"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
14 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" หรือ"หลวงพ่อทองคำ" วัดไตรมิตรฯ โลหะรูปมนุษย์ คุณค่าทางพุทธศิลป์ แสนงดงาม

 

 

หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตรกับพุทธสรีระอันงดงาม

 

       ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ศาสนาพุทธกับสังคมไทยนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด ไม่เพียงแค่หลักธรรมที่ช่วยให้ปุถุชนทั่วไปได้เรียนรู้หลักการดำเนินชีวิตแล้ว พุทธศาสนายังได้สอดแทรกความงามของศิลปะในแขนงต่างๆ เอาไว้เป็นเครื่องจรรโลงจิตใจได้อีกรูปแบบหนึ่ง หรือที่เรียกกันว่าความงามทางพุทธศิลป์ อาทิ พระพุทธรูปของไทยเรานั้นถือว่าเป็นความสวยงามทางพุทธศิลป์ที่อยู่คู่กับเรามาตั้งแต่จำความได้ เพราะพระพุทธรูปนั้นคือตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เรากราบไหว้กันอยู่เป็นประจำ
       
       ข้อเท็จจริงจำนวนหนึ่งจาก อาจารย์ สุรศักดิ์ เจริญวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญในด้านศิลปะไทย นั้นกล่าวว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากมายที่เดินทางมาประเทศไทยเพื่อมาดู "โลหะรูปมนุษย์"
       
       โลหะรูปมนุษย์ ในความหมายของพวกเขา (ชาวต่างชาติ) คือพระพุทธรูปนั่นเอง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่านอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ที่ได้รับความสนใจและ พุทธศิลป์ในบ้านเรานั้นกลับเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะฝรั่งเขาบอกกันว่าเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองไทยที่ไม่เหมือนใคร
       
       พระพุทธรูปในเมืองไทยนั้นมีการสร้างมาช้านาน หลายยุคหลายสมัย และมีอยู่มากมาย แทบทุกอณูประเทศ สำหรับ"พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อทองคำ" ที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นั้นเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์สวยงามที่ได้รับการกล่าวขานถึงไม่น้อยเลย

หลวงพ่อทองคำ พระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดในโลก

 

       นอกจากนี้ในหนังสือท่องเที่ยวของชาวต่างชาติจำนวนมากยังได้บรรจุหลวงพ่อทองไว้เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องมาชมให้ได้เมื่อมากรุงเทพฯหรือแบงคอก หลังจากที่ The Guinness Book of World Record ได้จดบันทึกไว้ว่าเป็นเป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนักกว่า 5 ตัน และมีมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท
       
       อย่างไรก็ดีเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติของชาวไทยที่พบเห็นพระพุทธรูปสวยงามอยู่เป็นประจำ แต่สำหรับหลวงพ่อทองคำนั้นมีสิ่งที่น่าค้นหามากกว่าแค่ความงามภายนอก จนทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธรูปกลุ่มหนึ่งมาตั้งวง เสวนาวิชาการ "หลวงพ่อทองคำ...ถอดรหัสพุทธศิลป์สู่พุทธธรรมขึ้น" เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อทองคำที่ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นน่าสนใจ ทั้งเรื่องแรงศรัทธา ความชาญฉลาดทางสถาปัตยกรรม และเรื่องของปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นต่างๆ ก่อนจะมาเป็นหลวงพ่อทองคำอย่างในทุกวันนี้
       
       สังคมเจริญ ศิลปกรรมรุ่งเรือง
       
       ถ้าจะกล่าวถึงที่มาของหลวงพ่อทองคำนี้ อาจต้องท้าวความกลับไปยังช่วงสมัยสุโขทัย ซึ่งอาจารย์ สุรศักดิ์ ได้กล่าวถึงที่มาของหลวงพ่อทองคำไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า
       
       หลวงพ่อทองคำ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่น่าจะสร้างขึ้นในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง ถ้าเปรียบเทียบกับลักษณะของพระพุทธรูปในสมัยนั้น ในสมัยก่อนการจะสร้างพระพุทธรูปทองคำล้วนนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะว่าหลวงพ่อทองคำนั้นสร้างด้วยทองคำบริสุทธิ์ที่เรียกกันว่า "ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา" ตามมาตราทองคำของไทยโบราณ

พระพักตร รูปไข่กลมรี ให้ความรู้สึกสงบ

 

       ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา เป็นทองคำที่มีค่าของเนื้อทองรองจากทองนพคุณหรือทองเนื้อเก้า ซึ่งมีมูลค่าและราคามากมายมหาศาลแม้เทียบกับในปัจจุบัน นั่นแสดงถึงความเจริญในด้านสังคมของสุโขทัยและว่ากันว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในด้านศิลปกรรม โดยอ้างอิงจากหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 ที่ได้จารึกเรื่องราวบางส่วนไว้ว่า "กลางเมืองสุโขทัยนี้มีพิหาร มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส มีพระพุทธรูปอันใหญ่ มีพระพุทธรูปอันงาม" และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่พระพุทธรูปทองที่กล่าวถึงอาจหมายถึงหลวงพ่อทองคำองค์นี้ก็เป็นได้
       
       นอกจากนี้อาจารย์สุรศักดิ์ ยังสะท้อนให้เห็นความสำคัญของพุทธลักษณะของหลวงพ่อทองคำรวมถึงพระพุทธรูปอื่นๆ ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคเดียวกันว่า การสร้างพระพุทธรูปยุคสุโขทัยนั้นจะสร้างตามลักษณะของมนุษย์ทุกประการ แต่จะไม่เหมือนกับรูปปั้นที่โชว์กายภาพของร่างกายตามต่างประเทศ เพราะมนุษย์ที่ยังคงลักษณะทางกายภาพไว้ครบถ้วนนั้นแสดงให้เห็นว่ายังคงความเป็นโลกียะ คือยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส แต่พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นนั้นมีความสวยงาม ราบเรียบ แต่ไม่คงไว้ซึ่งลักษณะทางกายภาพเช่นกล้ามเนื้อ เพราะเป็นตัวแทนของมหาบุรุษซึ่งหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงหรือ โลกุตระ

หลวงพ่อทองคำในขณะที่เป็นพระปูน

 

       ความคิดเห็นนี้สอดคล้องกับบันทึกของ นายอเล็กซานเดอร์บราวน์ คริลโวล์ด นักโบราณคดีชาวอเมริกัน ที่ได้เขียนบทความเกี่ยวกับพระพุทธรูปสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 2496 โดยได้แสดงความคิดเห็นว่าลักษณะที่ผิดเพี้ยนไปจากกายภาพของมนุษย์ทั่วไปในพระพุทธรูปสุโขทัยเป็นผลมาจากความพยายามที่จะถ่ายทอดความเป็นมหาบุรุษ 32 ประการลงไปในพระพุทธรูป ซึ่งทุกอย่างนั้นล้วยมาจากแรงศรัทธาเลื่อมใสในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้หลุดพ้นซึ่งกิเลสทั้งปวงแล้วนั่นเอง
       
       จากพระทองคำ สู่พระปูนปั้น
       
       กล่าวกันว่าในยุคสมัยหนึ่งได้มีการพอกปูนทับ หลวงพ่อทองคำ และทำการลงรักปิดทองซ้ำอีกชั้นจนดูเหมือนพระพุทธรูปธรรมดาทั่วไป สาเหตุในครั้งนี้สันนิษฐานไว้ 2 สาเหตุหลักๆ ก็คือ ชาวกรุงสุโขทัยเองนั้นอาจเป็นผู้ที่พอกปูนอำพรางค์ทองคำไว้ เพราะช่วงหลังจากที่กรุงสุโขทัยเสื่อมอำนาจลง ได้มีสงครามบ่อยครั้งขึ้น และถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยารุกรานเมื่อราวปี พุทธศตวรรษที่ 20
       
       ถ้าเป็นจริงตามข้อสันนิษฐานนี้ หลวงพ่อทองคำในรูปของพระปูนปั้นได้ประดิษฐานอยู่ที่กรุงรัตนโกสินทร์มาอย่างยาวนาน

ภาพจำลองการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำ

 

       ส่วนอีกข้อสันนิษฐานหนึ่งคือทางฝ่ายกรุงศรีอยุธยานั้นได้อัญเชิญหลวงพ่อทองคำมาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยาในคราวที่สามารถรวมอำนาจกรุงสุโขทัยไว้ได้ แต่มีเหตุให้ต้องพอกปูนทับเพื่ออำพรางจากการที่พม่ายกทัพมาโจมตีเมืองก่อนที่จะเสียกรุง
       
       สำหรับข้อสันนิษฐานทั้งสองสามารถเชื่อมโยงกันได้ถึงปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นในยุคนั้นจนถึงขนาดที่ไม่กล้าเปิดเผยความสวยงามที่มีค่ามหาศาลนี้ แต่อีกด้านหนึ่งนั้นช่างผู้พอกปูนทับลงไปนั้นได้แสดงถึงความชาญฉลาดในการเก็บรักษาทองคำ โดยได้ลงรักไปบนผิวองค์พระทองคำก่อนที่จะพอกปูนทับ
       
       ทั้งนี้สันนิษฐานว่าเพื่อให้ปูนยึดเกาะได้ดีขึ้นและสามารถรักษาเนื้อทองคำใม่ให้ถูกกัดกร่อนจากความเค็มของปูนได้เป็นอย่างดี เพราะปูนในสมัยก่อนนั้นทำมาจากหินปูนหรือเปลือกหอยจากทะเลนำมาเผา ซึ่งจะมีความเค็มมากกว่าปูนในปัจจุบัน ถ้าใครเคยมาสักการะหลวงพ่อทองคำแล้วก็จะเห็นได้ถึงความแวววาวของเนื้อทองคำบริสุทธิ์ที่ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

พระเศียร แบบดอกบัวตูม สมส่วนกับพระคอ

 

       เมื่อปูนกระเทาะ
       
       ต่อมาในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์นั้นได้มีการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำมาประดิษฐานที่วัดพระยาไกร ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และสุดท้ายย้ายมาประดิษฐานที่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งการเคลื่อนย้ายหลวงพ่อทองคำนั้นได้รับความสนใจจากประชาชนในระแวกนั้นเป็นอย่างมาก
       
       ครั้นเมื่อจะยกไปประดิษฐานยังชั้นบนของวิหารก็ต้องใช้ทั้งแรงคนและเครื่องมือมากมายแต่ไม่สำเร็จเพราะมีน้ำหนักที่มากเกินกว่าที่คาดคะเนไว้ และช่วงที่กำลังยกองค์พระขึ้นไปสักพักเชือกกลับขาจนองค์พระตกลงมากระแทกพื้นเกิดเป็นรอยร้าว จึงยุติการดำเนินการลง
       
       แต่ในคืนเดียวกันนั้นเองเจ้าอาวาสวัดในขณะนั้นได้ฝันเห็นหญิงสูงศักดิ์คนหนึ่งนำสังวาลมามอบให้ แล้วกำชับให้ท่านเก็บรักษาไว้ ต่อไปจะมีเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เช้ารุ่งขึ้นทางวัดจึงสำรวจดูรอยร้าวและพบว่ามีการลงรักปิดไว้ จึงตัดสินใจแกะรักนั้นออกและพบเป็นเนื้อทองคำอย่างที่เห็นกันในปัจจุบัน

พระวรกาย อ่อนช้อยแม้กระทั่งด้านหลังขององค์พระ

 

       ความศรัทธา และคุณค่าทางพุทธศิลป์
       
       เรื่องราวของหลวงพ่อทองคำนั้นไม่เพียงแสดงให้เห็นคุณค่าทางด้านศิลปกรรม แต่ยังสะท้อนเรื่องราวของสังคมในแต่ละยุคสมัยได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันน่าแปลกที่ชาวต่างชาติให้ความสนใจกับหลวงพ่อทองคำมากกว่าคนไทย อาจจะเป็นเพราะการจัดการของวัดหรืออย่างไรก็ตาม แต่ก็เชื่อว่าหลวงพ่อทองคำนั้นย่อมเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทยที่เกิดจากแรงศรัทธาใน
       
       พระพุทธศาสนาที่ถ่ายทอดผ่านช่างฝีมือในอดีตออกมาเป็นศิลปกรรมที่มีคุณค่าในด้านพุทธศิลป์ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องเดินทางมาเพื่อให้เห็นกับตา และข้อสรุปของการเสวนา เรื่อง "หลวงพ่อทองคำ ถอดรหัสพุทธศิลป์สู่พุทธธรรม" ที่ผ่านมา ได้ความเห็นที่ตรงกันว่า
       
       อะไรก็ตามที่ทำให้หลวงพ่อทองคำนั้นงดงามนั้นย่อมไม่ใช่เพราะทองคำ หรือมูลค่า แต่ยังเป็นปริศนาธรรมที่ให้เราเก็บไปคิดว่าความงดงามที่เกิดขึ้นและยังอยู่คู่กับเราจนปัจจุบันนั้นเกิดจากคำว่า ศรัทธา ใช่หรือไม่
       
              
       วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯเขตสัมพันธวงศ์ กทม. มีหลวงพ่อทองคำประดิษฐานอยู่ ภายในพระมหามณฑป ที่ชั้น 4 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 -17.00 น. ส่วนชั้น 2 เป็น ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ชั้น 3 เป็นนิทรรศการพระพุทธมหาสุวรรณ ทั้งชั้น 2 และ 3 เปิดทุกให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น. ทั้งนี้ผู้สนใจรายละเอียดสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2623-3329-30

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ




Create Date : 14 มกราคม 2556
Last Update : 14 มกราคม 2556 7:32:07 น. 0 comments
Counter : 3876 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.