"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
3 มกราคม 2559
 
All Blogs
 
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ติดอันดับ "ทริป แอดไวเซอร์"








ถือเป็นพระอารามหลวงอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นหน้าเป็นตาของเมืองไทย "วัดโพธิ์" หรือ "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ 248 ถนนท้ายวัง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย อีกทั้งเป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี

นอกจากนี้ ยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศสยาม เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาองค์ความรู้หลายแขนง ทั้งการแพทย์แผนไทย ตำราหมอนวดและฤๅษีดัดตน ตลอดจนวิชาความรู้ด้านต่างๆ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ศึกษาหาความรู้อย่างเสรี

ส่งผลให้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เสนอจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกในระดับนานาชาติ

และยูเนสโกได้ประกาศรับรองจารึกวัดโพธิ์เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก ในทะเบียนนานาชาติ (International Register) ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษานานาชาติว่าด้วยแผนงานความทรงจำแห่งโลกของ ยูเนสโก ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 ณ เมืองแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร

ล่าสุดในปี 2558 "ทริปแอดไวเซอร์" เว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศผลการท่องเที่ยวที่ดีที่สุด ซึ่งได้รับคัดเลือกจากนัก ท่องเที่ยวหลายล้านคนทั่วโลกที่ได้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งเป็นสถานที่อันโดดเด่นของปี 2558

ปรากฏว่า วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาท่องเที่ยว เป็นอันดับที่ 21 ของโลก

แต่เดิมวัดแห่งนี้ ชื่อว่า วัดโพธาราม เป็นวัดโบราณเก่าแก่ที่ราษฎรสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นหลังจากปีพุทธศักราช 2231 ในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา ต่อกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวัดราษฎร์ขนาดเล็กอยู่ในเขตตำบลบางกอก ปากน้ำเจ้าพระยา เมืองธนบุรี ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดโพธิ์" มาจนถึงทุกวันนี้

เมื่อครั้งสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงสถาปนาเมืองธนบุรีเป็นนครหลวง ได้ทรงกำหนดเขตเมืองหลวงทั้งสองฝั่ง มีแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ในเขตกลางเมืองหลวง วัดโพธารามตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา จึงอยู่ในเขตพระมหานคร และได้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวง มีพระราชาคณะปกครองตั้งแต่นั้นมา

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีเนื้อที่ทั้งหมด 50 ไร่ 38 ตารางวา ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ของพระบรมมหาราชวัง

ทั้งนี้ เนื่องจากสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ยังไม่มีการพิมพ์หนังสือการศึกษา ที่มีเรียนก็อยู่ตามวัด ทำให้คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เรียน ด้วยทรงมีพระราชประสงค์จะให้มีแหล่งเล่าเรียนความรู้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมและเลือกสรรตำรับตำรามาจารึกที่แผ่นศิลาไว้โดยรอบวัดเพื่อเผยแพร่แก่ประชาชน

แล้วโปรดเกล้าฯ ให้จารึกองค์ความรู้ลงบนแผ่นหินอ่อนจำนวน 1,360 แผ่น ประดับไว้บริเวณผนังพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาราย วิหารคดภายในวัดพระเชตุพนฯ

ศิลาจารึกทั้งหมดจึงเป็นความรู้ด้านศาสนา วิชาการวรรณคดี โบราณ คดี และอีกหลายสาขา ซึ่งทรงมุ่งหวังให้ยั่งยืนและเผยแพร่ให้ประชาชนศึกษาได้อย่างเสรี เป็นแหล่งเล่าเรียนวิชาความรู้ของมหาชน

สำหรับภายในบริเวณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม มีสิ่งสำคัญและสวยงามอยู่หลายอย่างด้วยกัน

วิหารพระพุทธไสยาสน์ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ พระพุทธรูปขนาดใหญ่กึ่งนอน ก่ออิฐถือปูน ปิดทองทั่วทั้งองค์ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน ที่พระบาทประดับมุก ภาพมงคล 108 ประการ

วิหารพระพุทธไสยาสน์ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในคราวที่ทรงโปรดให้ขยายพระอารามออกมาทางทิศเหนือ (เข้ามาซ้อนทับเขตวัดโพธารามเดิม ที่ถูกยุบไปก่อนหน้านี้) โดยพระองค์ทรงโปรดให้พระองค์เจ้าลดาวัลย์เป็นแม่กองในการก่อสร้าง

โดยได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ขึ้นก่อน แล้วจึงสร้างพระวิหารภายหลัง โดยมีขนาดเท่ากับพระอุโบสถ บริเวณผนังของวิหารนั้น ด้านบนมีภาพเขียนสีเรื่อง มหาวงศ์ และผนังระหว่างช่องหน้าต่างเขียนภาพสีเกี่ยวกับพระสาวิกาเอตทัคคะ 13 องค์ อุบาสกเอตทัคคะ 10 ท่านและอุบาสิกาเอตทัคคะ 10 ท่านอยู่ด้วย

อีกความมหัศจรรย์ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม คือ พระพุทธรูปอันงดงามหลายองค์ นอกเหนือไปจากองค์พระพุทธไสยาสน์

ตรงพระอุโบสถหลังเก่าของวัดโพธิ์ แต่ภายหลังการสถาปนาพระอุโบสถหลังใหม่ของวัดโพธิ์แล้ว ได้ถูกลดฐานะพระอุโบสถหลังเก่าเป็น "ศาลาการเปรียญ"

ภายในมี "พระพุทธศาสดา" ประดิษฐานเป็นพระประธาน

พระพุทธศาสดา ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง ปรากฏแต่ว่าเดิมเป็นพระประธานอยู่ในพระอุโบสถ เห็นตั้งแต่ครั้งแรกสร้างวัดขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณก็อยู่ในราวรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาต่อกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปีพุทธศักราช 2231-2246 หรือภายหลังนั้นมา

ครั้นถึงกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช องค์ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงสถาปนาวัดพระเชตุพนฯ ให้เป็นพระอารามใหญ่โตสำหรับพระนคร เมื่อปี พ.ศ.2332

ครั้งนั้นได้ทรงโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอุโบสถหลังใหม่ขึ้น ส่วนพระอุโบสถหลังเก่านั้นให้สร้างแก้เป็นศาลาการ เปรียญ ซึ่งยังปรากฏอยู่ทุกวันนี้ ข้อนี้มีปรากฏอยู่ในพระนิพนธ์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่องตำนานพระพุทธรูปสำคัญ เพราะฉะนั้น พระพุทธศาสดา จึงคงประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ในศาลาการเปรียญตั้งแต่นั้นมา

แต่ที่ไม่ควรพลาดเลย สำหรับผู้ที่แวะเข้ามาภายในวัด คือ การได้ชมความงดงามของ "พระพุทธเทวปฏิมากร" พระพุทธรูปโบราณ ที่เป็นพระประธานในอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 5 ศอก คืบ 4 นิ้ว

พุทธลักษณะอันงดงาม ส่วนใครเป็นผู้สร้างและได้สร้างขึ้นเมื่อใดนั้น ไม่มีข้อมูลปรากฏ

แต่มีปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ ว่า เดิมประดิษฐานอยู่ ณ วัดศาลาสี่หน้า คือ วัดคูหาสวรรค์

เมื่อสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงสร้างวัดโพธารามให้เป็นวัดใหญ่สำหรับพระนคร และได้ทรงขนานนามใหม่ว่า วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม พระองค์ได้ทรงเลือกหาพระพุทธรูป ที่มีพุทธลักษณะงามสมควรเป็นพระประธานในพระอุโบสถของวัด จึงได้พบและเลือกพระพุทธรูปองค์นี้จากวัดศาลาสี่หน้า ดังกล่าว

ทั้งนี้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เปิดให้ประชาชนเข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น. สำหรับชาวต่างชาติจะต้องซื้อบัตรเข้าชม ส่วนนักท่องเที่ยวก็ต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย สุภาพสตรีห้ามสวมกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเข้าไปเที่ยวชมอย่างเด็ดขาด

หน้า 23


ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ


Create Date : 03 มกราคม 2559
Last Update : 3 มกราคม 2559 15:03:09 น. 0 comments
Counter : 951 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.