นิยายยุคไซเบอร์ หนังสือที่ ′ทำลายตัวเอง′
siripong@kidtalentz.com
โดย ศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ siripong@kidtalentz.com
| ย้อนกลับไปเมื่อราว 15 ปีที่แล้ว ต้นปี 2000 นักเขียนใหญ่แนวสยองขวัญ สตีเฟน คิง เปิดให้ดาวน์โหลดนิยายในรูปแบบอีบุ๊กที่ถือกันว่าเป็นอีบุ๊กเล่มแรกในตลาดแมสมาร์เก็ต ใน 24 ชั่วโมงแรกยอดดาวน์โหลดนิยาย ไรดิ้ง เดอะ บุลเล็ต ขึ้นไปสูงกว่า 400,000 ก๊อบปี้
ถือเป็นการบุกเบิกอีบุ๊กสู่โลกของการอ่านในยุคซึ่งเราแทบไม่รู้จักเครื่องอ่านอีบุ๊กกันเสียด้วยซ้ำ ก่อนหน้านั้นในปี 1999 มีเครื่องร็อกเก็ต อีบุ๊กที่รู้จักกันในวงแคบมากๆ ถัดมาปี 2004 โซนี่ออกเครื่องอ่านอีบุ๊กในญี่ปุ่นและถัดมาสองปีก็มีโซนี่ รีดเดอร์ ที่ทำให้ตลาดเริ่มรู้จักกับอุปกรณ์ชนิดนี้มากขึ้น
ไม่ต้องพูดถึงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตซึ่งเกิดทีหลังนานมาก ที่ดาวน์โหลดไปอ่านกันสมัยนั้นก็อ่านกันอยู่บนพีซีนั่นละครับ แม้ทุกวันนี้อีบุ๊กส่วนใหญ่ก็ยังอ่านกันบนพีซี โดยมีเครื่องอ่านอีบุ๊กรองลงมา แท็บเล็ตกับสมาร์ทโฟนรั้งท้าย
เท่าที่จำได้สตีเฟน คิง ยังเคยใช้วิธีเปิดดาวน์โหลดนิยายแบบขยักโดยตั้งเป้าว่าหากยอดดาวน์โหลดเล่มแรกไม่ถึงเป้าก็จะไม่มีเล่มต่อไปออกมาให้อ่าน และดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
มาถึงยุคนี้อีบุ๊กเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย นักเขียนมีชื่อระดับสตีเฟน คิง ไม่ต้องมาบุกเบิกแผ้วถางทางอะไรอีกแล้ว ก็แค่ผลิตงานดีๆ ออกมา ใครใคร่จะซื้อรูปแบบไหนไปอ่านก็เลือกเอาตามใจชอบ
แต่ถ้าคิดอย่างนั้นกันเสียหมดก็คงไม่มีอะไรใหม่ๆ มาให้ได้สนุกกัน
ล่าสุด นักเขียนนิยายระดับเบสต์ เซลเลอร์ อีกคนที่ขอลองเล่นด้วยคือ เจมส์ แพตเตอร์สัน เป็นหนึ่งในนักเขียนที่มีรายได้จากการเขียนสูงที่สุดในโลก หนังสือของแพตเตอร์สันทุกประเภททั้งเรื่องแต่งและสารคดีมียอดขายรวมกันทั่วโลกแล้วประมาณ 300 ล้านเล่ม
ถึงจะเป็นลูกเล่นการตลาดก็เป็นลูกเล่นที่น่าสนุก เพราะก่อนที่หนังสือนิยายเล่มล่าสุดของเขาเรื่องไพรเวท เวกัส ที่เริ่มวางตลาดครั้งแรกวันที่ 26 มกราคมนั้น เปิดขายก๊อบปี้แรกกันที่ราคาสูงถึง 294,038 เหรียญสหรัฐ แต่คนที่ซื้อจะได้เดินทางส่วนตัวไปยังสถานที่หรูหราซึ่งไม่เปิดเผย และได้ร่วมดินเนอร์ชุดใหญ่กับแพตเตอร์สัน โดยจะมีหน่วยสวาทมานำส่งหนังสือ
เหมือนกับการดึงเอาคนอ่านเข้าสู่โลกของนิยายด้วยตัวเอง เพียงแต่โอาสนี้จะเป็นของคนเพียงคนเดียวที่มีเงินสำหรับละลายเล่นเท่านั้น
ประเด็นถัดมาน่าสนใจกว่านั้นก็คือคนอีก 1,000 คนแรกในสหรัฐมีโอกาสเข้าถึงนิยายเล่มนี้ในแบบฟรีๆ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา โดยมีเวลาในการอ่านให้จบเพียง 24 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดหนังสือก็จะหายไป พูดให้สนุกก็อาจจะบอกว่าหนังสือจะระเบิดหรือทำลายตัวเองภายใน 24 ชั่โมง ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก
แฟนนักอ่านของแพตเตอร์สันที่เหลือไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้เป็นเพียงคนอ่านธรรมดา เพราะแพตเตอร์สันเปิดโอกาสให้เข้าร่วมประสบการณ์กับเหตุการณ์นี้ได้ด้วยการเข้าไปติดตามความคืบหน้าในการอ่านของ 1,000 คนแรกนั้นตามเวลาจริง และพยายาม "โขมยเวลา" ของพวกเขาผ่านเว็บไซต์ใหม่ที่จัดทัพขึ้นมา selfdestructingbook.com ซึ่งจะทำให้เวลาอ่านที่มีอยู่เพียง 24 ชั่วโมงของคนเหล่านั้นสั้นลงอีก
เท่าที่เข้าไปดูตอนที่กำลังเขียนบทความนี้มีหนังสือที่ทำลายตัวเองไปแล้ว 115 เล่ม ที่กำลังอ่านอยู่ 111 เล่ม และมีเหลือให้อ่านได้อีกราว 500 เล่ม อยากเห็นตอนที่หนังสือมันทำลายตัวเองว่าจะทำออกมาแบบไหน มีเอฟเฟ็กต์อะไรชวนให้ตื่นเต้นหรือเปล่า แต่คงไม่มีโอกาสเพราะไม่ได้อยู่ในสหรัฐ
แพตเตอร์สันถือได้ว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งของนักเขียนที่เอาเทคโนโลยีสมัยใหม่มารับใช้ ผสมผสานกับงานเขียนนิยายของเขา สร้างสรรค์ประสบการณ์การอ่านแบบใหม่ ขอบคุณ มติชนออนไลน์ คุณศิริพงษ์ วิทยวิโรจน์ สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 28 มกราคม 2558 |
Last Update : 28 มกราคม 2558 12:30:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 970 Pageviews. |
|
|