หม้อข้าวหม้อแกงลิง (Nepenthes)
หม้อบนของ Nepenthes edwardsiana
Nepenthes Bicalcarata
หม้อข้าวหม้อแกงลิง (Nepenthes) ( nə'pεnθiːz / มาจากภาษากรีก: ne = ไม่, penthos = โศกเศร้า ความเสียใจ; ชื่อของภาชนะใส่เหล้าของกรีกโบราณ (กรีก: Nepenthe) ) หรือที่รู้จักกันในชื่อของหม้อข้าวหม้อแกงลิง
หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นสกุลของพืชกินสัตว์ ในวงศ์หม้อข้าวหม้อแกงลิง ซึ่งประกอบไปด้วย 120 กว่าชนิด และลูกผสมอีกมากมาย เป็นไม้เลื้อยจากโลกเก่าที่ขึ้นในเขตร้อนชื้น
กระจายพันธุ์ตั้งแต่ตอนใต้ของจีน, อินโดนีเซีย, มาเลเซียและฟิลิปปิน; ทางตะวันตกของมาดากัสการ์ (2 ชนิด) และเซเชลส์ (1 ชนิด) ; ตอนใต้ของออสเตรเลีย (3 ชนิด) และนิวแคลิโดเนีย (1 ชนิด) ; ตอนเหนือของอินเดีย (1 ชนิด) และศรีลังกา (1 ชนิด)
พบมากที่บอร์เนียว และ สุมาตรา ส่วนมากนั้นเป็นพืชที่ขึ้นตามที่ลุ่มเขตร้อนชื้น แต่ในระยะหลังหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดใหม่ๆ มักพบตามภูเขาซึ่งมีอากาศร้อนตอนกลางวันและหนาวเย็นตอนกลางคืน
ส่วนชื่อหม้อข้าวหม้อแกงลิง (Monkey Cups) มาจากข้อเท็จจริงที่ว่าลิงมาดื่มน้ำฝนจากหม้อของพืชชนิดนี้
พืชในสกุลหม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพืชกินสัตว์ที่มีกับดักแบบหลุมพราง (Pitfall traps, pitcher) เหมือนกับพืชในสกุล Sarracenia, Darlingtonia, Heliamphora และ Cephalotus และการวิวัฒนาการของกับดัก สันนิษฐานว่าการจากการคัดเลือกภายใต้แรงกดดันในระยะเวลายาวนาน เช่น มีสารอาหารในดินน้อย เป็นต้น
ทำให้เกิดการสร้างใบรูปหม้อขึ้น และอาจเกิดจากแมลงซึ่งเป็นเหยื่อของมันหาอาหารมีพฤติกรรม, บิน, คลาน และไต่ ทำให้เกิดการพัฒนาจากโพรงช่องว่างที่เกิดจากใบประกบกันกลายหม้อ ซึ่งเป็นกับดักแบบหลุมพราง
หม้อข้าวหม้อแกงลิงนั้นถูกจัดให้มีบรรพบุรุษร่วมกับ พืชที่มีกับดักแบบกระดาษเหนียว ซึ่งแสดงว่าหม้อข้าวหม้อแกงลิงบางชนิดอาจมีการพัฒนา มาจากกับดักแบบกระดาษเหนียวที่สูญเสียเมือกเหนียวไป
กับดักเกิดขึ้นที่ปลายสายดิ่งหรือมือจับ ซึ่งพัฒนามาจากการยืดออกของเส้นกลางใบ โดยมากเป็นรูปทรงกลมหรือรูปหลอด เป็นกระเปาะ มีของเหลวอยู่ภายในมีลักษณะเป็นน้ำหรือน้ำเชื่อม
ปากหม้อที่เป็นทางเข้าของกับดักอยู่ด้านบนของหม้อ เป็นส่วนประกอบที่เรียกว่าเพอริสโตม ซึ่งมีลักษณะลื่น ฉาบไปด้วยขี้ผึ้งและเต็มไปด้วยสีสันที่ดึงดูดเหยื่อเข้ามาและเสียหลักลื่นหล่นลงไปในหม้อ
ส่วนล่างของหม้อจะมีต่อมสำหรับดูดซึมสารอาหาร จากเหยื่อที่จับได้ ส่วนบริเวณด้านบนจะมีผิวลื่นเป็นมัน ใช้เพื่อป้องกันเหยื่อหนีรอดไปได้ มีฝาปิดอยู่ที่ด้านบนของกับดัก ป้องกันไม่ให้น้ำฝนตกลงไปในหม้อ ใต้ฝามีต่อมน้ำต้อยไว้เพื่อดึงดูดเหยื่ออีกทางหนึ่ง
การปลูกเลี้ยง Nepenthes rajah ที่ถูกเพาะเลี้ยงกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดอื่นๆหม้อข้าวหม้อแกงลิงบางชนิดสามารถปลูกเลี้ยงได้ในเรือนกระจก เช่น N. alata, N. ventricosa, N. khasiana และ N. sanguinea หม้อข้าวหม้อแกงลิงทั้ง4ชนิดนี้เป็นพืชที่สูง (highlanders) (N. alata มีทั้งแบบพื้นราบและที่สูง) ส่วนตัวอย่างของชนิดพืชพื้นราบ (lowlander) ก็คือ N. rafflesiana, N.bicalcarata, N.mirabilis และ N.hirsuta
"พืชที่สูง" เป็นหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดที่ขึ้นในที่สูงอากาศหนาวเย็นในเวลากลางคืน (1000 เมตรขึ้นไป) "พืชพื้นราบ" เป็นชนิดที่ขึ้นใกล้กับระดับน้ำทะเล (0-1000 เมตร) หม้อข้าวหม้อแกงลิงชอบน้ำสะอาด , แสงมาก (ไม่ใช่แดดจัด), ชอบชื้นไม่ชอบแฉะ, อากาศไหลเวียนได้ดี
ตัวอย่างชนิดที่สามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ายอย่างเช่น N. alata ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นต่ำได้ดี พวกชนิดพื้นที่สูงต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศเย็นถึงจะเจริญเติบโตได้ดี
สามารถให้ปุ๋ยได้โดยให้เจือจางกว่าที่ระบุบในฉลาก ป้อนแมลงบ้างเป็นบางครั้ง บางชนิดใช้พื้นที่ในการปลูกเลี้ยงน้อยเช่น N. bellii, N. × trichocarpa และ N. ampullaria แต่ส่วนมากจะมีขนาดต้นที่ใหญ่และยาว
การขยายพันธุ์
การเพาะเมล็ด ให้โรยบนสแฟกนัมมอสส์ที่เปียกชื้นหรือบนวัสดุปลูกอื่นๆที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว เช่นขุยมะพร้าว, พีทมอสส์ ฯลฯ หลังฝักแตกออกให้รีบเพาะเมล็ดเพราะอัตรางอกจะลดลงเรื่อยๆเมื่อเก็บไว้นานเข้า ส่วนผสม 50:50 ที่ใช้ในการปลูกกล้วยไม้เช่นมอสส์กับเพอร์ไลต์ เป็นส่วนผสมที่เหมาะที่สุดในการเพาะเมล็ด
เมล็ดจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการงอกเป็นต้นอ่อน และหลังจากนั้น 2 ปีหรือมากกว่านั้นจึงจะให้ดอก
การปักชำ ให้ทำปักชำในสแฟกนัมมอสส์ ถ้าความชื้นและแสงพอเพียงต้นไม้จะงอกรากใน 1-2 เดือนและจะเริ่มให้หม้อใน 6 เดือน
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ในปัจจุบันเป็นการเพาะเลี้ยงในเชิงการค้าซึ่งได้ช่วยลดจำนวนต้นไม้ที่ถูกเก็บออกจากป่ามาขายได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ดี พืชหายากจำนวนมากยังถูกเก็บออกมาขาย เป็นเพราะราคาที่แพงของมันนั่นเอง
หม้อข้าวหม้อแกงลิงถูกบรรจุในรายชื่อพืชที่ถูกคุกคามหรือเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของไซเตสในบัญชี 1 และ 2
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์โสรวาร สิริมานปรีดิ์เขษมค่ะ
Create Date : 17 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2553 9:53:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1673 Pageviews. |
|
|
|
|
|