านั่งว่างด้วย ขอนั่งถ่ายรูปสักหน่อย




เรามาถึงช่วงเย็น ลมไม่นิ่ง ผิวน้ำไม่ค่อยนิ่ง เลยเห็นเงาสะท้อนยอดเขาด้านหลังไม่ชัด
แต่ไม่เป็นไร พรุ่งนี้เช้าจะกลับขึ้นมาถ่ายรูปที่ทะเลสาบนี่ใหม่อีกสักรอบ กับแดดตอนใกล้เที่ยง น่าจะแจ่มกว่านี้

  Rave run วิวสวยๆ....เอาอย่างนิตยสาร Runner's world อิอิอิ

















มุมนี้ก็สวย


Rave run เหมือนวิ่งขึ้นมาจากทะเลสาบ








Rave run แบบคู่ก็ได้ ....จัดไป



วิวสวยๆแบบนี้ต้อง Rave run




ซูมสติกเกอร์เขียวๆให้เห็น
นั่นคือโลโก้ Eiger Ultratrail จะมีติดบอกเส้นทางตลอด
ในรูปคือเส้นทางวิ่งของ 101Km(E101)  ไปตามลูกศรได้เลย ไม่ต้องกลัวหลง
นักวิ่งงาน Eiger Ultratrail  ได้วิ่งผ่านเส้นทางที่มีวิวแสนสวยแบบนี้เกือบตลอดทางเลยทีเดียว



เย็นแล้ว ลงกระเช้ากลับที่พักดีกว่า


ที่ First มีกิจกรรมหลากหลายนะคะ
มีแล่นจักรยานลงเขาก็มี เห็นวัยรุ่น รวมถึงเด็กๆ มาเป็นกลุ่มเล่นกันสนุกสนาน
ส่วนภาพด้านล่าง ก็มีให้นั่งเหาะลงเขาแบบนี้ด้วย
ส่วนเราก็ลงกระเช้าง่ายๆ แต่ถึงชัวร์


.....วันอังคารที่ 30 June

เช้าวันนี้เราขึ้นมา First อีกรอบ เพื่อมาถ่ายวิวทะเลสาบ รอให้ผิวน้ำนิ่งๆ จะได้เห็นเงาสะท้อนเทือกเขา


เทรลสวิสดี๊ดี มีป้ายบอกหมด จะไปเขาลูกไหน จุดไหน มีแผนที่/ป้ายบอกชัดเจน กะเวลาให้คร่าวๆด้วย
ป้ายโลโก้ Eiger Ultratrail สีเขียวๆ ก็มีติดไว้ให้
ทางไปทะเลสาบLake Bachalp หรือ Bachalpsee ของ First ก็มีชี้บอกไว้ เขียนบอกว่าใช้เวลาเดิน 50นาที...ดี๊ดี





วิวสวยๆแบบนี้  ต้อง Rave run
วิ่งเล่นชิวๆ ตากวิวสวยๆ



Rave run แบบคู่ก็จัดให้ได้


ลำธารเล็กๆบนภูเขา


สายๆวันนี้ ทะเลสาบยังไม่นิ่ง ลมไม่นิ่ง แต่ไม่เป็นไร รอได้ค่ะ รอจนกว่าผิวน้ำจะนิ่ง ลมนิ่ง แล้วค่อยถ่ายภาพดั่งที่ตั้งใจไว้

โชคดีของการมาเที่ยวกันเองไม่พึ่งทัวร์ก็คือ เราแพลนเวลาเองได้ จะแวะไหน รอตรงไหน จะไปไหน กินอะไร จะทำอะไรกี่โมงก็ทำได้ ไม่ต้องให้ใครมาวุ่นวายกับการเที่ยวของเรา
เราทั้งคู่ไม่ชอบการเที่ยวกับทัวร์ เพราะไม่ชอบไปรอใคร และ ไม่ชอบให้ใครมารอเรา ไม่ชอบให้คนอื่นมากำหนดตารางให้เรา เราชอบแพลนกันเอง ไม่ชอบเที่ยวหลายคนเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย
ซึ่งประเด็นนี้ เราทั้งคู่คิดตรงกัน เหมือนกันเดี๊ยะ



ระหว่างรอลมนิ่งๆ เราทั้งคู่ก็วิ่งเล่น



Rave run กับวิวแสนสวย


ในที่สุดวินาทีแห่งการรอคอยก็มาถึง ...เกือบเที่ยง
ลมสงบ ผิวน้ำเป็นกระจก สะท้อนเงายอดเขาบนผิวน้ำ สวยงามมาก
เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เรามาจุดนี้ แต่ไม่ได้ภาพแบบนี้เพราะหมอกลงจัด อากาศไม่ดี
แต่ปีนี้ อากาศเป็นใจ ทำให้เราได้ภาพดั่งใจ ..






ถ่ายภาพคู่รักนักวิ่ง






วิวมุมนี้ก็สวย มีลำธารคล้ายน้ำตกเล็กๆด้วย


วิวสวยแบบนี้ต้องจัด Rave run
จุดนี้ก็เป็นเส้นทางผ่านของ Eiger Ultratrail ด้วย



วิ่งผ่านหิมะ ...ลื่นค่ะ


ล้มจริง...แสดงสดไม่ใช้สแตนอิน

ล้มก็ลุกขึ้นใหม่ ยิ้มหวานๆแล้วไปต่อ





วิ่งRave run แบบคู่รักนักวิ่ง




มุมนี้ก็สวย ต้องขอวิ่งเล่นหน่อย











นักท่องเที่ยวก็มานั่งชมวิวทะเลสาบแสนสวย เที่ยงๆแบบนี้...เอาแซนวิชมานั่งทานกันที่ม้าน้่งริมทะเลสาบ กินเสร็จไม่มีใครทิ้งขยะสักราย เก็บเรียบร้อย ไม่เห็นขยะตกพื้นสักชิ้น พื้นที่สะอาดมาก ไม่มีถังขยะตั้งให้รกตาด้วย แต่ทุกคนก็เก็บขยะไปกับตัวไม่มีทิ้งไว้




ดอกไม้จิ๋วข้างทาง น่ารักมาก แต่ละดอกเล็กเท่าเหรียญบาท













มีสาวนักวิ่งมาซ้อมวิ่งด้วย
สงสัยเตรียมมาวิ่งงาน Eiger Ultratrail


......ช่วงบ่ายเราไป hiking กันต่อที่ Mannlichen(ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2343m)

เรานั่งรถไฟไปลงสถานี Grindelwald-Grund เพื่อขึ้นกระเช้าไป Mannlichen Summit
กระเช้านี้ยาวถึง 6km และมีความชัน ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 30 นาที





เห็นน้องวัวเล็มหญ้าด้วย น้องวัวที่นี่น่ารัก สู้กล้อง
วิวยอดฮิต เห็นหลายรูปมาก ....ช่างภาพจะถ่ายรูปนักวิ่งในงาน Eiger Ultratrail วิ่งผ่านน้องวัว มีวิวนักวิ่งวิ่งผ่านน้องวัวที่นอน ที่ยืน น้องวัวบางตัวก็หันหน้าสู้กล้องด้วย เป็นภาพที่น่ารักมาก คาดว่าน่าจะเป็นเส้นทางขณะนักวิ่งวิ่งผ่านช่วง Mannlichen

เราอยากมีภาพวิ่งที่มีภาพน้องวัวยิ้มร่วมเฟรมบ้างอะไรบ้าง !





ภาพล่าง... เห็นเส้นทางเล็กๆมุมขวาล่างไหมคะ ที่ชันๆ
นักวิ่ง Eiger ระยะ 101km ต้องวิ่งขึ้นผ่านตรงนี้ด้วยนะคะ ชันมากๆๆๆๆๆๆ


ถึงMannlichen แล้วค่ะ ที่ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2343m


เดี๋ยวเราจะตามรอย Eiger Ultratrail กัน




นี่ไงป้ายเขียวๆชี้บอกทาง... โลโก้ของ Eiger Ultratrai



เส้นทางนี้เป็น Panorama Trail; Maennlichen ไป Kleine Scheidegg ระยะทางประมาณ​4.4km
เส้นทางนี้พิเศษก็คือ เราจะได้เห็นยอด Jungfrau ด้วย
และตลอดทางเราจะได้เห็นดอกไม้สวยๆตลอดทาง และ เราต้องhiking อ้อมเขา 2 ลูกเพื่อไป Kleine Scheidegg






วิ่งเล่นยืดเส้นยืดสายหน่อย





วิวแบบนี้ เส้นทางแบบนี้ สวรรค์ของนักวิ่งเทรลจริงๆ




เส้นทางธรรมชาติแบบนี้สามารถพาน้องหมามาเดิน hiking ได้ด้วยนะคะ
สูงขนาดนี้ ก็มีบริการถุงเก็บอึ และ ถังขยะให้ทิ้งอย่างเรียบร้อย ..สวิสดี๊ดี




ภาพล่าง...ยอดเขาเบื้องหน้าคือ Jungfrau

มีตึกเล็กๆอยู่ตรงแอ่ง นั่นคือ Jungfraujoch





ซูมชัดๆ
ตึกยอดแหลมๆเทาๆ ก็คือ  Jungfraujoch  สถานที่ยอดฮิตติดอันดับที่นักท่องเที่ยวนั่งรถไฟขึ้นไปเที่ยวกัน



ระหว่างนี้ก็ถ่ายดอกไม้สวยๆเล่นตามทาง








ตึกสีน้ำตาลเบื้องล่างก็คือ Kleine Scheidegg จุดหมายปลายทางของเรา


ถึงแล้ว Kleine Scheidegg ที่ระดับความสูงเหนือน้ำทะเล 2061m
ใครจะไปเที่ยว Jungfraujoch จะต้องมาต่อรถไฟที่สถานีนี้


เดินมาร้อนๆ ตากแดดจนตัวดำปิ๊ดปี๋ ก็ต้องกินไอติมแบรนด์โปรดในดวงใจของเรา Movenpick
ใครชอบไอติม แนะนำเลยแบรนด์นี้ อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เย็นแล้วกลับที่พักที่ Grindelwald
ระหว่างนั่งรถไฟกลับ ก็ถ่ายภาพเก็บเขาสองลูกนี้ที่เราเพิ่งเดินข้ามมา


........วันพุธที่ 1 July

วันนี้เราจะขึ้นไป Jungfraujoch

ต้องมาต่อรถไฟที่สถานี Kleine Scheidegg
มารอบนี้ทัวร์เยอะมากๆๆๆๆ ทั้งทัวร์จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไทย
ตอนหญิงมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คนยังไม่เยอะเท่านี้ รถไฟไม่แน่นมีที่ว่างพอสมควร  มารอบนี้มีแบบคนต้องยืนด้วยเพราะที่นั่งเต็ม
ระหว่างรถไฟขึ้นไป Jungfraujoch ช่วงที่รถไฟแล่นเข้าไปในภูเขา เส้นทางรถไฟเจาะทะลุผ่านในตัวภูเขาเลยทีเดียว จะมีจุดพักให้นักท่องเที่ยวออกมาส่องชมวิว จุดชมวิวจะถูกเจาะเป็นช่องจากรูภูเขาให้เห็นวิวหิมะด้านนอก

ภาพจากช่องจุดชมวิว


รถไฟสีแดง จอดให้นักท่องเที่ยวลงไปส่องวิวจากช่องรูภูเขา


ขึ้นมาถึง Jungfraujoch (ที่ระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3466m) แล้วจ้าาาา
นี่คือ Ice palace




ส่วนจัดแสดงภาพล่างนี้ ...เมื่อ 5 ปีที่แล้วส่วนนี้ยังไม่เปิด... เห็นปิดกำลังก่อสร้าง
มาปีนี้มีส่วนใหม่ๆเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เช่น Snowball animation/Jungfrau Panorama/Alpine sensation/Snow fun/ Lindt Swiss Chocolate Heaven ถือว่าคุ้มค่าตั๋วรถไฟขึ้นมา เพราะค่าตั๋วไม่ถูกเลย(ค่าตั๋วไป/กลับ 204 CHF ก็ประมาณหกพันเจ็ดพันบาทต่อคน ราคานี้ขึ้นจากป้าย Grindelwald ที่พัก แต่ถ้าใครขี้นจาก Interlaken ก็จะจ่ายมากกว่านี้ )

Snowball animation




ธงสวิส จุดนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว (สวมหมวกแดง)


จุดเดิม ในปี 2015



 ธารน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลังก็คือต้นทางของ Aletsch glacier
มารอบนี้เราได้มาเที่ยวตามเส้นทางของ Aletsch glacier เลยทีเดียว ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง แถมร่วมงานวิ่งดูวิวธารน้ำแข็งสายนี้อีก ...แจ๋วไปเลย


ธารน้ำแข็งแสนสวย











ขึ้นมาชมวิวที่ Sphinx (ความสูง 3571m) มีระเบียงให้ชมวิวรอบๆ

วิวนี้ก็ Aletsch glacier แต่จากจุดชมวิวSphinx


วิวอีกด้านหนึ่งของ Sphinx



 มองจากSphinx ด้านนี้เห็น Kleine Scheidegg จุดที่เรานั่งรถไฟขึ้นมา Jungfraujoch


 มองจากSphinx..เบื้องล่างมีให้เดินบนหิมะด้วย มีกิจกรรมกลางแจ้งให้นักท่องเที่ยวเล่น นั่นคือส่วนของ Snow fun
เดี๋ยวจะลงไปแจมสักหน่อย


ลงมาด้านล่าง ลานกลางแจ้งแล้วจ้าาาา
ลาน Snow fun




มีทัวร์พาเดินhikingแบบบนหิมะด้วย....  พาเดินไปถึงglacier เลย คนเดินต้องผูกเชือกติดกับตัวต่อๆกันไปแบบรถไฟเลย
Aletsch glacier hiking with mountain guide


วินาทีนี้ ต้องRave run



มีแค่เราสองคน Rave run กลางภูเขาหิมะ...เท่ห์สุดๆ



ติดตามอ่านภาคต่อได้ที่
Vegetarian runners: Gornergrat Zermatt Marathon 2015(Full Marathon 42km)...SWISS
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=04-09-2015&group=11&gblog=29





Create Date : 03 กันยายน 2558
Last Update : 8 กันยายน 2558 10:05:15 น. 0 comments
Counter : 2474 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Yoja&Jiji
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 560 คน [?]




***ขอแจ้งให้ทราบว่า สำหรับผู้ที่เข้ามาถามคำถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาพฤติกรรมสุนัข จะไม่มีการตอบแล้ว โปรดอ่านบทความในบล็อกให้ละเอียด ทำความเข้าใจทุกประโยค คำถามส่วนใหญ่ มีคนมาถามแล้ว ให้อ่านคำตอบที่เคยตอบปัญหาของคนที่เคยถามได้ในส่วน comment ก็จะช่วยให้ได้ความเข้าใจและได้คำตอบ***

บทความและรูปภาพในบล็อก Yoja&Jiji เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล็อก แต่ยินดีที่จะให้นำบทความไปเผยแพร่ต่อที่ไม่ใช่เพื่อการค้าและธุรกิจ
ด้วยเงื่อนไขที่ต้องเขียนลิงค์ที่มาของบทความให้ชัดเจน ว่ามาจาก http://yojajiji.bloggang.com เพื่อที่หากมีผู้อ่านที่มีข้อสงสัย จะได้ตามลิงค์เข้าไปอ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้รักสุนัขและสุนัข
--------------------------------------------------------
ผมโยจา พี่สาวผมชื่อจีจี้ และน้องสาวชื่อยูจิ
โปรดเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆนะครับ
Blog นี้สำหรับช่วย คนรักหมา คนเลี้ยงหมา ให้มีความสุขกับน้องหมาในแนวทางของ Cesar Millan
ปัญหาพฤติกรรมสุนัขที่ไม่เหมาะสมกับครอบครัวเรา ไม่ว่าจะร้ายแรงมากหรือน้อย เป็นมานานแค่ไหน 1 วัน หรือ หลายปี คุณเองก็แก้ไขปรับได้ ด้วยหลักการเดียวกัน
เริ่มเลี้ยงสุนัข อยากให้ไม่มีปัญหาพฤติกรรมสุนัขต่างๆ เลี้ยงดูป้องกันไม่ให้มีปัญหาได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยหลักการเดียวกัน
ติดตามอ่านให้เข้าใจหลักจิตวิทยาสุนัข ตามแนวทางของ Cesar Millan
New Comments
[Add Yoja&Jiji's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com