"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 

ทัวร์ศิลปวัฒนธรรม “ตามรอยราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง”

 

 

จากเรื่องเล่าของ ‘ผู้แพ้’ ในยุคล่าอาณานิคม
สู่เรื่องราว ‘ราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง’


เรื่องโดย : พิสิทธิ์ ศรีพุ่มไข่ และคณินพงศ์ บัวชาติ


หากเอ่ยนามว่า‘พม่า’แล้วล่ะก็เชื่อว่าคนไทยกว่าครึ่ง คงจะนึกถึงประเทศเพื่อนบ้านผู้เป็นศัตรูคู่สงครามของรัฐไทย ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า มีที่มาจากการนำเสนอประวัติศาสตร์ไทยผ่านสื่อต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็น ละคร หรือภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่องต่างๆ ที่เราได้ชมกัน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมักให้ภาพที่เหมือนกันคือพม่านั้นเป็นผู้ร้ายที่มาทำลายกรุงศรีอยุธยาอันเป็นราชธานี

แต่สิ่งหนึ่งที่หายไปจากการรับรู้ของคนไทยนั้นคงหนีไม่พ้น เรื่องของพม่าในยุคอาณานิคมหรือตั้งแต่หลังสงคราม  9 ทัพ ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา


ดร.ลลิตา หาญวงษ์อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสต์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่าในยุคอาณานิคม กล่าวไว้ว่า


“...ประวัติศาสตร์ยุคอาณานิคมในพม่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ขาดหายไปจากความรับรู้ของสังคมไทย ทั้งที่ประวัติศาสตร์ในยุคนี้นับว่าน่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากการเข้ามาของระบอบอาณานิคมจะเป็นปัจจัยหลัก

ที่ทำให้สงครามระหว่างไทยกับพม่าสิ้นสุดลงแล้ว ช่วงเวลาเกือบ 100 ปีของยุคอาณานิคมในพม่ายังนับเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์สมัยใหม่ และเป็นยุคที่เกิดความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมพม่ามากกว่ายุคใดๆ...”


งานเขียนประวัติศาสตร์พม่าในยุคอาณานิคมที่อยู่ในการรับรู้ของคนไทยนั้น คงจะหนีไม่พ้นเรื่องพม่าเสียเมือง ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ที่กล่าวถึงเรื่องราวในยุคนั้นผ่านมุมมองของ ‘ความดราม่า’ ในราชสำนักเสียส่วนใหญ่

มีการสังหารหมู่ การแก่งแย่งชิงราชสมบัติกันเองในหมู่พระราชวงศ์ รวมถึงภาพความโหดร้ายของพระราชินี จนท้ายที่สุดต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก แต่หากลองศึกษาประวัติศาสตร์โดยปราศจากอคติแล้ว

ภาพของพม่าที่เราจะได้อาจจะกลับกันในทันที กลายเป็นพม่าในมุมของผู้ถูกกระทำจากการถูกกดขี่ข่มเหงจากชาติตะวันตกอย่างอังกฤษในยุคที่ความคิดเรื่อง‘จักรวรรดินิยม’กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงจนหยุดไม่อยู่


ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม มักมีจำเลยของเรื่องๆ นั้นเสมอ สำหรับเรื่องของพม่าในยุคอาณานิคมนั้นคงจะหนีไม่พ้นพระเจ้าธีบอ และพระนางศุภยาลัต กษัตริย์และราชินีองค์สุดท้ายของพม่า ก่อนจะตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี พ.ศ. 2428

 

จากหนังสือเรื่อง ราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมืองที่คุณสุดาห์ ชาห์ชาวอินเดียได้ใช้เวลาถึง 7 ปีในการรวบรวมข้อมูลและเขียนขึ้นมาได้ให้ข้อมูลในเรื่องราวของพระเจ้าธีบอและพระราชวงศ์ ตั้งแต่พระองค์ถูกเนรเทศออกจากดินแดนพม่าไปพำนักอยู่ที่เมืองรัตนคีรีประเทศอินเดีย


ในหนังสือนั้นได้ให้ภาพตั้งแต่วันที่พระเจ้าธีบอ พระนางศุภยาลัต ตลอดจนพระธิดาทั้ง 2 และผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ต้องเสด็จออกจากพม่า พระองค์ต้องนั่งเกวียนออกจากพระราชวังมัณฑะเลย์เพื่อไปลงเรือไปยังอินเดีย

ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการหมิ่นเกียรติของพระองค์เป็นอย่างมาก อีกทั้งความรู้สึกของการต้องออกจากแผ่นดินของตนในฐานะผู้แพ้และเห็นผู้อื่นเข้าไปปกครองดินแดนของตนเองแล้ว นับว่าเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดมากเลยทีเดียว


นอกจากนี้ยังได้ให้ภาพความเป็นอยู่ของพระองค์และพระราชวงศ์ตลอดระยะเวลาที่พำนักอยู่ที่เมืองรัตนคีรีไว้ว่า พระองค์ทั้งหมดล้วนมีความเป็นอยู่ที่ไม่ได้ลำบากมาก หากเทียบกับบุคคลทั่วไป แต่หากนำไปเทียบกับอดีตอันรุ่งโรจน์หรือแม้แต่เกียรติยศอันสูงส่ง

ในฐานะที่เป็นเจ้าชีวิต ผู้มีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายใครก็ได้แล้วนั้น คงบอกได้คำเดียวว่าต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียวและคงเป็นเรื่องยากที่จะรับได้สำหรับผู้ที่ประสบชะตากรรมแบบนั้น


พระองค์ถูกจำกัดบริเวณ จำกัดค่าใช้จ่าย จำกัดอิสรภาพแทบทุกอย่างในการใช้ชีวิตจากทางรัฐบาลอังกฤษ แม้แต่ร่างที่ไร้วิญญาณของพระองค์หลังจากพระองค์สวรรคต ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปแผ่นดินเกิดด้วยซ้ำ

มีเพียงพระนางศุภยาลัต และเจ้าหญิงทั้ง 4 เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้กลับไปประทับที่พม่า หลังสิ้นสุดการเนรเทศอันยาวนานตลอดเวลา 35 ปี

แต่การมาของพระองค์นั้นก็ช่วยสร้างสีสัน ให้กับความเงียบเหงาของที่นี่ บางครั้งพระองค์จะจัดงานเทศกาลเฉลิมฉลองต่างๆ ก็จะเชิญชาวเมืองรัตนคีรีมาร่วมงานด้วย เรื่องเล่าของพระองค์และครอบครัวจึงยังอยู่ในความทรงจำและเรื่องเล่าของคนในเมืองรัตนคีรีมาจนถึงทุกวันนี้


อีกเรื่องหนึ่งที่มีกล่าวไว้คือเรื่องของพระราชธิดาทั้ง 4 พระองค์ ซึ่งทุกพระองค์ถูกเลี้ยงดูตามแบบราชนิกุลพม่าอย่างเคร่งครัด และไม่ได้เรียนหนังสือแบบที่เด็กทั่วไปควรจะได้รับ


เจ้าหญิงใหญ่ตกหลุมรักและมีลูกกับคนใช้ชาวอินเดีย เจ้าหญิงสองนั้นรักกับขิ่นหม่องลัตหนุ่มชาวพม่า ผู้เป็นสามัญชนและหนีออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่


จึงมีเพียงเจ้าหญิงสามและเจ้าหญิงสี่ พร้อมกับพระนางศุภยาลัตเพียงเท่านั้นที่ได้กลับมาใช้ชีวิตที่แผ่นดินเกิด แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปพำนักที่พระราชวังมัณฑะเลย์ดังเดิม จนสิ้นพระชนม์ตามวัยและเวลาอันสมควร


แม้ทุกวันนี้เรื่องทั้งหมดจะผ่านมา จนกลายเป็นเพียงความทรงจำของใครหลายๆ คน เท่านั้น แต่เชื่อว่าประวัติศาสตร์ตลอดจนคราบน้ำตาของผู้แพ้นั้น มักเป็นมุมที่ยังไม่ถูกมองเห็น

อาจเป็นเพราะผู้ชนะเป็นคนเขียนและเผยแพร่เรื่องราวทางประวัติศาสตร์หรือไม่ คำตอบนี้คงอยู่ในใจของทุกท่านอยู่แล้ว ประวัติศาสตร์พม่ายุคอาณานิคมถือเป็นตัวอย่างหนึ่งให้เราได้รู้ได้เห็น ในสิ่งที่ขาดหายไปจากการรับรู้ของคนไทยส่วนใหญ่ ว่าในมุมที่ต่างกันนั้น มีความต่างกันอย่างไร  


ในสายตาของอังกฤษที่มองว่าพระนางศุภยาลัตร้ายกาจเพียงใด แต่ฉากสุดท้ายของอีกมุมหนึ่งคือภาพของวัดเมี๊ยะต่อม วัดที่พระนางเป็นผู้สร้าง และได้ทอดพระเนตรก่อนจะต้องจากไปโดยไม่ได้กลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกเลย


ในวันที่ 18-20 ธันวาคม 2558 นี้ เตรียมพบกับทัวร์ศิลปวัฒนธรรม “ตามรอยราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง”ประเทศพม่าที่มติชนอคาเดมีจะนำพาทุกท่านได้ร่วมแสวงหาและค้นคำตอบ

เกร็ดความรู้ในแง่มุมต่างๆ อย่างละเอียด พร้อมร่วมทริปกับวิทยากรพิเศษ อ.ดร.ลลิตา หาญวงษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสต์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์พม่าในยุคอาณานิคม

พร้อมด้วยคุณสุภัตรา ภูมิประภาส ผู้แปลหนังสือ “ราชันผู้พลัดแผ่นดิน เมื่อพม่าเสียเมือง” หนังสือขายดีที่ตีพิมพ์มาแล้วถึง 6 ครั้ง และ“ราชินีศุภยาลัต จากนางกษัตริย์สู่สามัญชน” หนังสือขายดีอันดับ 3 ของบูธสำนักพิมพ์มติชน

จากงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 20  ที่ผ่านมา สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2954-3977-84 ต่อ 2123, 2124 (จันทร์-ศุกร์) 08-2993-9097, 08-2993-9105 (เสาร์-อาทิตย์) หรือที่//www.matichonacademy.com และ//www.facebook.com/Matichon.Academy.Thailand

 


01 ประตูเมืองมัณฑะเลย์ด้านทิศตะวันตก(ประตูผี) เป็นประตูสำหรับเคลื่อนย้ายศพคนที่ตายแล้ว

 


02 มณฑปฝังพระศพของพระเจ้ามินดง และพระนางชิ่นผิวมะฉิ่นพระมเหสี

 


03 บรรยากาศภายในพระราชวังมัณฑะเลย์

 


04 หุ่นขี้ผึ้งจำลองพระรูปของพระเจ้าธีบอและพระราชินีศุภยาลัต กษัตริย์และพระราชินีองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อลองพญา

 

ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์

คุณพิสิทธิ์ ศรีพุ่มไข่ - คุณคณินพงศ์ บัวชาติ

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2558
0 comments
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2558 12:57:06 น.
Counter : 1369 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.