Bloggang.com : unitan - หนูนี่แหล่ะ คือ เทพเจ้า ตอนที่ 6 หน้า 1

Group Blog

พฤศจิกายน 2564

22 พฤศจิกายน 2564

หนูนี่แหล่ะ คือ เทพเจ้า ตอนที่ 6 หน้า 1

All Blog

หนูนี่แหล่ะ คือ เทพเจ้า ตอนที่ 6 หน้า 1

เมื่อกลับมาถึงบ้าน พบผู้ใหญ่บ้านและทองพึ่งลงมาจากเรือน

“ลุงผู้ใหญ่ มาหาทวดเหรอจ๊ะ”

น้าฟูเอ่ย

“ใช่ จะกลับแล้วล่ะ อ้าว นั่น ลูกแก้วที่ท่านจันทร์หอมบอกว่าจะมาช่วยงานที่อนามัยเหรอ”

ผู้ใหญ่เอ่ยทัก

“สวัสดีค่ะ/ครับ”

ทั้งสองไว้

“ไหว้ พระลูก ดีเหมือนกัน บ้านเราจะได้มีหมอดูแลเพิ่มขึ้น ลุงไปล่ะนะ พอดีมีงานค้างอยู่”

“จ๊ะ”

ทั้งสองจากไปแล้ว ฟูวางกระบุงลง ล้างเท้า ก่อนจะหิ้วกระบุงขึ้นบ้าน ส่วนเด็ก ถอดรองเท้าและล้างเท้าตามขึ้นไป

คนางค์อุ้มโปรดขึ้นบันใด ส่วนเปิ้ลช่วยจูงหลาน พอมาถึงข้างบน คนางค์ก็เข้าไปในครัวเพื่อช่วยน้า

น้ากำลังเตรียมข้าวเหนียวเพื่อที่จะทำข้าวต้มมัด ตัดใบตองเป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้า และใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด ใช้กล้วย ถั่วเหลือง ถั่วแดงเป็นไส้

คนางค์ช่วยน้ามัดข้าวต้ม เสร็จแล้ว น้าก็เอาหน่อไม้มาเผาและใช้ไผ่แหลมๆ ขีดข่วนหน่อไม้จะเป็นเส้นฝอยๆ จากนั้น

น้าฟูก็ตัด และเอามาต้มผ่านน้ำแรก ก่อนจะปรุงแล้วห่อใบตองเอาไปนึ่งไฟ

“น้าคะ หนูอยากรู้เรื่องน้ากัลยาณีค่ะ”

คนางค์ เอ่ยถามน้าฟู หลังจากที่ทั้งสองช่วยกันทำอาหารเสร็จ
นั่งรออาหารนึ่งในครัว

“ฮึ..มีอะไรหรือเปล่า?”

“ก็ใครต่อใครก็บอกว่าหนูหน้าเหมือนน้ากัลยาณี ทุกคนต่างก็พูดว่าหนูเป็นลูกของน้ากัลยาณี”

ฟูมองดวงหน้าหลานสาวที่เต็มไปด้วยความอยากรู้

“กัลยาณีเป็นน้องสาวคนเล็กของน้า พวกเรามีกัน 3 พี่น้อง เธอเป็นคนสวย เรียบร้อยอ่อนหวาน กลิ่นกายหอมแต่กำเนิด ทวดเล่าว่านางเกิดจากครรภ์ปรามาศ”

“ครรภ์ปรามาศ? ครรภ์ปรามาสเป็นการตั้งครรภ์แบบไม่เสพสังวาสนิคะ มันเป็นไปได้ยังไง?”

คนางค์อึ้ง ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง

“ใช่แล้วล่ะ เป็นการฝากครรภ์จากเทพวิหกที่เอาดวงจิตชายาที่ดับสูญไปในสงครามภูติ มาฝากสาวบริสุทธิ์ในหมู่บ้าน”

“สงครามภูติ?”

เรื่องยิ่งลึกเข้าไป คนางค์ยิ่งไม่เข้าใจ

“ที่จริงน้าก็ไม่รู้อะไรมากหรอกตอนนั้นน้ายังเล็กอยู่ กัลยาณีนะเสียชีวิตไปเมื่อ 20 ปี หลังจากคลอดลูก”

“น้ากัลยาณีมีลูกด้วยเหรอคะ”

น้าฟูหยุดเพียงแค่นั้น มองหน้าหลานเหมือนคิดอะไรได้ เธอขยับไปเติมเตาไฟ แล้วก็หันไปทำงานอย่างอื่นต่อ

“เอาน้ำชาไปให้ทวดทีนะจ๊ะ”

“อ้อ...ค่ะ”

คนางค์ยังเต็มไปด้วยความสงสัย เธอเดินไปที่ห้องโถง คลานเข่าไปหาทวด เปิ้ลเล่นกับน้องๆ อยู่ไม่ไกลนัก

“ทวดคะ”

“ฮืม..”

ทวดมองดวงตาขี้สงสัย

“อยากจะรู้เรื่องของกัลยาณีล่ะสิ”

ราวกับทวดหยังรู้จิตใจเธอ

“ค่ะ”

“มานั่งใกล้ๆ สิ”

คนางค์ลงนั่งใกล้ๆ ทวด ส่วน มังกรตัวน้อยก็คลานมาหมอบนอนข้างๆ นาย

เปิ้ลกับน้องๆ คลานเล่นมาใกล้ๆ โปรดขอกินนม คนางค์เลยหากล่องนมเทใส่ขวดให้น้องดูด มานั่งบนตักเธอ

“ราว 40 กว่าปีที่แล้ว ยามนั้นเกิดพายุฟ้าร้องคะนองฝนเกิดขึ้น เทพวิหกปรากฏกายที่เรือนนี้ พร้อมแจ้งว่าทวดว่าจะให้กำเนิดหญิงผู้สืบทอดร่างเทพ

ตอนนั้นทวดเองก็มิเข้าใจนัก เทพวิหกได้แจ้งว่า ทวดนั้นจะมีอายุขัยเพียง 91 ปี ทวดมีลูกสาวคนเดียวคือเจ้าฝาง

นั่นก็คือยายของเจ้า ได้สิ้นไปตั้งแต่คลอดน้าฟู แลในตระกูลเรานั้น ฟางมีลูกสาวสองคน แลลูกหลานทั้งสองนั้น เป็นเพียงเดรัชฉานมาเกิด

ท้าวเทพทั้งหลายได้ประชุมกันไว้ จะให้ดวงจิตเทพกัลยาณี ชายาของเทพวิหกมาเกิด โดยเกิดปรามาส กับหญิงบริสุทธิ์ในหมู่บ้าน ในกาลนั้น ทวดได้แจ้งแก่หญิงทั้งปวงที่ยังบริสุทธิ์ เพื่อหาผู้ที่เหมาะมาตั้งครรภ์ เทพกัลยาณี”

ทวดมองจ้องดวงหน้าใส ที่ตั้งใจฟังเรื่องที่เล่า

“เมื่อวันเพ็ญในเดือนหก ได้มีหญิงสาว 7 คน ในหมู่บ้านที่ยังมิแต่งงาน มารวมกันที่บ้าน

เมื่อเทพวิหกได้เข้าร่างทรง หลังจากที่ได้ให้ดื่มน้ำมนต์และลูบท้องหญิงสาวทั้ง 7 ไปแล้วนั้น ผ่านไป 7 วัน ก็บังเกิดชัยเภทแลฝันวิปริต

ได้แต่งกายอาภรณ์ด้วยเพชร เหาะเหินอากาศด้วยเฉกเช่นวิหก แก่กิมชอน ที่เพิ่งแตกเนื้อสาวอายุ 19 ปี

เป็นอันว่าเทพกัลยาณีได้มาจุติแล้ว แลหลังจากนั้น กิมชอน นางก็อยากกินแต่ดินบนเขาเป็นอาจิณ เมื่อครบครรภ์ได้ 10 เดือน นางคลอดทารกเป็นหญิง ผิวกายสีขาวผุดผ่อง กลิ่นกายหอมราวดอกกล้วยไม้ป่า นามว่ากัลยาณี

นางกิมชอนนั้น มิอาจจะเลี้ยงดูนางได้ด้วยบุญญาของทารก จึงได้ยกมาให้ทวดเป็นผู้เลี้ยงดู”

“กัลยาณี มีจิตใจบริสุทธิ์ เข้าถึงญาณแม้ยังเด็กตามภพภูมิหลังที่นางจุติ เวลาผ่านไป จนนางเติบใหญ่

มีเหตุอาเภทขึ้นที่ประตูภูติ ทวดและกัลยาณีต้องช่วยเหล่าเทพสะกดเหล่าภูติพรายมิให้ทำร้ายคน กัลยาณี โดยมลทินจากภูติเนื่องจากกายหยาบที่เป็นมนุษย์

เหล่าเทพได้ประชุมกันหารือในการช่วยเหลือ ครั้งนั้นเทพมังกรผู้มิเคยสนใจใยดีใคร...”

เทพมังกรผงกหัวขึ้นมาจ้องทวด

“เจ้ามิควรเอ่ยถึงเรื่องของข้า”

“มิเอ่ยได้อย่างไร? หลังจากนี้ล้วนเกี่ยวกันกับท่านทั้งนั้น หรือท่านลืมไปแล้ว”

ทวดต่อขานองค์เทพ

มังกรขี้เกียจต่อความเลยวางพาดปากยาวลงขาหน้าทั้งสอง

“เทพมังกรผู้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกรนั้น ท่านเป็นพาหะท้าวเทวะ และเป็นเทพแห่งสงครามที่รบมิเคยแพ้ พลังของท่านนั้น เหล่าทวยเทพทั้งหลายยังสิโรราบ แต่ท่านมาช้าไปนิดจึงเกิดการล้มตายของเหล่าเทพจำนวนมาก สุดท้ายท่านก็ช่วยปิดประตูภูติได้”

คนางค์หันมามองมังกรที่นอนข้างเธอ อย่างไม่อยากจะเชื่อ
โปรดกินนมอิ่มแล้ว เริ่มง่วงนอนค่อยๆ หลับตาบนตักของคนางค์

“เทพเทวะ ได้ปลดปล่อยเทพมังกรจากการเป็นพาหะ ให้สถิตบนเขาเทวะบรรพตแห่งนี้ ด้วยบนเขาสูงไกลลิบตาคือบันไดสู่สวรรค์ชั้นฟ้า ผ่านวิหารเทพขึ้นไปนั้นจะผ่านป่าหิมพานต์ ที่แห่งนั้นจะมีสัตว์เทพหลากหลายพันธุ์สถิตอยู่ ทั้งรูปร่างหน้าตาที่มิเคยเห็น ที่นั่นเมื่อหลายพันปี มีเทพกินรีสถิตอยู่”

“เทพกินรี!!”

คนางค์ถึงกับอิ้งไป

แต่ก็ตั้งใจฟังที่ทวดจะเล่าต่อ เปิ้ลแม้ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเท็จแต่เขาก็ฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน

“ว่ากันว่าเทพกินรีนั้นคือคู่ตุหงาหงันที่เทพเทวะได้หมายไว้ให้เทพมังกร แต่ด้วยที่เทพมังกรอยู่วิหารเทพเทวะ ลงมาพบเจอเทพกินรี 100 ปีครั้ง

และดูเหมือนเทพมังกรนั้นยังมิเข้าใจในเรื่องการมีคู่นัก เมื่อได้มาเฝ้าวิหารเทพประตูสู่เทวะ เทพมังกรนั้นได้ใช้เวลากับเทพกินรีเพื่อทำความเข้าใจเรื่องนั้น”

“โห 100 ปี เชียวเหรือ?”

คนางค์ รำพึงอยู่ในใจ

“เมื่อครั้งสงครามประตูภูติในยุคแรกนั้น เทพกินรีได้ต่อสู้เทพและได้ดับสูญไปเช่นเดียวกับเทพหลายๆ องค์ เช่นเดียวกับเช่นเทพกัลยาณี เทพมังกรได้เก็บดวงจิตเทพกินรีเอาไว้ในกล่องแก้ว ณ วิหาร เทพนั้น”

“และเมื่อเห็นกาลว่ากัลยาณีจะสิ้นไป เนื่องจากกายหยาบแห่งมนุษย์รับมลทินภูติมิได้ เทพวายุได้แอบถ่ายดวงจิตเทพกินรีเข้าครรภ์ของนาง ทำให้เทพกัลยาณีฟื้นคืนร่าง พลังแห่งเทพคืน แต่ก็มิอาจจะอยู่ได้นาน เพียงแค่ 10 เดือนหลังจากนั้น ซึ่งก็สร้างความโกรธแค้นให้แก้เทพมังกรเป็นอย่างมากที่โดนเทพวายุขโมยดวงจิตเทพกินรี”

คนางค์คิดในใจ เทพวายุ เป็นเทพที่ดีหรือเปล่า?

“เมื่อกัลยาณีให้กำเนิดทารกเป็นหญิง เทพมังกรคิดแย่งชิงเด็กทารกไป เทพวายุจะมิยกให้เทพมังกร เทพวิหกมิอาจจะยอมรับการกระทำของเทพมังกรได้ เกิดความขัดแย้ง ในเหล่าเทพ

จึงเกิดศึกขึ้น แต่เหล่าปวงเทพมิอาจจะสู้พลังเทพแห่งสงครามได้เรื่องถึงเทพวายุต้องมาสงบศึกครั้งนี้

โดยจะยกทารกน้อยให้เทพวิหกให้เป็นบิดา เมื่อเทพมังกรมิยินยอมจึงได้สะกดให้เทพมังกรลืมเทพกินรีในบันดล ก่อนที่เทพมังกรจะต้องมนต์สะกด ครานั้นได้ทิ้งสะกดพลังเทพของกินรีไว้ที่หน้าผาก”

คนางค์ถึงกับตัวเย็นวาบหนึ่ง

“เรื่องนั้นก็ผ่านมาราว 20 ปีแล้ว”

“แล้วเด็กคนนั้นอยู่ที่ไหนล่ะคะ”

เธออถามทวดออกไปอย่างสับสนงงงัน

ทวดหันไปจะคายคำหมาก

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2564
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2564 10:25:46 น.
Counter : 869 Pageviews.

3 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณหอมกร, คุณ**mp5**

วันนี้จบแบบค้างๆ คาๆ อยู่นะคะ

โดย: หอมกร

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา:8:37:46 น.

สวัสดี

ฉันเป็นมุสลิมที่เรียกผู้คนให้เข้ารับอิสลาม

โปรดดูหน้าของฉัน 👇

https://is1t.blogspot.com/2018/04/blog-post.html

ในนั้นคุณจะพบทุกสิ่งที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับอิสลาม

ฉันขอให้คุณมีชีวิตที่มีความสุข .... ขอบคุณ

🔴🔴🔵🔴🔴🔴

🔴"ความหมายของชีวิต"🎬👇

https://youtu.be/yPMpqfoiS4A

⚠️🔴⚠️🔵⚠️

🔴ถ้าเรามีความปรารถนาที่จะทราบว่าศาสนาใดเป็นศาสนาที่แท้จริงหรือจอมปลอมนั้น เราจงอย่านำอารมณ์ ความรู้สึก หรือประเพณีของเราเองมาตัดสิน เราควรนำเหตุผล สติปัญญาของเรามาใช้จะดีกว่า

⚠️ เว็บไซต์แห่งนี้ จะเป็นการตอบคำถามที่สำคัญบางเรื่องซึ่งมีผู้สนใจสอบถามมา ดังนี้:

1- พระคำภีร์กุรอานที่มาจากพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้นั้น นำมาเปิดเผยโดยพระองค์เองใช่หรือไม่?

2- พระมูหะหมัด คือพระศาสดาที่แท้จริง ที่ประทานมาโดยพระผู้เป็นเจ้าใช่หรือไม่?

3- ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่มาจากพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริงใช่หรือไม่? 👇

🔻หลักฐานบางประการที่บอกถึงความเป็นจริงของศาสนาอิสลาม 🔻

https://goo.gl/rYBqHe

⚠️🔴⚠️🔵⚠️
️
⚠️ ตัวอย่างพระดำรัสของพระศาสดามูหะหมัด

🔴 {ยิ้มให้แก่พี่น้องของพวกเจ้าเป็นการทำบุญกุศล...}

🔵 {การกล่าวดีเป็นการทำบุญกุศล}6

🔴 {ผู้ใดก็ตามที่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าและวันสิ้นโลก (วันพิพากษา) ควรกระทำความดีต่อเพื่อนบ้านของตนด้วย}

🔵 {จ่ายค่าแรงคนงานก่อนที่เหงื่อของเขาจะแห้ง}

โดย: islam IP: 51.36.64.114 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา:15:24:15 น.

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ

โดย: **mp5**

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา:16:42:08 น.