ช่วงวันหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นอกจากได้พักผ่อน และสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือคนในครอบครัว บางท่านมีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ตามแผนซึ่งวางไว้ และอดทนรอมาตลอดหนึ่งปี ในวันสบายๆ สมองโล่ง ลองติดหนังสือดีๆ ไปด้วยสักเล่ม แล้วหยิบขึ้นมาอ่านในยามว่าง น่าจะช่วยเติมเต็มความสุข เพิ่มพูนความรู้ได้ไม่น้อย และวันนี้ mars มีหนังสือที่น่าสนใจมานะนำกัน

ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย / คริส เบเคอร์, ผาสุก พงษ์ไพจิตร / มติชน / 395 บาท

ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย ซึ่งเคยผ่านสายตาผู้อ่านที่สนใจและนักศึกษาชาวต่างชาติก่อนคนไทย เนื่องจากหนังสือเล่มนี้ถูกเขียนและตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษโดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มาก่อน ก่อนจะถูกปรับปรุงเป็นภาษาไทย

โดยคงเนื้อหาสำคัญอันว่าด้วยที่มาของชนชาติไท อาณาจักรไทยุคเริ่มต้น วิวัฒนาการของพลังทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง ที่ส่งผลต่อการสร้างชาติและรัฐชาติไทย รวมถึงสาเหตุ ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ครอบคลุมทุกมิติ ผ่านภาษาสั้นกระชับและเข้าใจง่าย

เสียงแห่งขุนเขา / ยาสึนาริ คาวาบาตะ-เขียน, อมราวดี-แปล / นาคร / 250 บาท

นวนิยายเรื่องเยี่ยม ที่มีส่วนส่งให้นักเขียนชาวญี่ปุ่นได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1968 เสียงแห่งขุนเขาซ่อนเร้นความปวดร้าว เปล่าเปลี่ยวของผู้คนภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งทำลายบ้านเรือน ชีวิต และทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย ไว้ภายใต้บรรยากาศ การดำเนินเรื่องที่เรียบนิ่ง ยาสึนาริ คาวาบาตะ

นำพาผู้อ่านดำดิ่งลงไปสำรวจอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนผ่านเรื่องราวและตัวละครอย่างทรงพลัง สิ่งที่สงครามได้ทำลายลงไม่ใช่เพียงชีวิตและทรัพย์สิน หายนะมากกว่าที่เกิดกับวัตถุ คือจิตใจของผู้คนที่ยังมีชีวิตอยู่

ฟ้ากว้างทางไกล / วิลเลียม ซาโรยัน-เขียน, วิภาดา กิตติโกวิท-แปล / มูลนิธิหนังสือเพื่อสังคม / 340 บาท

 ผลงานอีกเรื่องของผู้เขียน ‘ความสุขแห่งชีวิต’ วิลเลียม ซาโรยันเขียนฟ้ากว้างทางไกลอย่างเรียบง่ายแต่งดงามตามแบบฉบับของเขา เรื่องราวระหว่างพ่อนักเขียน ผู้กำลังเขียนตำราอาหาร กับลูกชายวัยสิบขวบ ผู้ชอบตั้งคำถาม บทสนทนาระหว่างพ่อกับลูกทั้งเรื่องชีวิต ผู้คน ความตาย

หรือแม้กระทั่งเรื่องง่ายๆ อย่างโรงเรียน ก้อนหิน ทะเล รถยนต์ การเขียนหนังสือ กลับแฝงไว้ด้วยแง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ปรัชญาในการมองโลก แต่ละบทที่สั้นกระชับตลอดเล่มนวนิยายเรื่องนี้อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ความรัก ความเข้าใจ และการมองโลกในแง่ดี   

ดวงตะวันส่องฉาย / จิมมี่ เลี่ยว-เขียน, ’ปราย พันแสง-แปล / ฟรีฟอร์ม / 320 บาท

เรื่องราวความรักที่ต้องลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบของชายหญิงในเมืองใหญ่คู่หนึ่ง ฝ่ายชายเป็นนักดนตรี ฝ่ายหญิงเป็นนักเขียน ต่างใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในอพาร์ตเมนต์เดียวกัน ห้องติดกัน แต่ไม่เคยพบเจอกัน เพราะทั้งคู่ไม่เคยเปลี่ยนโลกใบเดิมที่ขังตัวเองไว้ พรหมลิขิตต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนเส้นทางที่ผู้หญิงชอบเดินเลี้ยวซ้าย ผู้ชายชอบเดินเลี้ยวขวา กว่าทั้งคู่จะมาพบกัน

ทั้งภาพและคำงดงาม ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสุดเหงา แต่แสนอบอุ่น ไม่แปลกที่หนังสือเล่มนี้จะถูกยกย่องให้เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดเล่มหนึ่งของนักเขียน-นักวาดภาพประกอบชาวไต้หวันคนนี้

หอนาฬิกาที่หาช่างซ่อมไม่ได้ / นฤพนธ์ สุดสวาท / อมรินทร์ / 245 บาท

เรื่องสั้นยอดเยี่ยมรางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ปี 2557 มีดีและโดดเด่นโดนใจคณะกรรมการตัดสินด้วยท่วงทำนองของอารมณ์ถวิลหาวันเวลาแสนดีที่ลับหาย ย้อนแย้งกับขณะปัจจุบันอันฉาบฉวย กลวิธีการนำเสนอและดำเนินเรื่องฉับไวไม่เยิ่นเย้อ ภาษาอุปมาอุปไมยคมคาย กระชับพอเหมาะพอดี และให้ภาพบรรยากาศกึ่งจริงกึ่งฝัน

นอกจากเรื่องสั้นเรื่องนี้แล้ว ภายในเล่มยังมีเรื่องสั้นที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายอีก 12 เรื่องของ 12 นักเขียน อาทิ นทธี ศศิวิมล, พึงเนตร อติแพทย์, จารี จันทราภา, ฆนาธร ขาวสนิท ให้อ่านกันเต็มอิ่ม

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

Marsmag

สิริสวัสดิ์ศุกรวารค่ะ