เร่ว - หมากเน็ง - มะหมากอี พันธุ์ดีเดียวกันค่ะ
เร่ว
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amomum villosum Lour. var. xanthioides (Aall.ex Baker) T.L. Wu&S.chen วงศ์ : Zingiberaceae ชื่อสามัญ : Bastard cardamom, Tavoy cardamom ชื่ออื่น : มะหมากอี, มะอี้, หมากอี้ (เชียงใหม่) หมากเน็ง (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ลักษณะ : เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นหรือเง่าอยู่ใต้ดิน การแตกกอเว้นระยะห่างแต่ละต้นประมาณ 25-40 เซนติเมตร พบมีหลายชนิด
แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่แทงช่อดอกจากเหง้าใต้ดิน ได้แก่ เร่วธรรมดาหรือเร่วกระวาน ใช้ผลเป็นเครื่องเทศ เร่วหอม ใช้รากปรุงอาหาร เร่วกระวานใหญ่ ผลใหญ่กว่าเร่วธรรมดา
กลุ่มที่ออกจากปลายยอดได้แก่ เร่วลูกแดงหรือเร่วใหญ่ เร่วป่าใช้ผลเป็นผักจิ้มและเร่วขนใช้รากปรุงยา ในที่นี้จะกล่าวถึงเร่วธรรมดา หรือเร่วกระวานและเร่วหอม
ลำต้น เร่วทั้งสองชนิดลำต้นสูง 2-4 เมตร
เร่วธรรมดา ลำต้นเรียบลื่น สีเขียวเข้ม โคนต้นสีขาว เหง้าใต้ดินสีขาวนวล ไม่มีกลิ่นหอม
เร่วหอม ลำต้นสาก สีเขียวอมแดง โคนต้นสีแดงเรื่อ เหง้าใต้ดินสีอมชมพู มีกลิ่นหอม
ใบ ออกแบบสลับ ใบหนา ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้มขนาดใบกว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 30-40 เซนติเมตร
ดอก แทงช่อดอกจากเหง้าใต้ดิน ก้านช่อดอกยาว 4-6 เซนติเมตร ดอกสีแดง ขนาด 2.5-4 เซนติเมตร
ผล เป็นช่อเปลือกผลมีขนคล้ายผลเงาะขนาด 1.5-2 เซนติเมตร ภายในมีเมล็ดสีน้ำตาลเข้มเรียงตัวอัดกันแน่นอยู่เป็ฯจำนวนมาก
การขยายพันธุ์ : โดยการเพาะเมล็ดและแยกหน่อ นิเวศวิทยาและการแพร่กระจาย : พบตามพื้นล่างของป่าดงดิบบนพื้นราบ และตามป่าเขา ชอบที่ร่มรำไร ดินระบายน้ำดี
ประโยชน์ : เร่วธรรมดา ใช้ผลเป็นเครื่องเทศ ที่รู้จักกันในนาม Bastard cardamom ในทางยาใช้ปรุงยาขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ จุกเสียด
เร่วหอม ใช้ ราก ซึ่งมีกลิ่นหอมเป็นเครื่องเทศ ปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยวเนื้อเลียง แกงป่า ผัดเผ็ด และน้ำต้มเนื้อ
ข้อมูลเร่ว: จากหนังสือทรัพยากรพันธุ์พืชเพื่อการอนุรักษ์ ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล กระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณ หนังสือสวนสมุนไพรสิรีรุกขชาติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานรมณีย์นะคะ
Create Date : 17 พฤษภาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 17 พฤษภาคม 2554 10:35:53 น. |
Counter : 2608 Pageviews. |
|
|
|