"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
 
กันยายน 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
20 กันยายน 2557
 
All Blogs
 
ปกผู้จัดการสุดฯ ใครจะล้ม “บิ๊กตู่”? THE LORD OF THE RINGS

 

ใครจะล้ม “บิ๊กตู่”? THE LORD OF THE RINGS

 

 

 

 

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เรื่อง “แหวน” และ “กำไล” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถูกสังคมให้ความสนใจมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากหลายคนสังเกตเห็นว่า นายกฯ สวมใส่ชัดๆ ในวันที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นนายกรัฐมนตรี

       หลังจากนั้นก็ปรากฏให้เห็นอยู่บนนิ้วมือและข้อมือของ พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะแหวนที่อาจกล่าวได้ว่า “ไม่ธรรมดา” เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์เล่นใส่ซ้อนกันถึงสองวงที่นิ้วนาง ทั้งมือข้างซ้ายและข้างขวา

       แน่นอน ในฐานะนายกรัฐมนตรี ทุกคนย่อมอย่างรู้ว่า นายกรัฐมนตรีของไทยสวมแหวนและกำไลอะไร เกี่ยวพันกับความเชื่อในเรื่องโชคลางอะไรหรือไม่

       ในที่สุดผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลก็ปะเหมาะมีโอกาส ได้สอบถามข้อเท็จจริงกับเจ้าตัวโดยตรง และ ฯพณฯ นายกฯ ตู่ก็ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างไม่ปิดบังอำพรางแต่อย่างใด

ข้อเท็จจริงก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ สวมแหวน 4 วง ประกอบไปด้วยแหวนพระ แหวนนะโม แหวนสมเด็จและแหวนนพเก้า ส่วนที่ข้อมือนอกจากริสแบนด์ (Wristband) สีเหลืองที่เห็นกันประจำแล้ว ก็ยังมีกำไลอีก 1 วงเป็นกำไลเงินหางช้าง

       “เป็นกำไลเงินหางช้าง ใส่มานานแล้ว คนโบราณเขาเชื่อกันก็เชื่อตามเค้า เราคนไทย ศาสนา เค้าเชื่อถือกัน หรือนักข่าวไม่เชื่อ ส่วนแหวนก็เหมือนเดิม แหวนพระ แหวนนะโม แหวนสมเด็จ แหวนนพเก้า” พล.อ.ประยุทธ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

       การสวมแหวนและกำไลดังกล่าว ทำให้มีความชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่มีความเชื่อในเรื่องโชคลาง ขณะเดียวกันก็มีความหวั่นวิตกในการดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ควบเก้าอี้ “หัวหน้า คสช.” อยู่ในทีเช่นกัน และต้องการให้รัฐบาลทำงานด้วยความราบรื่น

       คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ใครคือศัครูที่จะทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์สั่นคลอนได้

       ทั้งนี้ ถ้าหากไปตรวจสอบ “อารมณ์” ของสังคมในช่วงตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาก็จะพบว่า สังคมไทยและคนไทยส่วนใหญ่ให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์มาโดยตลอด ทั้งในฐานะหัวหน้า คสช.และนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อว่าจะสามารถนำพาประเทศไทยหลุดพ้นจากความขัดแย้ง และสามารถปฏิรูปประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าในทุกทางเหนือรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง เนื่องจากมีอำนาจรัฏฐาธิปัตย์อยู่ในมือเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์

       แน่นอน กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่ม นปช.ย่อมไม่ใช่ศัตรูของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังจะเห็นได้จากหลังการรัฐประหารจนกระทั่งมีรัฐบาล คนเสื้อแดงมิได้เคลื่อนไหวต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ให้เห็น

       แน่นอน กลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่มี “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นเลขาธิการ ก็มิใช่ศัตรูของ พล.อ.ประยุทธ์ มิหนำซ้ำยังให้การสนับสนุนเสียด้วยซ้ำไป

       แม้แต่สื่อสารมวลชนทุกแขนงก็ให้ความร่วมมือกับ พล.อ.ประยุทธ์เป็นอย่างดี

       ดังนั้น ศัตรูของ พล.อ.ประยุทธ์จึงมิใช่ใครอื่น หากแต่คือตัว พล.อ.ประยุทธ์เอง เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติ ก็ย่อมที่จะไม่ต้องเกรงกลัวภยันตรายใดๆ ไสยศาสตร์หรือมนต์ดำใดๆ ก็ไม่สามารถกล้ำกรายได้

       วันที่ 16 กันยายน 2557 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งที่ 1/2557 เอาไว้อย่างน่าสนใจ

       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกคนต้องสร้างแนวคิดร่วมกันกับตน ว่า รัฐบาลคิดอย่างนี้ นายกรัฐมนตรีคิดอย่างนี้ แล้วประชาชนไม่ร่วมมือจะทำอย่างไร ใครที่เป็นแกนนำต่างๆ ยังไม่หยุดแล้วจะแก้ได้อย่างไร อย่ามาไล่ตนข้างเดียว ต้องไปบอกทุกพวก

วันนี้ตนถึงบอกว่าตนไม่มีข้าง และทำแบบนี้มาตลอดไม่เคยเบียดเบียนใคร และยอมรับว่าโดนด่าก็ต้องโดน ถ้าว่าไม่อย่างนี้อย่างนั้น แต่ตนต้องการให้ประเทศที่ซ้ายกับขวาหยุดให้ได้ แล้วค่อยปรองดองกันไป หารือพูดคุยกัน ตนก็พาประเทศเดินหน้าไปก่อ

       “ถ้าเราหยุดที่ตีกันแบบนี้ ก็แก้กันอยู่ตรงนี้ มันไปไม่ได้ประเทศก็ตกต่ำทุก วันจะทำยังไง แล้วบอกว่าเหลื่อมล้ำจะทำอย่างไร แก้ปัญหากันมากมาย จะทำอย่างไร สรุปว่าต้องตีกันก่อนใช่ไหม ถึงจะชนะกันได้ถึงจะเดินหน้าประเทศใช่ไหม ซึ่งมันไม่ได้เราต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้ และพูดคุยกันปฏิรูปประเทศให้ได้

ประเทศต้องเดิน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการต่างประเทศ การศึกษาทั้งหมด มีหลายอย่างต้องใช้เวลา ผมก็สั่งไปเยอะ เยอะมากสั่งแบบทหารสั่งล่ะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

       นี่คือแนวทางในการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์

       และในวันนี้สถานการณ์ทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ส่อเค้าให้เห็นว่าจะมีแรงกระเพื่อมต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะทุกองคาพยพของสังคมไทยให้โอกาสและความร่วมมือเป็นอย่างดี

       อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมิได้วางใจในสถานการณ์เท่าใดนัก เพราะเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการจับตาความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หรือไม่

       พล.อ.ประยุทธ์ได้ตอบอย่างชัดเจนว่า จับตาดูทุกพวก ทุกคน รวมทั้งสื่อฯ ด้วย ส่วนจะจับตาความเคลื่อนไหวอย่างไรนั้นตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของความมั่นคง เรามี สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีหน่วยข่าวเยอะแยะไปหมด มีทั้งคลื่นใต้น้ำ บนน้ำก็มี

       และเมื่อถามว่าอยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ ตนไม่มี ความคิดอะไรทั้งนั้น ใครผิดก็หมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

       นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “คำพูด” ของ พล.อ.ประยุทธ์เองที่จำต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้

       ตัวอย่างที่ชัดเจนคือกรณีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนสื่อของอังกฤษนำไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

       “มักมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวต่างชาติเสมอ เพราะนักต่างชาติมักเข้าใจว่าไทยเป็นประเทศที่สวยงามและปลอดภัย จนทำให้เหล่านักท่องเที่ยวมักแต่งกายในชุดบิกินีและเดินไปทุกที่ พวกนั้นจะปลอดภัยในชุดบิกีนีหรือ..หากไม่เป็นพวกหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่” พลเอกประยุทธ์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์

       หลังจากที่คำให้สัมภาษณ์ผู้นำไทยแพร่ออกไป แอนดริว โรซินเดล ( Andrew Rosindell) สมาชิกคณะกรรมาธิการต่างประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า "ภายใต้คำให้สัมภาษณ์เหล่านั้น ดูเหมือนสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดคือ มีการชี้ว่าการเสียชีวิตเป็นผลมาจากการกระทำของเหยื่อเอง ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมจนกว่าจะมีหลักฐานอ้างอิง

ซึ่งเข้าใจว่ามีความเป็นกังวลอย่างมาก ต่อผลที่จะเกิดกับการท่องเที่ยวของไทย แต่นี่เป็นเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และสิ่งแรกที่ไทยต้องทำคือการนำความยุติธรรมกลับคืนให้กับเหยื่อผู้บริสุทธิ์ และนี่ถือเป็นสิ่งแรกสุดที่ต้องทำ "

 และโรซินเดล สมาชิกรัฐสภาอังกฤษยังกล่าวต่อว่า "การให้ความเห็นเรื่องชุดบิกินี ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะนั่นเป็นสถานที่ตากอากาศดังนั้นผู้คนย่อมสวมชุดบิกินีเป็นเรื่องปกติ และอีกทั้งเป็นไม่ให้เกียร์ติผู้เสียชีวิต รวมไปถึงญาติของผู้สูญเสียที่เพิ่งเสียลูกสาวสุดที่รักไป และดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ผู้นำไทยคนนี้เปิดปากพูด เขาจะทำลายอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทุกครั้ง"

       นอกจากนี้นาดิม ซาฮาวี (Nadhim Zahawi) สมาชิกคณะกรรมาธิการต่างประเทศอังกฤษอีกคนให้ความเห็นถึงการให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธ์ว่า "เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย" และเสริมว่า "สตรีไม่ควรถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของตนเอง"

ด้าน แคธี รัสเซล จากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Rape Crisis England and Wales เสริมว่า "การให้สัมภาษณ์ของพลเอกประยุทธ์นั้น ไม่ให้ความสำคัญกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่นเหยื่อผู้เสียชีวิต ญาติมิตรและเพื่อนคนรู้รักของผู้ตาย และแน่นอนที่สุดเป็นการแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสมโดยสิ้นเชิง"

       ในที่สุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2557 พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องออกมาขอโทษในสิ่งที่ตนเองพูดออกไป

       “ต้องขอโทษด้วยถ้าพูดไปแล้วทำให้ไม่สบายใจ ผมไม่ได้หมายความดูถูกหรือว่าใคร เพียงแต่เตือนบางครั้งต้องระมัดระวังเหมือนกัน ในแต่ละสถานที่หรือบางเวลา ผมจะไปดูถูกหรือว่าเขาได้อย่างไร วันนี้ก็ยังรับรองอยู่ว่าปลอดภัย เว้นเพียงแต่ว่ามันมีคนไม่ดีอยู่ ซึ่งก็เหมือนกันทุกที่ในโลกนี้

ฉะนั้นต้องระมัดระวังเหมือนกัน เพราะบ้านเมืองเรากับบ้านเมืองเขา บางทีมีความปลอดภัยไม่เหมือนกันจึงเป็นห่วง เวลานี้ได้สั่งให้กระทรวงมหาดไทย ตำรวจ และฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปดูมาตรการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น ซึ่งเขาทำอยู่แล้วเพียงแต่ต้องเข้มขึ้นมากกว่าเดิม

เพราะชาวต่างชาติเขาไม่รู้คิดว่าปลอดภัยอยากมาเที่ยว เราก็ต้องช่วยกันดูแลอย่าให้คนร้ายคนไม่ดีปะปนอยู่ คนที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนแรงงานอะไรต่างๆ มาทำงานไม่ได้ มันอันตรายและเป็นผลเสีย”

       “บางครั้งผมพูดแรงไปเพราะผมกดดัน และเกิดจากความเสียใจที่มีคนตายคนเจ็บ จะเป็นคนไทยคนต่างชาติเสียใจทั้งนั้น ไม่อยากให้มีการสูญเสียอีก เพราะเราก็วัวหายล้อมคอกทุกครั้ง นี่ก็สั่งการไปแล้วทั้งรัฐมนตรีมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคงให้ไปหามาตรการเพิ่มเติมว่าจะทำอย่างไร

ข้อสำคัญต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากๆ เพราะทำให้เสียการท่องเที่ยวในพื้นที่เขา รายได้ก็สูญหายไปด้วย ดังนั้นต้องช่วยกัน จะรอเจ้าหน้าที่อย่างเดียวไม่ได้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ล้อมกรอบ

“แหวนนพรัตน์ แหวนนะโมและกำไลหางช้าง” ของขลังของ “พล.อ.ประยุทธ์”

หางช้าง ถือว่าเป็นของที่มีคุณวิเศษในตัวเอง คนโบราณมักพกขนจากหางช้างติดตัวอยู่เสมอ นัยว่าเป็นเครื่องรางของขลัง ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆ ในยามที่ต้องเดินทางไกล

นอกจากนี้คนโบราณเชื่ออีกว่า ถ้าบูชาดีขนจากหางช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆ ล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้

       ทั้งนี้ หางช้างมีสองประเภท คือ

1. ขนหางช้างสีดำ และ

2. ขนหางช้างสีขาว (บางท่านเรียกว่าขนหางแก้วขนหางดอก ขนหางช้างเผือก) เป็นของหายากคล้ายกับงากำจัด มีความเชื่อว่าเป็นของแรงในตัวมีอานุภาพทวีคูณกว่าหางช้างสีดำ

       สำหรับแหวนนั้น แหวนที่น่าสนใจมี 2 แหวนด้วยกันคือ แหวนนพเก้าและแหวนนะโม

แหวนนพเก้า เป็นแหวนที่ประดับด้วยอัญมณีมงคล 9 อย่าง ได้แก่ เพชร ทับทิม มรกต บุษราคัม ไพลิน โกเมน มุกดาหาร เพทาย และ ไพฑูรย์ โดยมีความเชื่อว่า นพเก้า หรือเรียกอีกอย่างว่า นพรัตน์นี้ มีอำนาจพิเศษที่จะนำสิริมงคลมาสู่ตัวผู้สวมใส่ และส่วนใหญ่จะใส่ที่นิ้วชี้มือขวา

       “วิกิพีเดีย” ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแหวนนพรัตน์หรือแหวนนพเก้าเอาไว้ว่า แหวนนพรัตน์ เป็นเครื่องยศชนิดหนึ่ง ทำจากทองคำเนื้อสูงฝังนพรัตน์ แหวนนพรัตน์เป็นหนึ่งในเครื่องยศที่สำคัญมากและใช้สวมใส่ในงานมงคลเท่านั้น การพระราชทานแหวนนพรัตน์มายกเลิกในสมัยรัชกาลที่ 5 เพราะได้มีการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แทน

       ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงสร้างดารานพรัตน์เพียง 6 ดวง และทรงสร้างแหวนนพรัตน์พระราชทานแก่เจ้าพระยาชั้นหิรัญบัตร และเจ้าพระยาชั้นสุพรรณบัตรเท่านั้น (เจ้าพระยาเสนาบดี) รัชกาลที่ 4 ได้พระราชทานแหวนนี้ แก่พระราชวงศานุวงศ์หลายพระองค์ และเสนาบดีหลายนาย นับได้ทั้งหมด 20 วง

       สมัยรัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ในครั้งแรกมีเพียง 9 สำรับรวมเครื่องต้น ส่วนแหวนคงไว้แต่การพระราชทานแก่พระบรมวงศาานุวงศ์ระดับสูงเท่านั้น

       ด้านแหวนนะโม หรือที่ปักษ์ใต้เรียกว่า หัวนอโมคือหัวแหวนเล็ก ๆ หล่อด้วยเงิน ทอง นากหรือนวโลหะเรียบร้อยแล้ว จึงตอกตรานโมลงไป ตรงกลางเป็นอักขระขอมตัวนะ อยู่ภายในบ่อวงกลมตื้น ๆ

       เล่ากันว่าในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดโรคห่าระบาดขึ้นในเมืองนครศรีธรรมราช จึงรับสั่งให้สร้างหัวนะโมขึ้น แล้วประจุผงพระพุทธคุณอันวิเศษที่สำเร็จขึ้นจากพระอาจารย์ผู้มีกฤตยาคมสูงลงในหัวแหวนนั้น

โปรดเกล้าฯ ให้นำหัวนะโมไปหว่านโปรยลงรอบเมืองนครฯ ให้ทั่วหมดสิ้น จากนั้นภายในไม่ช้าโรคอหิวาต์ก็สงบลง ภายหลังได้มีผู้เก็บเอาหัวนะโมนี่มาทำเป็นหัวแหวน ถือว่าเป็นสิ่งที่นำความมงคลมาสู่ตนประการหนึ่ง

       ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแหวนนะโมเอาไว้ว่า อักขระนะโมเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรทะเลใต้ เชื่อว่าถ้ามีติดตัวติดบ้านแล้วจะป้องกันคุณไสย เสนียดจัญไรและสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้เข้ามาได้ เป็นเครื่องราง

ลักษณะของเงินตรานะโม เป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-6 มิลลิเมตร ด้านหนึ่งประทับด้วยอักษรอินเดีย ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นร่องคล้ายเมล็ดกาแฟ

       เงินตรานะโมเริ่มแรกสร้างโดยพราหมณ์ของรัฐตามพรลิงค์ (ชื่อเดิมของจังหวัดนครศรีธรรมราช) ในสมัยพุทธศตวรรษที่ 14-15 เงินตรานะโมผูกพันอยู่กับคนท้องถิ่นจังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมพันปี

ต่อมามีการปรับใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้เป็นเครื่องรางของขลัง และยังใช้เป็นเงินตราในขณะเดียวกัน ต่อมาได้เกิดโรคระบาดมีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จึงได้นำเงินตรานะโมมาโปรยปรายไปรอบกำแพงเมืองและศาสนสถาน เพื่อเป็นการขับไล่โรคห่า ซึ่งโรคห่าก็ได้ลับหายไปจากเมืองนครศรีธรรมราช

       ต่อมามีการคันพบเงินตรานะโมเป็นจำนวนมาก บรรจุอยู่ในไหพบที่ใต้พื้นพระราชวังโบราณในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา รวมอยู่กับเงินพดด้วงจำนวนหนึ่ง วิเคราะห์ว่าเป็นเงินตราที่เมืองนครศรีธรรมราชส่งไปเป็นส่วยหรือเป็นเครื่องบรรณาการให้กับราชธานีในสมัยอยุธยา

และพบอยู่ในท้องแม่น้ำในจังหวัดราชบุรี พิษณุโลก และอีกหลายแห่งที่อยู่นอกถิ่นเมืองนครศรีธรรมราช เป็นการแสดงให้เห็นว่า ในระดับสากล (ภายในอาณาจักรสยาม) เงินตรานะโมนั้นต่างเป็นที่ยอมรับและมีมูลค่าในตัวเอง

       ส่วนการที่เรียกเงินตราชนิดนี้ว่า นะโม อาจหมายถึงว่า ตัวอักษร น หมายถึงความนอบน้อม หรืออาจหมายถึงหัวใจของคาถาพุทธศาสนาที่ว่า นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทธสฺส ซึ่งแปลว่า “ความนอบน้อม (ของข้าพเจ้า) จงมีแต่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น” ก็เป็นได้

       แหล่งที่พบเงินตรานโม นอกจากจะพบทั่วไปในจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ยังพบในที่อื่นอีกบางแห่ง เช่นที่อำเภอไชยาจังหวัดสุราษฎร์ธานี แถบจังหวัดพิษณุโลก หรือที่เกาะชวาประเทศอินโดนีเซีย

 

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์โสรวารค่ะ




Create Date : 20 กันยายน 2557
Last Update : 20 กันยายน 2557 12:03:55 น. 0 comments
Counter : 2222 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.