พระธรรมทูตแดนพุทธภูมิ สู่อินเดีย - เนปาล รุ่นที่ 5
ปัณณพร นิลเขียว
| ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา เมื่อปี พ.ศ.2550
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ได้จัดพิธีอุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลที่โพธิมณฑล ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และที่วัดไทยพุทธคยา ซึ่งเป็นวัดไทยแห่งแรกที่รัฐบาลไทยสร้างขึ้นในต่างประเทศ
ในครั้งนั้น มีข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนทั่วไปสมัครเข้ารับการบวชกว่า 86 คน โดยคณะผู้บวชมีโอกาสจาริกไปยังสถานที่สำคัญในพุทธศาสนาหลายแห่ง ทำให้ได้เรียนรู้พุทธธรรม ศิลปวัฒน ธรรม สังคม ศาสนา เศรษฐกิจ และการปฏิบัติธรรมจนเลื่อมใสในพุทธศาสนามากขึ้น
กระทั่งเมื่อคณะผู้บวชได้ลาสิกขา จึงร่วมประชุมหารือ และก่อตั้ง ชมรมโพธิคยา 980 และสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ขึ้น โดยโครงการแรกที่สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ริเริ่มคือ โครงการส่งเสริมพระสงฆ์ไทยไปศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึก ณ แดนพุทธภูมิอินเดีย - เนปาล
โครงการดังกล่าวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง พ.ศ.2555 ทางโครงการได้ตัดคำว่า "ไทย" ออกจากชื่อโครงการ เพราะตระหนักว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม ศรีลังกา ก็ล้วนแต่นับถือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท และเป็นกุลบุตรขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และดำเนินโครงการสืบเนื่องมาถึงปีนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5
สำหรับโครงการส่งเสริมพระไปศึกษาและปฏิบัติธรรมเชิงลึก ณ แดนพุทธภูมิ อินเดีย - เนปาลในปีนี้ ทางสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ได้รับความเมตตาจากพระเถรานุเถระ อาทิ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม พระธรรมวรนายก เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ประธานโครงการ พระธรรมสุธี ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระธรรมวิมลโมลี อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ อดีตเจ้าคณะภาค 17 และ พระธรรมราชานุวัตร เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว เชียงราย เจ้าคณะภาค 6 เป็นผู้คัดสรรพระสังฆาธิการ
นอกจากนี้ ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระมหาสังฆราชเทพวงศ์ ประจำประเทศกัมพูชา คัดสรรพระภิกษุกัมพูชามาเข้าร่วมโครงการ 3 รูป ส่วนพระมหาผ่อง สะมะเลิก ประธานองค์การพุทธศาสนาสัมพันธ์ สปป.ลาว ก็ได้คัดสรรพระภิกษุลาวมาร่วม 2 รูป รวมถึงพระภิกษุจากประเทศเวียดนามอีก 2 รูป รวมภิกษุที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 33 รูป
โดยคุณสมบัติของภิกษุที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นภิกษุระดับสังฆาธิการที่มีพรรษาอย่างน้อย 5 พรรษา และมีวิทยฐานะระดับนักธรรมเอก เปรียญธรรม หรือวุฒิการศึกษาอย่างต่ำระดับปริญญาตรี รวมถึงเป็นพระที่มีหน้าที่รับผิดชอบงานเผยแผ่ ที่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าในการศึกษาพระธรรม
นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า ตอนที่ตนบวช ตนไม่เชื่อว่าพระไตรปิฎกมีจริง และคิดว่าคนรุ่นเก่าเขียนหลอกเอาไว้ แต่เมื่อได้ไปอินเดีย ซึ่งเป็นดินแดนพุทธภูมิก็ทำให้จิตเปิด การได้เห็นต้นตอของพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นต้นโพธิ์ มหาวิทยาลัยนาลันทา วัดเวฬุวัน วัดเชตวัน และสังเวชนียสถานแต่ละแห่ง ทำให้ตนเห็นว่าศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาของสมมติเทพ แต่เป็นศาสนาของคนคนหนึ่งที่เพียรปฏิบัติมาหลายร้อยปี
พระทั้งหมดเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศอินเดียแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา และจะจำพรรษาอยู่ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เมืองกุสินาคาร์ รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย 1 พรรษา โดยระหว่างนั้น จะมีการแวะเวียนไปศึกษาเชิงปฏิบัติการตามสถานที่ต่างๆ อาทิ วัดไทยลุมพินี ในเนปาล วัดไทยเชตวันมหาวิหาร วัดไทยพุทธคยา วัดไทยนาลันทา วัดไทยสิริราชคฤห์ วัดไทยสารนาท และวัดไทยไวสาลี ในอินเดีย ก่อนจะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 23 ต.ค.2556
เพื่อเผยแผ่งานพระพุทธศาสนาสืบไป
หน้า 32
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คุณปัณณพร นิลเขียว สิริสวัสดิ์ภุมวารค่ะ
Create Date : 09 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2556 11:17:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1061 Pageviews. |
|
|