<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
15 กุมภาพันธ์ 2555
 
 
หนีลูก4ขาไปวิ่ง: Standard Chartered Bangkok Marathon 2011 (Full- Marathon 42.195 km)

หนีลูกรักไปวิ่งอีกแล้ว งานนี้สามารถพาน้องหมาไปวิ่งได้ด้วยนะคะ ปีที่แล้วตอนที่ไปวิ่ง Mini Marathon 10.5 km ก็เห็นน้องหมาไปวิ่ง ได้เจอนักวิ่งสาวคนดังแสนสวย พี่นอร่า กะ น้องคิตตี้ ดัมเมเชี่ยนอวบ ด้วยค้าาาาาา

ปีนี้เด็กๆต้องเชียร์มามี้กะปาป้าอยู่ที่บ้าน เพราะเราทั้งคู่ไปพักที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่วันเสาร์ เพราะวันอาทิตย์วันวิ่ง ปล่อยตัววิ่งตี 3 จึงตัดสินใจพักโรงแรมใกล้จุดวิ่ง น่าจะสะดวกที่สุด
แต่เด็กๆ จีจี้กะยูจิ ก็ซ้อมวิ่งด้วยกันประจำทุกเช้า 6 โลบ้าง 12 โลบ้าง เด็กๆก็ไหวกันอยู่ แต่คิดว่าวิ่ง 42 โล เด็กๆคงไม่ไหวแน่ๆ ดังนั้นเด็กๆนอนเล่นตีพุงชมพูๆที่บ้้านดีที่สุดนะจ๊ะเด็ก 4 ขา


-------------

วิ่งครั้งนี้ เป็นการวิ่ง Full Marathon 42.195km ครั้งแรกในชีวิตของเราทั้งคู่ค่ะ เราซ้อมกันมาเป็นปี ปีที่แล้วเรายังวิ่ง Mini Marathon 10.5 km กันอยู่เลยที่งานเดียวกัน แต่ปีนี้เราจะเอามาราธอนมาครอบครองให้จงได้

งานปีนี้ถือเป็นปีสำคัญค่ะ เพราะ "เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554"

และ concept ของงานปีนี้คือ "Run for a reason"

ซึ่ง "Run for a reason" ของหญิงคือ มาราธอนแรกให้เป็นของขวัญชิ้นสำคัญสำหรับวันเกิดตัวเองปีนี้ 13 กพ (วิ่ง 12 กพ)

และ "Run for a reason" ของเราทั้งคู่คือ เป็นมาราธอนแรกของเราทั้งคู่ แล้วเราจะวิ่งให้เป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ของเราในปีนี้ 14 กพ

ในงาน Standard Chartered Bangkok Marathon 2011

เริ่มแรกงานจัดในวันที่ 20 Nov 2011 แต่เนื่องติดน้ำท่วมกรุงเทพครั้งใหญ่ งานจึงเลื่อนมาจัดในวันที่ 12 Feb 2012 ก่อนหน้าวันเกิดหญิง 1 วันพอดี

-----------------

Sat 11 Feb 2012.......ไปรับ Bib & Chip ที่ สโมสรกองทัพบก



ไปที่ซุ้มรับBib & Chip ของกลุ่มนักว่ิง Full Marathon 42.195km
และได้รับเสื้อที่ระลึกสำหรับใส่วิ่งคนละ 1 ตัว



วันนี้้ต้องนอนเร็ว ตั้งแต่ 6 โมงเย็น เพื่อตื่นเที่ยงคืนกว่าๆ

----------

Sun 12 Feb 2012.......วันวิ่ง...ตื่นเต้นมากมาย

เตรียมเบอร์วิ่งสำหรับติดหน้าเสื้อ
เตรียม pacing guide เพื่อทำให้กะเวลาวิ่งได้
เตรียม Energy gel เพื่อเป็นพลังงานและเกลือแร่เสริมระหว่างการวิ่ง ซึ่งร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้เร็ว



ติดchip ที่รองเท้า สำหรับจับเวลาวิ่ง

รองเท้าหญิง Nike Air Max 2011


รองเท้าสามี Asics Kayano17


งัดชุดเก่งมาใช้สำหรับงานพิเศษนี้
เช่นเคย ดีไซน์เนอร์ชุดกีฬาสุดโปรดของ adidas by Stella McCartney

แม้จะไปวิ่งมาราธอน สำหรับหญิงแล้ว เสื้อผ้า หน้า ผม ต้อง "จัดเต็ม"



เราเดินจากโรงแรมไปจุดปล่อยตัวที่ สนามไชย ข้างๆพระบรมมหาราชวัง
ตอน ตี2ครึ่ง



ขอถ่ายรูปเก็บหน่อย



ถ่ายสามี กับบรรยากาศนักวิ่งมาราธอนยืดเส้นยืดสายขยับแข้งขยับขาเพื่อเตรียมปล่อยตัวนักวิ่งมาราธอนตอนเวลา ตี3



นักวิ่งมาราธอนไม่มีใครพาน้องหมามาร่วมวิ่งด้วย เลยไม่มีภาพน้องหมาผ่านเลนส์เลย คาดว่า จะได้เก็บภาพนอ้งหมาตอนสายๆหลังจากที่วิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว
-----------
เส้นทางวิ่ง Full Marathon 42.195km

เริ่ม สนามไชย-สะพานพระปิ่นเกล้า- วิ่งบน ถ. บรมราชชนนี นครชัยศรี และ กลับตัวที่ 16km ย้อนกลับมาบน ถ. บรมราชชนนี นครชัยศรี - วิ่งต่อไปที่สะพานพระราม 8 ที่ 30km- ลงสะพานวิ่งผ่านพระที่นั่งวิมานเมฆ - ผ่านสวนจิตรดา - วิ่งผ่านพระที่นั่งอนันตสมาคม- ผ่านUN -ผ่านโรงละครแห่งชาติ-ผ่าน ม.ธรรมศาสตร์- ผ่านสนามหลวง-วัดโพธิ์ -----และเข้าเส้นชัยที่ พระบรมมหาราชวัง ที่ 42.195km


ภาพระหว่างว่ิง จากช่างภาพ


สถานที่: สะพานพระราม8 ประมาณเกือบ 6 โมงครึ่ง
(เครดิตภาพ: ขอขอบคุณ "น้าตุ้ม" จากเวป //www.patrunning.com/)
------





สถานที่: หน้า ม.ธรรมศาสตร์ กับ สนามหลวง ประมาณ กม. 40
(เครดิตภาพ: ขอขอบคุณ "ครูแสง; เก็บตก สแตนดาร์ดชาเตอร์ด กรุงเทพมาราธอน 2011 กล้องน้องโจ๊ก" จากเวป //www.patrunning.com/)

-----------

ภาพก่อนเข้าเส้นชัยที่ 42.195km







สถานที่: ประมาณ100 เมตรก่อนถึงเส้นชัย
(เครดิตภาพ: ขอขอบคุณ "ญ เตือน" แห่งเวป //bangkhunthianjoggingclub.com/index.php)
------------------

******* เข้าเส้นชัย วิ่งไป 5 ชั่วโมง 18 นาที*******

ดีใจมากๆเลยค่ะ สำเร็จแล้ว..... มาราธอน......

ต้องถ่ายรูปเก็บ



รับเหรียญ



ถ่ายคู่



สำหรับนักวิ่งมาราธอนที่วิ่งสำเร็จ จะได้รับเสื้อ "Finisher's of 42.195km" ณ เส้นชัย .....ถือเป็นเสื้อแห่งความภาคภูมิใจสุดๆ





------

อุ๊ยนั่นไง เจอน้องหมาแล้ว ต้องขอไปถ่ายรูปสักหน่อย

น้องอัลเซเชี่ยน อายุ 1 ขวบ ชื่อน้อง heidi klum



เจ้าของมาวิ่ง ไมโครมาราธอน 5 กม พาน้องหมามาวิ่งด้วย





---

วิ่งแล้วดีต่อสุขภาพ ไม่อ้วนด้วยนะคะ มาวิ่งกันค่ะ วิ่งแล้วจะติดใจแบบหญิง



Result
Ying@ ----- 2010(Number) -----678(Place)------ 25(Place Cat.)-----1:45:30(15K)------4:11:43(34K)------ 5:18:06(Net)----- 5:18:37(Finish)

Jun@ -----851(Number) ----- 679(Place)------ 443(Place Cat.)-----1:45:30(15K)------4:11:43(34K)------
5:18:05(Net)-----5:18:38(Finish)


If you want to run , run a mile.........

........If you want to experience a different life , run a marathon.

                         by  Emil Zatopek (Czech Sporting Legend of the Century)




Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 19 มิถุนายน 2555 21:24:54 น. 36 comments
Counter : 8239 Pageviews.

 
เข้ามาชื่นชม..ความสามารถของคุณค่ะ
ตามมาจากกระทู้ในห้องแป้ง ติดใจในความเก๋ของเครื่องแต่งตัว..เลยลามมาถึงใน blog และในกระทู้อื่นๆ คุณมีความสามkรถหลากหลายมากๆค่ะ


โดย: lavilin IP: 58.137.13.253 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:33:56 น.  

 
ต้องขอขอบคุณคุณ lavilin มากๆเลยค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:14:37:26 น.  

 
ขำอ่ะ ดัลเมเชียนอวบ!!

big congratulations to you ค่ะน้องหญิง ทำได้ยังไงอ่ะ full marathon ครั้งแรก ในเวลาดีๆ แบบนี้ แถมยังเป็นนักวิ่งหญิงที่สวยที่่สุดในประเทศไทยด้วยน๊าเนี่ย

เหมือนว่าเราพลาดเจอกันแป๊ปเดียวเอง พี่นอร่าไปตรงเส้นชัยตอน 8 โมงครึ่งได้ (น้องหญิงมาถึงประมาณ 8 โมง 23 พี่ดูเวลาจากกล้องของน้าแพท) เพื่อรอถ่ายรูปพี่ทนงศักดิ์ นักแสดง ซึ่งเข้ามาทีหลังน้องหญิงประมาณครึ่งชั่วโมง

เผอิญปีนี้กระดูกเท้าซ้ายพี่นอร่าหักเมื่อปลายเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา เลยวิ่งไม่ได้ แต่เห็นความมุมานะของน้องหญิงแล้ว ปลื้มใจแทนจริงๆ เก่งมากๆ ค่ะน้องหญิง

ไว้มีโอกาส ขอนัดเจอกันนอกรอบหน่อยนะจ๊ะน้องสาวคนเก่ง ส่ง e-mail หาพี่นอร่าด้วยนะคะ nora.kitty@gmail.com

น้องหญิงยังสวยเหมือนเดิมน๊า


โดย: นอร่า กะ คิตตี้ IP: 203.153.191.6 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:31:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่นอร่าสุดสวย กะ น้องคิดตี้ ดัลเมเชี่ยนอวบบบบบบ


ขอบคุณมากๆเลยค่ะพี่นอร่าสำหรับคำชมและแรงเชียร์ ปลื้ม ยิ้มแป้น ยิ้มไม่หุบเลย ขอบคุณค่ะ..
ตอนแรกกะไว้ว่าคงวิ่งใช้เวลา 5 .30 ชั่วโมง แต่วิ่งเสร็จเร็วกว่าที่คิดไว้ ก็รู้สึกดีใจค่ะ การวิ่งมาราธอนเป็นการแข่งกับตัวเองจริงๆนะคะ สะใจดีค่ะ

เห็นพี่นอร่าในรูปด้วย กะน้องอวบอั๋นสี่ขา เห็นพี่รัดข้อเท้าด้วย ขอให้หายและกลับมาวิ่งได้ไวๆนะคะ

คิดถึงพี่นอร่าค่ะ

หญิง


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:24:08 น.  

 
happylife u 2 winner goodlife goodproject


โดย: fondue IP: 101.51.214.226 วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:12:07:55 น.  

 
สวัสดีค่ะ เบลล์อยากเข้ามาขอคำแนะนำเรื่องน้องหมาที่บ้าน เบลล์อยู่ที่อังกฤษนะคะ. Treks เป็นหมาที่เอามาจาก Rescue Centre อายุ6 ขวบกว่าๆ เป็นหมาพันธุ์ Australian Shepherd. ทางศูนย์เค้าแจ้งมาว่า very nervous with stranger and other dog , has been nip ,
แล้วพอเอามาเลี้ยงก้อพบว่าเป็นหมาที่อยู่ในบ้านแล้วนิสัยดี sit , stay , in your bed , roll over, leave it , wait , heel (อันนี้ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง) ทำได้หมด. แต่ที่ยังทำไม่ได้คือเวลาพาออกไปเดินถ้าเจอหมาตัวอื่น Treks จะพุ่งเข้าไปหาเค้าเลย บางทีก้ออยากเล่นกับเค้า บางทีก้อจะเข้าไปกัดกับเค้า.
เบลล์เลยตัดสินใจจ้าง Dog Trainner ที่นี่เค้าก้อแนะนำว่าเวลาเราเห็นหมาตัวอื่นมาก้อให้เบี่ยงความสนใจ โดยการเอาอาหารใส่ไว้ในมือข้างที่ถีอสายจูง เพื่อเบี่ยงความสนใจ.แต่พอถึงเวลาจริงๆ Treks ไม่สนใจอาหารเลย สนใจแต่หมาที่เดินสวนมา.รบกวนช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะว่าเบลล์จะต้องทำยังไงกับเค้าดี

ขอบคุณมากๆค่ะ


โดย: เบลล์ IP: 94.7.245.127 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:6:30:53 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ เบลล์

วิธีเบี่ยงเบนความสนใจหมาจากสิ่งกระตุ้นโดยใช้กลิ่นของอาหาร หรือของเล่น อะไรก็ตามแต่ เป็นวิธีแบบ Positive reinforcement ซึ่งจะใช้ได้ผลกับหมาที่เป็นน้อยๆ ตื่นเต้นน้อยๆ เพราะหมาที่ไม่ได้โฟกัสกับสิ่งกระตุ้นมาก ไม่ได้มีภาวะการไล่ล่า ไม่่มีภาวะการอยากฆ่า ก็จะใช้วิธีอ่อนๆเด็กอมมือได้ ก็จะเบี่ยงเบนความสนใจหมาจากส่ิงกระตุ้นนั้นๆได้ นี่เป็นวิธีที่เหล่าครูฝึกนิยมกัน เพราะดูเป็นวิธีสวยงาม เหมาะกับเจ้าของใจอ่อนแคร์ภาพลักษณ์

แต่เอาไปใช้กับหมาที่มีภาวะการไล่ล่าหรือ อยากฆ่าหมาด้วยกันไม่ได้ เพราะหมาเมื่ออยู่ในโหมดนี้ จะหูบอดจมูกบอด เราไม่มีทางจะใช้กลิ่นหรือเสียงได้เลย หรือหมาบางตัวฉลาด เขาอาจหันกลับมากินอาหารในมือ พอกินหมด เขาก็กลับไปจ้องไปพุ่งใส่หมาตัวกระตุ้นต่อ เพราะหมามีภาวะอารมณ์ที่เข้มข้นแบบอยากจะฆ่า จะมาใช้วิธีอ่อนๆเด็กอมมือเอาอาหารล่อจะไม่ได้ผล จะต้องใช้การสัมผัสร่างกายมาช่วย เพื่อทำให้เขาสะดุ้งแล้วเขาจะออกจากภวังค์อยากฆ่าอยากไล่ได้ นั้นคือ จะมีการกระตุกเชือกหรือโซ่ เข้ามาใช้ แต่พวกครูฝึกใจอ่อนหรือเจ้าของที่ใจอ่อนมักจะไม่เห็นด้วยกับการใช้โซ่กระตุกเพราะถือว่าเป็นการกระทำป่าเถื่อน ก็เลยไม่ใช้วิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่จำเป็นและเหมาะกับอาการของหมาที่สุดแล้ว ก็เลยเอาแต่ใช้วิธีเด็กอมมือไปเรื่อยๆ หมาก็ไม่หาย พอหมาไม่หาย พวกครูฝึกและสัตวแพทย์ผู้ใจอ่อนก็จะลงความเห็นให้ put to sleep เพราะถือว่า หมาแก้ไม่หาย ต้องตายสถานเดียว

แต่จริงๆมันมีวิธีแก้ ต้องใช้จิตวิทยาสุนัขมาช่วย แต่พวกหมอกับครูฝึกมักจะแอนตี้วิธีพวกนี้ จนในที่สุด end up ด้วยput down หมาแทน
-----------
จะทำให้หมาเดินนอกบ้านในสายจูงได้ดี คุณเบลล์ ต้องฝึกค่ะ ฝึกเดินแบบ Mastering the walk เพราะเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้หมาเห็นเราเป็นผู้นำเมื่ออยู่นอกบ้าน เมื่อเราเป็นผู้นำเขาแล้ว เราจะตักเตือนเขาได้ผล แต่ถ้าหมาไม่เคารพเรานอกบ้าน เขาไม่เห็นเราเป็นผู้นำ เขาจะไม่ฟังคำตักเตือนเราค่ะ เขาก็จะพุ่งใส่หมาทุกตัว หรือ จะเดินนำดึงคุณไปตลอดทางหรือแวะตลอดทาง อยากจะพุ่งก็พุ่ง

Mastering the walk [for dog]
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=14-11-2008&group=6&gblog=1

และจะต้องเปลี่ยนเป็นเชือกกระตุกหรือโซ่กระตุก เพราะจะทำให้คุมหมาได้ขณะเดิน

Check chain
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=31-12-2008&group=6&gblog=30

และเราก็ต้องใช้เชือกกระตุกให้เป็นด้วย กระตุกให้ถูกต้อง จังหวะที่ถูกต้อง จะไม่ใช้แรงอะไรเลย หมาก็จะไม่เจ็บ และจะเตือนได้ผล จะเบี่ยงเบนความสนใจได้ผล และไม่ต้องกลัวหมาจะตายหรือคอได้รับบาดเจ็บ เพราะเชือกหรือโซ่กระตุก มันมีใช้มาก่อน Harnessอีก แต่ก่อนเขาก็ใช้กัน แถมสุนัขอารักขา สุนัขตำรวจเขาก็ใช้โซ่กระตุกกันทั้งนั้น เพียงแต่เราใช้แบบถูกวิธีก็ไม่ต้องกังวลใดๆ


วิธีใช้ Check chain อย่างถูกต้อง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=18-08-2009&group=6&gblog=46

น้องหมาไม่ยอมเดินเมื่อใส่สายจูง.......ทำไงดี?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=09-07-2009&group=6&gblog=40

พาน้องหมาเดินออกกำลัง แต่มีน้องหมาจอมซ่าส์จากไหนไม่รู้ มาจู่โจม ทำไงดี ถึงจะรอดจากสถานการณ์นั้นได้ ?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=11-01-2010&group=7&gblog=22

วิธีห้ามศึกที่ปลอดภัย...ก่อนสุนัขจะกัดกัน
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=23-05-2011&group=7&gblog=69

-------------

ฝากอ่านค่ะ

พฤติกรรม จ่าฝูง-ลูกฝูง ของสุนัขตามธรรมชาติ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=06-01-2010&group=7&gblog=19

สูตรหลัก 3 ข้อ ในการป้องกันปัญหาพฤติกรรมสุนัขทุกประเภท
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=02-03-2010&group=7&gblog=34

--------
มีปัญหาสงสัย ถามได้เสมอนะคะ ถามที่หน้านี้เลย ไม่ต้องย้ายไปถามหน้าอื่น

สู้ๆนะคะคุณเบลล์



โดย: Yoja&Jiji วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:15:16:29 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะคุณหญิงที่ช่วยตอบให้แบบเร้วมากๆ. Lead ที่เบลล์ใช้อยู่ตอนนี้ก้อจะเป็นโซ่ที่พอกระตุกไปแล้วจะไปรัดช่วงคอให้ค่อนข้างแนน่ แต่ก้อยังไม่ได้ผลดีซักเท่าไหร่.ตอนนี้เบลล์กำลังคิดว่าจะสั่งซื้อ Dog Backpack มาลองใช้ดูเพื่อหางานให้ Treks ทำ แล้วก้อหวังว่าเค้าจะดึงสายจูงน้อยลง. เบลล์อยากขอคำแนะนำจากคุณหญิงว่าเบลล์ควรจะซื้อ Stop Pull Harness leadด้วยมั้ยคะ หรือแค่ใช้ Dog Backpack ก้อพอ.

ก่อนที่เบลล์จะรับ Treks มาเลี้ยงก้อได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ที่บล๊อคคุณหญิงไปเยอะมาก...แต่ความใจแข็งยังเยอะไม่พอ :-) ทำได้มั่งไม่ได้มั่ง. แต่ตอนนี้ก้อจะพยายามให้มายิ่งขึ้นค่ะ.เพราะอยางเลี้ยงหมาให้เป็นหมาที่ดี.

มีอีกปัญหาที่อยากรบกวนนะคะ.เบลล์พา Treks ไปวิ่งออกกำลังกายตามปกติ แล้วทีนี้เพื่อนบ้านก้ออยากจะมาเล่นกับ Treks ด้วย. เบลล์ก้อเลยบอกเค้าว่าให้ Treks ทำความรู้จักกับเค้าก่อน ก้อให้ดมแล้ว แล้วเบลล์สั่งให้ Treks นั่ง แล้วเพื่อนบ้านก้อให้ Treat กับTreks. ก้อปกติกันดี.แล้วพอเพื่อนบ้านให้ Treat อันสุดท้ายเสร็จ เค้าก้อลุบหัว Treks แล้ว Treks ก้องับมือเค้าเลย.
แล้วบางครั้งพา Treks ไปบ้านเพื่อน Treks ก้อเล่นกับเพื่อนดี ยอมให้ลุบหัว ยอมทำตามคำสั่ง ทั้งๆที่เจอเค้าเป็นครั้งแรก. เบลล์เลยแบบงงๆว่าทำไมครั้งนั้นกัดคนแปลกหน้าแต่ครั้งนี้กลับยอมเล่นกับคนแปลกหน้า.แล้วมีวิธีไหนที่เค้าจะไม่กัดคนแปลกหน้าอีกคะ.

ขอบคุณมากๆนะคะ
เบลล์


โดย: เบลล์ IP: 94.7.245.127 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:21:04:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ เบลล์

"Lead ที่เบลล์ใช้อยู่ตอนนี้ก้อจะเป็นโซ่ที่พอกระตุกไปแล้วจะไปรัดช่วงคอให้ค่อนข้างแนน่ แต่ก้อยังไม่ได้ผลดีซักเท่าไหร่"

-คุณเบลล์ต้องใส่ให้ถูกต้องด้วยนะคะ โซ่ต้องอยู่หลังกกหูตลอดเวลา จะทำให้คุมสวนหัวของหมาได้
และเวลาจะกระตุก สายจะต้องหย่อน เพื่อเวลากระตุกจะได้มีspaceให้โซ่รัดและคลายตัว
แต่ถ้าคุณเบลล์ถือสายจูงแบบตึงตลอดเวลา เพราะหมาดึง จะทำให้เรากระตุกไม่ได้ เพราะสายโซ่มันตึง ก็จะทำให้กลายเป็นกระชากเหมือนชักเย่อ ยิ่งหมาอยู่ด้านหน้าเรา เรายิ่งชักเย่อกับหมา นั้นเองถึงกระตุกไม่ได้ผล

หมาจะต้องอยู่ข้างๆขาเราเวลาจะกระตุก และเชือกต้องหย่อนพอดี นั้นเองถึงต้องฝึกการเดิน Mastering the walk ทุกกระบวนการ จะได้คุมหมาไม่ให้เดินนำหน้า

ส่วนเป้หลังก็ดีค่ะ จะได้ให้หมาทำงานขณะเดิน
--------------------
"เบลล์อยากขอคำแนะนำจากคุณหญิงว่าเบลล์ควรจะซื้อ Stop Pull Harness leadด้วยมั้ยคะ"

--ไม่จำเป็นค่ะ เพราะไม่ได้ช่วยให้การเดินดีขึ้น เพราะการที่ใส่harness ไม่ว่าจะเป็นธรรมดาหรือ Stop Pull Harness ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะการที่คาดตรงช่วงอก ซึ่งตรงอกเป็นจุดที่หมาจะมีพลังลากเราได้ดี นั้นเองเราจะถูกลากและดึง และหัวหมาก็อิสระ เขาก็จะก้มดม พุ่งควบคุมทิศทางตามใจเขาได้ง่าย และคุณจะคุมหมาไม่ได้เลย ถ้าโซ่กระตุกยังคุมยาก อย่าหวังพึ่งพวกHarness เพราะจะพากันลงเหวทั้งคนทั้งหมา

------------

เวลาทักคนแปลกหน้า แล้วหมางับมือเวลาจับหัว เราต้องดูหลายอย่าง

การลูบหัวถือว่าหมากำลังถูกข่ม ถ้าหมาไม่ได้อยู่ในภาวะที่สงบจริงๆ เขาจะจู่โจมมือที่ลูบหัวเขา
แม้คุณจะสั่งให้นั่ง ตูดนั่งก็จริง แต่สมองเขายังไม่พร้อมจะให้ลูบหัว หมาก็กัดอยู่ดี และ ต้องดูว่าที่ผ่านมาตลอดการเดินก่อนการเจอคน คุณคุมหมาได้หรือไม่ หมาเชื่อฟังดีหรือเปล่า ถ้าก่อนหน้าจะเจอคน หมากร่าง เราคุมหมาไม่ได้เลย นั้นเองหมาจะเป็นผู้นำตลอดการเดิน และการเจอคนแปลกหน้าหมาก็จะอยู่ในภาวะวางอำนาจเหนือ เขาจะไม่ยอมให้ถูกข่มแน่นอน แม้ตูดจะนั่งตามสั่งก็ตาม

และยังต้องขึ้นอยู่กับภาวะอารมณ์ของคนที่ยื่นขนมให้ด้วย ถ้าเขากลัวหมาหรือยื่มแบบงักๆเงิ่นๆ ถือว่าเป็นภาวะอารมณ์ที่อ่อนแอ โชว์ภาษากายว่าอ่อนแอ รับรองจะถูกหมาข่ม นั้นก็คือ หมาจะไม่ยอมให้ถูกข่มโดยการลูบหัว และการที่ชักมือหนี หรือมือยึกๆยัก จะไปกระตุ้นสัญชาตญาณการไล่ล่า ก็จะทำให้หมาไล่งับมือ

เพราะฉะนั้นจะให้เจอคนแปลกหน้า ต้องเลือกคนด้วย และดูสถานการณ์ว่าหมาอยู่ในภาวะ Ok ไหม คนแปลกหน้านั้น Ok ไหม

ให้เจอคนแปลกหน้าแบบทุกอย่างไหลลื่นไม่มีอาการก้าวร้าว แม้จะเจอคนไม่เยอะ แต่สถานการณ์ไปได้สวย จะดีกว่า เจอคนแปลกหน้าหลายคน แต่สถานการณ์ลุ่มๆดอนๆ หมาก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเท่าไหร่

ลองเอาไปปรับใช้

ลองเปลี่ยนจากลูบหัว เป็นขอมือแทน น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีและยังน่ารักด้วย เพราะหมาได้โชว์ความสามารถทริกน่ารักๆ...หรือ ให้ขนมเฉยๆ ไม่ต้องลูบหัว ให้หมาชินและปรับตัวได้ดีกับคนแปลกหน้าหลายๆรายก่อน แล้วค่อยหาคนที่เขาไม่กลัวหมา และยอมจะช่วยเรา โดยขอให้เขาช่วยลูบหัวหมา


ฝึกให้น้องหมาไว้ใจคนแปลกหน้า
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=11-04-2011&group=7&gblog=67

ลองดูในบทความนี้
แม้ตูดจะนั้งตามสั่ง ก็ไม่ได้หมายถึงหมาจะพร้อมให้ลูบหัว เราต้องคำนึงถึงภาวะอารมณ์ของหมาขณะนั้น มากกว่าดูแค่ท่าทางว่า นั่งหรือหมอบ

สุนัขตำรวจกัดนักข่าว (การเข้าหาสุนัขแบบผิดๆ)
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=27-12-2010&group=12&gblog=1
---------

"แล้วบางครั้งพา Treks ไปบ้านเพื่อน Treks ก้อเล่นกับเพื่อนดี ยอมให้ลุบหัว ยอมทำตามคำสั่ง ทั้งๆที่เจอเค้าเป็นครั้งแรก."

---ก็ต้องดูว่าเพื่อนของคุณเบลล์เป็นคนอย่างไร เขาเป็นคนที่คุมหมาอยู่ ฝึกหมาเป็น ไม่กลัวหมา และนิ่งๆ หมาก็จะไม่ข่ม หมาก็จะยอมให้ลูบหัว และยังขึ้นอยู่กับตัวคุณเบลล์ด้วย เนื่องจากเป็นเพื่อน คุณก็ไม่ต้องเกร็งอะไรมาก คุณก็อยู่ในภาวะผ่อนคลาย เมื่อคุณผ่อนคลาย หมาก็ผ่อนคลาย ก็ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างไปได้สวย

แต่เมื่ออยู่ตามถนน แล้วเจอคนแปลกหน้าที่คุณเบลล์ไม่คุ้นเคย คุณอาจประหม่า กลัว กังวล อะไรก็ตามแต่ที่ทำให้หลุดจากภาวะอารมณ์นิ่ง นั้นเองหมาจะรู้ทันที เขาจะเข้าสู่โหมดวางอำนาจเหนือ และปกป้องตัวเอง และปกป้องคุณ นั้นเองเขาจะไม่ยอมงอหัวให้ใคร และนั้นเองเขาถึงไม่ยอมให้ลูบหัว เขาถึงเดินดึงเดินนำ กร่่างกับหมาไปทั่ว ก็เพราะคุณอยู่ในภาวะอ่อนแอ ปกป้องเขาไม่ได้ เขาจึงต้องปกป้องตัวเอง ก็เลยกร่าง...ทั้งหมดนี้คือ จิตวิทยาสุนัข ซึ่งจะไม่เหมือนกับพวกPositive reinforcement ที่เน้นแต่เอาของกินล่อแล้วก็นั่ง Sit Sit Sit !

ลองอ่าน


ทำไมปรับพฤติกรรมหมาไม่สำเร็จสักที อยากรู้ไหมว่าทำไมถึงทำไม่สำเร็จ ทำไม่ถึงยังไม่เป็นจ่าฝูงเสียที?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=27-04-2010&group=7&gblog=44

---------


สู้ๆนะคะคุณเบลล์







โดย: Yoja&Jiji วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:12:47:53 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะคุณหญิงสำหรับคำแนะนำทุกอย่าง.เบลล์ได้เข้าไปอ่านทุกบล๊อคอย่างละเอียดและตั้งใจทำตามอย่างแน่วแน่ สองสามวันมานี้ Treks นิสัยดีขึ้นเยอะมากกกก.ตอนนี้เวลาพาไปเดินออกกำลังก้อใช้ Dog Backpack ด้วย.Treks นิ่งขึ้นเยอะ ไม่วอกแวกกับหมาตัวอื่นที่เดินสวนมา.มีหยุดเห่าเค้าบ้างแต่ก้อไม่ดึงสายจูงเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว.ตอนนี้เวลาที่พาเค้าไปเดินหรือวิ่งเป็นเวลาที่มีความสุขมากก เพราะพฤติกรรมเค้าดีขึ้นเยอะ.
เมื่อวานเพื่อนมาหาก้อเล่นกับหมาของเพื่อนดี ไม่กัดเค้า เล่นกันท่าทางสนุกเชียว.

เบลล์ขอถามหน่อยนะคะว่าด้วยความที่ Treks ไม่มีหาง.เวลาเค้าดีใจ ตื่นเต้น กลัว หรือการแสดงออกทางอารมณ์ต่าง.เบลล์จะรู้ได้ไงว่าเค้าอยู่ในอารมณืไหนกันแน่.ตอนนี้ก้อสังเกตุเอาจากหูว่าหูลู่ หรือหูตั้ง หรือถ้าตื่นเต้นที่เราพึ่งกลับมาบ้านก้อจะมีกระโดดใส่บ้าง.

ขอบคุณมากๆนะคะ


โดย: เบลล์ IP: 94.7.245.127 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:19:04:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ เบลล์

เยี่ยมเลยค่ะ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
-----------
หางเป็นแค่ส่วนหนึ่งเองค่ะ เพราะหมากระดิกหางเป็นมิตรก็มี กระดิกหางก่อนกัดก็มี

นั้นเองถึงดูหางอย่างเดียว ตัดสินไม่ได้ว่าหมาสงบหรือไม่ ตอ้งดูภาษากายอื่นๆร่วมด้วยและดูภาวะอารมณ์



สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ภาวะอารมณ์ของหมาขณะนั้น"**** อันนี้เราต้องสังเกตหมาของเราให้ได้ นั่งแบบผ่อนคลาย นั่งแบบตึงเครียดเป็นอย่างไร จ้องแบบชมนกชมไม้ หรือ จ้องแบบอยากฆ่า

ดูตา *** ตาจ้องเบิกโพรง ตาลอกแลก รูม่านตาขยาย จ้องไปที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษ อันนี้คือหมาไม่ได้อยู่ในภาวะสงบ
ตาที่อยู่ในภาวะสงบคือ ตาหรี่ๆหน่อยไม่ตาโตเบิกโพรง รูม่านตาเล็กปกติ กระพริบตาปกติไม่ตาแข็ง และสายตาไม่จ้องไปที่ใดที่หนึ่งเป็นพิเศษ สายตาเขาจะแค่เหมือนมองผ่านๆชมนกชมไม้

ดูหู*****หูตั้งหน้าผากย่น คือสนใจ
หูลู่ๆหน่อยเขาก็ผ่อนคลายลง
แต่เวลาหมากลัวกังวล หูก็ลู่เหมือนกันแต่จะตามมาด้วยตาลอกแลก เลียปาก หลบสายตา

ปาก***ปากอ้าเล็กน้อย หายใจผ่านทางปากเป็นจังหวะสม่ำเสมอ อันนี้คือผ่อนคลาย ถ้าลิ้นห้อยออกมาด้วย ก็ยิ่งผ่อนคลาย
แต่ถ้าหุบปาก ตาจ้อง คอยกเกร็ง อันนี้แปลว่่าไม่สงบแล้ว

คอ******เวลาเดิน คอก้มเล็กน้อยอยู่ระดับเส้นสันหลัง หรือสูงกว่าเล็กน้อย อันนี้เดินแบบสงบ แต่ถ้าคอยกสูงเหมือนชะเง้อมอง สนใจ เพ่ง อันนี้หมาไม่สงบ

ขนแผงคอ ขนหลัง***ถ้าหมาก้าวร้าว สู้ ก็จะมีขนคอขนหลังตั้งชัน เห็นสีชัดขึ้นโดยเฉพาะเส้นกลางหลังสำหรับหมาขนเกรียน

เสียงหายใจ****หายใจต้องเป็นจังหวะปกติ ไม่เร็วเกินไป อันนี้หมาผ่อนคลาย
ยิ่งตื่นเต้นจังหวะการหายใจก็จะเร็วขึ้นสั้นขึ้น เสียงดัง
ไม่นับเวลาหมาเหนื่อยร้อนแล้วหอบนะคะ อันนี้จะเร็วสั้นถี่ เสียงดังพร้อมอ้าปากกว้าง ลิ้นห้อยยาว ตาตี่ๆ

การถ่ายน้ำหนักตัว *** เวลาหมายืนหรือนั่ง ถ้าหมาถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ขาคู่หน้า อันนี้คือหมาไม่สงบ เขาอยู่ในภาวะalert mode จะเห็นร่วมกับอกแอ่น ตัวโน้มไปข้างหน้าพร้อมพุ่งได้เสมอ
แต่ถ้าเขาผ่อนคลาย เขาจะทิ้งน้ำหนักไปขาคู่หลัง หรือ นั่งแบบทิ้งน้ำหนักไปที่สะโพก หน้าจะไม่พุ่งเหมือนนักว่ิงเตรียมตัวพุ่งออกจากจุดstart

เกร็งตัวของกล้าเนื้อ***ถ้าตัวแข็งๆเกร็งๆ กล้ามเนื้อชัดขึ้น จับแล้วตัวแข็งๆเกร็ง ดูตัวเกร็งๆ อันนี้ไม่สงบ

หาง ****สำหรับหมาหางโผล่เล็กน้อย หรือ หมามีหาง จะดูเด่นๆแค่ระดับหาง ถ้าหางยกสูง หมาจะอยู่ในภาวะสนใจ alert ตื่นเต้นหรือวางอำนาจเหนือ ไม่ได้สงบ
แต่ถ้าหางอยู่ระดับเส้นกลางลำตัว หรือตกลงเล็กน้อย อันนี้ผ่อนคลาย สงบลึก สงบจริง
แต่ถ้าหางจุกตูด ก็คือกลัว ไม่มั่นใจ

------

นั้นเอง เวลาหญิงเน้นว่า "หมานั่งสงบหน้าประตู หมาสงบแล้วค่อยสั่งให้เขาก้าวข้ามประตูมา"

นั่นคือ หมาต้องนั่ง แล้วนั่งแบบสงบ
หลายคนคิดว่า แค่หมานั่ง ก็จบแล้ว แต่ไม่ยอมดูอย่างอื่นเลย หมาตัวเกร็งเชียว ปากหุบ ตาจ้อง ตัวโน้มไปข้างหน้าเตรียมพุ่ง เราก็คิดว่า แค่นั่งก็ถือว่า OK คราวนี้พอเริ่มก้าวเดินต่อ หมาก็พุ่งดึงสายจูงอยู่ดี
ก็เพราะหมานั่งก็จริงแต่นั่งแบบไม่สงบ ไม่ว่าจะนั่งนานเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้ายังไม่สงบ ก็ต้องรอจนกว่าจะสงบ

หมานั่งแบบสงบคือ นั่งแบบผ่อนคลาย ปากอ้า ตาไม่จ้องไปที่ใดที่หนึ่ง ไม่มองหาสิ่งวัตถุเบื้องหน้า ตัวไม่เกร็ง น้ำหนักนั่งที่สะโพก ตัวไม่พุ่ง หายใจปกติไม่ถี่ นี่คือนั่งแบบสงบ

นั้นเอง การจะอ่านภาษากายหมาให้ออก เราก็ต้องหัดสังเกต และหูไว ตาไว นั้นเองเราถึงต้องมีสติตลอดเวลา ดูทั้งภาษากายหมาของเรา แถมต้องดูภาษากายหมาของคนอื่นที่จะเข้ามาทักทายหมาของเราด้วย เป็นต้นน







โดย: Yoja&Jiji วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:20:28:33 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณหญิง. หลังจากหายไปซักพัก ก้อมีปัญหามาให้ช่วยอีกแล้ว. เทร็กซ์ก้อยัง nervorsกันคนแปลกหน้าเหมือนเดิม. บางทีพาไปเดินที่ๆมีคนเยอะๆ เพราะหวังว่าเค้าจะได้ชินกับคนมากขึ้น. แล้วคนจะชอบเข้ามาจับเค้า.เบลล์กับสามีก็ต้องคอยบอกว่าห้ามจับนะ เพราะเค้าอาจจะกัดได้. แต่บางทีระวังไม่ทัน..อย่างเช่นกำลังเลือกซื้อของอยู่ เทร็กซ์ก็นั่งรออยู่กับสามีทางด้านหลัง.อยู่ดีๆก็มีคนจะมาลูบหัวเทร็กซ์ๆ ตั้งท่าจะงับมือเค้าเลย. พอจะมีวิธีไหนมั้ยคะที่จะทำให้เค้าสงบเวลาคนมาจับตัวเค้า.โดยเฉพาะคนที่อยู่ดีๆก้อเดินมาจับเลย.โดยไม่ขออนุญาติเราก่อน

หลังจากที่ลองใช้แบคแพคแล้วเทร็กซ์เดินดีขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา.แต่มาอาทิตย์นี้นิสัยกลับไปแย่เหมือนเดิมอีกแล้ว ดึงสายจูง recall แย่มาก heel ก้แย่. แล้วก้อเห่าคนในหมุบ้านอีกแล้ว (ทั้งๆที่เบลล์พาเทร็กซ์เดินผ่านบ้านเค้านะ ไม่ใช่เค้ามาผ่านหน้าบ้านเรา).เบลล์สังเกตว่าเวลาพาเค้าไปในที่ๆมีคนเยอะๆเวลาเราเดินผ่านใคร หรือมีคนเดินสวนมาเทร็กซ์จะไม่เห่า.แต่เวลาพาเดินในหมุ่บ้าน ถ้าเจอคนๆเดียวหรือสองคน เทร็กซ์จะเห่าเค้า.เบลล์ก้อฉกเทร็กซ์นะ ฉกทีก้นั่งลงที. เบลล์กับสามีพาเทร็กซ์ไปไหนมาไหนด้วยตลอดเท่าที่จะทำได้เพราะอยากให้เทร็กซ์คุ้นกับที่ๆคนเยอะๆ แต่ไม่รู้จะทำยังไงให้เทร็กซ์นิสัยดีขึ้น.

เบลล์พาเทร็กซ์ออกกำลังกายวันละสองรอบ.เบลล์จะปล่อยวิ่งอิสระประมาณ 30 นาที แถวบ้านที่อยู่จะเป้นภูเขาลูกเล็กบ้าง ใหญ่บ้างก้อให้วิ่งขึ้นลงไป.เทร็กซ์ก้อวิ่งไล่กระต่ายป่าบ้าง วิ่งดมกลิ่นไปเรื่อยเปื่อยบ้าง.พอเค้าวิ่งเหนื่อยจนลิ้นห้อย เบลล์ก้อจะพาเดินโดยใส่แบคแพค ใส่น้ำหนักข้างละ 1.5 กิโล(เทร็กซ์หนักประมาณ 20 กิโล).แล้วเดินอีกประมาณ 30 - 45 นาที.พอกลับมาก็จะให้อาหาร.แล้วหลังจากนั้นถ้าอยุ่บ้านไม่ได้ไปไหน เทร็กซ์ก็จะนอนทั้งวัน.แต่ถ้าออกไปข้างนอกเทร็กซ์ก้อจะตื่นเต้นเมื่อเจอคนเยอะๆหรือเจอหมาตัวอื่น.เบลล์อยากให้เทร็กซ์สงบเหมือนเวลาที่อยู่บ้าน.

เบลล์เคยทดลองใช้แบคแพคเวลาไปในที่ๆมีคนเยอะ เพราะคิดว่าเค้าจะเข้าสู่ working mode แล้วจะนิ่งขึ้น แต่ไม่เลย.แต่เวลาอยุ่ในบ้านเทร็กซ์เป็นหมาที่ดีมากนะคะ.นั่งคอยทุกประตู จนกว่าจะบอกให้เข้ามาได้.บอกให้อยู่บนที่นอนก็อยู่ได้.ตอนเช้าเบลล์ตื่นตอนไหนเค้าก้อตื่นตอนนั้น.ไม่เคยปลุกไม่เคยร้องเรียกให้พาไปฉี่ข้างนอก.

เบลล์กับสามีไม่รู้ว่าทำอะไรผิดไป.ทำไมเทร็กซ์ถึงกลับไปนิสัยแย่เหมือนเดิม ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ดีขึ้นมาเยอะแล้ว.

ขอบคุณพี่หญิงล่วงหน้านะคะ
เบลล์


โดย: เบลล์ IP: 90.216.133.165 วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:3:46:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ เบลล์

"พอจะมีวิธีไหนมั้ยคะที่จะทำให้เค้าสงบเวลาคนมาจับตัวเค้า.โดยเฉพาะคนที่อยู่ดีๆก้อเดินมาจับเลย.โดยไม่ขออนุญาติเราก่อน"

---ไม่มีทางลัดค่ะ ทุกอย่างต้องฝึก ต้องใช้เวลาค่ะ
ถ้าคุณเบลล์หรือ คุณสามี สติหลุดสักคน หรือ คนใดคนหนึ่งไม่นิ่ง กลัว กังวล จะมีผลต่อน้องหมาเสมอ หมาก็จะเริ่มไม่น่ิง ไม่ไว้ใจสถานการณ์ เพราะคน (คนใดคนหนึ่ง หรือ ทั้งสองคน)เริ่มไม่นิ่ง

นั้นเอง ต้องฝึกค่ะ ฝึกความนิ่ง ความไว ความช่างสังเกตของเรา และ หมาก็ต้องฝึกด้วยว่า สถานการณ์ไหนเราจะให้เขาทำตัวอย่างไร
จะให้หมาทำตัวอย่างไร เราต้องสอนเขานะคะ
นั้นเอง ถึงเร่งไม่ได้ .....

---------
"ใช้แบคแพคแล้วเทร็กซ์เดินดีขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา.แต่มาอาทิตย์นี้นิสัยกลับไปแย่เหมือนเดิมอีกแล้ว ดึงสายจูง recall แย่มาก heel ก้แย่"

--เวลาหมานิสัยเปลี่ยน พฤติกรรมเปลี่ยน เราต้องกลับมาย้อนดูภาวะอารมณ์เราเลยนะคะว่ามีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่าที่ทำให้เราไม่นิ่ง เพราะถ้าเราไม่นิ่ง หมาก็ไม่นิ่ง

ถ้าอาทิตย์นี้หมาเดินแย่ คุมยาก ก็แปลว่า อาทิตย์นี้ เราสภาวะอารมณ์ไม่ปกติ

เช่น พอหมาเร่ิมคุมยาก เราก็เริ่มจะตกใจว่า เราทำอะไรผิดไปหว่า หมาทำไมถึงคุมยาก เดินแย่ เป้ก็ซื้อให้แบกแล้ว พอวิตกจริต ใจก็แป้ว พอใจแป้ว หมาก็จะยิ่งคึก พอหมายิ่งคึก คุณก็ยิ่งผิดหวัง เริ่มหงุดหงิด เริ่มเซ็งว่า เราจะต้องกลับไปนับหนึ่งอีกหรือ เริ่ม upset กับตัวเอง ยิ่งเราแป้วทวีคูณ หมาก็คึกทวีคูณ คราวนี้ คุณสามีหงุดหงิดอีก กลายเป็นพลังหงุดหงิดคูณสอง คราวนี้หมายิงกร่าง ออกลายเลย

เห็นไหมค่ะ เราไม่นิ่งต่่างหาก หมาก็เลยไม่นิ่ง
เพราะฉะนั้น ต้องควบคุมอารมณ์ใหม่ทั้งคู่ค่ะ ลืมภาพอดีต หรือ อาทิตย์แย่ๆที่ผ่านมาให้หมด ให้หัวโล่งๆค่ะ
ยิ่งเรามีภาพแย่ๆในหัว ใจเรายิ่งแป้วนะคะ มันเป็นอัตโนมัติ บางทีเรายังไม่รู้ตัวเลย แต่หมาเขาไวนะคะ เขารู้ว่าเบื้องลึกแล้วเรามีอารมณ์อย่างไร

อย่าท้อนะคะ ก็ฝึกทุกอย่างเหมือนเดิม เพียงแต่หัวต้องโล่ง โล่งทั้งคู่เลย โล่งคนเดียวไม่ได้นะคะ

----

"เวลาพาเค้าไปในที่ๆมีคนเยอะๆเวลาเราเดินผ่านใคร หรือมีคนเดินสวนมาเทร็กซ์จะไม่เห่า......แต่เวลาพาเดินในหมุ่บ้าน ถ้าเจอคนๆเดียวหรือสองคน เทร็กซ์จะเห่า"

---เวลาคุณเบลล์พาไปเดินนอกเขตหมู่บ้าน ในที่ชุมชนอื่นๆ ไม่มีใครรู้จักคุณ คุณไม่ต้องใส่หัวโขน ไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะเขาไม่รู้ว่าคุณคือใครอยู่ที่ไหน นั้นเองทำให้คุณโล่ง ผ่อนคลาย ไม่เครียด หมาก็จะเดินดี เพราะคนไม่เครียด

แต่พอในหมู่บ้าน คุณมีตัวตนในหมู่บ้าน คนเขารู้ว่าคุณอยู่บ้านนี้ หมาตัวนี้ คุณก็จะเกรงใจเพื่อนบ้านในหมู่บ้านเป็นพิเศษ นั่นเองคุณจะเกร็ง ไม่อยากทำผิดพลาด หรือ มีหัวโขนสวมอยู่นั้นเอง
ก็เพราะคุณไม่ผ่อนคลาย คุณมีความพะวงอะไรก็ตามแต่ในหัว หมาเขารู้นะคะ ว่าคุณสติหลุดแล้ว ภาวะอารมณ์ไม่เหมาะที่จะคุมพื้นที่บ้านแล้ว นั้นเองหมาจึงเข้าสู่โหมดปกป้องพื้นที่บ้านแทนคุณ นั้นเองหมาก็เลยเห่าคนเดินผ่่าน

พฤติกรรมหมาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเห่า หรือ ขู่ ทุกอย่างที่หมาทำ ...เราเป็นต้นเหตุนะคะ...เพราะฉะนั้น ก่อนจะควบคุมหมา ...เราต้องควบคุมจิตใจเราให้ได้ก่อน

----------
"แต่ถ้าออกไปข้างนอกเทร็กซ์ก้อจะตื่นเต้นเมื่อเจอคนเยอะๆหรือเจอหมาตัวอื่น.เบลล์อยากให้เทร็กซ์สงบเหมือนเวลาที่อยู่บ้าน"

---หมาเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ กลิ่นใหม่ๆ เขาก็จะมีความตื่นเต้นกว่าปกติค่ะ
เราพาเขาออกมาบ่อยๆ เราคุมเขาให้อยู่ในทุกๆสถานการณ์ เขาก็จะสงบเองค่ะ นั้นเอง ต้องฝึกทั้งเรา และ ฝึกทั้งหมา ถ้าเราคุมได้ แต่มีพลาดบ้าง หลุดบ้าง หมาก็จะไม่นิ่งเหมือนอยู่บ้้านค่ะ ที่หมานิ่งตอนอยู่บ้าน เพาะเราคุมอยู่ทุกสถานการณ์ในบ้าน หมาก็เลยนิ่ง แต่ถ้าอยู่นอกบ้านแล้วเราเอาอยู่ทุกสถานการณ์ หมาก็จะนิ่งเหมือนอยู่ในบ้านค่ะ
---------

สู้ๆนะคะน้องเบลล์

ทุกอย่างน้องทำดีเพอร์เฟคแล้วค่ะ แก้อีกนิดเดียวคือ "คุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ อย่าหลุด ต้องเช็คอารมณ์ตัวเองเสมอว่า เรานิ่งจริงหรือเปล่า มีอะไรที่ทำให้เรากังวล หรือ สวมหัวโขนหรือไม่"








โดย: Yoja&Jiji วันที่: 13 เมษายน 2555 เวลา:20:47:56 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่หญิง

กลับมาอัพเดทหลังจากหายไป 10 วัน. เทร็กซ์กลับไปนิสัยเหมือนเดิมแล้ว..เบลล์ไม่รู้ตัวเองเลยจริงๆว่าจิตใจไม่สงบเอง หมาเลยนิสัยเปลี่ยนไป5555.

ตอนนี้ทุกอย่างดีขึ้นมากนะคะพี่หญิง.มีก็แต่ปัญหาเดิม คือ ยังไม่ชอบคนแปลกหน้าบางคน.ก็คงต้องฝึกกันต่อไป.

มีบางอย่างอยากถามพี่หญิง ตอนที่ไปรับเทร็กซ์มาวันแรก เค้าขู่สามี แต่ไม่เคยขู่เบลล์. ขู๋สามีมาตลอด แต่ที่เบลล์คิดว่ามันแปลกๆ คือ สามีจะชอบไปสูบบุหรี่ตรงหน้าเตาผิง เทร็กซ์ก็จะตามไปนั่งใกล้สามี เลียแขน เลียขา เลียหน้าบ้าง พอสามีลูบหัวหรือเกาพุงเค้ากลับ.เทร็กซ์ก้จะขู่ค่ะ. แต่พักหลังๆดีขึ้นมาก จะขู๋สามีเฉพาะตอนที่เค้าอยู่บนที่นอนเค้าแล้วๆสามีไปลูบหัวเพื่อบอกกู๊ดไนท์ แต่พอเบลล์ไปลูบหัวเค้าเพื่อบอกกู๊ดไนท์ เทร็กซ์ก้อปกติ. ไม่เคยขู่เบลล์เลย.แต่ถ้าวันไหนที่เทร็กซ์ขู่สามีเยอะๆ เค้าก้อจะจับเทร็กซ์กดนะคะ.

แต่เวลารับคำสั่ง เทร็กซ์จะตอบสนองสามีดีกว่า อย่างเช่น recall สามีเรียกคำเดียวมาเลย แต่กับเบลล์ก้อจะเรียกประมาณ 3 ครั้งถึงมา.เบลล์เดาว่า เทร็กซ์เห็นสามีเป็นลีดเดอร์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าขู่สามี แต่ไม่ขู่เบลล์

เบลล์พยายามทำตัวให้เป้นจ่าฝูงเมื่ออยู่ในบ้านและนอกบ้าน.ให้นั่งรอก่อนเข้าประตู ให้นั่งคอยก่อนให้อาหาร เวลาเดินก็ให้เดินเยื้องๆไปข้างหลัง. คือก้พยายามทำทุกอย่างอ่ะนะคะพี่หญิง.แต่เวลาไปข้างนอกส่วนใหญ่สามีจะเป้นคนจูงเทร็กซ์. แล้วก้มีอีกอย่าง เวลาสามีแกล้งหยอกเบลล์แบบเจ็บๆ เบลล์ก้จะแกล้งร้องแบบเจ็บๆ เทร็กซ์ก็จะเข้ามาเห่า หรือมางับๆสามีเลย.แต่ในทางกลับกัน ถ้าเบลล์แกล้งตีสามีแรงๆแล้วสามีร้อง เทร็กซ์ก็จะไม่สนใจอะไร. ที่เทร็กซ์ทำอย่างงี้เพราะเห็นเบลล์อ่อนแอหรือเปล่าคะพี่หญิง.

ขอบคุณค่ะ



โดย: เบลล์ IP: 94.7.1.196 วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:3:18:55 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์

น้องเบลล์กับคุณสามี ทำได้ทุกอย่างเยี่ยมยอดแล้วค่ะ เหลือแต่เก็บตกนิดๆหน่อยๆ เวลานอ้งหมาอยู่ในบ้าน และเมื่ออยู่ในบ้าน ถ้าน้องเบลล์เก็บตกในบ้านได้ทุกเม็ด ก็จะทำให้เรื่องอยู่นอกบ้านดีขึ้นเร็วค่ะ

พี่เน้นเสมอว่า เป็นจ่าฝูงต้องเป็น 100% และ 24/7
ถ้าสถานการณ์ไหน เวลาไหน หมากร่าง ขู่ แปลว่าเวลานั้นเราหลุดตำแหน่งจ่าฝูงไป ณ เวลานั้นๆ เรามีพลาดแค่บางเวลา แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า เราเป็นจ่าฝูงไม่สำเร็จเลยที่ผ่านมา
ก็คือ น้องเป็นจ่าฝูงได้ถึง 90% เหลือเก็บตก 5% ตอนอยู่นอกบ้านพบคนแปลกหน้า และ4% หมาหวงน้องเบลล์ และ 1% หมาขู่สามีตอนลูบหัวตอนเขานอนที่เบาะ

อย่าท้อนะคะ เบลล์ทำได้ดีมาก เหลือเก็บตกนิดหน่อยเอง ----------------

"กลับมาอัพเดทหลังจากหายไป 10 วัน. เทร็กซ์กลับไปนิสัยเหมือนเดิมแล้ว..เบลล์ไม่รู้ตัวเองเลยจริงๆว่าจิตใจไม่สงบเอง หมาเลยนิสัยเปลี่ยนไป"


---และการที่หมากร่างขึ้น เริ่มปีนเกลียวขึ้น หมายถึง

10% ที่น้องต้องเน้นเก็บตก ที่เรายังเป็นลูกฝูงเขาอยู่ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ถ้าเราไม่รีบเก็บ ไม่รีบแก้ หมาจะเริ่มปีนเกลียว เขาจะเริ่ม"ทดลอง"แหกกฎในเรื่องอื่นๆ นั่นคือ จาก 10% ที่เขาเป็นจ่าฝูง เขาจะขอเพิ่ม เป็น 12% ถ้าน้องยังไม่รีบปรับแก้ เขาก็จะเพิ่ม % ขึ้นเรื่อยๆ นั่นเองจะทำให้เจ้าของท้อ และเสียกำลังใจ เริ่มผิดหวัง ยิ่งมีอารมณ์พวกนี้มากขึ้น น้องยิ่งเสียเปรียบ เพราะอารมณ์ลบแบบนี้ยิ่งทำให้น้องอ่อนแอ เขาก็จะปีนเกลียวในเรื่องอื่นๆได้ง่ายขึ้น
ก่อนอื่นอย่าท้อ ตั้งสติ และเริ่มเก็บตกส่วนที่เราขาด
-----------
"ตอนที่ไปรับเทร็กซ์มาวันแรก เค้าขู่สามี แต่ไม่เคยขู่เบลล์."

-หมาเขารู้ค่ะว่า สองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใครอ่อนแอ ใครเข้มแข็ง หรือ ใครเข้มแข็งแต่ตึงเครียดไม่ผ่อนคลาย

นั่นคือ สามีเข้มแข็งแต่ตึงเครียด นั่นหมายถึงผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้วางใจ เขาต้องป้องกันตัว แต่การที่เขาขู่ แต่เขาก็ยอมให้สามีลูบตัว แต่ก็บางจังหวะขู่ตอนอยู่หน้าเตาผิง แปลว่าที่เขาขู่ในวันแรกที่ไปรับเขา จริงๆแล้วเขาไม่ได้เป็นหมาที่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ ออกจะกล้าๆกลัวๆด้วยซ้ำ

แต่วันที่ไปรับ น้องอยู่ในภาวะอ่อนแอ น้องสงสาร ดีใจ ตื่นเต้น ตื้นตันอะไรก็ตามแต่ นั่นคือความอ่อนแอ หมาก็ไม่มีเหตุจำเป็นต้องท้าสู้กับน้อง เพราะน้องไม่่มีพิษภัยกับเขา เขาก็เลยไม่จำเป็นต้องป้องกันตัวเอง ณ เวลานั้น

แต่ที่หมาขู่แฟน แฟนมีภาวะที่ตึงเครียดมากเกินไป สงบก็จริง แต่ไม่ผ่อนคลาย พอคนไม่ผ่อนคลาย หมาก็ไม่ผ่อนคลาย เขาก็เริ่มไม่มั่นใจกับสถานการณ์ ก็เลยป้องกันตัวแค่ออกเสียงขู่ บางทีเสียงขู่ก็เป็นการสื่่อสารอีกรูปแบบคือ เขากำลังกลัวนะ กำลังไม่มั่นใจนะ อย่าเพ่ิงเข้าใกล้ฉัน แต่คนมักจะมองว่า เสียงขู่ หมาถึง ก้าวร้าวเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าในวันนั้น คุณแฟนนิ่ง สงบ แต่ผ่อนคลาย หมาจะไม่ขู่เลย จะกลับเขาบ้านแบบมีปัญหาพฤติกรรมน้อยมากที่ต้องแก้

ถือว่าโชคดี ที่หมาตัวนี้มีแค่ภาวะอารมณ์ความไม่มันใจ แต่ไม่ก้าวร้าวถึงกับขั้นกล้ากัดจริง ไม่เช่นนั้น ในวันแรกที่เจอ ไม่ว่าจะเป็นคุณแฟนหรือน้อง ก็อาจถูกกัดไปแล้ว เพราะอารมณ์ทั้งสองคนกระตุ้นให้หมากัดได้ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดไม่ผ่อนคลายของแฟน หรือ ความอ่อนแออ่อนไหวของน้อง

หมาเป็นอย่างไร แปลว่าเจ้าของเป็นอย่างนั้น

หมาไม่มันใจ ขี้ระแวง เครียดง่าย อารมณ์คาดเดายาก แปลว่าคนในบ้านเป็นแบบนั้น
ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือนอ้งก็ตาม ต้องมีคนใดคนนึงที่ไม่มั่นใจในตัวเอง กล้าๆกลัวๆ ขี้กังวลระแวง และมีสักคนที่อารมณ์ขึ้นๆลงง่าย เครียดง่าย ไม่ค่อยจะผ่อนคลาย

ถ้าอยากให้หมาเพอร์เฟคสมบูรณ์ คนในบ้านต้องกำจัดจุดอ่อนของตัวเองให้หมด ถ้าทุกคนในบ้านสงบ ผ่อนคลาย มั่นใจ หมาก็จะสงบ ผ่อนคลายตาม เพราะเขาไม่จำเป็นต้องระแวงใคร ไม่จำเป็นต้องปกป้องใครเพราะแต่ละคนปกป้องตัวเองได้ เขาก็จะเข้าสู่โหมดผู้ตาม 100% เพราะคนในบ้านเป็นจ่าฝูง100% ได้สำเร็จ

---------
"สามีจะชอบไปสูบบุหรี่ตรงหน้าเตาผิง เทร็กซ์ก็จะตามไปนั่งใกล้สามี เลียแขน เลียขา เลียหน้าบ้าง พอสามีลูบหัวหรือเกาพุงเค้ากลับ.เทร็กซ์ก้จะขู่ค่ะ. แต่พักหลังๆดีขึ้นมาก"

---เมื่อคนแสดงความเป็นจ่าฝูงให้เขาเห็นบ้างจากการพาเดิน และควบคุมกฎอื่นๆของบ้าน สามีก็มั่นใจ ก็จะตามมาด้วยความผ่อนคลายมากขึ้น หมาก็ผ่อนคลาย ก็จะขู่น้อยลง เพราะคนผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อคนมั่นใจในตัวเอง หมาก็มั่นใจในตัวเอง ไม่ต้องหวาดระแวงแต่อย่างใด
ก่อนอื่นเราต้องเก็บตก % ที่เราพลาดไป

ระหว่างเกาพุง เกาตัว มีจุดไหนเขาหวงตัวเป็นพิเศษหรือเปล่า เขาถึงมีขู่ เราก็ต้องแก้ จุดไหน จังหวะไหนลูบแล้วขู่ ก็ต้องลูบต้องจับจนกว่าเขาจะยอม ทำตามในบทความ

เมื่อน้องหมาไม่ยอมให้จับตัว ......เราจะทำยังไงดี?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=13-01-2010&group=6&gblog=52

และระหว่างนี้ น้องก็ต้องช่วยสามีด้วย
หมาจะได้เห็นว่า ฝูงนี้คนร่วมมือกันเตือนหมา หมาก็จะเคารพคนทั้งสองคนเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเลือกปกป้องฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ น้องคุมหมาไม่อยู่ไม่ว่่าสถานการณ์ไหนก็ตาม คุณสามีก็ต้องเข้ามาช่วยเตือนหมา หรือ ในสถานการณ์ที่หมาขู่สามีหน้าเตาผิง หรือ ตอนลูบตัว น้องก็ต้องส่งเสียงเตือนหรือร่วมฉกเตือน
คนต้องร่วมมือกัน แล้วหมาจะเจียมตัวมากขึ้น

----------------
" จะขู่สามีเฉพาะตอนที่เค้าอยู่บนที่นอนเค้าแล้วๆสามีไปลูบหัวเพื่อบอกกู๊ดไนท์ แต่พอเบลล์ไปลูบหัวเค้าเพื่อบอกกู๊ดไนท์ เทร็กซ์ก้อปกติ. "

-- หมาหวงที่นอนหรือเปล่า

หมาที่ไม่มั่นใจในตัวเอง เขาจะหาที่ที่หนึ่งที่เขาอยู่แล้วเขามั่นใจมากขึ้น พอเขามั่นใจในตัวเองมากขึ้น เขาก็จะกล้ากร่าง กล้าขู่ กล้าขัดใจคน เช่น

หมาที่ไม่มั่นใจ เมื่อได้ซ่อนอยู่ใต้ตู้ จะก้าวร้าว จะขู่ จะกัด เขาจะหมกอยู่ที่ใต้ตู้ เพราะเขาอยู่แล้วมั่นใจ

หรือ หมาที่ไม่มั่นใจ พอได้กระดูกสำหรับแทะ เขาก็จะมั่นใจ เขาก็จะหวงกระดูก พอเราจะขอกระดูกคืน เขาก็ขู่ จะกัด คนก็กลัว เขาก็ได้ใจว่า ถ้าเขามีกระดูกใกล้ตัว จะทำให้คนถอยหนี ไม่กล้าขัดใจเขา

เป็นไปได้ว่า เขาจะมีการติดที่นอนเขาเล็กๆ ที่นอนเป็นของเขา เขาได้ครอบครองแล้วเขามั่นใจ เขาก็กล้ากร่างกับบุคคลที่ทำให้เขากลัวได้มากที่สุด ก็คือ กล้ากร่างกับคุณสามี

เราทั้งคู่ ร่วมทั้งสามี ต้องฝึกอ้างสิทธิ์ในที่นอนของเขา เช่น เขาอยากขึ้นนอนที่เบาะ แต่เราไม่ให้เขาขึ้นไปนอน ให้เขารอสักชั่วโมง ให้นอนข้างๆเบาะแต่ไม่ให้ขึ้น พอผ่านไปชั่วโมงก็ค่อยให้ไปนอนที่เบาะ หรือ พอเขานอนที่เบาะแบบสบายๆ เราก็ไล่เขาออกจากเบาะ ให้ไปนอนพื้นแทน หรือ เบาะวางอยู่แต่ไม่ให้นอน วางยั้วหมาไว้อย่างนั้น หรื อพอหมานอนอยู่ก็ไล่เขาลงไป แต่เราขึ้นไปนั่งบนเบาะแทนแต่หมาอยู่ที่พื้น
ฝึกแบบนี้ คือการฝึกอ้างสิทธิ์ในเบาะ ใครก็ตามที่ทำตามใจตัวเองบนเบาะได้ คนนั้นคือเจ้าของเบาะ ถ้าเราทำตามใจกับเบาะ เราก็เป็นเจ้าของเบาะ ส่วนหมาทำตามใจตัวเองไม่ได้ เขาก็สละสิทธิ์จากความเป็นเจ้าของเบาะ เมื่อหมาไม่ได้เป็นเจ้าของเบาะ เขาก็ไม่หวงเบาะ เพราะเบาะเป็นของเรา เขาก็ไม่กล้ากร่างในวัตถุที่ไม่ใช่ของเขา

เวลาอ้างสิทธิ์ จำไว้ว่า วัตถุหรือเบาะต้องอยู่ที่เดิม แต่หมาต้องเป็นฝ่ายเดินจากไปด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ใช้กำลังยื้อแย่งเบาะหรือใช้กำลังบังคับลากเขาออกจากเบาะ

ฝึกเหมือนอ้างสิทธิ์จานอาหารหมา

ฝึกตามรูปแบบที่ 1 ยืนคร่อมเบาะ
Feeding ritual 2 [claiming food or objects]
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=13-01-2009&group=6&gblog=31

และระหว่างนี้ ถ้าหมามีเสียงขู่แฟน ไม่ว่าตอนไหน น้องก็ต้องร่วมเตือนหมาด้วย
คนต้องร่วมมือกัน

-------------
"แต่เวลารับคำสั่ง เทร็กซ์จะตอบสนองสามีดีกว่า อย่างเช่น recall สามีเรียกคำเดียวมาเลย แต่กับเบลล์ก้อจะเรียกประมาณ 3 ครั้งถึงมา.เบลล์เดาว่า เทร็กซ์เห็นสามีเป็นลีดเดอร์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเค้าขู่สามี แต่ไม่ขู่เบลล์"

-หมาเคารพสามีมากกว่าเบลล์ค่ะ
น้องต้องฝึกเรื่อง Recall ดีๆนะคะ และต้องซีเรียสกับคำสั่งอื่นๆด้วยที่นอกเหนือคำสั่งRecall เช่น ถ้าสั่งให้หมานั่ง หมาก็ต้องนั่งตรงนั้นทันที ไม่มีลุกไปไหน ถ้าน้องมีอนุโลมให้หมาแหกกฎ หรือ อนุโลมให้หมาทำตามสั่งของน้องแบบไม่สมบูรณ์ หมาจะเคารพน้องลงลงทันที และ เขาก็ไม่จำเป็นที่เวลาน้องเรียกแล้วต้องมาหาทุกครั้ง หรือ มาหาทันที เพราะในคำสั่งอื่นๆเขาก็ไม่จำเป็นต้อง Take it seriously เพราะน้องก็ไม่Take it seriously กับคำสั่ง

ถ้าอยากให้หมาซีเรียสกับสิ่งที่น้องสั่ง น้องก็ต้องซีเรียสกับคำสั่งที่น้องได้สั่งไป ถ้านอ้งสั่งให้หมาหมอบบนพื้น แต่หมาก็ยืนอยู่ 10 นาทีก็ไม่หมอบ น้องก็ต้องฝึกจนกว่าหมาจะหมอบ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่นาทีก็ตาม อย่าปล่อยผ่านไป เพื่อให้หมารู้ว่า ถ้าสั่งแล้วเขาต้องทำ เขาไม่มีทางเลือกอื่น เพราะเราจะไม่ปล่อยผ่านไปแน่นอน

------------------
"เวลาสามีแกล้งหยอกเบลล์แบบเจ็บๆ เบลล์ก็จะแกล้งร้องแบบเจ็บๆ เทร็กซ์ก็จะเข้ามาเห่า หรือมางับๆสามีเลย.แต่ในทางกลับกัน ถ้าเบลล์แกล้งตีสามีแรงๆแล้วสามีร้อง เทร็กซ์ก็จะไม่สนใจอะไร. ที่เทร็กซ์ทำอย่างงี้เพราะเห็นเบลล์อ่อนแอหรือเปล่าคะพี่หญิง."

--ใช่ค่ะ เบลล์ยังอ่อนแออยู่ในสายตาสุนัข เขาถึงต้องเข้าสู่โหมดปกป้อง เขายังปล่อยวางผ่อนคลายแบบหมาปกติไม่ได้ แต่คุณสามีมั่นใจในตัวเอง เขาก็ไม่จำเป็นต้องปกป้องสามี เพราะฉะนั้นน้องก็ต้องเข้มแข็งในเรื่องภาวะอารมณ์ เพื่อให้หมาไม่ต้องทำหน้าที่ปกป้องใคร เขาจะได้ปล่อยวางได้
เราอย่าดีใจไปว่า เราจะได้หมาแบบหมาอารักขา เหมือนสุนัขตำรวจนะ คนละเรื่อง

หมาอารักขา เขาถูกฝึกมาให้ทำหน้าที่ปกป้อง เพราะฉะนั้นจะเหมือนมีสวิตปิดเปิด สั่งให้ปกป้องได้ สั่งให้หยุดได้ทันที และในเวลาอื่นๆเขาก็เชื่อฟังคำสั่งเจ้านาย 100%
แต่เราคนธรรมดา ฝึกหมาไม่ได้อย่างนั้น หมาจะปกป้องเจ้านายแบบในฐานะคนอ่อนแอ หมาก็เลยคอยคุมสถานการณ์เอง และเมื่อหมาคุมสถานการณ์เอง หมาก็จะไม่จำเป็นต้องฟังคน เพราะคนเป็นลูกฝูง นั่นเองหมาจะทำเกินหน้าที่ จะเป็นอันตรายต่อคนในครอบครัว และคนแปลกหน้าตามทางเดิน (เมื่อไหร่น้องใจแป้วปุ๊ป เขาจะปกป้องทันที อันนี้ทำเกินหน้าที่ ไม่มีสวิตเปิดปิด ซึ่งไม่ดี)

จะไม่เหมือนสุนัขอารักขาที่เขาจะมีสวิตเปิดปิด สั่งได้ทันที เพราะคนยังคุมสถานการณ์ ที่หมาเข้าปกป้องเจ้านาย เขาปกป้องในฐานะ เขาเป็นลูกฝูงปกป้องเจ้านาย
แต่ของเรา หมาเป็นนายแต่ปกป้องลูกฝูงเบลล์ที่อ่อนแอ

ผลต่างกันนะ เพราะฉะนั้นเราต้องแก้เรื่องนี้ให้หมดไป
หมาอารักขา สุนัขตำรวจ เจอคนแปลกหน้าก็ไม่พุ่งกัดทันที จนกว่าเจ้านายจะสั่ง
แต่หมาของเรา เจอคนแปลกหน้า หรือเมื่อไหร่เราใจแป้ว หมาก็จะจู่โจมคนแปลกหน้าหรือคนที่ทำให้เราแป้วทันที ไม่รอคำสั่ง เพราะเขาไม่ฟัง แม้น้องจะสั่งให้หยุดก็ไม่ฟัง เพราะน้องอยู่ในฐานะลูกฝูงไปแล้วไม่มีสิทธิสั่งจ่าฝูง ณ เวลานั้นๆ

เรื่องเล่นหยอกล้อกับคุณแฟน เวลาหมาจะเข้าจู่โจมสามี น้องเบลล์ต้องห้ามหมา ต้องผลัก ดัน เอาขายันให้เขาอยู่ห่างๆ ไม่ต้องให้เขาเข้ามายุ่ง
ทำอย่างนี้ สื่อกับหมาให้รู้ว่า คนร่วมมือกัน เป็นพวกเดียวกัน เจ้าไม่ต้องมาปกป้องฉัน ฉันปกป้องตัวเองได้ เจ้าอยู่เฉยๆ ไม่ต้องมายุ่ง

่อ่าน

น้องหมาหวงเจ้าของ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=13-01-2011&group=7&gblog=63

สู้ๆนะคะ ห้ามท้อ แค่เหลือเก็บตกนิดๆหน่อยๆ เอง ที่ผ่านมาน้องทำได้สุดยอดแล้วค่ะ อย่าเพ่ิงล้มเลิกไปนะจ๊ะ




โดย: Yoja&Jiji วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:8:51:23 น.  

 
proudness มันมีคำนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ???

ปกติใช้แต่คำว่า my pride หรือ i'm proud นะ


โดย: gigi IP: 203.146.156.45 วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:13:53:53 น.  

 
"proudness มันมีคำนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ???"

ถึงจะเป็นคำที่เขาใช้กันน้อยกว่า pride แตไม่ใช่ว่า คำนี้ไม่มีอยู่ หากคุณศึกษาน้อย อ่านน้อย ค้นแต่จาก dictionary เล็กๆ คุณจะไม่ทราบว่ามันมีอยู่ และเขาใช้กันในความหมายเดียวกันกับ pride สำหรับผู้ที่สงสัย ลองดูที่ links ...

//www.thefreedictionary.com/Proudness
//thesaurus.com/browse/proudness
//www.dictionary30.com/meaning/Proudness
//www.wordnik.com/words/proudness





โดย: Yoja&Jiji วันที่: 25 เมษายน 2555 เวลา:19:31:42 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่หญิง

กลับมาอัพเดทหลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ :-)
ตอนนี้เวลาให้อาหารก็จะให้เทร็กซ์นั่งรอ แล้วพอบอกให้กินได้ซักแป๊ป เบลล์ก็จะยืนคร่อมจานอาหารแล้วก็บอกให้ leave it เค้าก็จะหยุดกิน.พอซักแป๊ปก็จะบอกให้กินได้.ทำแบบนี้สองสามครั้งในแต่ละมื้ออาหาร.

ส่วนเรื่องขู่สามี ตอนนี้อาการค่อนข้างหนักค่ะ ขู่สามีตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่จับตัวเค้า พึ่งมาเป็นหนักอาทิตย์นี้เอง.เมื่อก่อนจะขู่สามีเวลาเค้าอยู่บนที่นอน เฉพาะเวลาก่อนนอนเท่านั้น. เดี๋ยวนี้เวลาสามีเรียกไปหาก็จะอิดออดไม่ยอมไป.ทั้งๆที่เมื่อก่อนสามีนั่งตรงไหน เทร็กซ์จะหมอบอยู่ข้างๆสามีตลอด.

เมื่อคืนก็เหมือนเดิมสามีเรียกไปหา อิดๆออดๆไม่ยอมไป แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปหาสามี.พอไปถึงนั่งได้แป๊ปก็ขู่สามีๆก็จับปากเทร็กซ์ๆ ก็จะกัดค่ะ.แต่สามีจับปากไว้ค่อนข้างแน่นเลยไม่เข้าเนื้อ. แล้วหลังจากนั้นสามีก้ไล่เทร็กซ์ให้ไปอยู่ในครัว เพื่อเป็นการทำโทษ (สำหรับสามีการไล่ให้หมาไปอยู่อีกห้องที่ไม่มีคนอยู่คือการทำโทษ)

เบลล์เคยบอกสามีว่า ถ้าเทร็กซ์ขู่เค้า เราสองคนต้องช่วยกันบอกให้หยุด แต่สามีเชื่อว่า ถ้าเทร็กซ์ขู่เค้าๆต้องเป็นคนบอกให้เทร้กซ์หยุด เพราะถ้าเบลล์ช่วยบอกให้เทร็กซ์หยุดแล้วเค้าหยุด ก้จะเท่ากับคำสั่งของสามีไม่มีผลกับเทร็กซ์ แต่พอเหตุการณ์เมื่อคืนเกิดขึ้น สามีบอกว่าจะลองใช้วิธีที่พี่หญิงแนะนำดู. สามีบอกว่าพอเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีกให้เบลล์เป็นคนบอกให้เทร็กซ์ออกไปอยู่ที่อื่น เพราะเทร็กซ์เชื่อใจเบลล์มากกว่าเค้า.

พี่หญิงมีข้อแนะนำให้เบลล์บ้างมั้ยคะ ว่าเราสองคนต้องทำยังไงต่อไป.

ขอบคุณมากนะคะ


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.207.163.149 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:21:36:58 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์

น้องเบลล์และสามี ได้ลองฝึกทวงเบาะคืน และ อ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของเบาะของเทร็กซ์หรือยังค่ะ ทำเหมือนกับทวงจานข้าวค่ะ ทำที่หน้าเตาผิง ทำในสถานที่ที่มีปัญหา คือ หน้าเตาผิง
------------
"เมื่อก่อนจะขู่สามีเวลาเค้าอยู่บนที่นอน เฉพาะเวลาก่อนนอนเท่านั้น. เดี๋ยวนี้เวลาสามีเรียกไปหาก็จะอิดออดไม่ยอมไป.ทั้งๆที่เมื่อก่อนสามีนั่งตรงไหน เทร็กซ์จะหมอบอยู่ข้างๆสามีตลอด."

--ถ้าจะให้วิเคราะห์ประเมินเจ้าเทร็กซ์ใหม่ จากข้อมูลที่น้องให้วันนี้ ก็คือ

หมาเริ่มจะตั้งตนเป็นจ่าฝูงแล้ว เริ่มจะท้าทาย

เพราะการที่เขาเข้ามาหาเรา เข้ามาใน Personal space ของเราโดยที่เราไม่ได้สั่ง ที่เขาทำแบบนี้เพราะเขาคิดว่าเขาเป็นนาย เขาจะทำอะไรก็ได้ตามใจตัวเอง แต่พอสามีจะลูบหัว ก็ขู่ เพราะการลูบหัว ถือว่าเป็นการข่ม ถ้าเขาคิดว่า คุณสามีไม่ได้อยู่เหนือเขา(ณ ตอนนั้นเวลานั้น )เขาก็ถือว่า สามีทำข้ามหน้าข้ามตา ไปลูบหัวเขา ถือว่าท้าสู้

แต่เวลาเขาอยากจะนอนบนเบาะ สามีเรียกเข้าไปหา เขาก็อิดออด เพราะ ณ เวลานั้น เขาคือนาย เขาใหญ่สุด เขามีสิทธิ์ทำตามใจตัวเอง ถ้าเขาถูกบังคับ ก็ถือว่าสามีท้าสู้ เพราะลูกฝูงไม่มีสิทธิขัดใจจ่าฝูง

ถ้าหมานิสัยเสีย เป็นบางเวลา ถ้าเกี่ยวข้องกับเวลาใดเวลาหนึ่ง สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ถ้าเป็นเช่นนี้เราต้องมานั่งพิจารณาแล้วหละว่า ณ สถานที่นั้นๆ เวลานั้นๆมีอะไรที่ทำให้คนอ่อนแอลง และหมาแข็งแกร่งขึ้น หมาก็เลยกล้าขู่ กล้าวางอำนาจเหนือเรา

ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่ น้องและสามี มีพลังที่อ่อนลงที่สุดของวันหรือเปล่า เพราะคนเราเหนื่อยมาทั้งวัน ช่วงเวลาก่อนนอน เป็นช่วงเวลาที่ปล่อยวางทุกสิ่ง พลังงานอ่อนแอที่สุดของวัน จนละเลยความเป็นจ่าฝูงไป แต่หมามีพลังงานสะสมมาทั้งวัน เพราะถูกระบายไม่เพียงพอ อัดอั้นจนตกเย็น พร้อมระเบิด ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่เราอ่อนแอที่สุด

ก่อนที่จะให้หมาเข้าห้อง ณ ช่วงเวลานั้น หมานั่งรอหน้าประตูก่อนหรือเปล่า หมาวิ่งปรี่เข้าห้องก่อนคนหรือเปล่า ใครเข้าห้องก่อน ฝ่ายนั้นครองห้อง หรือ หมาวิ่งปรี่ไปที่เบาะเลยหรือเปล่า

ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องเก็บทุกเม็ด ทุกรายละเอียด ก่อนเข้าห้อง หมาก็ต้องรอหน้าห้อง คนเข้าห้องก่อน ให้หมารอที่ประตูสักครึ่งชั่วโมง รอให้หมาสงบ หมอบแบบผ่อนคลาย แล้วค่อยให้เข้ามาในห้อง พอเขาเข้ามา เราก็ให้เขานอนพื้น ไม่ให้นอนเบาะ ไม่ให้ขึ้นโซฟา และก็ฝึกให้เขาอยู่เป็นที่เป็นทางตามสั่ง เช่นให้นอนพื้นก่อน สักครึ่งชั่วโมง แล้วก็ให้ไปที่เบาะสักครึ่งชั่วโมง แล้วก็เปลี่ยนให้ไปนอนบนพื้นใหม่อีกครึ่งชั่วโมง พยายามอย่าให้หมาได้ทำตามใจตัวเอง และการควบคุมนี้ ทั้งน้องและสามีต้องร่วมกันทำ ต้องช่วยกัน เพราะหมาจะได้มองว่า คนทั้งสองร่วมมือกัน เขาไม่จำเป็นต้องปกป้องใครในห้อง

การที่หมาขู่ เราต้องคิดเลยว่า
เขาขู่เพื่อปกป้องอะไร?
ใครอ่อนแอ หมาถึงปกป้อง หรือ ถ้าสู้กับอีกคน?
ใครท้าสู้กับหมา ใครไม่นิ่ง หมาถึงต้องท้าสู้?

สามีตึงเครียดหรือเปล่า พออยู่ในห้องก็เริ่มเครียด เพราะคิดนำไปก่อนว่า หมาต้องก้าวร้าวอีกแน่ๆ ก็เลยจะท้าทายหมา เรียกหมาไปหาแบบตัวเองเครียดๆต้องการเอาชนะ เมื่อสามีมีอารมณ์ท้าสู้ หมาก็ท้าสู้กลับ

หรือ

ในห้อง ..น้องอ่อนแอ หมาก็ต้องปกป้องน้องที่อ่อนแอ ..ส่วนสามีคือศัตรู คู่แข่ง ยิ่งถ้าเป็นเพศชายเหมือนกัน ยิ่งถือเป็นคู่แข่ง แย่งผู้หญิงคนเดียวกัน

ยิ่งถ้าน้องไม่ทำอะไรเลย ให้สามีปรับหมาฝ่ายเดียว
หมาก็จะมองว่า น้องต้องการให้เขาไปสู้กับสามี เขาก็จะท้าสู้กับสามี

แต่ถ้าน้องเป็นฝ่ายช่วยควบคุมหมา ถ้าสามีเรียกหมาแล้วหมาอิดออด น้องก็ต้องช่วยไล่หมาให้เข้าไปหาสามี แล้วน้องก็ยืนคุมหมาเลย แล้วก็ให้สามีจับลูบตัวหมา(อย่าเพิ่งลูบหัว) ถ้าหมามีตาลอกแลก หรือ แยกเขี้ยว มีเสียงขู่ น้องก็ต้องฉกเตือนเลย ...ที่น้องต้องเข้ามาคุม เพื่อให้หมารู้ว่า น้องเลือกสามี ไม่ได้เลือกหมา และเราไม่ต้องการให้เขาปกป้องน้อง และ ไม่ต้องการให้เขาท้าสู้กับอีกฝ่าย เพราะเราเลือกสามี นั่นเองเขาก็จะไม่ต้องมีภาระปกป้องใครแล้ว เพราะน้องปกป้องตัวเองได้ นอ้งไม่อ่อนแออีกต่อไป และที่สำคัญ สามีต้องหัวโล่งด้วยน่ะ ห้ามโมโห ห้ามเครียด ถ้าไม่นิ่ง ไม่หัวโล่งจริง หมาก็จะจัดการสามีเหมือนเดิม

-------------

"แล้วหลังจากนั้นสามีก้ไล่เทร็กซ์ให้ไปอยู่ในครัว เพื่อเป็นการทำโทษ (สำหรับสามีการไล่ให้หมาไปอยู่อีกห้องที่ไม่มีคนอยู่คือการทำโทษ)"

--วิธี Time out เอาไปใช้กับลูกมนุษย์ค่ะ เป็นจิตวิทยาคน
เอามาใช้กับหมาไม่ได้

เพราะสมองของหมาไม่สามารถคิดซับซ้อนได้ขนาดนั้น เขาไม่สามารถคิดย้อนถึงที่มาที่ไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาถูกเปลี่ยนห้อง ถูกแยกมาอยู่ได้ มันก็แค่จับหมาไปอยู่อีกที่ที่หนึ่งแค่นั้น ไม่ได้ทำให้หมาสำนึกเหมือนกับสมองมนุษย์ที่จะสำนึกได้ เอาไปสอนเด็กมนุษย์ให้สำนึกจะเหมาะสมกว่า แต่ไอ้วิธีTime out ก็เป็นหนึ่งในวิธีเด็กอมมือที่เหล่าครูฝึกสายPositive reinforcementก็เอามาใช้กัน เพราะคิดว่าหมาเหมือนคน คงเอาวิธีปรับคนมาปรับหมาบ้าง

--------------
"แต่สามีเชื่อว่า ถ้าเทร็กซ์ขู่เค้าๆต้องเป็นคนบอกให้เทร้กซ์หยุด เพราะถ้าเบลล์ช่วยบอกให้เทร็กซ์หยุดแล้วเค้าหยุด ก้จะเท่ากับคำสั่งของสามีไม่มีผลกับเทร็กซ์ "

--ต้องดูว่า ต้นตอที่หมาขู่เกิดจากอะไร

ถ้าต้นตอที่หมาขู่ เกิดจากตัวสามีเอง ที่ตึงเครียด มีภาวะโมโหท้าสู้กับหมา อันนี้สามีก็ต้องปรับภาวะตัวเอง ให้นิ่ง และหมาจะได้เคารพ

ถ้าต้นตอที่หมาขู่ เกิดจากหมาปกป้องคนในบ้านสักคนที่อ่อนแอ (ก็คือน้อง) ใครก็ตามที่หมาถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม นั่นก็คือศัตรู ทุกอย่างก็คือการท้าสู้ค่ะ นั่นเอง ก็ต้องแก้ที่ตัวน้อง น้องต้องเลิกอ่อนแอ และต้องเลือกฝ่าย ก็คือน้องต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการปรับหมา และเราปกป้องสามี เราไม่เห็นด้วยที่หมากร่างกับสามี เพราะเราเลือกอยู่ฝ่ายสามี และนั่นเอง จะทำให้หมาวางมือ
แต่ถ้าน้องไม่ทำอะไรเลย ก็หมายถึง น้องเลือกอยู่ฝ่ายหมา เห็นด้วยที่หมาไปสู้กับสามี และนั้นเองสงครามจะไม่มีวันยุติ

หมาขู่จากการที่เขาเป็นเจ้าของห้อง เจ้าของเบาะ เขาไม่เคารพคนเป็นพื้นฐาน พอเรามีพลังงานอ่อนแอ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง หมาก็ขึ้นกร่างแทนทันที อันนี้เราก็ต้องตามแก้จุดอ่อนของตัวเอง

ถ้าทุกสาเหตุที่ยกตัวอย่างให้ฟัง มีความเป็นไปได้หมด ก็ต้องแก้ทุกอย่าง ควบคู่กันไป
***************
ลองไปอ่านดูนะคะ ว่าน้องและสามีมีพลาดอะไรไปบ้าง เป็นจ่าฝูงหมาได้ 100% หรือยัง ขาดตกบกพร่องอะไรไปก็ต้องตามเก็บให้หมด การจะปรับหมา แก้ปัญหาพฤติกรรมหมา ไม่ว่าเรื่องใดๆก็ตาม เราต้องเปลี่ยนการเลี้ยงทั้งระบบ ร่วมกับปรับแก้เป็นเรื่องๆ มันต้องแก้แบบองค์รวม แก้ทุกอย่างไปด้วยกัน มันก็จะช่วยกันเอื้อหนุนกัน

อยากรู้ไหม "เรา หรือ หมา ใครกันแน่.....ที่เป็นจ่าฝูง ?"
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=22-03-2010&group=7&gblog=37

ชีวิตประจำวันเพื่อการเป็นจ่าฝูงตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=11-10-2009&group=6&gblog=48

ฝึกคนเป็นจ่าฝูง
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=27-11-2008&group=6&gblog=11

-----------

เวลาหมานิสัยไม่ดี มีสิ่งที่ต้องแก้ต้องปรับ ต้นเหตุมาจากคนนะคะ ไม่ได้เกิดจากหมา

ก่อนอื่นคนต้องลดอีโก้ตัวเองให้ได้ก่อน ต้องยอมรับว่า จริงแล้ว เราพลาดอะไรไป เรามีอะไรต้องปรับปรุงตัวเอง

ถ้าใครอีโก้สูง ก็จะมัวแต่โทษหมา เพราะคิดว่าตัวเองทำถูกตลอด และไม่ยอมเปลี่ยนภาวะอารมณ์และวิธีคิดของตัวเอง ก็จะปรับหมาไม่สำเร็จค่ะ

สามีน้องมีอีโก้สูงหรือเปล่า ต้องให้เขาลดลงบ้าง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น

สู้ๆค่ะ


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:16:29 น.  

 
ปีนี้ผมไม่ได้ไปวิ่งครับ ติดดูคอน snsd วันเดียวกันเลย
เสื้อปีนี้สวยกว่าปี2010อีกนะครับ


โดย: DevilSacrifice วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:13:07:29 น.  

 
สวัสดีค่ะน้อง DevilSacrifice

เดือน พย 55 นี้ ก็มีกรุงเทพมาราธอนอีก หวังว่าเสื้อก็จะสวยขึ้นเรื่อยๆเนอะ

ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:13:17:03 น.  

 
ลืมทักทาย สวัสดีครับพี่หญิง ที่แรกจะเรียกพี่ Jiji ลองไปอ่านดู เฮ๊ย นั่นชื่อ สุนัข
ปีก่อนพี่หญิงยังวิ่ง 10 km
พอมาปีนี้ พี่หญิง วิ่ง 42.195 km
เยี่ยมมากเลยครับ
ตอนปี2010 ผมเวลาเลวร้ายมาก 5.54.xx(จำวินาทีไม่ได้)
ผมไม่เคยซ้อมวิ่งแบบมาราธอนมาก่อน อาศัยเคยซ้อมกีฬาตอนเด็ก แล้วจำวิธีฝึกซ้อมมา สภาพผมเข้าเส้นชัยหมดแรงครับ !!
เห็นแบบนี้แล้วต้องพัฒนาเวลาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ใช้เวลาให้น้อยลงกว่าเก่า ต้องเตรียมตัวใหม่ให้ดีกว่าเดิม
อายเลย อายุยังไม่เท่าไร ผมไปอ่านกระทู้พี่หญิงในpantipมาครับ นึกยังไงไม่รู้ อ่อ พอดีติดพัน ห้องเครื่องแป้งมีน้องคนหนึ่งเขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นสาวสวย จากสาวบ้านๆ จริงๆก็ลืมไปแล้ว Certificate



โดย: DevilSacrifice วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:14:11:31 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่หญิง

เมื่อคืนสามีพาเทร็กซ์อาบน้ำ หมาก็ปกติดีไม่ขู่ แต่พอหลังจากอาบน้ำเสร็จ พาลงมาที่ห้องนั่งเล่น เทร็กซ์ก็ขู่สามีเหมือนเดิม เบลล์กับสามีจึงบอกให้เทร้กซ์หยุด ก็หยุดไป.ซักพักพอสามีเดินผ่านเทร็กซ์ๆก็ทำท่าเหมือนกลัวค่ะ หูลู่ พยายามเบี่ยงตัวหลบสามีที่เดินผ่าน.

ส่วนเรื่องการฝึกทวงเป็นเจ้าของเบาะ ก้ทำทุกคืนนะคะ แต่จะเป้นเบลล์ซะส่วนใหญ่ที่ทำ เพราะสามีนอนดึกกว่า.ส่วนเรื่องการฝึกเป้นจ่าฝูงในบ้าน เบลล์ก้จะทำทุกครั้ง จนตอนนี้เทร้กซ์รู้ว่า ถ้าไม่นั่งเฉยๆก็จะไม่ได้ออกจากห้อง โดยที่เบลล์ไม่ต้องสั่งให้นั่งเลย.ที่บ้านไม่อนุญาติให้หมาขึ้นโซฟาเลยค่ะ หมาจะนั่งอยู่ข้างล่างตลอด จะมีเรียกขึ้นมาบ้างซักแป๊ป แล้วก็บอกให้ลงไปนั่งที่พื้นเหมือนเดิม. เบลล์เลยไม่แน่ใจจริงๆว่าพลาดไปตรงไหน.

เบลล์ก็ถามสามีนะว่ารู้สึกยังไงที่เรียกแล้วหมาไม่มา เค้าก็บอกว่าผิดหวัง แล้วก้ไม่เข้าใจว่าทำไมเทร็กซ์ไม่ยอมเข้าหาเค้าเหมือนเมื่อก่อน เบลล์เลยบอกเค้าว่าให้ทำใจว่างๆดู อย่าเรียกหมาด้วยเสียงแบบข่มเค้า แล้วดูซิว่าหมาจะเข้าหาเค้าเหมือนเดิมมั้ย คือตอนนี้ท่าทางที่เทร็กซ์แสดงออกเวลาสามีเดินผ่าน หรือพยายามจะจับตัวเค้า คือ กลัวค่ะ หูลู่ จะเบี่ยงตัวหลบ แล้วก้จะหันหน้ามาทางเบลล์แบบขอความช่วยเหลือ ( อันนี้คิดเอง ) แต่เวลาสามีกลับบ้านเทร้กซ์ก็จะดีใจ เดินตาม แล้วก็นั่งรอให้สามีมาลูบหัวทักทาย แต่พอซักพักก็จะเข้าสู่โหมดขู่สามี.

เบลล์จะไปบอกสามีนะคะว่าให้ปรับอารมณ์เค้าก่อน แล้วเบลล์จะมาอัพเดทให้พี่หญิงฟังอีกหนึ่งอาทิตย์นะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะพี่หญิง


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.207.163.149 วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:09:04 น.  

 
ตอบน้องเบลล์

หมาคือเครื่องจับเท็จสี่ขาที่ไม่มีเครื่องรวน หรือประเมินผลผิด

เราหลอกหมาไม่ได้

คนอาจเก็กหน้าน่ิง ทำเป็นนิ่ง แต่ถ้าในใจร้อนเป็นไฟ โมโหแทบอกระเบิด ผิดหวัง โกรธ เกลียด แม้คนไม่ได้แสดงออกทางหน้า หรือท่าทาง หรือ ปกปิดเนียน แต่ก็ไม่สามารถปิดหมาได้ อารมณ์ข้างในมันส่งเสียงดังกว่าค่ะ

ถ้าภาวะอารมณ์ของคนน่ากลัวมาก เปลี่ยนไปแบบสุดโต่ง หมาก็กลัวค่ะ ดูแล้วเขากลัวคุณสามีนะคะ แปลว่าข้างในเขาต้องร้อนมากๆ

ถ้าทุกอย่างเราไม่ขาดตกบกพร่องเลย เก็บทุกเม็ด แต่หมากลัวสามี อันนี้ก็ต้องให้สามีสงบขึ้น และ อย่าคาดหวัง เพราะถ้าปรับหมาไม่ได้เร็วดั่งใจ เขาจะได้ไม่ผิดหวัง เพราะบางคนไม่เคยผิดหวัง ทำอะไรก็สำเร็จ ก็จะรอไม่ได้ หรือ รู้สึกเสียฟอร์มที่ฝึกหมาไม่ได้ หมาไม่เชื่อเขา ซึ่งเป็นผู้ชาย แต่หมาดีกับผู้หญิง บางทีผู้ชายก็ฟอร์มจัด สวมหัวโขนก็มี

เหมือนเรามีเจ้านาย แต่ก่อนเจ้านายก็อารมณ์ดี แต่เดี๋ยวนี้สติแตก ทำหน้ายักษ์ตลอด โมโหเขวี้ยงของไปมา เหมือนคนเมายาบ้าน เราเป็นลูกน้องก็ไม่อยากเข้าใกล้ใช่ไหม ถ้าเจ้านายยังจะฝืนเข้ามาหาขณะเมายาบ้า เราก็ต้องมีการป้องกันตัวบ้าง ต้องมีต่อยสวนกลับไปบ้าง จริงไหม

อันนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของน้องเบลล์แล้วหล่ะ ว่าจะพูดอย่างไรให้สามีสงบลง ให้หัวนิ่งๆ โล่งๆ บางทีเขาอาจโมโหก็ได้ที่น้องเบลล์มาเชื่อคนอื่น(พี่หญิง) แต่ไม่เชื่อเขา เห็นวิธีคนอื่นสำคัญกว่าเขาก็ได้ และพอเห็นน้องเบลล์ฝึกหมาได้ หมาไม่ขู่น้องเบลล์ เขาก็อาจรู้สึกเสียฟอร์ม ต้องการเอาชนะในวิธีของเขา หรือ อาจจะยอมทำตามที่น้องเบลล์บอกแบบไม่เต็มใจ ผลก็เลยออกมาไม่สมบูรณ์

หรือจะให้สามี ลองนับหนึ่งใหม่ในการเข้าหาหมา สร้างความไว้ใจกลับมาเหมือนเดิม

น้องหมาตัวใหม่ ยังไม่ยอมรับคนในบ้าน ไม่ยอมเข้าใกล้ ไม่ยอมให้จับตัว ต้องทำอย่างไร?
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=30-12-2009&group=7&gblog=16


สู้ๆนะคะคนเก่ง
เปลี่ยนหมาหนะง่ายแค่ปลอกกล้วยค่ะ แต่เปลี่ยนคนนั้นยากแสนสาหัส

น้องเบลล์ก็ช่วยเตือนหมาไปด้วย อันนี้ทำถูกแล้ว
แต่เรื่องปรับหมา ต้องใช้เวลานะคะ บางเรื่องแค่ 5 นาทีก็สำเร็จ บางเรื่องเป็นเดือน บางเรื่องเป็นปีเลยนะคะ เพราะฉะนั้นอย่าใจร้อนค่ะ



โดย: Yoja&Jiji วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:28:39 น.  

 
พี่หญิงขาเบลล์รู้สึกว่าคนที่นี่เค้าจะฝึกหมาแบบใช้อาหารเป็นแรงจูงใจกันซะมากกว่าที่จะเข้าใจนิสัยหมาจริงๆ.ขนาดเบลล์ใช้โซ่แบบกระตุก ยังมีคนเดินมาบอกเลยว่า โซ่อย่างงี้มันอันตรายกับหมานะ เบลล์ก้ยิ้มรับเฉยๆแต่ไม่ได้พูดโต้ตอบอะไร. เคยเจอสองสามครั้งที่คนติดสติกเกอร์ที่รถว่า train the dog with your brain not a choke chain.แต่ทุกคนก็มีความคิดเห้นเป้นของตัวเอง หมาใครๆอยากฝึกยังไงก็แล้วแต่เจ้าของเค้าอ่ะเนอะ :-)
คนที่นี่จะเห็นด้วยกับวิธีของวิคตอเรีย It's me or the dog มากกว่าซีซ่าร์. แต่ยอมรับอย่างนึงว่าคนที่นี่ (ส่วนใหญ่) มีความรับผิดชอบกับหมากันดีมาก พาไปเดินสวนสาธารณะ เค้าก้อให้เดินในสายจูง ถ้าหมาเผลออึก็จะถือถุงคอยตามเก็บ ลูกหมาต้องเค้าคลาสลูกหมาเพื่อให้เรียนรุ้การเข้าสังคมของหมาๆ. หมาต้องเรียนรุ้ commands หมาต้องออกกำลังกาย ที่นี่ฝนตกบ่อยมากๆ แต่คนก็ยังต้องพาหมาไปเดินออกกำลังกาย. อยากให้คนที่เลี้ยงหมาบ้านเราทำได้อย่างงี้บ้าง. ชายหาด ภูเขา ทะเลสาบ ร้านกาแฟ (ทั่นั่งข้างนอก) ซุปเปอร์มาร์เกตต์ (ผุกไว้ตรงทางเข้า) คือคนพาหมาไปด้วยเกือบทุกที่ เห็นแล้วก็แบบดีใจที่เค้าเลี้ยงหมาแบบเป้นส่วนหนึ่งของครอบครัวจริงๆ คุยไปคุยมาเบลล์นอกเรื่องไปซะไกลเลย :-)

ตั้งแต่ก่อนเอาหมามาเลี้ยงเบลล์ก็จะคอยอัด Dog whisperer ไว้ให้สามีดู เค้าก้เริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงหมา และเปลี่ยนทัศนคติในการฝึกหมาไปได้เยอะ สามีเคยเลี้ยง border collie, german shepherd มา แล้ววิธีที่เค้าใช้ฝึกส่วนใหญ่ก็เป้นแนวใช้อาหารเป้นตัวล่อซะทุกอย่าง แล้วโชคดีที่หมาเชื่อฟังมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่พอมามีเทร็กซ์เหมือนวิธีที่เค้าใช้ได้ผลกับหมาตัวก่อนๆของเค้า มันใช้ไม่ได้ผลกับเทร้กซ์ เค้าเลยเหมือนเสียความมั่นใจไปว่าเค้าทำอะไรผิดไป.

เบลล์เล่าให้สามีฟังว่าพี่หญิงฝึกหมาโดยใช้หลักการของซีซาร์ แล้วหมานิสัยดีมาก แล้วเวลาเบลล์อ่านบล๊อคอันไหน ที่มีปัญหาตรงกับเทร้กซ์ เบลล์ก็จะเล่าให้สามีฟัง สามีก้ออยากให้แปลให้ฟังให้หมด แต่บางทีก็จนปัญญาที่จะแปลให้เข้าใจเหมือนที่เบลล์อ่านภาษาไทย :-) สามีให้ถามว่าถ้าเค้าจะโพสถามพี่หญิงบ้างจะได้มั้ยคะ

ขอบคุณค่ะพี่หญิง


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.207.163.149 วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:23:58:33 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์

ตอนแรกที่น้องบอกว่าอยู่อังกฤษ พี่ก็ยังสงสัยเลยว่า น้องสนใจแนวทางของซีซาร์ด้วยหรือ เพราะที่โน่น เจ้าแม่Victoria Stilwell เขาครองพื้นที่อยู่ และกลุ่มนี้ก็เป็นพวก Positive reinforcement โลกสวย ก็จะแอนตี้ซีซาร์อยู่แล้ว แค่ได้ยินชื่อซีซาร์ คนกลุ่มนี้ก็ของขึ้นเหมือนเจ้าเข้าเลยทีเดียว

พี่ก็ไม่ได้เห็นว่าวิธี Positive reinforcement มันไม่ดีนะ มันก็ดีนะ แต่ใช้ได้กับหมาอ่อนๆ หรือเอาไปฝึกTrick โชว์น่ารักๆ ใช้อาหารล่อให้หมาทำท่าทาง อันนี้OK

แต่Positive reinforcementมันใช้ไม่ได้กับหมาที่มีปัญหาพฤติกรรมของจริง เพราะเมืองนอกก็ยังมีPut down หมาอยู่ ถ้าวิธีPositive reinforcement มันwork ก็จะไม่มีหมาถูกทำให้หลับ เพราะแค่เอาอาหารล่อ วิธีที่ง่ายๆ ที่หาอ่านได้ตามชั้นหนังสือ หรือแค่เอาขนมเบี่ยงเบนหมา หรือเอาธงฟ้า ธงแดงปักเรียกร้องความสนใจน้องหมาแบบคุณVictoria ที่พยายามคิดวิธีให้ดูแปลกๆ ให้ดูเหมือนโชว์ความฉลาดของเขาเพื่อมาใช้กับหมา และคนเลี้ยงก็ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเท่าไหร่ วิธีพวกนี้มันง่ายมากเลยนะ ใครๆก็ทำได้ ถ้ามันง่ายแบบนี้ ใครๆก็ทำกัน หมาที่เคสยากๆก็ต้องหายสิ แล้วก็จะไม่มีหมาถูกPut down

พี่ว่าวิธีพวกPositive reinforcement มันวุ่นวายกับชีวิตมากเลยนะ ต้องพกขนมตลอด ต้องพกของเล่นยั่วหมาตลอด ต้องชมด้วยเสียงตลอด แล้วถ้าคนเป็นใบ้หล่ะ จบเลยฝึกหมาไม่ได้ เพราะพวกนี้ต้องเน้นเสียชมแบบbabytalk แล้วถ้าอยู่ในสถานการณ์ไม่มีขนมหล่ะ ไม่ได้พกของเล่นหล่ะ ทำไงดีหล่ะ เห็นไหม วุ่นวาย

มีนะ บางรายแนะนำว่า หมาจะไปกัดกับหมาตัวอื่น ก็ให้โปรยขนมลงพื้น หมาจะได้กินขนมแทน และไม่สนใจหมาคู่อริ สรุปว่า หมาฉลาดไง ก็กินขนมบนพื้นให้หมดก่อน แล้วก็ไปกัดกับหมาต่อ นี่ไงวิธี Positive reinforcement สรุปว่าหมาฉลาดกว่า

อย่างที่แฟนของน้องใช้แนว Positive reinforcementกับหมาที่ผ่านๆมาก็ได้ผล แต่ใช้ไม่ได้กับเทร็กซ์ เพราะกับเทร็กซ์ต้องใช้จิตวิทยาสุนัข ที่ต้องเน้นผู้เลี้ยงเป็นจ่าฝูง ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน และ สภาวะอารมณ์ที่ต้องเป็นจ่าฝูง

แต่ "สภาวะอารมณ์ให้เป็นจ่าฝูง" นี่แหละของยากสุด
คนที่บอกว่าวิธีซีซาร์ไม่ได้ผล ก็เป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง อีโก้สูงเกิน ก็เลยปรับหมาไม่ได้ พอปรับหมาไม่ได้ ก็จะเริ่มโทษคนอื่นล่ะ เพราะพื้นฐานไม่เคยโทษตัวเองอยู่แล้ว สรุปว่า ความผิดก็ตกอยู่ที่วิธีของซีซาร์ ซีซาร์ผิดตลอด หรือ หมาผิด หมาไม่ดี

หมาเปลี่ยนง่าย คนเปลี่ยนยาก
หมาพร้อมเปลี่ยนเสมอ แต่คนต้องเปลี่ยนก่อน
เมื่อไหร่คนเปลี่ยน หมาเปลี่ยนทันที

ีจีจี้ Jack Russell
โยจา Border Collie
ยูจิ White German Shepherd
ทั้งสามตัวก็เลี้ยงโดยวิธีซีซาร์แบบ 100% เลย หมาก็ดีมากเลย โตมาแทบจะไม่ต้องฉก ไม่ต้องกระตุกสายจูงเลย แค่เหล่ตามอง หรือเสียงกระแอม ก็รู้เรื่องแล้ว

การตักเตือน จะใช้แค่แรกๆเท่านั้น ในช่วงปรับพฤติกรรม พอหมารู้เรื่อง เข้าใจ ก็ไม่ต้องใช้อีก และวิธีตักเตือนแบบซีซาร์ เขาก็เอามาจากธรรมชาติ ที่หมากับหมาปฎิบัติต่อกัน หมามันถึงเข้าใจไง แต่มันดูไม่สวยงามเท่านั้นเอง

แต่วิธีPositive reinforcementสิ ผิดธรรมชาติ เอาขนมล่อหมา ซึ่งในธรรมชาติ แม่หมาจะสอนลูกหมาไม่ให้เข้าใกล้เหว แม่หมาก็ไม่มานั่งหาก่ิงไม้มาเรียกลูก หรือ เอากระต่ายมาเบี่ยงเบนลูกให้ไปที่อื่น ไม่มี ก็มีแต่เข้าไปคาบคอจับออกมาเลย ใช้ตัวดัน ตัวกั้น การงับเตือนต่างๆ

วิธีPositive reinforcementมันไม่ธรรมชาติ ก็เหมาะสมไปสอนหมาให้ทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ เช่น ให้คาบตะกร้า ยกมือสวัสดีสองขา ทำท่าอาย อันนี้ใช้ดีมาก เอาไปฝึกหมาให้ทำทริกน่ารักๆ พี่ก็ใช้อยู่นะวิธีPositive reinforcement เอาไปฝึกหมาให้แสดงทริก ให้เล่นสเก็ตบอร์ด ให้เล่นคาบจานรอ่น ให้เล่นAgility จนได้รางวัลมาหลายสนาม

--------------
"แต่ก่อนเอาหมามาเลี้ยงเบลล์ก็จะคอยอัด Dog whisperer ไว้ให้สามีดู เค้าก้เริ่มเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงหมา และเปลี่ยนทัศนคติในการฝึกหมาไปได้เยอะ สามีเคยเลี้ยง border collie, german shepherd มา"

---เยี่ยมเลยค่ะ อย่างน้อยเขาก็ยอมเปิดรับบ้าง

-----------
"สามีให้ถามว่าถ้าเค้าจะโพสถามพี่หญิงบ้างจะได้มั้ยคะ"

---ได้เลยค่ะ ยินดีค่ะ

ร่วมด้วยช่วยกัน

---------

สู้ๆนะคะน้องเบลล์

เอ๋อ! มีรายหนึ่งนะ จากสเปน ชื่อ น้องหวาหวา
รายนี้ตอนแรกสามีก็ไม่ให้ความร่วมมือเหมือนกัน เพราะไปขัดกับความเชื่อเรื่องเลี้ยงหมาของเขา แต่ในท้ายสุด สามีก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

ลองไปอ่่านเล่นๆก็ได้นะคะ ที่พี่โต้ตอบกับน้องหวาหวา

เราจะได้มีแรงฮึดสู้ต่อ ถ้าเราไม่ท้อเสียอย่าง เราก็ต้องสำเร็จค่ะ

ในกระทู้นี้

Power of the pack 2 [ Beagle เพื่อนบ้านมาเยี่ยมบ้านโยจา & จีจี้ ]
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=24-08-2009&group=6&gblog=47




โดย: Yoja&Jiji วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:12:49:09 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่หญิง

แวะมาอัพเดทว่าเมื่อคืนแอบเห้นสามีใช้เท้าสะกิดสีข้างหมา แล้วก้มีทำเสียงชูวๆด้วยนะ :-) เมื่อคืนเบลล์ลองย้ายที่นอนเทร็กซ์ไปวางไว้ตรงโซฟาที่สามีนั่ง พอสามีมานั่งที่โซฟา เทร็กซ์ก้พยายามจะเดินออกจากที่นอนทันที เบลล์ก็สั่งให้อยุ่บนที่นอน หมาพยายามจะเดินออกสี่ห้าครั้ง เบลล์กับสามีก็สั่งให้อยู่บนที่นอน สุดท้ายหมาก้ยอม. แต่พอสามีลงมานั่งสูบบุหรี่ที่หน้าเตาผิง หมาจากที่นอนหันหัวไปทางเตาผิง รีบหันหัวกลับมาแล้วหันหลังไปทางเตาผิงแทน.

ทุกคืนสามีจะเป็นคนพาเทร้กซ์ไปฉี่รอบสุดท้ายก่อนนอน แล้วพอกลับเข้ามา จะต้องล้างเท้าก่อน ทุกคืนก้ไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อคืนพอจับขาจะล้างเท้าให้ปุีป ขู่ปั๊ป สามีเลยใช้เสียงชูว์ๆเตือนไป.เทร็กซ์ก้เงียบลงนะคะ แต่พอล้างขาเสร้จ ก้ขู่เหมือนเดิม.

เมื่อวานเบลล์พาเทร้กซ์ไปฉีดวัคซีนมา พอได้เข้าไปเจอหมอ หมอก้วางขนมให้ เหมือนทำความรุ้จัก แต่เทร้กซ์ไม่ยอมกินเลย ดมนิดๆ. พอถึงเวลาฉีดวัคซีน หมอก้ให้เบลล์จับปากหมาไว้แทนที่จะจับใส่ตะกร้อ เพราะหมอบอกว่า ถ้าจับใส่ตะกร้อแล้วหมากลัวก้จะเป็นการสร้างประสบการณ์แย่ๆให้กับหมา ทำให้หมากลัวตะกร้อ หมากลัวหมอ กลัวคลีนิค มันจริงมั้ยอ่ะคะพี่หญิง

มีอีกเรื่องที่อยากถามพี่หญิง ทุกวันนี้เบลล์จะพาเทร้กซ์ไปเดินตอนเช้า แบกเป้ใส่น้ำหนัก 3 กิโล เบลล์จะพาเดินเช้า 30 นาที แล้วหลังจากนั้นเบลล์จะปล่อยวิ่งอิสระ ประมาณ 30 -45นาที แล้วที่ๆปล่อยให้วิ่งกระต่ายเยอะมากๆ เทร็กซ์ก้จะชอบไปวิ่งไล่กระต่ายมาก วิ่งกลับมาทีขนขาวๆตรงหัว ตรงคอเปื้อนขี้ดินดำๆมาหมด แล้วมีครั้งนึงก็โดนกระต่ายกัดปากมา เนื้อแหว่งไปเลยทีเดียว. ตอนเย้นเบลล์ก้พาเดินแบกเป้อีก 30 นาที แต่ไม่ปล่อยวิ่งแล้ว.

เบลล์อยากถามพี่หญิงว่าถ้าเบลล์พาเดินให้นานขึ้น แล้วไม่ปล่อยให้วิ่งอิสระได้มั้ยคะ ไม่อยากให้หมาไปวิ่งไล่กระต่ายเลย. แต่เบลล์ลองสังเกตุดู ว่าวันไหนที่ปล่อยวิ่งหรือไม่ปล่อยวิ่ง กลับมาจากเดิน เค้าก็นอนทั้งวันอยู่ดี.

เบลล์ได้ไปอ่านเรื่องราวของคุณหวาหวามาแล้วนะคะ.แถวบ้านก้มีลาบาดอร์ตัวนึง ที่เจอเวลาปล่อยวิ่งอิสระ เป็นหมาเฟรนลี่มาก.

ขอบคุณค่ะพี่หญิง


โดย: เบลล์ IP: 90.207.163.149 วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:22:31:14 น.  

 
มาเพิ่มเติมข้อความนะคะ

ตอนนี้เบลล์เริ่มฝึก recall เทร้กซ์ใหม่หมดเลย ฝึกตามของพี่หญิงตั้งแต่ข้อหนึ่งเลยค่ะ วันนี้ก้เริ่มเรียกชือให้มาหาแล้วให้ขนม มีแอบซ่อนตามห้องต่างๆบ้าง แล้วให้เค้าเดินมาตามเสียง พอเค้ามาเจอก้ให้ขนม.
เพราะเบลล์รู้สึกว่า recall ที่เคยใช้ๆไม่ได้ผลกับบางสถานการณ์ เช่น ถ้าปล่อยวิ่ง แล้วไปเจอกระต่าย ทีนี้เรียกยังไงก็ไม่กลับ แล้วตอนนี้ตามภุเขาแถวบ้าน เค้าเริ่มปล่อยแกะออกมาเดินหาหญ้ากินบ้างแล้ว กลัวเทร็กซ์จะไปวิ่งไล่แกะเค้า แล้วที่นี่มีกฏหมายว่า ถ้าหมาเราไปไล่แกะของฟาร์มเมอร์ๆเค้ามีสิทธิ์ที่จะยิงหมาเราได้โดยไม่ผิด.เลยต้องป้องกันไว้ก่อน.

เบลล์จะมาอธิบายเพิ่มเรื่องที่ๆปล่อยวิ่งอิสระ ว่าแถวนั้นมันจะเป้นเหมือนหุบเขาอ่ะค่ะ พอวิ่งแล้วมองไม่เห้นเลยว่าไปทำอะไรบ้าง แต่เบลล์จะคอยเรียกกลับมาทุกสิบนาที ซึ่งบางทีก็กลับมาช้าบ้าง เร้วบ้าง.เลยคิดว่าต้องฝึก recall ใหม่หมด.
อยากให้ถึงแม้ว่าช่วงที่เรามองไม่เห้นว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ ก็ห้ามไปกัดกระต่าย หรือวิ่งไล่แกะเลย

มีอีกข้อที่เบลล์อยากถามพี่หญิง เรื่อง personal space. ปกติเวลาอยู่ในห้องนั่งเล่นเทร้กซ์จะมานั่งข้างๆโซฟาของเบลล์ตลอด อย่างนี้ถือว่าเค้าเข้ามาในสเปซเบลล์ใช่มั้ยคะ
แล้วเวลาขึ้นบันได เทร็กซ์จะชอบวิ่งขึ้นไปก่อนเสมอ แต่จะคอยหันมาดูว่าเราขึ้นตามไปหรือเปล่า ถ้าเราไม่ เค้าก้จะวิ่งกลับลงมารอข้างล่าง. เบลล์ควรขึ้นบันไดก่อนเทร็กซ์แล้วให้เทร็กซ์นั่งอข้างล่าง แล้วค่อยเรียกเทร็กซ์ขึ้นไปใช่มั้ยคะ.

มีอีกอย่างนึงค่ะจับให้นอนหงายหันหลังให้เรา พอจับนอนหงายทีไรก็นอนหงายท้องให้ทุกที พอจับนอนหงายไปซักพักหวีขนไปนิดนึงก็นอนหงายท้องให้อีกแล้ว.เวลาเบลล์ลุบตัว ลูบหัวเค้า ซักแปปก้หงายท้องให้อีกแล้ว.เบลล์อยากให้เค้าตะแคงให้มากกว่า.

ขอบคุณอีกครั้งค่ะพี่หญิง


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.207.163.149 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:4:25:51 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์

"เทร็กซ์ก้พยายามจะเดินออกจากที่นอนทันที เบลล์ก็สั่งให้อยุ่บนที่นอน หมาพยายามจะเดินออกสี่ห้าครั้ง เบลล์กับสามีก็สั่งให้อยู่บนที่นอน สุดท้ายหมาก้ยอม."

-เยี่ยมเลยค่ะน้องเบลล์
-----------
"แต่เมื่อคืนพอจับขาจะล้างเท้าให้ปุีป ขู่ปั๊ป สามีเลยใช้เสียงชูว์ๆเตือนไป.เทร็กซ์ก้เงียบลงนะคะ แต่พอล้างขาเสร้จ ก้ขู่เหมือนเดิม."

-แปลว่าเขาตอบสนองต่อเสียง "ชูว์" ของสามี ดีเลยค่ะ....แปลว่าแค่เสียงก็คุมเจ้าเทร็กซ์ได้

ถ้าเขาขู่ก็ ชูว์ อีก ขู่อีกก็ชูว์อีกค่ะ เขามีแรงขู่ เราก็มีแรงชูว์ และน้องเบลล์ร่วมเตือนอีกแรงก็ดีนะ น้องฉกด้วยเลย ร่วมด้วยช่วยกัน
ของพวกนี้ต้องมีการย้ำ เพื่อให้หมาจำ แต่บางคนอาจจะท้อไปก่อน เพราะคิดว่า ชูว์แค่ทีสองที หมาก็จะดีขึ้น พอหมาขู่อีก ก็หมดกำลังใจคิดว่าวิธีที่ทำอยู่ไม่ได้ผล ที่จริงแล้วมันต้องใช้เวลาค่ะ ถ้าซีซาร์ทำอาจใช้เวลา 5 นาที แต่พวกเราคนธรรมดาๆ อาจใช้เวลาประมาณเดือนหนึ่งกว่าจะได้ผลเหมือนที่ซีซาร์ทำ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่ผู้ฝึกด้วย ถ้าคล่องแล้ว ปรับหมาของตนจนเซียนแล้ว น่ิ่งแล้ว รู้จังหวะ รู้ภาษากายหมาของตนแล้ว ระยะเวลาการปรับพฤติกรรมก็จะไวขึ้นค่ะ

-----------

"ถ้าจับใส่ตะกร้อแล้วหมากลัวก้จะเป็นการสร้างประสบการณ์แย่ๆให้กับหมา ทำให้หมากลัวตะกร้อ หมากลัวหมอ กลัวคลีนิค มันจริงมั้ยอ่ะคะพี่หญิง"

--จริงค่ะ ในกรณีที่หมาไม่เคยถูกฝึกให้ใส่มาก่อน แบบว่าไม่เคยใส่เลย แล้วก็มาจับใส่ที่คลินิกแล้วก็ถูกขึง จับฉีดยา จิ้มก้น มันเป็นcondition ที่ว่า เมื่อมีคนเอาตะกร้อมาใส่ปากฉัน ฉันจะต้องเจ็บโดนจิ้มก้น หมาก็จะอคติกับตะกร้อ และ ต่อต้านการรักษาขณะมีตะกร้อ หรือ ต่อต้านทุกกิจกรรมขณะมีตะกร้อ เพราะตะกร้อเชื่อโยงกับสิ่งที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้น


แต่ถ้าในกรณีที่หมาฝึกใส่มาก่อนแล้ว ใส่ได้เป็นปกติ ใส่ตะกร้อแล้วได้ของกิน ใส่ตะกร้อแล้วพาไปเดินเล่น เขาก็จะเชื่อมโยงตะกร้อกับสิ่งดีๆ เขาก็จะไม่ต่อต้านตะกร้อ ไม่ต่อต้านกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับตะกร้อ

ตะกร้อไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี มันก็เหมือนสอนหมาใส่เสื้อผ้า แต่สำคัญอยู่ที่ว่า ต้องเชื่อมโยงตะกร้อ กับสิ่งที่ดีๆ ในเชิงบวก
เมื่อหมาไม่ได้ต่อต้านตะกร้อ เราก็จะพาไปหาหมอ ไปทำกิจกรรมอะไรก็ได้พร้อมตะกร้อครอบปากเขา ก็ไม่เป็นไร

บางที การใส่ตะกร้อไว้ ก็ทำให้เราสบายใจมั่นใจในการควบคุมสถานการณ์ เมื่อเรามั่นใจ เราก็จะไม่หลุด เราก็จะนิ่ง ก็จะทำให้เราเป็นจ่าฝูงได้ง่ายขึ้น คนอยู่รอบข้างเขาก็สบายใจขึ้น หมาก็จะไม่เครียด เพราะคนรอบๆตัวไม่ได้มีพลังงานที่กลัว หรือไม่มั่นใจ

น้องเบลล์ก็เลือกใช้ตะกร้อตามสถานการณ์ค่ะ อะไรที่ทำแล้วเราสบายใจ ก็ทำเลย เพราะเราจะรู้ตัวเราเอง และ รู้เทร็กซ์ดีที่สุด

หรือจะไม่ใส่ก็ได้ เพื่อฝึกใจเราให้มั่นใจ และ ควบคุมหมาขณะไม่มีตะกร้อ อันนี้ก็ถือว่าฝึกความท้าทายในการคุมหมาของเรา

เป้าหมายก็คือ หมาไม่ต้องใส่ตะกร้อ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน เพราะเราเอาอยู่ทุกสถานการณ์ เราเซียนแล้ว เรารู้ทุกท่วงท่าของเทร็กซ์แล้ว
---------

การพาเดิน ไม่จำเป็นว่าต้องปล่อยหมาวิ่งอิสระนะ
น้องนึกดูสิ ที่เมืองไทย ไม่มีโอกาสได้ปล่อยหมาวิ่งอิสระเลย ไม่มีDog park เหมือน ตปท ไม่มีหุบเขาสวยๆให้ปล่อยหมาวิ่งเล่นอิสระ แถม กทม ก็ใจแคบ พาหมาไปไหนก็ไม่ได้ พี่หญิงพาเดินรอบหมู่บ้าน ไม่เคยหยุดให้หมาแวะดม ไม่เคยปล่อยหมาวิ่งเล่นอิสระระหว่างการเดินเลยนะ ไม่เคยเลย เพราะหมาอยู่ในสายจูงตลอดเมื่ออยู่นอกบ้าน หมาก็ยังดีเลย เพราะฉะนั้น ปล่อยวิ่งเล่นอิสระมันไม่ได้จำเป็นเสมอไป ถ้ามันเสี่ยงมากกว่าที่จะได้ประโยชน์ ก็ไม่ควรทำ

เพราะน้องตามไปคุมไม่ได้ ไม่รู้ว่า ระหว่างที่เขาเห็นกระต่าย เขามองแบบไล่ล่า หรือมองแบบผ่อนคลาย ถ้าเราปล่อยให้เขาไล่ล่า ฝึกสัญชาตญาณไล่ล่าเรื่อยๆมันก็ไม่ดีนะ หมาไม่ควรจะมีสัญชาตญาณเหล่่านี้หลงเหลือแล้วในปัจจุบัน เพราะน้องไม่ได้ทำอาชีพนายพราน จริงไหม ถึงต้องคงสัญชาตญาณการไล่ล่าไว้บ้าง

ถ้าสถานที่นั้น ปลอดภัย เราคุมได้ ไม่มีแกะที่ต้องเสี่ยงกับลูกปืน และหมาอยู่ในการควบคุม ก็ไม่เป็น

การที่หมาอยู่ในการควบคุมแบบปลอดภัยที่จะปล่อยเดินเอง เขาจะเดินใกล้ๆเรา แม้จะเดินนำหน้าไปบ้าง ก็จะรอ หยุดรอ หรือ เดินไปรอบๆ แต่เขาจะหันมามองเราเสมอๆ เหมือนรอรับคำสั่ง หรือ เขาวนเวียนใกล้ๆเรา แบบเราเห็นเขา เขาเห็นเรา แค่เราเรียก ก็จะมาเลยทันที


ถ้าเราเรียก ก็ไม่มา เพราะมัวแต่สนใจไล่กระต่ายอยู่ หรือ วิ่งหายไปเลย ไม่สนใจเรา ไม่คอยมองเรา อยากจะกลับมาก็เมื่อเขาอยากกลับ อันนี้แปลว่า หมาเกินควบคุม เราเอาไม่อยู่ ควรอยู่ในสายจูงดีกว่า เพราะจะทำให้หมาเคารพเรามากกว่าการปล่อยวิ่งอิสระหายไปในป่า

น้องเบลล์บอกว่า
"ถ้าปล่อยวิ่ง แล้วไปเจอกระต่าย ทีนี้เรียกยังไงก็ไม่กลับ"

เรายิ่งไม่ควรปล่อย
------------
"เบลล์อยากถามพี่หญิงว่าถ้าเบลล์พาเดินให้นานขึ้น แล้วไม่ปล่อยให้วิ่งอิสระได้มั้ยคะ ไม่อยากให้หมาไปวิ่งไล่กระต่ายเลย"

--หน้าที่ของจ่าฝูงก็คือ ทำอะไรตามใจตัวเองเลยค่ะ ถ้าน้องไม่อยากให้หมาทำอะไร ก็ไม่ต้องให้เขาทำ เพราะน้องเป็นจ่าฝูง นอ้งมีสิทธิ์ที่จะกำหนดกิจวัตรของหมาอยู่แล้ว
หลายคนบอกว่า หมาเห่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราไม่ต้องการให้หมาเห่าเลย ก็ฝึกได้ค่ะ หมาก็จะไม่เห่าเลย
หรือเราอาจคิดว่า หมาได้เดินป่า วิ่งเล่นตามธรรมชาติเป็นส่ิงที่ดีในอุดมคติ แต่ถ้าเราไม่อยากทำ ก็ไม่ต้องทำ หมาก็ไม่ตาย ไม่ลงแดง เพราะหลายประเทศที่ไม่มีป่าให้หมาวิ่งเล่น เช่นในประเทศไทย หมาก็ยังมีความสุขดีอยู่แม้ไม่ได้เดินป่า ...จริงไหม

--------

"เรื่อง personal space. ปกติเวลาอยู่ในห้องนั่งเล่นเทร้กซ์จะมานั่งข้างๆโซฟาของเบลล์ตลอด อย่างนี้ถือว่าเค้าเข้ามาในสเปซเบลล์ใช่มั้ยคะ"

-ต้องแล้วแต่ว่า น้องเบลล์จะกำหนด personal space ของตัวเองให้กว้างขนาดไหน เช่น นั่งข้างโซฟาได้ แต่ห้ามขึ้นโซฟา หรือ ห้ามมานอนหนุนตักถ้าไม่ได้เรียก

แต่ถ้านั่งข้างๆโซฟาน้องไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าอยู่ดีๆหมากระโดดขึ้นโซฟาเลย หรือ อยู่ดีๆ เดินมานอนเอาตัวเบียดเรา พิงเรา อันนี้ถือว่าจู่โจมspace เราแบบไม่เคารพ

หรือเวลาเรานั่งกินข้าว ก็ต้องขึ้นกับว่าน้องกำหนดspace แค่ไหน เช่น หมาห้ามเข้ามารอบๆโต๊ะ หรือ หมาต้องอยู่อีกห้องเลย ห้ามเข้ามาในห้องกินข้าว

หรือเรานั่งพื้น หมาก็ต้องอยู่ที่จุดของเขาที่เขาอยู่ อัันนี้เคารพspaceเรา
ไม่ใช่พอเรานั่งบนพื้นปุ๊ป หมากรูเข้ามาหาเรา เอาเท้ามาเหยียบตักเรา หรือเดินมานอนตักเราเลย อันนี้ถืวว่าไม่เคารพspace เรา

น้องสามารถฝึกสั่งให้เขาอยู่เป็นที่เป็นทางตามสั่งได้ค่ะ เห็นเขานอนข้างโซฟา เราก็สั่งให้เขาไปอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง ห้ามไปไหนเลยสักครึ่งชั่วโมง แล้วก็สั่งให้เขาไปอยู่อีกมุมห้องหนึ่ง สักสิบนาที แล้วก็ให้มาอยู่ข้างๆโซฟา ฝึกแบบนี้หมาจะเคารพห้อง เคารพคนที่อยู่ในห้อง ให้แฟนฝึกร่วมด้วยนะคะ

----------
"แล้วเวลาขึ้นบันได เทร็กซ์จะชอบวิ่งขึ้นไปก่อนเสมอ แต่จะคอยหันมาดูว่าเราขึ้นตามไปหรือเปล่า"

-ไม่ควรค่ะ หมาห้ามแซงเรา ห้ามวิ่งนำเราไป
เราขึ้นไปก่อน แล้วค่อยเรียกหมาขึ้นมา หรือ ขึ้นไปพร้อมเรา เคียงข้างขาเราไปไม่แซง
ห้องนอนเรา ยิ่งถือเป็น พื้นที่ส่วนตัวนะคะ หมายิ่งต้องให้ความเคารพสูงสุด ห้ามเข้าห้องก่อน ห้ามคึกในห้อง ต้องอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว
----------
"ซักแปปก้หงายท้องให้อีกแล้ว.เบลล์อยากให้เค้าตะแคงให้มากกว่า"

--ก็จับนอนตะแคงเลยค่ะ พอเขาจะหงายก็จับนอนตะแคง แล้วส่งเสียงเฮ้ ชูว์ ทำจนกว่าเขาจะยอมนอนตะแคงตามสั่ง
น้องต้องเช็คดูนะ ว่าเขามีจุดหวงตัวตรงไหนหรือเปล่า หัว หลัง ก้น หาง ต้นขาหลัง อุ้งเท้า ต้องจับคลำขยุ้มขยำ แบบหมานอนเฉยๆยอมให้เราปู้ยี้ปู้ยำ คือเราต้องกระตุ้นจนเขารำคาญ แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจนอนนิ่งๆให้เราจับต่อไป
การที่เขาเบี่ยงตัวหนี หงายท้องให้ เหมือนเขาเลี่ยงไม่ให้เราจับบางส่วน อันนี้น่าสงสัย

เราต้องฝึกหัดขัดใจหมานะ เพราะอันนี้แหละเป็นตัวเช็คหล่ะ ว่าเขายอมให้เรา100% หรือเปล่า หมาที่เคารพเราจริงๆ เขาจะยอมให้เราขัดใจเขา เขาจะไม่หลบเลี่ยง ไม่ต่อต้าน ไม่ดิ้นหนี เราต้องเช็คค่ะ

สู้ๆนะคะ




โดย: Yoja&Jiji วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:46:44 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะพี่หญิง..เบลล์จะนำไปปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัว แล้วจะมาอัพเดทความคืบหน้านะคะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.202.105.120 วันที่: 5 พฤษภาคม 2555 เวลา:8:05:49 น.  

 
like bell question clear ying helping answer good answergood waymust praistice do all time good read again we forget good remember we would to ask yoja exercise walking how floranze leg problem i read yoja walk ten mintue in dog magazine thankyoukoo ying


โดย: FLROANZE IP: 125.24.224.40 วันที่: 19 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:09:27 น.  

 
พี่หญิงขา เบลแวะเข้ามาบอกว่า เบลตั้งกระทู้เกี่ยวกับเทร้กซ์ที่ห้องจตุจักร ถ้าพี่หญิงพอมีเวลา อยากให้พี่หญิงเข้าไปดูความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของเทร้กซ์นะคะ..มีอีกไม่กี่อย่างที่ต้องแก้ แต่เทร้กซ์ดีขึ้นมาได้ขนาดนี้เบลก้อดีใจจะแย่แล้ว555

นึกถึงพี่หญิงเสมอนะคะ


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.207.111.72 วันที่: 24 พฤษภาคม 2555 เวลา:6:13:13 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์คนเก่ง

น้องเบลล์เก่งเยี่ยมเลยค่ะ เจ๋งมาก

พี่เข้าไปทักทายน้องที่กระทู้แล้วนะจ๊ะ ดีใจจังที่ได้เห็นภาพอันสวยๆและแสนอบอุ่นของครอบครัวน้องเบลล์ เจ้าเทร็กซ์น่ารักสุดๆ พี่เหม่งก็ดูใจดีและรักน้องเบลล์มากๆ


มามะมาดูการเลี้ยงหมาแบบบ้านๆอังกฤษกัน
//www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J12137266/J12137266.html#48

คิดถึงนะจ๊ะ

พี่หญิง


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 24 พฤษภาคม 2555 เวลา:11:07:27 น.  

 
would like to see dog u k style how can we see na when u take yujiyojajiji go to dog internation 2012 takecare i sick now love


โดย: FLROANZE IP: 125.24.230.66 วันที่: 5 มิถุนายน 2555 เวลา:15:39:19 น.  

 
พี่หญิง..
เบลหายไปนานเลย...พี่หญิงสบายดีนะคะ..เชื่อว่าสบายและแข้งแรงดีมากไม่งั้นคงไปวิ่งมาราธอนไม่ได้แน่ :-)

เบลแวะมาอัพเดทว่าตอนนี้มีหมา white German Shepherd ตัวเมีย อายุ 2 - 3 ขวบมาประกาศหาบ้านอยู่...เบลส่งอีเมลไปสอบถามทาง rescue..รอเค้าตอบกลับมาอยู่...ยังไม่รุ้ว่าจะได้รับเลี้ยงรึเปล่าไม่รู้..แต่ตื่นเต้นล่วงหน้า555....ถ้าได้หรือไม่ได้ยังไงเบลจะแวะมาอัพเดทนะคะ.

ส่วนเทร็กซ์ ตอนนี้ดีมาก ไม่ขู่พี่เหม่งแล้ว..เวลาออกข้างนอกก็ไม่จ้องที่จะพุ่งไปหาหมาอื่นแล้ว..ช่วงนี้อากาศดี เลยตะลอนทัวร์กันทั้งคนทั้งหมา :-)

ขอบคุณพี่หญิงมากๆนะคะ ที่ช่วยแก้ปัญหามาให้ตลอด.

ขอบคุณค่ะ
เบลล์


โดย: เบลล์ค่ะ IP: 90.197.231.109 วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:20:47:34 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องเบลล์คนเก่ง

ข่าวดีสุดๆเลยค่ะน้องเบลล์ ที่หนูเทร็กซ์ไม่ขู่พี่เหม่ง และไม่พุ่งไปหาหมาตัวอื่น สุดยอดเลยน้องพี่ ...น้องเก่งมากๆ ...

ถ้าได้เจ้าหนูตััวขาว white German Shepherdมาก็แจ่มเลย อายุเท่ายูจิเลย ยูจิของพี่ก็ 3 ขวบแล้ว แต่น้องอย่าลืมเช็คก่อนนะ ว่าเขามีปัญหาพฤติกรรมอะไรติดตัวมาบ้าง เราจะได้เตรียมการณ์กันก่อน ซ้อมแผนกันก่อน ว่าเราต้องเตรียมรับมืออะไรบ้าง

พี่เป็นกำลังใจให้น้องในทุกสิ่งอย่างเลยนะ
พี่หญิง


โดย: Yoja&Jiji วันที่: 22 มิถุนายน 2555 เวลา:20:58:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Yoja&Jiji
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 560 คน [?]




***ขอแจ้งให้ทราบว่า สำหรับผู้ที่เข้ามาถามคำถามเกี่ยวกับการแก้ปัญหาพฤติกรรมสุนัข จะไม่มีการตอบแล้ว โปรดอ่านบทความในบล็อกให้ละเอียด ทำความเข้าใจทุกประโยค คำถามส่วนใหญ่ มีคนมาถามแล้ว ให้อ่านคำตอบที่เคยตอบปัญหาของคนที่เคยถามได้ในส่วน comment ก็จะช่วยให้ได้ความเข้าใจและได้คำตอบ***

บทความและรูปภาพในบล็อก Yoja&Jiji เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล็อก แต่ยินดีที่จะให้นำบทความไปเผยแพร่ต่อที่ไม่ใช่เพื่อการค้าและธุรกิจ
ด้วยเงื่อนไขที่ต้องเขียนลิงค์ที่มาของบทความให้ชัดเจน ว่ามาจาก http://yojajiji.bloggang.com เพื่อที่หากมีผู้อ่านที่มีข้อสงสัย จะได้ตามลิงค์เข้าไปอ่านบทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้รักสุนัขและสุนัข
--------------------------------------------------------
ผมโยจา พี่สาวผมชื่อจีจี้ และน้องสาวชื่อยูจิ
โปรดเข้ามาเยี่ยมชมบ่อยๆนะครับ
Blog นี้สำหรับช่วย คนรักหมา คนเลี้ยงหมา ให้มีความสุขกับน้องหมาในแนวทางของ Cesar Millan
ปัญหาพฤติกรรมสุนัขที่ไม่เหมาะสมกับครอบครัวเรา ไม่ว่าจะร้ายแรงมากหรือน้อย เป็นมานานแค่ไหน 1 วัน หรือ หลายปี คุณเองก็แก้ไขปรับได้ ด้วยหลักการเดียวกัน
เริ่มเลี้ยงสุนัข อยากให้ไม่มีปัญหาพฤติกรรมสุนัขต่างๆ เลี้ยงดูป้องกันไม่ให้มีปัญหาได้ด้วยตัวคุณเอง ด้วยหลักการเดียวกัน
ติดตามอ่านให้เข้าใจหลักจิตวิทยาสุนัข ตามแนวทางของ Cesar Millan
New Comments
[Add Yoja&Jiji's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com