Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
รวมกระทู้ประวัติครูบาอาจารย์
รวมกระทู้คำสอนครูบาอาจารย์มั่น ภูริทัตโตและหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
รวมกระทู้คำสอนหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม
รวมกระทู้คำสอนหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
รวมกระทู้บทความคำสอนท่านพ่อลี ธมฺมธโร
รวมกระทู้คำสอนหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
รวมกระทู้คำสอนหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
รวมกระทู้คำสอนสมเด็จพระญาณสังวรฯ(เจริญ สุวัฒนโณ)
รวมกระทู้คำสอนหลวงพ่อชา สุภัทโท
รวมกระทู้คำสอนหลวงปู่ทองรัตน์ กนฺตสีโล
ธรรมะเบ็ดเตล็ดจากหนังสือต่างๆ
กระทู้ชวนอ่านหนังสือธรรมะ
เบ็ดเตร็ดจากหนังสือต่างๆ
กวีธรรม
<<
พฤศจิกายน 2555
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
12 พฤศจิกายน 2555
ทำจิตให้สงบไม่ใช่ของยาก (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
All Blogs
พุทฺธํ ธมฺมํ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ความสำรวมระวัง : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ความสุขเกิดจากความสงบ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ความปล่อยวาง ท่านพ่อลี ธมฺธโร
สังขาร (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ทำจิตให้สงบไม่ใช่ของยาก (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
พุทธโอสถ คือ สมาธิ ปัญญา (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
เหตุที่โลกน่าเบื่อหน่าย (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
สติเป็นชีวิตของใจ ลมเป็นชีวิตของกาย(พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
รักตัวอย่าฆ่าตัวให้ตายจากความดี (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
สัมมามรรคในการทำกัมมัฏฐาน พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ศีล ได้แก่ การละเว้นความไม่สะอาด ๓ ประการ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
อบรมสมาธิ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ร่างกายจะเสื่อมก็ช่าง จิตเราต้องไม่เสื่อมตาม พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
อริยทรัพย์เป็นเครื่องบำรุงกำลังใจ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺ มงฺคลมุตฺตมํ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวยธมฺมิโนฯ : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
หลักปฏิบัติทางจิต : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ปกิณกะธรรม พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
รสชาติของการอยู่ป่ากับอยู่บ้านนั้นต่างกัน หลวงปู่ลี ธมฺมธโร
อบรมเรื่อง จิต พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ทางสายเดียว (เอกายนมรรค) พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
การปฏิบัติจริงปฏิบัติให้บริสุทธิ์ โดย พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
อย่าตายใจในการปฏิบัติความดี ( พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ปกครองด้วยธรรมะ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ให้สะสมเสบียงไว้เลี้ยงตน พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ให้อยู่กับภาวนาทุกลมหายใจ พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
ศีลอยู่ในตัวเราแล้ว พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร
สติ เป็น ตปธรรม (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ยาพิษ...โทษมันอยู่ที่คนกินเข้าไป (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ผู้สั่งสมบุญย่อมนำมาซึ่งความสุข (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
การภาวนาพุทโธเป็นบ่อบุญถึง ๔ บ่อ(พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
การเดินหลงทางดีกว่าการมีจิตตั้งไว้ผิด (พระอาจารย์ลี ธมมธโร)
พระอาจารย์ลี ให้โอวาทเรื่องสมบัติ (อามิส)
จิตของเราเหมือนกับลูกโป่ง (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ความสะอาดเป็นเครื่องหมายหนึ่งของผู้มีศีล : ท่านพ่อลี ธมฺมธโร
ผู้ต้องการละขันธ์ ๕ ต้องสละ ๕ อย่าง (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
แสดงโอวาทอบรมพระภิกษุสงฆ์ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
คนฉลาดย่อมไม่กลืนกินอารมณ์ชั่ว (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
ทางธรรมเอา ใจ เป็นใหญ่ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
ทุกคนบวชเป็นญาติกับพระศาสนาได้ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
การภาวนาเปรียบได้กับการนิมนต์พระเข้าบ้าน (พระอาจารย์ลี)
แนวทางสำหรับผู้ปฏิบัติใหม่ๆ (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
คนมีอวิชชาเพลิดเพลินก็เหมือนปลาที่สนุกอยู่ในน้ำ : ท่านพ่อลี
ปัจฉิมโอวาทของท่านพ่อลี ธมฺมธโร
ทำจิตให้สงบไม่ใช่ของยาก (พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
โอวาทธรรม
ของ
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์
(พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
การที่เรานั่งทำจิตให้สงบเป็นของไม่ยาก การที่ทำให้ยากเย็นเพราะเข้าใจผิด
ที่เรียกว่า
โมหะ
เห็นผิดสำคัญผิด เรียกว่า
ทิฏฐิมานะ
ศึกษาให้เข้าใจในเรื่องนี้ก็จะรู้ความจริง
เป็นต้นว่า จิตเราไปโน่นจิตเราไปนี่อันนั้นไม่ใช่ความจริง เป็นความสำคัญต่างหาก
ความจริงจิตใจย่อมอยู่กับตัวเสมอไป
การไปนั้นสักแต่ว่าแสง เปรียบเหมือนกับกระบอกไฟฉาย
ตัวไฟจริงอยู่ในกระบอกหรือหัวเทียน ส่วนแสงของมันก็พุ่งไป
แสงกับไฟเป็นคนละอย่าง ไฟมีลักษณะให้ร้อนและมีแสง
ส่วนแสงไม่มีไฟ เพราะไม่มีลักษณะให้ร้อน
จิตใจของเราได้แก่ตัวรู้ ย่อมมีอยู่ทุกขณะลมหายใจ
ความรู้ที่แล่นไปไม่ใช่ตัวจริง
ถ้าเข้าใจผิด จะไปกุมเอาความรู้ ไปเหนี่ยวเอาแสงเข้ามาย่อมไม่ได้
เหมือนคนที่จับแสงไฟ ย่อมไม่ติดมือตนฉันนั้น
ไฟในที่นี้ มีอยู่ ๒ ประเภท
ไฟร้อน
ประเภทหนึ่ง คือ
กิเลสราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา
ไฟเย็น
ประเภทหนึ่ง คือ
ฌานัคคิ
เกิดขึ้นจากความสะสมไว้ซึ่งสมาธิจิต
ถ้าเข้าใจดีในการทำจิตก็จะพบไฟเย็น
ไฟเย็นเปรียบเหมือนกับถ่านไฟฉาย ไฟร้อนเหมือนกับหัวเทียน
เมื่อจิตไม่อยู่กับตัว ไม่ไปไหนเช่นนั้น จะมาทำสมาธิทำไม
ที่มาทำสมาธิกันนั้น คือ ไม่ต้องการใช้แสงไฟที่ร้อน
แสงไฟที่ร้อนย่อมทำให้เกิดโทษในประสาทตา ประสาทหู
ประสาทจมูก ประสาทลิ้น ประสาทกาย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย นี้เปรียบเหมือนกับหลอดไฟฟ้า
เส้นประสาทในที่นั้นๆก็เปรียบเหมือนกับสายลวดทองแดง
ใช้กระแสไฟผิดย่อมเกิดโทษ
ใช้กระแสไฟถูกแต่ไม่รู้จักดับย่อมสึกหรอ เช่น กร่อน หรือ ขาด
ประสาทของคนทั้งหลายในโลกย่อมเสียไปเพราะต้องการใช้แสงมากเกินควร
ประสาทตา ประสาทหู ประสาทจมูก ประสาทลิ้น ประสาทกาย ย่อมเสียไป
เป็นบ่อเกิดแห่งความโง่และตายเร็ว
ฉะนั้นการทำสมาธิ คือ ต้องการไฟเย็น เหมือนถ่านไฟฉายย่อมเป็นของเย็น
ถ้าคนโง่ก็เห็นว่าไม่มีไฟ เช่น คนบางคนเข้าใจว่า
นั่งหลับตาสงบจิตมันจะโง่ไม่มีปัญญา นั่นเป็นความโง่ของคนที่ว่า
ถ้าคนฉลาดเขาเปิดได้ไฟเย็นใช้ ฉะนั้นใจสงบนิ่งย่อมเกิดแสงสว่างขาว
รัศมีที่เรียกว่า ปภสฺสรํ จิตฺตํ ไฟเย็นย่อมเกิดแสงขาว
แสงที่ขาวนี้ย่อมไม่ให้โทษแก่หลอดไฟ เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย
สายลวด คือ เส้นประสาท ที่เรียกว่า จักขุประสาท เป็นต้น
ไฟก็เย็น แสงก็เย็น ย่อมใช้ได้ทั้งใกล้และไกล
อานิสงส์ที่จะเกิดขึ้น ก็คือ ความฉลาด ได้แก่ แสงเย็นที่ฉายออก
เช่น รอบรู้ในทางตา ดูรูปอะไรรู้เรื่อง เรียกว่า ทิพพจักขุ
ใช้ในทางหู ฟังอะไรรู้เรื่องเข้าใจ เรียกว่า ทิพพโสต
จมูกถูกกลิ่นอะไรก็รู้เรื่อง เข้าใจ ลิ้น กาย จิต ย่อมรู้รอบคอบสว่างไสว
เยือกเย็นเป็นสุข ที่ท่านเรียกว่า
ปญฺญาปโชโต
แสงสว่าง คือ ปัญญา
เมื่อใครทำได้เช่นนี้ จัดเป็น
วิชชาวิปัสสนา
คือ แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วจากความสงบ
ย่อมรู้ได้ในจักขุประสาท ตากระทบรูป ปัญญาเกิดขึ้น
ในระหว่างย่อมรู้ได้ด้วยปัญญา หูกับเสียงกระทบกัน ปัญญาเข้าแทรก
จมูกกับกลิ่นกระทบกัน ปัญญาเข้าแทรก
ลิ้นกับรสกระทบกัน ปัญญาเข้าแทรก
กายกับสัมผัสกระทบกัน ปัญญาเข้าแทรก ใจกับอารมณ์กระทบกัน ปัญญาเข้าแทรก
ตาไม่ติดรูป รูปไม่ติดตา หูไม่ติดเสียง เสียงไม่ติดหู
จมูกไม่ติดกลิ่น กลิ่นไม่ติดจมูก ลิ้นไม่ติดรส รสไม่ติดลิ้น
กายไม่ติดสัมผัส สัมผัสไม่ติดกาย ใจไม่ติดอารมณ์ อารมณ์ไม่ติดใจ
แยกออกเป็นส่วนๆ เรียกว่า
ภควา
เป็นตัว
วิปัสสนาญาณ
เป็น
ฉฬงฺคุเปกฺขา
ปล่อยได้ทั้งอายตนะภายใน อายตนะภายนอก
ใจที่แท้ย่อมอยู่กับความเย็นและความสงบสุข เปรียบเหมือนไฟเย็น
ย่อมถาวร ไม่ให้โทษแก่คนทั้งหลาย
คัดลอกจากหนังสือ
แนวทางวิปัสสนา-กัมมัฎฐาน ๑
พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร วัดอโศการาม
โดย ชมรมกัลยาณธรรม
ลี ธมฺมธโร
.
แนวทางวิปัสสนา-กัมมัฎฐาน ๑.
พิมพ์ครั้งที่ ๑.
กรุงเทพฯ : ขุมทองอุตสาหกรรมการพิมพ์ , ๒๕๕๒. หน้า ๖๐ - ๖๓
กระทู้ที่ธรรมจักร //www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=43825
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2555 11:50:30 น.
2 comments
Counter : 854 Pageviews.
Share
Tweet
สาธุ สาธุ สาธุ
โดย: มนตรี IP: 203.154.113.114 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2555 เวลา:16:18:53 น.
Sathu... _/|\\_
โดย: Pan (
Pan@CA
) วันที่: 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:12:23 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
คุณหนูขาวมณี
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add คุณหนูขาวมณี's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.